~Chapter 3~
-เวลาต่อมา-
“พาย!!”
“ฮะ!”
“แกเหม่ออีกแล้วพาย แกเหม่อแบบนี้เรียนไม่รู้เรื่องนะ”
“ก็…” ฉันพูดได้แค่นั้นก่อนที่ดวงตาของฉันจะแอบชำเลืองสายตามองดูน้ำเหนือกับเฌอรีน ซึ่งมันกวนใจฉันมากจนฉันไม่มีสมาธิในการเรียนเลกเชอร์ในภาคเช้าเลย
“แกคงสงสัยเรื่องเหนือใช่ปะ แต่ตั้งใจเรียนก่อนดีไหม ค่อยถามช่วงพักเที่ยง” ฉันหันหน้าไปมองปลายฝนก่อนจะค่อย ๆ พยักหน้าให้กับเธอ
“ว่าแต่วาโยโดดเลกอีกแล้วเหรอ” ฉันยิ้มบาง ๆ ให้กับปลายฝน ซึ่งเธอก็ส่ายหน้าเบา ๆ
“เพราะคิดว่าตัวเองเป็นลูกเจ้าของโรงบาลอย่างนั้นใช่ไหม ถึงทำอะไรก็ได้ เฮ้อ…ฉันล่ะไม่ชอบเขาเลย” ฉันอยากเอามืออุดปากปลายฝนไว้ เธอพูดออกมาแบบนี้ถ้าวาโยมาได้ยินคงเสียใจแย่
“ก็นะ ฉันมันจนนี่ก็ต้องตั้งใจเรียนเพื่อจะได้ไม่หลุดทุน แถมยังเป็นทุนโรงพยาบาลของวาโยอีก” ก็วาโยนั่นแหละให้ทุนเธอ ฉันพูดได้แค่ในใจ ปลายฝนเธอก็บ่นไปตามภาษาเธอนั่นแหละ เพราะมันอยู่ในช่วงพักครึ่งในภาคเช้า
“ฝน ฉันกลัวเหนือคบกับเฌอ…”
“ฉันว่าชัวร์” นั่นสิ เพราะปกติเฌอรีนต้องมานั่งเรียนกับเรา พอเจอแบบนี้มันอดคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย
อีกอย่างพอเห็นแบบนี้มันทำให้ฉันหวนนึกถึงวันแรกที่ฉันได้เจอเฌอรีนก่อนที่เราจะได้มาสนิทกันแบบนี้ วันนั้นเป็นวันรับน้องฉันยังจำได้แม่นเลยว่าเฌอรีนอยากได้ไลน์เหนือ ซึ่งตอนนั้นเธอไม่รู้ว่าเหนือเป็นแฟนฉัน ไม่แปลกที่เธอจะพูดแบบนี้เพราะหลายคนยังมาขอไลน์เขาจากฉันเลย แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกัน เฌอรีนรู้ว่าฉันเพิ่งเลิกกับเหนือได้ไม่ถึงปีเลย เธอจะมาคบต่อจากฉันแบบนี้ได้ยังไง ฉันทำใจไม่ได้หรอก
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ขณะที่ฉันนั่งร้อนรนใจจนไม่เป็นอันเรียน หลายครั้งที่ฉันเอี้ยวใบหน้าหันหลังไปมองน้ำเหนือที่นั่งอยู่เก้าอี้เลกเชอร์ท้ายห้อง มีหลายครั้งเหมือนกันที่เขาตวัดสายตามองฉัน
“เฮ้อ…ปล่อยเลตอย่างนี้จะได้กินไหมข้าว” ปลายฝนบ่นอุบอิบขณะที่เก็บไอแพดเข้ากระเป๋า อยากกระซิบบอกว่าไอแพดเครื่องนี้วาโยก็เปย์ปลายฝนโดยที่เธอไม่รู้ตัว และเธอก็นึกว่าเธอกำลังดวงดีซึ่งมันไม่ใช่
พรึ่บ!
“แกจะไปไหนน่ะพาย ไม่กินข้าวเหรอ!” เสียงของปลายฝนดังไล่หลังฉันเมื่อฉันตัดสินใจลุกขึ้นยืนและวิ่งตามแผ่นหลังของน้ำเหนือไป
หมับ!
“เหนือ พายขอคุยด้วยหน่อยสิ” ฉันถือวิสาสะคว้าข้อมือหนาของเขาไว้ ก่อนที่สายตาคม ๆ ของเขาจะเลื่อนลงมองที่ฝ่ามือของฉัน มันทำให้ฉันค่อย ๆ คลายฝ่ามือออกอย่างช่วยไม่ได้
“น่ารำคาญ”
“เหนือคบกับเฌอเหรอ” ฉันไม่สนคำพูดของเขา ฉันสนแค่คำตอบที่เขาจะตอบฉันหลังจากนี้ ใจของฉันมันเต้นแรงขึ้นมาก เพื่อลุ้นว่าเขาจะตอบอะไร
“กูจะทำอะไรมันก็เรื่องของกูไหม” ใช่ มันเรื่องของเหนือ แต่ฉัน…
“อย่าคบกับเฌอได้ไหมเหนือ เหนือ…”
“อ้าว! พาย นึกว่าไปกับฝนซะอีก” ไม่ทันที่ฉันจะพูดอะไรจบ เฌอรีนก็เดินมาจากไหนก็ไม่รู้
“คือ พอดีฉันมีเรื่องคุยกับเหนือน่ะ…”
“คุยเรื่องไรเหรอ เหนือเลิกกับพายแล้วหนิ” คำพูดของเฌอรีนทำให้ฉันจุกมาก แต่มันก็ไม่จุกเท่า…
“ยัยนี่บอกว่าไม่ให้ฉันคบกับเธอ” ฉันอึ้งที่อยู่ ๆ น้ำเหนือก็พูดออกมาแบบนี้ มันก็จะทำให้เฌอรีนมองฉันไม่ดีน่ะสิ
“...” ฉันแอบเห็นใบหน้าของเฌอรีนที่ตึงขึ้นมา ซึ่งมันก็แค่แวบหนึ่งเท่านั้น
“หึ” น้ำเหนือแค่นหัวเราะออกมาก่อนที่เขาจะหมุนตัวเดินออกไป แต่แล้ว…
“เจอแล้วค่า~ สำหรับมือกีตาร์โซโลของวงสกายแบรนด์ตามที่ทุกคนรอคอย นั่นก็คือ น้ำเหนือค่า~” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้น ซึ่งชื่อน้ำเหนือก็ทำให้เจ้าของชื่อหยุดชะงักฝีเท้า เขาหันไปมองวีเจสาวคนนั้น ก่อนที่น้ำเหนือจะตวัดสายตามามองฉัน
“สวัสดีค่า จำพี่ได้ไหมเอ่ย…”
“ทำไมกูต้องจำด้วยวะ” ฉันมองดูสถานการณ์ตรงหน้าที่เริ่มมาคุขึ้นเมื่อน้ำเหนือไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด มันก็เลยทำให้ฉันต้องเดินไปตรงนั้น
“เอาใหม่ ๆ” พี่วีเจคนนี้เธอหันไปบอกกับตากล้องเหมือนจะเริ่มถ่ายใหม่
“เอ่อ…เดี๋ยวฉันให้สัมภาษณ์แทนดีกว่านะคะ” น้ำเหนือเขาหันมามองฉัน ซึ่งมันยิ่งทำให้เขาอารมณ์ไม่ดีเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
“ค่ะ แต่พี่เพิ่งสัมภาษณ์น้องไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเองนะคะ พี่ขอสัมภาษณ์น้ำเหนือเล็กน้อยได้ไหมคะ”
“สัมภาษณ์แบบไม่ต้องถ่ายน่าจะได้นะคะ” ฉันยิ้มให้พี่วีเจก่อนที่ฉันจะหันไปหาน้ำเหนือที่ตอนนี้เขาขมวดคิ้วมองฉันอยู่
“กูบอกกูไม่เล่น”
“เอ๊ะ? พี่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าเนี่ย”
“ค่ะ น้ำเหนือแค่หยอกเล่นน่ะค่ะ ฮ่า ๆ” ฉันหัวเราะกลบเกลื่อนการเสียหน้าในครั้งนี้ ก่อนที่น้ำเหนือเขาจะส่ายหน้าอย่างเอือมระอาและเดินจากไป
“ยังไงคะเนี่ยน้อง น้ำเหนือพูดงี้หมายความว่าไง” พี่วีเจหันมาถามฉัน ซึ่งฉันก็พูดไม่ออกเหมือนกัน
