ชีวิตที่ผกผิน

751 Words
“คุณแม่คะ...เราต้องย้ายมาอยู่ที่แบบนี้จริงๆ เหรอคะ” หญิงสาวเอ่ยถามผู้เป็นมารดาเมื่อต้องย้ายมาอยู่บ้านเช่าเล็กๆ เก่าๆ เนื่องจากบ้านหลังใหญ่และบริษัทของเธอถูกเจ้าหนี้ยึดไปหมดแล้ว ดวงตากลมโตกวาดสายตาสำรวจบ้านไม้สองชั้นเก่าๆ ที่เพิ่งย้ายเข้ามา อย่างกะบ้านผีสิงไม่มีผิด แล้วเธอจะอยู่ลงไปได้ยังไง เธอบินกลับมาจากเมืองนอก ก็ไม่เหลืออะไรอีกเลย แม้แต่ผู้เป็นบิดาของเธอก็ตัดสินใจจบชีวิตทิ้งเธอกับมารดา เลือกตัดช่องน้อยแต่พอตัวลาลับโลกนี้ไปเพราะทนแบกรับกับสภาพสิ้นเนื้อประดาตัวไม่ไหว “นิชาลูกต้องทำใจ ยอมรับว่าเราไม่เหลืออะไรอีกแล้ว” คุณวิมลผู้เป็นมารดาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเศร้าสร้อย น้ำตาตกในไหลมาจุกอก สงสารผู้เป็นบุตรสาวที่ต้องมารับสภาพชีวิตที่ต้องลำบาก เนื่องจากเธอเลี้ยงดูลูกสาวที่มีเพียงคนเดียวมาอย่างดีมาตลอด ยุงไม่ให้ไถ่ไรไม่ให้ตอม แทบจะเป็นเจ้าหญิงอยู่ในคฤหาสน์หลังโต เมื่อมาอยู่ในสภาพแบบนี้คนเป็นแม่ย่อมปวดใจเป็นธรรมดา เมื่อเห็นว่าผู้เป็นมารดารู้สึกไม่ดีกับคำพูดของเธอ หญิงสาวก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที เลยปรับน้ำเสียงและสีหน้าใหม่เก็บซ่อนความรู้สึกขมขื่นเอาไว้ข้างใน “ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่ เล็กๆ ก็ดีนะคะดูแลง่ายดี เดี๋ยวหนูจะออกไปหางานทำ หาเงินมาซื้อบ้านให้คุณแม่ใหม่นะคะ” น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นอ่อนหวาน บวกกับรอยยิ้มสดใสเอาใจผู้เป็นมารดาด้วยความรู้สึกผิด ที่เผลอพูดอะไรไม่ทันคิดออกมาเมื่อสักครู่ นิชาเรียนจบระดับปริญญาตรีจากสหรัฐอเมริกามาสักพักแล้ว แต่ที่ไม่กลับมาก่อนหน้านี้เพราะเธอตั้งใจจะทำงานหาประสบการณ์อีกสักพักถึงจะค่อยกลับมา แต่คิดไม่ถึงว่าต้องกลับมาก่อนกำหนด อีกตั้งกลับมาครั้งนี้ไม่มีผู้ชายที่รักเธอมากที่สุดอยู่บนโลกนี้แล้ว “แม่ลืมบอกไป เรายังมีหนี้อีกก้อนหนึ่ง ซึ่งเจ้าหนี้เขาก็ทวงถามมาหลายรอบแล้วอีกอย่างเราไม่มีอะไรให้เขายึดอีกแล้วล่ะลูก” นางเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่หนักอึ้ง รู้สึกว่าโลกใบนี้ช่างมืดมนเหลือเกินเมื่อผู้เป็นคู่ชีวิตไม่อยู่ แต่เธอต้องเข้มแข็งเพื่อลูก ถ้าลูกต้องขาดเธออีกคน ก็ไม่รู้ว่านิชาต้องอยู่อย่างไร เธอจึงต้องอดทนเพื่อบุตรสาวคนเดียว “เท่าไหร่คะคุณแม่?” “สามร้อยล้านบาท! เราไม่มีสามร้อยล้านไปคืนเขาในตอนนี้หรอกนะลูก แม่ก็จนปัญญาแล้วจริงๆ ญาติของเราก็พากันหนีหายหมด เมื่อถึงเวลาแบบนี้ ทุกคนต่างก็กลัวเราจะไปยืมเงิน แม้แต่โทรศัพท์แม่ก็ไม่มีใครสนใจจะรับสักคน” "สามร้อยล้าน!" นิชาโพล่งออกมา แต่เมื่อได้ฟังน้ำเสียงอันเศร้าสร้อยหดหู่อย่างหมดหนทางพึ่งพาแล้วจริงๆของมารดา ทำให้เธอต้องฝืนยิ้มออกมา “ไม่เป็นไรคะคุณแม่ หนูจะไปคุยหาทางประนีประนอมกับเจ้าหนี้เองค่ะ เราคงต้องขอทยอยผ่อนผันเขาไปก่อนค่ะ หนูจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อจะหาเงินมาคืนเขาให้ได้ค่ะ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม” หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่และตั้งใจ เธอจะไม่ให้มารดาของเธอต้องมาลำบากตอนบั้นปลายแบบนี้ไปตลอดชีวิตแน่นอน แม้ต้องแลกด้วยชีวิตเธอก็ยอม ถึงจะต้องล้มอีกครั้ง เธอก็จะคลานขึ้นมาใหม่ มันต้องมีทางสิ นิชาเชื่อว่ามันต้องมีสักทางที่จะทำให้เธอผ่านช่วงชีวิตนี้ไปได้ นิชาโทรติดต่อไปหาเจ้าหนี้ของเธอแล้ว เลขานุการของเขานัดเธอไปคุยที่บริษัทของเขาในวันพรุ่งนี้ หญิงสาวก็ได้แต่หวังว่าเขาจะเห็นใจและเมตตาเธอ ยอมให้เธอผ่อนผันหนี้สินออกไปก่อนเพราะลำพังเธอตอนนี้แทบจะเอาตัวไม่รอดเหมือนกัน ลำพังจะยาไส้ก็แทบจะไม่มี แล้วหนี้อีกสามร้อยล้าน ต่อให้พรุ่งนี้ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งก็ไม่น่าจะพอใช้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD