จางลั่วชิงนั่งเดินหมากกับตนเองได้พักใหญ่แล้ว นางกำลังรอซู่เสวี่ยอี้ รออยู่นานจนกับข้าวที่เตรียมไว้เริ่มเย็นชืด จนต้องให้ซิงชีอุ่นใหม่แล้วรอบหนึ่ง ทว่าเขาก็ยังไม่กลับมาเสียที กระทั่งฟ้ามืดสนิท หน้าบ้านต่างเริ่มแขวนโคมแล้ว หญิงสาวนึกร้อนใจขึ้นมา เพราะหากเขามีธุระต้องกลับช้า อย่างไรก็ต้องให้คนมาแจ้งแก่นาง ขณะที่กำลังร้อนใจอยู่นั้น หลี่อี้เฟิงก็วิ่งพรวดพราดเข้ามา เห็นท่าทางกระหืดกระหอบของเขาแล้ว จางลั่วชิงก็ยิ่งใจคอไม่ดี กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับซู่เสวียอี้ “ฮะ...ฮูหยิน ช่วยข้าน้อยด้วยเถิดขอรับ” ชายหนุ่มเหนื่อยหอบเพราะรีบเร่งฝีเท้าเกินไป เขากล่าวต่อ น้ำเสียงยังติดขัด “ตะ...ใต้เท้าเมามากขอรับ อย่างไรก็ไม่ยอมกลับ ข้าน้อยจนปัญญาแล้วจริงๆ” ตั้งแต่ติดตามใต้เท้าซู่มา หลี่อี้เฟิงไม่เคยเห็นใต้เท้าซู่เมามายจนไร้สติเช่นนี้มาก่อน อีกทั้งยังแรงเยอะกว่าปกติมากด้วย จางลั่วชิงย่อมตกใจที่ได้ยินเช่นนั้น