ตอนที่ไม่มีชื่อ

1170 Words
12 เวลาผ่านไปนานนับชั่วโมง แขกเริ่มทยอยกลับกันเกือบหมด ดูเหมือนว่าวิตโตริโอยังไม่อยากกลับ การพูดคุยกับกมลเนตรแล้วรู้สึกมีความสุข ความสดใสของเธอคล้ายอาวุธที่ทำให้เขาหยุดอยู่กับที่ ไม่วอกแวกถึงหญิงสาวคนอื่น ทว่างานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา แต่เขาไม่เลิกความตั้งใจที่จะชิดใกล้เธอ “พี่ต้องกลับแล้วนะครับ ในงานเหลือพี่คนเดียว ทั้งที่ไม่อยากจะกลับเลย อยากนั่งคุยกับน้องตาไปเรื่อยๆ” เขาหยิกแกมหยอก “พี่จะไปกราบลาคุณยาย น้องตาพาพี่ไปได้หรือเปล่าครับ” “ได้ค่ะ เชิญพี่วิโตทางนี้ค่ะ” หลานสาวเจ้าของบ้านเดินนำเข้าไปภายในบ้านทรงไทยหลังใหญ่ ผ่านห้องต่างๆ จนกระทั่งมาหยุดยืนที่หน้าห้องๆ หนึ่งบนชั้นสองของบ้าน มือเล็กเคาะประตูตามมารยาท ก่อนจะเปิดประตูห้องอย่างเบามือ “คุณยายคะพี่วิโตจะกลับแล้วค่ะ” กมลเนตรเอ่ยบอกนภาลัยที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง นางกลับขึ้นมาพักผ่อนบนห้องหลังจากที่การตัดเค้กวันเกิดเสร็จสิ้น โดยปล่อยให้งานเลี้ยงดำเนินต่อไป “ผมลากลับก่อนนะครับคุณยาย” วิตโตริโอพนมมือไหว้หญิงชรา เอ่ยลาตามธรรมเนียมไทย “จ้ะเดินทางดีๆ นะลูก ฝากขอบใจแม่แมวด้วยที่ยังอุตส่าห์จำวันเกิดยายได้” นางพูดเหมือนกับว่าไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงในการเดินทางมาร่วมงานเลี้ยง “คุณยายครับ ผมของอนุญาตมาสอนภาษาอิตาเลียนให้น้องตาได้หรือเปล่าครับ น้องตาบอกผมว่าจะไปเรียนต่อที่โน้น แต่ภาษายังไม่แข็งแรง” เขาเสนอตัวกับนภาลัยทันที เพราะไม่รู้ว่ากมลเนตรจะกล้าพูดเรื่องที่คุยกับคั่งค้างตอนไหน เขาจึงต้องเป็นฝ่ายรุกเองน่าจะรวดเร็วและเห็นผลกว่า นภาลัยยิ้มกับคำพูดของชายหนุ่ม เป็นอย่างที่ทิพย์ธาราบอกนางไม่มีผิด วิตโตริโอสนใจในตัวหลานสาวของนางจริงๆ “ถ้าวิโตว่างก็มาสอนหลานของยายได้ ยายอนุญาต” นางพูดอย่างผู้ใหญ่ใจดี เรียกรอยยิ้มสมใจให้กับชายหนุ่ม ส่วนหลานสาวนั่งก้มหน้านิ่งเขินอายยิ่งนัก “ขอบคุณครับคุณยาย ผมรับรองน้องตาจะต้องพูดภาษาอิตาเลี่ยนคล่องปากแน่นอนครับ” เขารับคำแข็งขัน ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปเขาจะรีบทำคะแนนพิชิตใจกมลเนตรให้ได้ ระยะห่างระหว่างวิตโตริโอกัยปรางค์รวีมีมากขึ้นทุกวัน ปรางค์รวีถูกย้ายแผนกให้ไปฝึกงานที่แผนกการตลาด โดยเขาให้เหตุผลในการสั่งย้ายเธอแบบปัจจุบันทันด่วนว่า แผนกนั้นขาดคนอยู่พอดีและเป็นแผนกที่ปรางค์รวีต้องเข้าไปฝึกงานตั้งแต่คราแรก ด้วยความใสซื่อและไม่ทันเล่ห์เหลี่ยม ทำให้เธอไม่ได้แย้งคำสั่งของเขา ทำตามแต่โดยดี และนั่นทำให้ทั้งคู่พบหน้ากันน้อยลง ส่งผลให้ความสัมพันธ์ทางกายก็น้อยลงตามไปด้วย ความห่างเหินที่เกิดขึ้นทำให้ปรางค์รวีเกิดความกังวลใจไม่น้อย เธอกลัวว่าวิตโตริโอจะทอดทิ้ง ครั้นจะไปถามความจริงเธอก็ไม่กล้า กลัวคำตอบที่จะได้รับ จึงทำตัวนิ่งเฉยเรื่อยมา ระยะหนึ่งเดือนมานี้ปรางค์รวีมีอาการแปลกๆ เธอหน้ามืดบ่อยครั้ง ได้กลิ่นอาหารบางชนิดเธอจะมีทีท่าอยากจะอาเจียน