“ถ้าน้ำเหนือไม่ขึ้นแสดงช่องพี่ก็ซวยน่ะสิ พี่ลงข่าวน้ำเหนือไปแล้วนะว่าเขาจะขึ้นประกวดด้วยปีนี้ ไม่ใช่แค่ข่าวในมอนะ นอกมอเขาก็พูดกัน” ฉันพยายามควบคุมความรู้สึกตัวเองให้ได้มากที่สุดในตอนนี้
“แสดงว่าข่าวลือวงแตกเพราะน้องก็จริงน่ะสิ ว้า…คะแนนนิยมต่ำแน่”
“มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ” ฉันปฏิเสธออกไปถึงมันจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะ แต่ภาพลักษณ์ของวงฉันควรรักษาไว้
“น้ำเหนือเขาอาจจะกำลังหงุดหงิดอะไรมาน่ะค่ะ ยังไงเดี๋ยวค่อยมาสัมภาษณ์ใหม่ดีกว่านะคะ เดี๋ยวพายจะส่งสัมภาษณ์ไปให้ค่ะ งั้นพายของสคริปต์หน่อยนะคะ” พี่วีเจเธอยิ้มให้ฉันก่อนจะยื่นแผ่นกระดาษหนึ่งแผ่นมาให้ฉัน
“ขอบคุณค่ะ”
“ว่าแต่วาโยล่ะคะน้อง”
“อ้อ อยู่ห้องสมุดค่ะ ไม่น่าจะสะดวกคุย” ตกนรกสิบแปดขุมแน่ฉัน โกหกเก่งขนาดนี้
“อ้อ แล้ว…”
“พี่พอตเตอร์กับน้ำชาน่าจะอยู่ที่คณะค่ะ”
“โอเค งั้นพี่ไปก่อนนะคะ” ฉันยิ้มให้พี่เขาก่อนที่เธอจะเดินจากไป เพราะว่ามหาลัยของเราเป็นมหาลัยชื่อดังไม่ว่าจัดกิจกรรมอะไรก็มักได้รับความนิยม ไม่ใช่แค่ในมอเท่านั้น แต่มันถึงขนาดออกทีวีเลยก็ว่าได้ ลมหายใจเฮือกใหญ่ถูกฉันพ่นออกอย่างแรงจากปลายจมูก จะเอายังไงดีกับบทสัมภาษณ์ในมือนี้ดี เหนือไม่ยอมแน่ ๆ
“ให้ฉันช่วยอะไรในวงมะ” ฉันหันหน้าไปมองตามเสียงพูดของเฌอรีน จริงสิ เธออยู่ตรงนี้ตลอดเลย ฉันลืมไปได้ไง
“ไม่เป็นไรหรอกเฌอ เกรงใจน่ะ” ฉันยิ้มให้เธอบาง ๆ ก่อนที่เฌอรีนจะพยักหน้าเข้าใจ
“เฌอเมื่อคืน แกไปนอนกับเหนือมาเหรอ”
“หือ? เปล่าสักหน่อย”
“แต่…” ฉันล้วงฝ่ามือเข้าไปในกระเป๋าสะพายข้าง ก่อนจะหยิบกระเป๋าถือของเฌอรีนออกมา
“อุ๊ย! แก…รู้เหรอ” อยู่ ๆ ฉันก็รู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมา ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมน้ำเหนือถึงฝากกระเป๋าของเฌอรีนมากับฉัน ทั้ง ๆ ที่เขาจะต้องเจอเธออยู่แล้ว
“แก…คบกับเหนือเหรอ”
“เปล่า แกอะคิดมาก” เฌอรีนมีสีหน้ายิ้มแย้มตามสไตล์สาวเฟรนด์ลี
“ฉันไม่อยากให้แกคบกับเหนือเลย คือ…เฌอรีน แกก็รู้ว่าที่ฉันเลิกกับเหนือมันเป็นความผิดพลาด”
“แต่แกก็ไม่มีสิทธิ์มาห้ามฉันปะวะ” ฉันรู้สึกไปเองหรือเปล่าที่เสียงของเฌอรีนมันห้วน ๆ ผิดปกติ
“เฌอคือ ฉันยังตัดใจไม่ได้” ฉันตัดสินใจพูดออกไป แม้ว่ามันจะเป็นการเห็นแก่ตัวของฉัน แต่ฉันยังคงทำใจไม่ได้จริง ๆ นี่หน่า แต่แล้ว
“แกไม่ต้องคิดมากหรอก ถ้าฉันคบกับเหนือให้รู้ไว้ว่าฉันฉันไม่ใช่คนเริ่ม” คำพูดของเฌอรีนก็ทำให้ฉันนิ่งงันทันที ทำไมเฌอรีนถึงพูดแบบนี้ ถ้าพูดแบบนี้เหมือนจงใจจะบอกฉันเลยว่าน้ำเหนือเป็นคนเริ่ม ทำไมถึงไม่เห็นใจฉันบ้าง…เหนือใจร้ายชะมัด