Gypsophila 5

1196 Words
Gypsophila 5 น้องสาวฉันขับรถวนไปส่งดอกไม้ทั่วแทบจะทุกเขตเลยก็ว่าได้ ส่วนฉันก็มีออเดอร์เข้ามาเกือบเจ็ดช่อหลังช่วงเวลาเลิกงานยังไม่รวมกับของลูกค้าที่สั่งไว้และทุกรายการลูกค้าจะมารับพรุ่งนี้เช้าตอนร้านเปิด ยังดีที่ฉันจัดเสร็จหมดแล้ว พรุ่งนี้อาจจะให้มายด์ช่วยรับลูกค้าแทน เดี๋ยวช่วงเช้ามืดฉันต้องไปตลาดดอกไม้ด้วยเพราะดอกไม้บางชนิดก็หมดแล้วแต่ยังไม่ถึงรอบส่งเลย ต้องไปซื้อมาติดร้านไว้ก่อนน่ะ แม้จะกลับขึ้นมาบนห้องในช่วงเวลาสี่ทุ่ม แต่กว่าจะอาบน้ำสระผมทำอะไรเสร็จเวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงห้าทุ่มแล้ว แน่นอนว่าฉันหลับไปทั้งที่ไม่ได้เล่นโทรศัพท์อย่างเช่นวันก่อน ๆ ตามนิสัยก็ไม่ใช่คนชอบเล่นโทรศัพท์อยู่แล้วนั่นแหละ ก็ไม่รู้จะคุยกับใครนี่นา เพราะเพื่อนสนิทคนเดียวอย่างมายด์ก็เจอกันทุกวัน อ้อ มีบ้างที่เข้าไปดูเด็ก ๆ คุยเล่นกันในกลุ่มไลน์ของร้านเรา แต่ถ้าให้เล่นทุกทั้งวันก็คงไม่ไหวเหมือนกัน ตีสามครึ่ง ฉันออกจากบ้านเพื่อไปยังตลาดดอกไม้ ส่วนน้องสาวของฉันจังหวะที่เดินผ่านห้องนอนของน้องแอบเห็นไฟที่ห้องยังไม่ปิด เจ้าตัวก็คงจะทำงานตัวเองในช่วงเวลาเดิมนั่นแหละ ฉันขับรถออกจากบ้านโดยที่ไม่ลืมปิดประตูรั้วบ้านที่อยู่ข้างร้านดอกไม้จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังตลาดดอกไม้เพื่อซื้อของเข้าร้านเท่าที่จำเป็นก่อน “คนสวย เอาอะไรดีลูก” เสียงแม่ค้าคนหนึ่งเอ่ยทักทาย ฉันเองก็แวะเพราะคำว่าคนสวยนี่แหละ ฉันเดินเข้าไปดูดอกไม้ภายในร้านก่อนจะสั่งดอกไม้ที่ตัวเองต้องการไปจากนั้นก็ฝากไว้แล้วเดี๋ยวจะเดินกลับมาเอา จากนั้นก็เดินดูของไปเรื่อย ๆ รู้ตัวอีกทีก็ตีห้าเสียแล้ว ฉันขนย้ายดอกไม้ที่ซื้อกลับไปขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับบ้านในช่วงเวลาหกโมงเช้า ชีวิตประจำวันก็เรื่อย ๆ แบบนี้แหละไม่มีอะไรหวือหวาให้ตื่นเต้น แต่ฉันก็พอใจที่มันเป็นแบบนี้นะ เพราะฉันเองก็ไม่ชอบความวุ่นวายหรืออะไรก็ตามที่เข้ามาแล้วกระทบกับชีวิตประจำวันอันแสนสงบสุขของฉัน “เอ๊ะ?” เมื่อขับรถมาตามถนน กระทั่งใกล้ถึงหน้าร้านก็เจอร่างหนึ่งที่สวมชุดดำคลุมหน้าคลุมตากำลังยกมือแขวนอะไรบางอย่างไว้ที่หน้าประตูร้านก่อนจะรีบวิ่งออกไป “ใครกัน โจรเหรอ?” ฉันพึมพำกับตัวเอง และชะลอรถให้ช้าลงเพราะหากเป็นโจรจริงฉันก็กลัวคนร้ายจะวกกลับมาทำร้ายหากรู้ว่าฉันเห็นตอนที่อีกฝ่ายนำอะไรบางอย่างมาไว้ที่หน้าร้าน เมื่อหยุดรถที่หน้าร้านและมองจนมั่นใจว่าคนชุดดำคนนั้นวิ่งไปและไม่ได้วิ่งกลับมา ฉันถึงได้กล้าลงจากรถแล้วไปดูยังจุดที่มีสิ่งของบางอย่างวางไว้อยู่ “...” ถุงพลาสติกสีใสที่ภายในมีแซนด์วิชหนึ่งชิ้นและแผ่นกระดาษที่ถูกเขียนด้วยลายมือด้วยประโยคสั้น ๆ แต่ฉันที่ได้อ่านข้อความนั้นถึงกับรู้สึก แปลกใจ ขอบคุณครับ ข้อความสั้น ๆ บนกระดาษทำให้ฉันจ้องมองอยู่เนิ่นนาน “พี่พิมพ์! ทำไมไม่เข้าร้าน” เสียงและสัมผัสอุ่น ๆ แตะลงบนไหล่ หันไปมองก็เห็นว่าเป็นน้องสาวอย่างพิมพ์ขวัญที่เดินออกมาที่หน้าร้านเพื่อทักฉัน “อ้อ” “อ้ออะไร พี่ไม่สบายหรือเปล่า วันนี้หยุดพักดีไหมคะ พักเถอะนะ” พิมพ์ขวัญที่เห็นว่าฉันดูจะอ๊อง ๆ ไปก็รีบบอกให้พักผ่อนทันทีเพราะคิดว่าฉันคงจะเหนื่อยหรือเพลียจากงานที่กำลังทำอยู่ในช่วงเวลานี้ “ไม่มีอะไร สบายมาก แต่ไปช่วยพี่ขนดอกไม้เข้าร้านหน่อยสิ” เปลี่ยนเรื่องและชวนให้น้องเดินไปช่วยกันขนของที่รถ โดยที่มือยังถือถุงแซนด์วิชกลับมาด้วย เราสองพี่น้องช่วยกันขนดอกไม้เข้าร้านเสร็จก็ช่วยกันเปลี่ยนน้ำที่ใช้แช่ดอกไม้ รวมถึงดอกไหนที่รู้สึกว่าอยู่นานและเริ่มจะไม่สดก็จะนำออกมาทำเป็นช่อเล็กขายลดราคากันไปเลย หรือทำแยกจัดช่อดอกเล็กเผื่อมีนักเรียนหรือนักศึกษาที่อยากซื้อให้แฟนก็จะซื้อง่ายและสะดวก ซึ่งเราจะทำแล้วว่างโชว์ที่มุมหน้าร้านที่สามารถมองเป็นจากภายนอกเข้ามาพร้อมกับป้ายบอกราคาชัดเจน “เดี๋ยวหนูอยู่รอพี่มายด์และพี่มาลีเข้ามาเองค่ะ พี่ไปนอนพักต่อนะ” “แต่พี่...” “พี่พิมพ์อย่าฝืนร่างกาย ตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะคะ พี่ดูเหนื่อยมาก ๆ เลยนะ” พิมพ์ขวัญไม่ยอมให้ฉันได้ดื้อดึง ทั้งยังมองด้วยสายตาติดจะห่วงใย “ไปพักก่อนเถอะนะคะ” “ก็ได้ งั้นฝากดูหน้าร้านด้วยนะ ดอกไม้ที่ลูกค้าจะเข้ามารับจัดไว้แล้วมีชื่อลูกค้าแล้วก็คิวไว้อยู่” “ค่ะพี่ ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวหนูจัดการทางนี้ให้เอง” “ฝากด้วยนะ” ฉันช่วยน้องทำความสะอาดร้านจนเสร็จถึงได้กลับมาที่รถเพื่อขับเข้าไปจอดภายในที่จอดรถของบ้านเรา ซึ่งมีรถยนต์อยู่สามคันรวมถึงมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่ของน้องสาวจอดอยู่อีกหนึ่งคัน ถุงแซนด์วิชที่ได้มาทั้งที่ไม่รู้ว่าคนที่เอามาแขวนไว้คือใครกันแน่ แต่ตัวฉันก็เลือกที่จะถือกลับเข้ามาภายในบ้าน แต่ก็ยังไม่กล้ากินอยู่ดีจึงทำได้เพียงแค่วางไว้บนโต๊ะกินข้าว และนั่งมองแซนด์วิชและข้อความบนกระดาษแผ่นนั้นราวกับคนบ้าที่เอาแต่จดจ้องข้าวของจากใครสักคนที่ไม่รู้จัก และไม่รู้ว่ามาดีหรือมาร้ายกันแน่ เกือบสิบนาทีที่เอาแต่นั่งมองของบนโต๊ะ ฉันจึงตัดสินใจที่จะพาร่างตัวเองกลับขึ้นไปบนชั้นสองเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุด จากนั้นก็ขอเวลาให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่ลืมที่จะตั้งนาฬิกาปลุกไว้ในช่วงสายของวันเพื่อที่จะได้ออกไปทำงานที่ร้านช่วยพนักงานคนอื่น ๆ ถึงแม้จะเป็นเจ้าของแต่ฉันก็ชอบที่จะออกไปทำอะไรต่าง ๆ ด้วยตัวเอง และที่สำคัญตอนบ่ายฉันต้องออกแบบซุ้มดอกไม้และมุมจัดดอกไม้ให้ลูกค้าด้วย เอาเถอะ ถึงยังไงตอนนี้ก็ขอนอนพักก่อนแล้วกัน เพราะฉันเองก็เพลียไม่น้อยกับการที่ต้องตื่นเช้ามืดเพื่อไปเดินซื้อของเข้าร้านที่ตลาดดอกไม้แบบนี้ แต่ถึงจะรู้สึกเพลียแต่ฉันกลับมีความสุขที่ได้ไปอยู่ท่ามกลางดอกไม้หลายชนิดอยู่ดี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD