นิมาสาวสวยเจ้าของร้านขายขนมไทย กำลังเริ่มจัดร้านของเธอในตอนเช้าเหมือนเช่นทุกๆ วัน ขนมไทยที่ร้านแห่งนี้จะจัดมาให้กับลูกค้าควบคู่กับชาร้อนกลิ่นหอมๆ นิมามีความสุขทุกครั้งที่ได้สัมผัสและรับรู้กลิ่นหอมๆ ของชาซึ่งมีอยู่มากมายหลายชนิด ภาพของลูกค้าที่จิบน้ำชาพร้อมรอยยิ้มนั่นยิ่งทำให้เธอมีความสุขมากยิ่ง ขึ้น มารดาของเธอมักจะสั่งสอนให้เธอรู้จักแบ่งปันกับคนรอบข้าง หรือแม้กระทั่งกับคนที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อนก็ตาม การทำให้ใครสักคนยิ้มได้นั้นจะทำให้เธอรู้สึกสุขใจมากยิ่งกว่าคนที่เธอได้ทำให้เกิดรอยยิ้มขึ้นเสียอีก
“ยืนยิ้มสวยๆ เรียกลูกค้าแต่เช้าเลยนะ นิ่ม” นารินทักทายน้องสาวที่กำลังยืนอมยิ้มคนเดียวในขณะที่มือก็จัดขนมเพื่อเตรียมเปิดร้าน นารินเป็นพี่สาวที่อายุอานามห่างจากนิมาเพียงแค่สามปีเท่านั้น ช่วงวัยที่ไม่ได้แตกต่างนักความรู้สึกของทั้งสองสาวนอกจากความเป็นพี่น้องก็ยังมีความเป็นเพื่อนซึ่งผสมปนเปกันไป แต่นิมาก็นับถือและรักพี่สาวของเธอมากที่สุด เชื่อฟังในทุกๆ เรื่องที่พี่สาวของเธอบอกหรือแนะนำ เธอรู้ว่าพี่สาวของเธอหวังดีกับเธอไม่น้อยไปกว่ามารดาที่ล่วงลับไปแล้ว
“มัวแต่มาแซวนะคะ เดี๋ยวก็ไปทำงานสายนะคะ พี่นา” นิมาบอกกับพี่สาวของเธอที่ยังคงยืนอมยิ้มอยู่
“ขนมของพี่ล่ะคะ คุณแม่ค้าคนสวย ลืมหรือเปล่าคะ” นารินนึกขำตัวเองที่เรียกน้องสาวว่าแม่ค้า
“เตรียมไว้พร้อมค่ะ อ้อมีพิเศษสำหรับพี่ทัดด้วยนะคะ ฟรีค่ะ สำหรับว่าที่พี่เขย นิ่มไม่คิดเงิน” นิมายิ้มทะเล้นเมื่อได้พูดถึงทองทัดซึ่งเป็นว่าที่พี่เขยของเธอ
“ขอบใจนะจ๊ะ นี่ถ้าพี่ทัดไม่เจอพี่ก่อน คงหลงรักนิ่มเข้าแน่ๆ แม่บ้านแม่เรือนขนาดนี้ แต่พี่ไม่ได้เรื่องสักอย่าง” นารินพูดยิ้มๆ และนึกถึงเรื่องงานบ้านงานเรือนซึ่งเธอไม่ค่อยถนัดนัก เรียกว่าไม่ได้เรื่องเอาเสียเลยน่าจะดีกว่า
“เป็นสาวเก่งให้น้องชื่นชมแบบนี้ดีแล้วค่ะ เรื่องงานบ้านงานเรือน บ้านพี่ทัดก็มีแม่บ้านดูแลอยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องเป็นห่วงเลยนะคะ แต่ตอนนี้ออกเดินทางได้แล้ว เดี๋ยวคุณพี่ทัดคิดถึงแย่เลย ขับรถดีๆ นะคะ พี่นา” นิมาเข้าสวมกอดพี่สาวของเธอ
“ขอบใจจ้ะ นิ่มก็อย่าทำโน่นทำนี่เยอะนัก พนักงานก็มี บางอย่างไม่ต้องทำเองก็ได้นะ ให้เด็กทำก็ได้ เรามีกันแค่สองคนพี่น้อง ถ้านิ่มเป็นอะไรไปอีกคนพี่คงแย่แน่ๆ ดูแลตัวเองด้วยนะ อย่าทำงานเยอะนัก” นารินบอกกับน้องสาวของเธอเช่นนี้อยู่บ่อยๆ ด้วยความเป็นห่วง
ทองทัดกำลังเดินไปเดินมาอยู่หน้าสำนักงานระหว่างที่ยืนรอว่าที่เจ้าสาวเป็นประจำทุกวันก่อนที่จะขึ้นไปบนตึกแยกย้ายกันทำงาน สองหนุ่มสาวจะพบปะและรับประทานอาหารเช้าร่วมกัน ไม่นานนักรถยนต์ของนารินก็เลี้ยวเข้ามาจอดอยู่ใกล้ๆ รถยนต์ของทองทัด นารินยิ้มหวานมาให้ เพราะรู้ตัวว่าวันนี้เธอมาถึงช้ากว่าทุกวันด้วยมัวอ้อยอิ่งพูดเล่นอยู่กับน้องสาวของเธอเอง
“หิวหรือคะ หน้ามุ่ยเลย ขอโทษนะคะ มัวแต่แหย่แม่ค้าคนสวยที่ร้านขนมเพลินไปหน่อยค่ะ ถุงนี้น้องสาวคนสวยฝากให้ว่าที่คุณพี่เขยของเธอค่ะ” นารินอมยิ้มเมื่อพูดถึงนิมากับทองทัด
“ฝากเงินไปให้นิ่มด้วยนะนา ฝากขนมมาบ่อยๆ เกรงใจ ขนมไทยแต่ละชิ้นกว่าจะทำออกมาได้ก็ไม่ใช่ง่ายๆ เลยนะครับ” ทองทัดกำลังจะหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าสตางค์
“นิ่มคงจะยอมรับเงินจากทัดหรอกนะ ไม่มีทาง รับไปนาก็โดนน้องบ่นตายเลย ก็เอาไว้วันเกิดหรือโอกาสพิเศษอะไรค่อยซื้อของให้ก็ได้ค่ะ ไปทานข้าวกันดีกว่าชักหิวแล้วค่ะ” นารินยิ้มมองสบตากับทองทัดที่หัวเราะเล็กๆ เมื่อได้ยินว่าที่ภรรยา
บอกเรื่องความหิว
“หิวเป็นด้วยหรือครับ ปกติทานยังกับแมวดม” ทองทัดยิ้ม
“คนนะทัด ไม่ใช่ตุ๊กตาปูนปั้นจะได้ไม่รู้สึกรู้สาอะไร ก็ต้องมีหิวกันบ้างทานนิดหน่อยก็ยังดี ไปได้แล้วค่ะ ให้ไวเลยทัด” นารินลากทองทัดให้เดินตามเธอมาฝ่ายชายก็แกล้งทำเป็นขืนตัวไว้ไม่เดินตาม จนกระทั่งเสียงหัวเราะดังขึ้นมาพร้อมๆ กัน
สาวสวยร่างระหงแต่งตัวดูดีมาก เดินเข้ามานั่งอยู่ในร้านของนิมาและเป็นลูกค้าคนแรกในเช้าวันนี้ แว่นกันแดดสีดำถูกถอดออกและวางลงที่โต๊ะ ผู้หญิงคนนั้นชะเง้อมองไปที่ตู้กระจกที่มีขนมไทยหลากหลายชนิด นิมามองดูผู้หญิงที่นั่งอยู่จากการแต่งตัวรูปร่างหน้าตาไม่น่าจะชอบทานขนมไทยนัก นิมาอมยิ้มกับความคิดของเธอ ถ้าให้คาดเดาละก็สาวคนนี้น่าจะผ่านเมืองนอกเมืองนามาแน่ๆ
“รับอะไรดีคะ” นิมาเดินเข้าไปทักทายลูกค้ารายแรกของร้านซึ่งเป็นสาวสวยรูปร่างหน้าตาดี แต่งตัวก็ดูแทบจะหลุดออกมาจากหนังสือนิตยสารสักเล่มหนึ่งแต่เธอคนนี้ก็ดูดีเป็นที่สุดในความรู้สึกของนิมาที่เผลออมยิ้มออกมา โดยไม่ทันได้เห็นว่าคนที่นั่งอยู่กำลังจ้องมองเธออยู่เช่นกัน
“มีขนมอะไรแนะนำบ้างคะ อย่างแรกเลยขอเป็นกาแฟค่ะ” ลูกค้าสาวสวยของนิมาบอกกับเธอ
“ถ้าจะแนะนำเป็นชาหอมๆ ไม่ทราบว่าจะสนใจหรือเปล่านะคะ รับรองได้ค่ะว่าจะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นไปทั้งวันแน่ๆ ค่ะ” นิมามองสบตากับลูกค้าสาวสวยของเธอที่กำลังทำท่าคิด
“ลองดูก็ได้ค่ะ ถ้าแนะนำแบบนี้แสดงว่าคงจะเข้ากันได้ดีกับขนมไทยแน่ๆ” รอยยิ้มของลูกค้าทำให้นิมายิ้มกว้างขึ้น สายตาของลูกค้าที่กำลังมองตามเจ้าของร้านซึ่งเดินไปจัดขนมใส่จานนั้น มีบางอย่างทำให้คนที่ถูกมองรู้สึกตัวได้จึงแอบลอบมองมาทางด้านหน้าร้านซึ่งมีเพียงสาวสวยคนนั้นอยู่เพียงโต๊ะเดียว หลังจากหันไปเตรียมชาหอมๆ พอหันกลับมาอีกครั้ง ลูกค้าของเธอก็หายไปแล้วแต่เธอคิดว่าอาจจะไปเข้าห้องน้ำก็เป็นได้ จึงจัดถ้วยชาพร้อมขนมใส่ถาดเพื่อเดินไปวางให้ที่โต๊ะ แต่มัวแต่คิดโน่นคิดนี่จนเพลินทำให้ไม่รู้ตัวและไม่ทันระวังตัวเมื่อยกถาดหันหลังกลับมาก็ปะทะเข้ากับใครบางคนจนของในถาดร่วงหล่นแต่ที่สำคัญชาร้อนๆ ก็หกรดโดนเข้าที่ตัวของคนที่เธอซุ่มซ่ามหันไปชนเข้าให้
“ตายล่ะ ขอโทษนะคะ นิ่มแย่จังไม่รู้จักระวัง” นิมารีบหยิบผ้าสะอาดมาช่วยเช็ดไปที่เสื้อผ้าของคนที่โดนช้าร้อนหกใส่
“ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันไม่ทันระวังด้วยเหมือนกัน แอบเดินเข้ามาโดยไม่ได้บอกก่อน เพียงแค่จะมาช่วยถือถาดขนม ก็เลยโดนน้ำชาลวกเอา” ลูกค้าสาวของนิมายิ้มจางๆ มองดูเสื้อผ้าของตัวเองที่บางส่วนกลายเป็นสีชาไปเรียบร้อยแล้ว
“คุณตามนิ่มมาเลยค่ะ ไปล้างทำความสะอาดที่ห้องน้ำชั้นบนดีกว่า เรื่องเสื้อนิ่มจะจัดการให้ค่ะ เลอะขนาดนี้คงต้องซื้อตัวใหม่คืนคุณแล้ว” นิมาถือวิสาสะจูงมือลูกค้าสาวสวยของเธอให้เดินตามขึ้นไปชั้นบนซึ่งเป็นส่วนของที่พักอาศัยของเธอและพี่สาว
“ไม่เป็นไรค่ะ นิดหน่อยเอง” สาวสวยซึ่งเป็นลูกค้าพยายามดึงและเหนี่ยวรั้งนิมาเอาไว้
“น้ำร้อนลวกยังบอกว่านิดเดียวหรือคะ อย่างน้อยก็ต้องเช็ดตัวแล้วทายานะคะ ไม่อย่างนั้นนิ่มคงรู้สึกผิดไปตลอดแน่ๆ ค่ะ กับไอ้ความซุ่มซ่ามที่ทำให้เสื้อคุณเปื้อน แถมยังทำให้เจ็บตัวอีก เรื่องเสื้อเปื้อนไม่เท่าไหร่ แต่ทำให้คุณเจ็บมันเรื่องใหญ่นะคะ ขอดูแผลหน่อยนะคะ เผื่อว่าต้องไปพบแพทย์” นิมาพูดด้วยความห่วงใยและรู้สึกผิดกับการไม่ระมัดระวังให้ดีจนทำให้ลูกค้าเจ็บตัวและเสื้อผ้าเสียหาย
“ไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ เรื่องเสื้อไม่มีปัญหาช่างมันเถอะ เพราะเราก็คงซุ่มซ่ามด้วยกันทั้งคู่ สำหรับเรื่องเจ็บตัวก็คงไม่มากนัก” ลูกค้าของนิมาบอกกับเธอ
“ถ้าอย่างนั้นเอาอย่างนี้นะคะ คุณเข้าไปล้างตัวก่อน แล้วค่อยมาให้นิ่มดูแผลเพื่อความสบายใจ เดี๋ยวกลับไปแล้วเป็นเยอะขึ้นมาจะแย่นะคะ นะคะ นะ” นิมาทำท่าพนมมือขอโทษแกมขอร้องให้ลูกค้าของเธอปฏิบัติตามในสิ่งที่เธอได้บอกไป
“คุณนี่ก็ดื้อ แต่ก็มีน้ำใจนะคะ ก็ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นขอไปล้างเนื้อล้างตัวก่อน แล้วจะออกมาให้คุณช่วยดูแผลให้ ขอบคุณค่ะ”
“สร้างเรื่องแต่เช้าเลยเรา จะไหวไหมล่ะ เปิดร้านลูกค้ารายแรกของวันนี้ก็ได้แผลจากน้ำร้อนลวกเสียแล้ว” นิมาบ่นๆ กับตัวเองและรีบเดินไปเตรียมยาสำหรับทาแผลให้กับลูกค้าของเธอไม่นานนักสาวสวยที่เข้าไปทำความสะอาดร่างกายส่วนที่โดนน้ำชาร้อนๆและเสื้อผ้าที่มีการเปียกชื้นจนเห็นร่องรอยได้ชัด เดินมานั่งลงที่เก้าอี้รับแขกข้างๆ นิมาซึ่งกำลังนำผ้าสีขาวสะอาดมาช่วยซับเสื้อที่เปียกชุ่มจนเห็นไปถึงสีผิวภายใต้เสื้อผ้า
“เจ็บหรือปวดแสบปวดร้อนหรือเปล่าคะ” นิมาถามและมองสบตากับสาวนัยน์ตาสวยที่ยิ้มๆ ให้อยู่
“นิดหน่อยค่ะ ก็แสบตรงที่เป็นรอยแดงๆ ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นขออนุญาตทายาให้นะคะ คงเจ็บนิดหน่อย แต่นิ่มจะเบามือให้มากที่สุดเลย” นิมาไม่ได้รอคำอนุญาตของลูกค้าของเธอ ชายเสื้อค่อยถูกดึงขึ้นเล็ก น้อยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งบริเวณเอวและไล่เลื่อนไปที่บริเวณหน้าท้องซึ่งรูปร่างของเธอคนนี้บอกได้เลยว่าเป็นคนที่ดูแล และออกกำลังกายอย่างดีแน่นอน
นิมาค่อยๆ แตะเบาๆ ไปที่รอยแดงที่เป็นวงกว้างอยู่พอสมควร เธอค่อยๆ ทาไปจนทั่วบริเวณที่เป็นรอยแดงที่เกิดจากน้ำร้อนที่ราดรดลงไปจนทั่ว แต่สิ่งหนึ่งทำให้คนที่นั่งตัวเกร็งนิ่งๆ ไม่ไหวติงหัวใจแทบจะหยุดเต้นเมื่อนิมาค่อยๆ เป่าเบาๆ ไปที่บริเวณรอยแดงที่เพิ่งได้ รับการทำยาไปเมื่อสักครู่
“พอแล้วค่ะ คุณ”
“นิ่มจะไปเป่าแผลคุณทำไมไม่รู้นะคะ จำได้ว่าตอนแม่ทำแผลให้พอทายาแล้วมันจะรู้สึกเย็นๆ แม่ก็จะช่วยเป่าให้ค่ะ ก็จะเย็นวาบนิดหนึ่ง แต่มาเป่าให้คุณเลยดูตลกไปเลย ขอโทษนะคะ” นิมายิ้มเจื่อนๆ ให้กับลูกค้าของเธอ
“น่ารักจะตายไปคะ” ลูกค้าของนิมาบอกกับเธอสองสาวจึงยิ้มให้กัน
“ทำคุณเจ็บตัว ยังมาชมกันอีกนะคะ ถ้าอย่างนั้นเราน่าจะทำความรู้จักกันสักหน่อยนะคะ นิ่มค่ะ ชื่อจริง นิมา เจ้าของร้านขนมไทยโบราณที่ซุ่มซ่ามมาก” นิมายิ้มทะเล้นยื่นมือไปให้ลูกค้าของเธอที่หัวเราะเล็กๆ กับการแนะนำตัวไปเมื่อสักครู่
“ทิพย์ค่ะ เพิ่งกลับจากต่างประเทศ อาชีพยังไม่แน่นอนค่ะ กลับมาว่าจะหยุดพักก่อนค่อยลุยเรื่องงาน อ้อที่สำคัญ ชอบขนมไทยมากค่ะ” ทิพย์ยิ้มให้สาวสวยหน้าใสเจ้าของร้านขนมไทยที่เธอกำลังสัมผัสมืออยู่ ความรู้สึกบางอย่างทำให้เธอจับมือสาวเจ้าของร้านขนมไว้ไม่ยอมปล่อย จนกระทั่งเจ้าของมือหัวเราะออกมา
“มือจะติดกันจนแกะไม่ออกนะคะ คุณทิพย์” นิมาอมยิ้มและมองสบตากับคนที่จับมือเธออยู่ ซึ่งในตอนนี้กำลังรีบปล่อยมือเธอในทันที
“ขอโทษค่ะ” ลูกค้าของนิมายิ้มแหยๆ
“ไปทานขนมไทยที่ชอบมากกันดีกว่าค่ะ เอาเป็นว่านิ่มเลี้ยงขนมคุณทิพย์แทนการขอโทษก็แล้วนะคะ ทานได้ทุกอย่างที่มีในร้านเลยค่ะ เออว่าแต่ทานอาหารเช้ามาแล้วหรือคะ” นิมาถามขึ้น
“ตั้งใจทานขนมเป็นอาหารเช้าค่ะ ลงจากเครื่องเมื่อเช้ามืด เอาของไปเก็บปุ๊บก็มาตามหาร้านนี้ทันทีค่ะ” ลูกค้าสาวสวยบอกกับนิมา
“ตามหา หมายความว่าอย่างไรคะ” นิมาถามด้วยความแปลกใจ
“ก็หาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตค่ะ ว่ามีร้านขนมไทยอร่อยๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร่นักก็มาเจอร้านนี้เข้า มีคนไปเขียนชมไว้เยอะเลยนะคะ” ลูกค้าสาวบอกรายละเอียดที่เธอได้หาข้อมูลมาก่อนจะมาที่ร้านของนิมา
“ขอบคุณนะคะ อ้อพกยากลับบ้านไปด้วยค่ะ ทาจนกว่าจะหายหรือถ้ามีอาการผิดปกติอะไรละก็บอกนิ่มนะคะ จะได้พาไปหาหมอ” นิมายิ้มสวยๆ ให้ ทำให้คนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ รู้สึกดีๆ กับความสดใสและความเอาใจใส่ที่นิมามีให้กับเธอ
“ขอบคุณนะคะ ดีใจที่โดนน้ำชาลวก” ลูกค้าสาวของนิมาเผลอพูดออกมา
“อะไรนะคะ ไหนพูดใหม่สิคะ ดีใจที่โดนน้ำชาร้อนๆ ลวก แปลกไปไหมคะ คุณทิพย์” นิมาพูดยิ้มๆ มองสบตากับคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เธอ
“คงดีใจที่จะได้ทานขนมฟรีค่ะ ก็เลยเผลอพูดออกมา แต่ดูเห็นแก่กินไปหน่อยไหมคะ”
“คุณทิพย์น่ารักดีนะคะ ไปค่ะทานขนมกันดีกว่า ว่าแต่ชายังรับอยู่ไหมคะ” นิมายิ้ม ลุกขึ้นยืนและยื่นมือให้กับอีกฝ่ายเพื่อช่วยประคองให้ลุกขึ้นได้สะดวกขึ้น
“รับค่ะ แต่ขอแบบดื่มนะคะ ไม่ขอแบบราด โดนซ้ำอีกครั้งหนังคงหลุดแน่ๆ เลยค่ะ เอาเป็นว่าทิพย์จะนั่งเฉยๆ ที่โต๊ะไม่ไปเดินเกะกะก็แล้วกันนะคะ”
“ได้ค่ะ นิ่มว่านิ่มไปนั่งเป็นเพื่อนคุยกับคุณทิพย์ดีกว่า ให้เด็กจัดการให้เรื่องชากับขนม เพราะเราสองคนคงซุ่มซ่ามพอๆ กัน” แล้วสองสาวก็หัวเราะขึ้นพร้อมๆ กัน มิตรภาพกำลังเริ่มต้นขึ้น รอยยิ้มสวยๆ ที่ยิ้มให้กันกำลังนำพาความรู้สึกดีๆ มาให้กับเธอทั้งสองคน