บทที่๑/๑

938 Words
หนทางที่ทอดยาวไปข้างหน้าแม้จะเป็นเพียงถนนลูกรังสีแดงฝุ่นฟุ้งกระจายยามหน้าแล้ง ที่เห็นกันเจนตาในชีวิตชนบทห่างไกลความเจริญเช่นเมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ แต่สองข้างทางหาได้มืดมิดหรือรกครึ้ม เพราะมีดวงไฟให้แสงสว่างเป็นระยะๆ เรียกได้ว่าไม่อันตรายจากสัตว์ร้ายสำหรับคนเดินเท้าในเวลาค่ำคืน แต่สำหรับอันตรายจากน้ำมือมนุษย์นั้น แม้จะมีไฟทางส่องสว่าง หรือจะเป็นแสงจากพระอาทิตย์ดวงกลมโตเวลากลางวันแสกๆ ผู้มีจิตใจหยาบช้าก็สามารถทำสิ่งผิดกฎหมายไร้ซึ่งมนุษยธรรมได้โดยไม่สนใจเวล่ำเวลา ภายในรถกระบะโฟวิลคันใหม่เอี่ยมที่กำลังแล่นไปข้างหน้าอย่างช้าๆ หญิงสาวอุ้มเด็กน้อยที่ผล็อยหลับอิงอกเอาไว้ สายตาเธอมองไปข้างหน้าอย่างสนใจ เวลาเกือบสองปีที่ไม่ได้เหยียบย่างมาที่แห่งนี้ทำให้เห็นถึงความแปลกตา สองข้างทางที่เคยรกร้างไปด้วยต้นไม้ไร้ประโยชน์และวัชพืช กลางคืนก็มืดสนิทจนไม่มีใครกล้าเดินผ่าน มาบัดนี้กลับสว่างไสวไปด้วยไฟทางสีนวลที่ส่องเป็นระยะๆ ต้นไม้รกๆ ข้างทางก็ตัดแต่งเป็นรูปเป็นทรงไม่ให้กิ่งก้านเกิดเงาบดบังแสง เมื่อผ่านชุมชนก็เห็นบ้านเรือนริมถนนต่างพร้อมใจกันติดไฟส่องสว่างหน้าบ้านตนเอง ผิดไปจากเมื่อก่อนจากหน้ามือเป็นหลังมือ “แปลกตาใช่ไหม” สารถีหนุ่มถามขึ้นเมื่อเห็นว่ากณิศาสนใจมองข้างทางเป็นนานสองนาน จนไม่พูดคุยกับเขาเลยตลอดเส้นทางที่ผ่านมา หญิงสาวเหลียวมามองเขาช้าๆ ก่อนพยักหน้าให้เล็กน้อยแต่ไม่ได้เอ่ยวาจาอันใด ชายหนุ่มจึงพูดต่อ “พี่ชายผมเป็นคนเข้ามาพัฒนาและปฎิรูปความเป็นอยู่ของคนที่นี่ ถนนหลายสายลาดยาง บางสายแม้ไม่มีงบประมาณมาลาดยางมะตอย แต่ก็ถมลูกรังอัดแน่นฝนตกไม่เละ ไม่เป็นหลุมเป็นบ่อ แล้วก็ติดไฟส่องสว่างทุกสายเพื่อความปลอดภัยของผู้สัญจร หน้าบ้านก็ขอความร่วมมือให้เปิดไฟคนละหนึ่งดวงตลอดคืน คุณก้อยรู้ไหมว่าลดปัญหาอาชญากรรมได้มากทีเดียวนะครับ” ชายหนุ่มพูดอย่างภูมิใจเสมือนเป็นคนทำโครงการดังกล่าวเสียเอง แต่เหมือนหญิงสาวผู้ร่วมโดยสารมาในรถจะไม่ให้ความสนใจมากเท่าใด เธอแค่พยักหน้ารับทราบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่เขาก็เข้าใจดีเวลานี้จิตใจเธอคงหดหู่กับการเสียชีวิตของพี่สาวและเหตุพิพาทในวัดเมื่อสักครู่ “น้องชื่ออะไรครับ ผู้หญิงใช่หรือเปล่า” เขาอยากหาเรื่องคุยกับเธอจึงถามถึงเด็กน้อยที่หลับอยู่แนบอก แม้จะรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาอีกครั้งหลังทำใจได้มาไม่นาน เพราะกณิศานับเป็นคนบ้านเดียวกันที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ และเขาก็แอบชอบเธอมาตั้งแต่เริ่มแตกพาน เรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงคนแรกที่ชอบและคิดจะจีบ แต่เวลานั้นทั้งตัวเขาและกณิต่างเข้าไปเรียนในกรุงเทพฯ จะมีพบเจอกันบ้างก็ตอนปิดเทอม เขาจำได้ดีว่าจะยิ้มอย่างขัดเขินเสียทุกครั้งเมื่อพบเจอหญิงสาว ไม่ว่าสถานที่ใด พบเจอตามลำพังหรือมากับบุคคลอื่น กณิศาและกนกกรพี่สาวนับเป็นสาวหน้าตาดีถึงขั้นสวยที่สุดในหมู่บ้าน ทำให้เป็นที่หมายปองของชายหนุ่มทั่วไป ตัวเขาจึงมีคู่แข่งเป็นจำนวนมากแต่เรียกได้ว่ายังไม่ได้เปิดตัวลงแข่งขัน รางวัลแห่งชัยชนะก็มีคนคว้าไปเสียแล้ว เมื่อกณิศาหนีหายไปพร้อมชายอีกคนที่กำลังจะแต่งงานกับกนกกร เป็นที่กล่าวขานกันไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ตอนกณิศาหายหน้าไปใหม่ๆ ครอบครัวของเธอแทบจะเข้าหน้าชาวบ้านไม่ติด ไม่พบปะเพื่อนบ้านไม่กล้าเหยียบย่างไปในตลาดเพราะทนกับคำถามและสายตาเหยียดหยามของคนเหล่านั้นไม่ไหว กนกกรที่ถูกน้องสาวแย่งคนรักไปเสียใจทุกข์ใจมากมายแต่คงไม่เท่านางสายบัวผู้เป็นแม่เพราะถือว่าอับอายชาวบ้านเป็นสองเท่า ลูกสาวคนโตเป็นหม้ายขันหมากทั้งที่เตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนลูกสาวคนเล็กก็ทำเรื่องงามหน้าหนีตามคู่รักของพี่ตนเองไปเป็นเหตุให้งานแต่งของพี่สาวต้องล้มเลิกไปโดยปริยาย ส่วนตัวเขาก็แทบไม่เป็นผู้เป็นคน หมดอาลัยในชีวิตไปพักใหญ่แต่ไม่มีใครรู้ว่าสาเหตุมาจากเรื่องของกณิศา เพราะเขายังไม่ทันได้เอ่ยปากให้ใครรู้ว่าชอบเธอ แล้วกับเจ้าตัวยิ่งไม่เคยได้เผยความในใจเพื่อสานต่อความสัมพันธ์แต่อย่างใด เรียกได้ว่าเขาอกหักเสียตั้งแต่ในมุ้งเลยทีเดียว “ลูกสาวค่ะ ชื่อรวงข้าว” เสียงตอบสั้นๆ ของกณิศารั้งชายหนุ่มกลับมาจากความหลังที่กำลังหวนรำลึก “ชื่อน่ารักจังนะครับ คงจะเหนื่อยหลับปุ๋ยเลย” เขายิ้มให้เธอแม้ไม่มีรอยยิ้มหรือคำพูดตอบแต่อย่างใด หญิงสาวปล่อยให้ความเงียบครอบครองพื้นที่ภายในห้องผู้โดยสารอีกครั้ง ชายหนุ่มรอบถอนหายใจช้าๆ คงเปล่าประโยชน์ที่จะชวนเธอพูดคุยแม้อยากจะถามไถ่สารทุกข์สุกดิบอีกมากมาย เขาพารถมุ่งหน้าไปยังจุดหมายซึ่งเป็นบ้านหลังงามที่มีอาณาบริเวณกว้างขวางพอสมควร
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD