รถคันใหม่เอี่ยมแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้านที่เปิดไฟสว่างไสวทว่าดูเงียบเหงาจนวังเวง นิพลเปิดประตูลงจากที่นั่งคนขับอ้อมมาเปิดประตูให้กณิศา ชายหนุ่มส่งมือไปหวังรับเด็กน้อยมาอุ้มเอาไว้เพื่อให้กณิศาลงจากรถได้อย่างสะดวก ทว่าหญิงสาวปฏิเสธไม่ยอมส่งเด็กหญิงตัวน้อยที่อุ้มเอาไว้แนบอกให้ ขยับลงจากรถด้วยตนเองจนนิพลต้องรีบหลบทางให้ แล้วเดินไปยกกระเป๋าเดินทางลงจากกระบะท้าย
กณิศาหยุดยืนหน้าบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้หลังเดิม บ้านที่ไม่ได้มาเหยียบเป็นเวลาสองปีกว่า บ้านแสนสุขที่อบอวลไปด้วยความรักในอดีต แต่บัดนี้เวลานี้บ้านกลับดูวังเวงเงียบเหงา ช่วงเวลากลางคืนไม่ได้เป็นเงื่อนไขทำให้บ้านดูเหงาลงไปมากขนาดนี้ แต่นั่นเป็นเพราะความสูญเสียที่เกิดขึ้นในบ้าน บ้านที่มีแม่เป็นหัวหน้าครอบครัวตั้งแต่พ่อเสียชีวิตไปตอนเธอเรียนมหาวิทยาลัยปีแรกเท่านั้นเอง แม่ต้องอยู่กับกนกกรตามลำพังเพราะตัวเธอเองเข้าไปเรียนระดับอุดมศึกษาที่กรุงเทพฯ ขณะที่กนกกรเรียนวิทยาลัยอาชีวะอยู่ที่บ้านเกิด
วันหยุดไม่ว่าจะช่วงยาวเช่นปิดเทอมหรือช่วงสั้นเช่นเสาร์อาทิตย์หรือวันนักขัตฤกษ์ กณิศาก็พยายามกลับมาบ้าน งานของเธอคือช่วยแม่ดูแลสวนผลไม้และไร่องุ่น ส่วนกนกกรนั้นถนัดทำงานบ้านมากกว่าออกไปตากแดดให้เหงื่อไหลไคลย้อย จนบางครั้งแม่ยังเอ่ยเย้าว่าสาวชาวกรุงไม่กลัวแดดแต่สาวบ้านนอกกลับกลัวแดดยิ่งกว่ากลัวผี การได้นอนหนุนตักแม่และรับประทานอาหารพร้อมหน้าสามคนแม่ลูกเป็นช่วงเวลาที่เธอมีความสุขที่สุดหลังพ่อจากไป แต่เวลานี้ภาพแห่งความสุขเหล่านั้นไม่มีวันหวนคืนมาอีกแล้ว
กณิศาเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาข้างแก้ม ก่อนมองหากระเป๋าเดินทางที่นิพลยกลงมาจากกระบะท้าย ชายผู้มีน้ำใจยังถือไว้ไม่ได้วางลง ซ้ำยังหิ้วเดินไปเมียงมองที่ประตูหน้าบ้าน
“คุณก้อยมีกุญแจไหมครับ บ้านล็อกนี่นา” นิพลหันกลับมาถาม ก่อนจะมองเลยไปท้ายรถของเขาที่เห็นดวงไฟสาดส่องมา พร้อมเสียงเครื่องยนต์รถมอเตอร์ไซค์เก่าๆ ที่ดังหนวกหูเข้ามาจอดใกล้แทบจะชนกณิศาจนเธอต้องขยับหนี แล้วแจ่มจันทร์ที่นั่งซ้อนท้ายมาก็ยื่นกุญแจทั้งพวงให้
“ป้าบัวใช้ให้เอามา” พูดจบแจ่มจันทร์ก็วางกุญแจพวงหนักลงบนฝ่ามือที่แบออกไปรับของกณิศาอย่างแรงจนมือตกลงเล็กน้อย แจ่มจันทร์แสยะมุมปากสะใจก่อนหันไปสั่งหนุ่มคนขับมอเตอร์ไซค์
“ไปชาติ เสียเวลาจริงๆ ไม่รู้จะกลับมาทำไมให้เป็นขี้ปากชาวบ้านอีก” สุดท้ายแจ่มจันทร์ก็อดแขวะกณิศาไม่ได้ ซ้ำมองด้วยหางตาอย่างเหยียดหยามก่อนเอ่ยเร่งนายชาติชายหนุ่มวัยใกล้เคียงกันที่ทำหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์
“ไปเร็วๆ เหม็นเน่าคนบางคน”
เมื่อรถจักรยานยนต์เก่าๆ แล่นจากไปแล้ว นิพลรีบแบมือขอกุญแจจากกณิศาแล้วอาสา
“ผมเปิดให้ครับ คุณก้อยคงไม่สะดวกแน่ๆ” เขามองเด็กหญิงที่กณิศาอุ้มอยู่ประกอบคำว่าไม่สะดวกซึ่งเธอเองก็คงคิดเช่นเดียวกัน
การอุ้มลูกน้อยไว้ในอ้อมแขนจะไขกุญแจบ้านก็ดูยากเย็นแต่ใช่จะเหลือบ่ากว่าแรงนัก ถ้าหากไม่มีคนรับอาสาก็ทำเองได้ แต่หญิงสาวอดคิดไม่ได้ว่าแม่คงไม่ใจดำใช้ให้แจ่มจันทร์เอากุญแจมายื่นให้แบบนี้ น่าจะใช้ให้มาเปิดบ้านให้เสียมากกว่า แต่แจ่มจันทร์เป็นคนแล้งน้ำใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถึงได้ทำแค่เอากุญแจมายัดใส่มือ แต่อะไรก็เป็นไปได้แม่อาจยังถือโทษโกรธไม่หายกับเรื่องผิดพลาดที่ผ่านมาของเธอ อาจสั่งให้แจ่มจันทร์ทำแค่นี้จริงๆ
กณิศาลอบถอนหายใจแล้วส่งกุญแจให้ชายหนุ่มผู้รับอาสา
ประตูไม้สักบานเรียบตามความเห็นชอบของทุกคนในครอบครัวตอนซ่อมแซมบ้านใหม่ เพราะของเก่าทรุดโทรมลงไปมากถูกเปิดออก ภายในตัวบ้านไม่ได้เปิดไฟไว้ แต่ก็ไม่มืดเพราะมีแสงไฟจากระเบียงหน้าบ้านสาดส่องเข้ามา รวมถึงแสงที่ลอดเข้ามาผ่านหน้าต่างกระจกทำให้ไม่ยากที่นิพลจะมองหาสวิตช์เพื่อเปิดไฟในบ้าน โถงกลางบ้านสว่างด้วยไฟนีออน หญิงสาวกวาดตามองอย่างคุ้นเคยแล้วน้ำตาก็เอ่อคลอดวงตาอีกครั้ง เธอรีบหันไปหานิพลแล้วกล่าวขอบคุณ
“ขอบคุณมากนะนิพล”
นิพลวางกระเป๋าลงใกล้ๆ รู้ดีว่าแม้กณิศาไม่เอ่ยไล่ตรงๆ แต่เธอคงอยากให้เขากลับ และเขาก็คงต้องขอตัวกลับตามมารยาท ก่อนจะเอ่ยลาชายหนุ่มยังพูดอย่างห่วงใยอีกครั้ง
“กระเป๋าหนักคุณก้อยอย่ายกขึ้นไปเองนะครับ รอให้ใครมาช่วยยกจะดีกว่า” แม้ใจจริงแล้วเขาอยากอาสายกขึ้นไปให้จนถึงห้องนอนของเธอเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะรู้ว่าไม่สมควรและเธอก็คงไม่ยินยอม
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” กณิศากล่าวขอบอกขอบใจเขาอีกครั้ง แล้วเดินตามไปส่งและปิดประตู นิพลยังไม่วายหันมาบอกด้วยความหวังดี
“ไม่ต้องออกมาส่งผมหรอกครับ คุณก้อยปิดประตูได้เลยมืดค่ำอยู่คนเดียวน่ากลัว คนแถวนี้คงไปวัดกันหมด” เขาบอกและรอจนหญิงสาวปิดประตูเรียบร้อยจึงเดินไปขึ้นรถ
บ้านหลังไม่ใหญ่แต่อาณาบริเวณกว้างขวางตามประสาคนพื้นถิ่น ที่ดินทำมาหากินตกทอดมาจากบรรพบุรุษมีมากตามฐานะ แม้ครอบครัวของกณิศามิใช่คหบดีที่ร่ำรวยหรือเศรษฐีที่ดินของจังหวัด แต่ครอบครัวเธอก็มีที่ดินทำมาหากินมากพอสมควร บวกกับความขยันของรุ่นพ่อรุ่นแม่ทำให้ครอบครัวมีฐานะดีขึ้นมาเรื่อยๆ แม้ตอนนี้ต่างรับรู้กันว่าครอบครัวที่มีแต่ผู้หญิงหลังนี้กำลังจะมีผู้ชายเข้ามาอยู่ในฐานะลูกเขยเมื่อกนกกรแต่งงานกับคู่หมั้น แต่กนกกรก็มาด่วนจากไปเสียก่อนด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์
นิพลหันกลับไปมองอีกครั้งอย่างอาวรณ์ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีกณิศาก็ยังสวยใส แม้จะอุ้มลูกน้อยไว้กับอก หญิงสาวก็ยังมีเสน่ห์น่ามอง และไม่ว่าในวันพรุ่งนี้หรือวันต่อมา สามีของเธอจะตามมาหรือไม่ เขาก็ยังอยากพบหน้าค่าตาเธออีกหลายๆ ครั้ง และรู้ว่าความรักที่แอบซ่อนอยู่ยังฝังลึกในใจมิได้ลบเลือนไปตามกาลเวลา ไม่ได้ลดน้อยถอยลงไปพร้อมกับข่าวการหนีหายไปกับผู้ชายอื่นของกณิศาแต่อย่างใด