ร่างกายอ่อนเพลียและเหนื่อยง่าย ปรางค์รวีสงสัยว่าเธอคงจะพักผ่อนน้อยเกินไป เนื่องจากต้องดูแลมารดาในตอนกลางคืนที่ระยะหลังนี้อาการไม่สู้ดีนัก กลางวันเธอต้องฝึกงานและบางวันก็ต้องไปมหาวิทยาลัย เวลาพักผ่อนจึงเหลือไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน แล้ววันนี้ปรางค์รวีเดินทางมหาวิทยาลัยเพื่อสอบวิชาที่ค้างไว้และการเดินทางมาในวันนี้ เธอได้พบปะเพื่อนที่ไม่ได้พบกันบ่อยนักในช่วงระยะหลัง เนื่องจากต่างคนต่างแยกย้ายกันไปฝึกงาน หนึ่งในเพื่อนหลายคนคือ กมลเนตรเพื่อนสนิทที่คบหากันมาสิบปี “เป็นอะไรปรางค์ หน้าซีดมากเลยนะ ไม่สบายหรือเปล่า” กมลเนตรถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นสีหน้าซีดเซียวของเพื่อนสนิท “ไม่ได้เป็นอะไรหรอก เมื่อคืนแม่อาเจียนบ่อย ปรางก็เลยนอนน้อยเท่านั้นเอง” ปรางค์รวีตอบเพื่อน “แล้วแม่ปรางค์เป็นยังไงบ้างล่ะ ตาไม่ได้ไปเยี่ยมเลยต้องเตรียมตัวไปเรียนต่อ แถมต้องเรียนภาษาอิตาเลี่ยนอีก” เกือบสองเดือนที่ผ่านมากมลเนตรไม่มีเวลาให้เพื่อนมากนัก เพราะตัวเธอวุ่นวายเกี่ยวกับเอกสารที่จะใช้ในการไปศึกษาต่อ และการเรียนภาษาจากคุณครูพิเศษนามว่าวิตโตริโอ ที่มาสอนเธอทุกวันในตอนเย็นและในวันหยุด จนเขาเป็นแขกประจำของบ้าน เฉกเช่นเดียวกับความสัมพันธ์ทางใจของทั้งสองรุดหน้าไปมาก กมลเนตรเปิดใจยอมรับวิตโตริโอมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ทั้งหมด เพราะอีกใจกลับหน่วงๆ หากจะรับรักเป็นแฟน แม้ว่าทางบ้านของเธอจะเชียร์และเต็มอกเต็มใจให้เธอกับเขา คบกันในฐานะคนรักก็ตามที “ได้ข่าวว่าคุณครูคนนี้หล่อมาก เป็นเจ้าของภาษาด้วย มิน่าล่ะภาษาอิตาเลียนของตาจึงรุดหน้าเร็วไปมาก ว่าแต่เขาชื่ออะไรล่ะ เมื่อไหร่ตาจะพาเขามาแนะนำให้เกี๊ยะกับปรางค์รู้จักในฐานะแฟนซะทีล่ะ เกี๊ยะอยากเห็นหน้าเขาเต็มแก่แล้วนะเนี่ย” ภัทรากระเซ้าเพื่อนรัก กมลเนตรหน้าแดงขึ้นมาทันทีทันใด “เขาชื่อวิโต แล้วเขาก็ไม่ได้เป็นแฟนฉันด้วย พี่วิโตมาสอนภาษาให้ตาเฉยๆ ต่างหากล่ะ” กมลเนตรอ้อมแอ้มตอบ หน้าแดงราวกับลูกตำลึงสุก หากเธอรับรักวิตโตริโอเป็นคนรัก เธอจะรีบพาเขามาแนะนำให้เพื่อนรักทั้งสองรู้จักทันที แต่นี่ยังไม่ไปถึงขึ้นนั้น ให้รู้จักเพียงแค่ชื่อไปก่อน “ชื่อวิโตเหรอ” ปรางค์รวีทวนชื่อครูสอนภาษาของเพื่อน ชื่อนี้ช่างคุ้นหูยิ่งนัก เธอเคยได้ยินที่ไหนสักแห่งแต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ทว่าชื่อนี้ช่างสอดคล้องกับชื่อของวิตโตริโอ คนรักของเธอยิ่งนัก แต่ปรางค์รวีก็ไม่คิดว่าจะเป็นคนเดียวกัน เป็นเพราะวิตโตริโอไม่ได้เป็นครูสอนภาษา เขาเป็นนักธุรกิจไฟแรงที่บุคคลทั้งหลายจับตามอง “ใช่จ้ะ ชื่อวิโต เป็นครูสอนภาษาที่เก่งมากเลยนะ ลิ้นแข็งๆ อย่างตายังพูดได้เลย” กมลเนตรตอบ แต่ไม่ทั้งหมด “ไปห้องสอบกันดีกว่านะ ใกล้เวลาแล้ว” ภัทราบอกเพื่อนรักทั้งสอง สามสาวจึงหยุดการสนทนา พากันเดินตรงไปยังห้องสอบที่อยู่อีกสองตึกจากจุดที่พวกเธอนั่งอยู่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD