เนี่ย ยิ่งได้รู้แบบนี้ หล่อนก็ยิ่งปล่อยให้พ่อเหงาต่อไปไม่ได้ พ่อแต่งงานใหม่ก็ดีแล้ว ส่วนหล่อนก็คงต้องรีบหาผัวเร็วๆ นี้ เพราะผู้ชายคนนั้น หลังจากเอากันไปสองน้ำ หล่อนก็ได้สติ รีบเก็บเสื้อผ้าหนีเขาออกมา
ไม่ทันได้ถามชื่อไว้เลย...
แต่ต่อให้รู้ชื่อกันแล้วจะทำอะไรได้ล่ะ สำหรับเขา หล่อนก็แค่อีตัวที่แบให้เขาฟรีๆ ไม่รู้ว่าป่านนี้เขาจะนอนกอดเมียคนที่เท่าไหร่อยู่
แค่คิด อริสราก็แฉะอีกแล้ว แถมยังรู้สึกชื้นๆ ที่หัวตาอีกด้วย
โธ่ ทำไมต้องคิดถึงเขาด้วยนะเรา
เสียงสูดจมูกฟืดของหล่อนทำให้อัศวินหัวเราะ
//ลูกสาวบ่อน้ำตาตื้นน่ะครับ ขอบใจมากนะ สาวน้อยแสนสวยของพ่อ//
ดูเหมือนทุกคนในงานแต่งงานจะกำลังซาบซึ้งกับความรักของพ่อลูก รวมถึง นิดา เจ้าสาววัยอ่อนกว่าอัศวินนิดหน่อยในคืนนี้ที่อริสรารู้จักมาเกือบปีในฐานะ ‘น้าดา’ เพื่อนคนสนิทของพ่อด้วย
เฮ้อ โลกสวยกันเข้าไป
ถึงใจจะคิดแบบนั้น แต่อริสราก็ยิ้มให้พ่อ ยิ้มให้แขกที่มาร่วมงาน ก่อนที่พิธีกรจะดำเนินงานต่อ แล้วเชิญประธานบริษัทของพ่อขึ้นมาพูดอวยพร
อริสราก็รู้อยู่แล้วล่ะว่าวันนี้เจ้าของบริษัทที่พ่อทำงานอยู่จะมาด้วย หล่อนต้องลงจากเวทีแล้ว ก็กะว่าจะยกมือไหว้ก่อนลงบันได เพราะคืนนี้หล่อนวิ่งวุ่นช่วยเรื่องจัดงาน แทบไม่ได้ทักทายใครเลย
//ขออนุญาตเรียนเชิญคุณไตรทศขึ้นมาบนเวทีครับผม//
สิ้นเสียงพิธีกร ชายหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งอยู่โต๊ะหน้าสุดก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง พร้อมกับที่ดวงไฟฉายไปทางเขา
อริสราชะงัก หันไปมองไตรทศ หัวใจแทบหยุดเต้น!
ป๋า...
ผัว...
โอ หล่อนจะเรียกเขาว่าอะไรดี
แต่ที่แน่ๆ ประธานบริษัทของพ่อที่ชื่อว่าไตรทศคนนี้ เขาเพิ่งเอาตอแข็งใหญ่กระด้างของเขาทิ่มแทงน้องน้อยแสนหวานของหล่อน เมื่อไม่กี่คืนก่อนนี้เอง!
อริสรายืนอึ้งมองจนชายหนุ่มเดินขึ้นบันไดมาเผชิญหน้ากับหล่อน ใบหน้าของเขาเรียบนิ่ง ไม่ได้ดูดุดันเท่าคืนนั้น แต่ก็ไม่ได้ดูใจดีเลย
ที่คิดว่าจะยกมือไหว้ หล่อนก็ได้แต่ยืนอึ้งตัวแข็งทื่อ กระทั่งเขาเดินผ่านไป โดยยัดกระดาษทิชชูไว้ในมือหล่อน อริสราจึงได้สติ รีบเดินลงจากเวทีอย่างรีบๆ ก่อนไปแอบเปิดกระดาษทิชชูดูว่าเขาให้อะไรหล่อนมา
ตรงกลางกระดาษมีรอยปากกาเขียนเอาไว้สั้นๆ
‘พอฉันลงจากเวที ตามมา’
ถึงจะเป็นคำสั่งที่น่าขยำทิ้ง แต่ใจสาวกลับวูบวาบ ผิวกายร้อนรุ่มไปหมด จนแทบอยากจะละลายแก้ผ้าให้เขาเชยชมอีกครั้งตรงนี้อยู่แล้ว
โอ นี่หล่อนเป็นมาโซคิสม์โดยไม่รู้ตัวหรือไงนะอริสรา!
“ตกลงท่านประธานเลิกกับพี่ไพลินแล้วชัวร์นะ เผื่อฉันจะมีโอกาสได้เสียบบ้าง”
เสียงเพื่อนร่วมงานผู้หญิงของพ่อซุบซิบกันตรงโต๊ะใกล้กำแพง ที่อริสราเดินมาแอบอ่านจดหมายพอดี สาวน้อยเลยยืนเงี่ยหูฟังไปด้วย
อุ๊ย... เขาเพิ่งโสดเหรอเนี่ย
แก้มของหล่อนแดงแจ๋ด้วยความเขินอายราวกับลูกมะเขือเทศ แบบนี้อริสราก็มีหวังเหมือนกันน่ะสิ
“เลิกแล้ว ก็พี่ไพลินแอบไปเล่นชู้กับเพื่อนคุณไตรขนาดนั้น ถ้ายังเอาต่อก็โง่มั้ยล่ะ นี่สายข่าวของฉันรายงานมาว่าพี่ไพลินโดนเพื่อนคุณไตรเทแล้วด้วยนะ เหมือนโดนหลอกเอาฟรีอะ คิกๆ”
“ชู่ว! พี่ไพลินอยู่ในงานนะ พูดเบาๆ”
“โธ่ ไม่ได้ยินหรอก เสียงบนเวทีดังจะตาย”
แต่แล้วก็ผิดคาด เพราะผู้หญิงสวยคนหนึ่งที่สวมเดรสสีทองนั่งอยู่โต๊ะติดกันหันมามองสองสาว ตาเขียวปั๊ด
สองสาวนักเม้าท์ถึงกับก้มหน้ากระซิบกระซาบกันอย่างหวาดกลัวมือตบแห่งบริษัท ก่อนที่ไพลินจะสะบัดหน้าหันไปมองบนเวทีอีกครั้ง ดวงตาที่มองไปยังไตรทศดูจะเสียดายชายหนุ่มเป็นอย่างมาก
อริสรามองไปที่ ‘แฟนเก่า’ ของชายที่หล่อนหมายปอง
ไพลินเป็นสาวสวย โตเป็นสาวเต็มตัวแล้ว อายุน่าจะราวๆ 26-27 ปี หล่อนสวยอย่างกับดารา รูปร่างเพอร์เฟ็ค ดูเหมือนจะเอาเก่งด้วย
อริสราก้มหน้ามองตัวเองที่สวมชุดเดรสสีชมพูกระโปรงพองหลายชั้น แขนตุ๊กตาแบบเด็กๆ เป็นชุดที่พ่อชอบ พ่อเลือกให้หล่อนสวม ลูกสาวแสนดีแบบหล่อนกลัวว่าพ่อจะเสียใจก็ต้องใส่ตามใจพ่อ
ทั้งที่จริงๆ หล่อนอยากใส่เดรสเกาะอกแบบเซ็กซี่ๆ มากกว่าเดรสเจ้าหญิงดิสนีย์แบบนี้
เฮ้อ!
อริสรายืนคิดเสียดายที่ไม่กล้าหักหาญน้ำใจพ่อ ไม่อย่างนั้นคืนนี้หล่อนคงสวยเฉิดฉายในสายตาของไตรทศได้มากกว่านี้
//คุณไตรใจดีจังนะครับที่มาเป็นประธานในงานให้กับเจ้าบ่าวด้วย ปกติคุณไตรไปร่วมงานแต่งงานของพนักงานทุกคนในบริษัทหรือเปล่าครับเนี่ย//
อริสราเงยหน้ามองบนเวที คำถามของพิธีกรทำให้หล่อนสงสัยเหมือนกัน
เท่าที่จำได้ พ่อทำงานอยู่บริษัทที่ใหญ่โตและมีชื่อเสียงมากๆ มีพนักงานหลายพันชีวิต ถ้าเจ้าของบริษัทต้องไปงานแต่ง งานบวช งานศพญาติ และงานมงคลไม่มงคลจิปาถะของพนักงานทุกคน คงต้องแบ่งร่างไปเลยล่ะถึงจะไปได้ครบทุกงาน
//พี่วินก็ทำงานกับผมมานานตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท เรียกได้ว่ามีส่วนช่วยให้บริษัทเจริญรุ่งเรือง เป็นคนเก่ง และที่สำคัญเป็นคนดี ถือว่าพี่วินให้เกียรติผมมากกว่าครับ ที่เชิญผมมาเป็นแขกคนสำคัญในงานวันนี้ เป็นโชคดีของผมครับที่พี่วินเป็นพี่รหัสของเพื่อนผม เลยรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย//
ไตรทศตอบเลี่ยงได้อย่างชาญฉลาด ในขณะที่พิธีกรทำตาโต
//โอ้โฮ นี่คุณไตรอายุน้อยกว่าเจ้าบ่าวแค่ปีเดียวเองเหรอครับเนี่ย ผมดูไม่ออกเลย//
//หน้าผมแก่ หรือคุณไตรหน้าเด็กก็ไม่รู้นะครับ//
อัศวินพูดแทรกกลั้วหัวเราะอย่างรู้ตัวดีว่าคำตอบก็คือทั้งสองอย่างนั่นแหละ เรียกเสียงหัวเราะของทุกคนในงานได้ด้วย ในขณะที่พิธีกรหัวเราะเก้อๆ เพราะรู้สึกว่าตัวเองเสียมารยาท ทั้งที่เจ้าบ่าวจิกกัดตัวเองอย่างไม่คิดอะไรเลย
ส่วนอริสรา... หล่อนเองก็ตกใจเหมือนกัน ถึงจะคิดว่าเขาไม่ได้ดูเหมือนเด็กๆ แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อตัวเองขนาดนั้น
ปีนี้อัศวินอายุสี่สิบปีพอดี ถ้าอย่างนั้นไตรทศก็อายุสามสิบเก้าแล้วสิ อีกปีเดียวก็ขึ้นเลขสี่เหมือนพ่อแล้ว
โห... ดูไม่ออกเลยจริงๆ
//ยังไงก็ขอให้พี่วินกับดามีความสุขมากๆ ครับ//
ไตรทศตัดบท ก่อนจะเดินลงจากเวทีพร้อมเสียงปรบมือ พิธีกรยังดำเนินงานต่อไป ในขณะที่ชายหนุ่มหันมามองทางอริสราแล้วส่งสัญญาณด้วยการพยักหน้า ก่อนจะเดินนำออกไปทางประตูหนึ่งที่มีผ้าสีชมพูประดับประดาไว้อย่างสวยงาม