นิมาเตรียมบะหมี่สำเร็จรูปสำหรับทองทิพย์ซึ่งไปยืนมองดูท้องฟ้ายามค่ำคืนอยู่ที่ระเบียง เสียงดังของชัตเตอร์จากเครื่องโทรศัพท์ของนิมาทำให้ทองทิพย์หันมามองตามเสียงที่ได้ยินไปเมื่อสักครู่ นิมาอมยิ้มให้กับคนที่ยิ้มจางๆ ให้เธอ
“แอบถ่ายรูปโดยไม่ขออนุญาตก่อนไม่ดีนะคะ” ทองทิพย์พูดมองสบตากับ นิมาที่อมยิ้มมองดูรูปถ่ายในมือถือสลับกับใบหน้า
เจ้าของภาพที่เพิ่งโดนถ่ายภาพไปเมื่อสักครู่
“สวยมากนะคะ” นิมาพูดขึ้น
“ถ่ายรูปคนอื่นไว้ในโทรศัพท์ แฟนไม่ว่าเอาหรือคะ นิ่มกลับก่อนก็ได้นะคะ เดี๋ยวคุณพุทธชาดจะมาต่อว่าเอาว่าทิพย์เหนี่ยวรั้ง
แฟนเขาเอาไว้” ทองทิพย์เดินมานั่งลงที่โต๊ะรับประทานอาหารซึ่งมีชามบะหมี่สำเร็จรูปที่พร้อมรับประทานวางอยู่
“แหมทำอาหารให้ทานเสร็จก็ไล่กันเลยนะคะ” นิมาอมยิ้มและนั่งลงข้างๆ ทองทิพย์
“เกรงใจค่ะ เดี๋ยวแฟนนิ่มจะเข้าใจผิด” ทองทิพย์พูดเสียงเรียบๆ และเริ่มทานบะหมี่ที่นิมาเตรียมไว้ให้
“น้ำเสียงเหมือนหึงหรือหวงนะคะ” นิมายิ้มทะเล้นเริ่มทานบะหมี่สำเร็จรูปในชามของเธอเช่นกัน
“ใครจะกล้าคิดล่ะ”
“ทิพย์นั่นแหละคิดอยู่ นิ่มรู้” นิมาอมยิ้ม
“สนุกหรืออย่างไรคะ ที่ได้ล้อเล่นกับความรู้สึกของคนอื่นแบบนี้” ทองทิพย์ถอนใจเล็กๆ นิมาหันมามองสบตากับสายตาที่ดูเศร้าๆ ของทองทิพย์
“นิ่มก็แค่อยากรู้ใจทิพย์ก็แค่นั้น ไม่ได้อยากจะล้อเล่นกับความรู้สึกของทิพย์สักหน่อย” นิมาพูดเสียงอ่อยๆ หันไปมองผ่าน
ประตูกระจกออกไปทางระเบียงที่มีแสงไฟส่องสว่างให้เห็นภาพของกรุงเทพในอีกมุมมองหนึ่ง
“รู้ไปมันก็ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ ถ้านิ่มมีคนอื่นเข้าไปอยู่ในใจอยู่แล้ว”
“ก็ใจทิพย์ไม่เปิด จะมาเห็นหัวใจคนอื่นได้อย่างไรกันคะ ลองเปิดใจดูสิลองดูเผื่อจะเห็นว่าคนอื่นเขารู้สึกอย่างไรกับทิพย์บ้าง เพื่อนๆ นิ่มก็พร้อมเปิดใจรับทิพย์เหมือนกัน คุณรักคงทำให้ทิพย์สัมผัสได้ถึงมิตรภาพ คุณพุดกับแป้งถึงแม้จะชอบแหย่ไปสักหน่อย แต่สองคนนั้นก็เปิดใจให้ทิพย์อยู่นะคะ ทิพย์ไม่ลองเปิดใจรับคนอื่นบ้างล่ะคะ” นิมามองสบตากับทองทิพย์ที่ดูอ่อนโยนขึ้นหลังจากได้ยินสิ่งที่นิมาบอกกับเธอ
“ถ้าทิพย์เปิดใจ แล้วนิ่มจะเปิดใจรับทิพย์ไหม” ทองทิพย์ถามนิมาตรงๆ
“ตามมาขนาดนี้ ยังคิดว่าไม่เปิดใจอีกหรือคะ” นิมายิ้มอายๆ
“ที่ว่าเปิดน่ะ เปิดใจแบบไหนกันคะ” ทองทิพย์มองจ้องตานิมาและเฝ้ารอคำตอบ
“แบบไหนดีล่ะ” นิมายิ้มทะเล้น
“ยิ้มดีนักนะ” ทองทิพย์จูบนิมาโดยไม่ทันให้ตั้งตัว แอบหวังเล็กๆ ว่าจะได้สัมผัสตอบรับที่อ่อนโยนจากนิมา เพื่อที่เธอจะได้รู้
อย่างชัดเจนว่านิมาเปิดใจให้เธอแบบไหนกันแน่ เพราะตอนนี้เรื่องของพุทธชาดเข้ามารบกวนภายในจิตใจเธอจนเริ่มไม่แน่ใจว่า สิ่งที่คิดว่านิมารู้สึกดีๆ กับเธอนั้น เธอคิดอยู่ฝ่ายเดียวหรือผู้หญิงคนนี้ก็คงไม่ต่างอะไรจากพี่สาวมากนัก นิมามอบสัมผัสอ่อนโยนแทนความ
รู้สึกดีๆ ที่เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าผู้หญิงคนที่กำลังมอบสัมผัสอันอบอุ่นให้จะแอบร้ายกาจบ้างในบาง ครั้ง แต่ความรู้สึกภายในหัวใจของนิมาได้บอกกับเธอว่า ทองทิพย์ไม่ได้เป็นอย่างที่พยายามแสดงออกให้ใครๆ ได้เห็น
“เชื่อหรือยังล่ะคะ ว่านิ่มเปิดใจ ทิพย์ล่ะพร้อมจะเปิดใจรับนิ่มหรือเปล่า”
“ยังไม่มั่นใจ ขอจูบอีกครั้งค่อยตอบได้ไหม” ทองทิพย์อมยิ้มมองสบตากับนิมาที่ทำหน้านิ่งๆ ดูเหมือนไม่พอใจกับคำตอบมากนัก
“ไม่ได้แล้วค่ะ โอกาสไม่ได้มีมาบ่อยๆ นิ่มกลับดีกว่า” นิมาพูดดูขึงขังและเดินไปหยิบกระเป๋าพร้อมที่จะเดินออกจากห้องของ
ทองทิพย์ไปในทันที แต่ออกเดินไปยังไม่ทันถึงหน้าประตูห้องเธอก็โดนรั้งตัวไว้ด้วยการโอบกอดไว้แนบแน่น
“ขึ้นมาขนาดนี้แล้ว คิดหรือว่าจะปล่อยให้กลับไปง่ายๆ” ทองทิพย์กระซิบเบาๆ บอกกับนิมาและจูบเบาๆ ไปที่แก้มที่เริ่มเป็นสีแดงระเรื่อ
“นิ่มแค่อยากเห็นความชัดเจนจากทิพย์เท่านั้นเองค่ะ นิ่มก็กลัวว่าตัวเองจะเสียใจเหมือนกัน แต่เมื่อความรู้สึกดีๆ มันเดินเข้ามา
หา นิ่มก็จะไปไม่ปล่อยไปแน่ๆ นิ่มรู้ว่าทิพย์มีบางอย่างอยู่ในใจ แต่นิ่มก็ยังอยากใช้ความรู้สึกดีๆ ที่นิ่มมีทำให้ทิพย์มั่นใจในตัวนิ่ม แต่
ทิพย์บางทีก็เหมือนเดินหน้าบางทีก็เหมือนถอยหลัง คนเราก็มีเรื่อง ราวความหลังด้วยกันทุกคนค่ะ” นิมาบอกกับทองทิพย์อย่างชัดเจน กับสิ่งที่มีอยู่ในหัวใจของเธอ
“หายไปหลายวัน กลับมาร้องไห้เรื่องคนรักเก่าให้นิ่มปลอบ นิ่มยังมั่นใจในตัวทิพย์อีกหรือคะ” ทองทิพย์รู้สึกสงสัย
“มั่นใจตั้งแต่เห็นหน้าจ๋อยๆ ไปหานิ่มที่ร้านแล้วค่ะ นิ่มดีใจนะที่คนที่ทิพย์เลือกที่จะไปหาเป็นนิ่ม นั่นก็แสดงว่าทิพย์ก็คงรู้สึกดีๆ
กับนิ่มบ้าง ตอนนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราจะก้าวเดินไปด้วยกันไหม อยากให้นิ่มจูงมือทิพย์แล้วเราเดินก้าวผ่านเรื่องเจ็บปวดที่มีไปด้วยกันหรือ
ไม่ก็เท่านั้นเอง ถ้าไม่ก็บอกกันตรงๆ เลยค่ะ” นิมาอยากได้คำตอบกับคำถามของเธอ
“ทิพย์กลัวจะทำให้นิ่มเสียใจสักวัน แต่บอกตามตรงนะคะ อยากจะเดินไปข้างๆ ตั้งแต่แรกเห็น แต่มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ทั้ง
ชีวิตไม่ได้มีแค่เราสองคนมันยังมีเรื่องราวมากมายที่มันถูกผูกรวมเข้าไว้ด้วยกัน สักวันนิ่มอาจจะเสียใจที่มีทิพย์อยู่ข้างๆ ก็ได้นะคะ”
ทองทิพย์ไม่เคยรู้สึกกลัวในเรื่องอะไรที่จะต้องตัดสินใจมากเท่านี้มาก่อนในชีวิตของเธอ
“นิ่มเชื่อมาตลอดเรื่องสัมผัสจากความรู้สึกข้างใน มันมีความหมายมากกว่าคำพูดที่ได้พูดออกมา ทิพย์กอดนิ่มสิ กอดด้วยความรู้สึกที่มีอยู่ในใจ นิ่มเชื่อนะว่านิ่มสัมผัสได้ว่าทิพย์รู้สึกอย่างไร นิ่มจะได้รู้ว่าควรจะ
ทำอย่างไรต่อไป นิมากางมือออกเล็กน้อยเพื่อให้ทองทิพย์กลับเข้ามาสวมกอดเธออีกครั้ง
“สัมผัสได้แทนคำพูดจริงๆ หรือคะ” ทองทิพย์ถาม
“ทิพย์ก็สัมผัสได้ กอดนิ่มแล้วหลับตา ภาพของความรู้สึกจะเห็นชัดขึ้นในตอนที่ทิพย์หลับตา ลองดูค่ะ ถ้าไม่ใช่เราก็จะรับ
สัมผัสของกันและกันไม่ได้” ทองทิพย์เข้าสวมกอดนิมาอย่างว่าง่าย ทองทิพย์กอดกระชับนิมาและทำตามที่นิมาได้บอกกับเธอหลับตาถ่ายทอดและรับสัมผัสดีๆ จากกันและกัน ทองทิพย์กอดกระชับนิมาแนบแน่นเสียจนทำให้อีกคนยิ้มออกมาได้ จูบอันแผ่วเบาจากริมฝีปากอันอ่อนโยนและอบ อุ่นกำลังทาบทับอยู่ที่ริมฝีปากเรียวบางได้รูปของนิมาที่ค่อยๆ เผยหัวใจตัวเองออกให้ทองทิพย์ได้เห็นชัดขึ้น ร่างกายของทั้งสองเริ่มเบียดชิดกันมากขึ้น มือทั้งสองข้างของทองทิพย์เริ่มไปสำรวจที่บริเวณเนินอกอันนุ่นนวลของนิมาอย่างอ่อนโยนและไม่นานนักพันธนาการของเสื้อตัวในก็ถูกปลดเปลื้องออกอย่างช้าๆ นิมามิได้แสดงอาการขัดขืนใดๆ นั่นได้ทำให้ทองทิพย์เริ่มค่อยๆ บอกความรู้สึกของตัวเองผ่านสัมผัสอันอ่อนโยนไปทั่วบริเวณเนินอกของนิมา จูบที่เริ่มร้อนแรงขึ้นของนิมาเหมือนกำลังเข้าสำรวจเข้าไปถึงข้างในหัวใจของทองทิพย์ที่ดูก็จะไม่ได้ปฏิเสธสิ่งที่นิมากำลังเติมเต็มให้กับความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันและกัน ประตูห้องนอนค่อยถูกแง้มออก นิมารู้สึกกำลังเดินตามหัวใจตัวเองเข้าไปหาหัวใจของทองทิพย์ที่กำลังรุกเร้าเธอจนหัวใจที่นิ่งๆ อยู่มานานหลายปีกำลังกลับมามีความสุขและรู้สึกดีๆ อีกครั้ง สัมผัสอันอ่อนโยนและเร่ง เร้าในบางครั้งกำลังทำให้หัวใจของนิมาล่องลอย แต่ก็ไม่ได้ปล่อยให้ล่องลอยไปไกลนักเพราะเธอกำลังเริ่มรุกเร้าด้วยการสัมผัสไปที่เรือนร่างของทองทิพย์ที่เสื้อตัวนอกถูกปลดออกเหลือเพียงเสื้อตัวใน ซึ่งตะขอกำลังถูกปลดออกอย่างแผ่วเบา ริมฝีปากอันอบอุ่นของนิมาช่วยให้ทองทิพย์ที่กำลังถูกรุกเร้ารู้สึกผ่อนคลายขึ้น ความอ่อนโยนเดิน ทางอย่างอ้อยอิ่งและเนิ่นนานกับสัมผัสอันอ่อนโยนที่ได้มอบให้แก่กันทั้งนิมาและทองทิพย์รับรู้หัวใจของกันและกันได้ด้วยทุกสัมผัสที่มอบให้กันว่าอยากให้อยู่เช่นนี้เนิ่นนาน ริมฝีปากอุ่นๆ ของทองทิพย์จึงเริ่มสำรวจเรือนร่างของนิมาโดยการทาบทับอย่างอ่อนโยนละเมียดละไม แต่ทุกสัมผัสที่ได้แตะต้องไปบนเรือนร่างเปลือยเปล่าของนิมานั้นทำให้เธอรู้สึกว่าร่างของเธอแทบจะแหลกสลายไปกับจุมพิตเล็กๆ ในทุกครั้งที่ริมฝีปากอันอบอุ่นของทองทิพย์ทาบทับไปบนเรือนร่างของเธอ นิมาได้มอบสัมผัสที่เธอได้รับ มอบกลับคืนไปให้กับทองทิพย์เช่นกัน จนกระทั่งความรู้สึกของทั้งสองสาวได้อยากล่วงล้ำเข้าไปสำรวจส่วนที่อ่อนโยนที่สุดของกันและกัน เธอทั้งสองไม่ได้รั้งรอกลับตอบรับสัมผัสเล็กๆ ที่กำลังสอดแทรกเข้าไปในส่วนที่จะรับความรู้สึกและสัมผัสได้ดีที่สุด นิมากับทองทิพย์กอดรัดร่างกายอันเปลือยเปล่าของกันและกันไว้แนบแน่นทุกอณูบนเรือนร่างเหมือนไม่มีส่วนใดที่จะไม่ผ่านการแตะต้องแม้กระทั่งในหัวใจของเธอทั้งสองก็ได้ผ่านการสำรวจด้วยความอ่อนโยนและนุ่มนวลที่ได้มอบให้แก่กัน เสียงหายใจรวยระรินของสองสาวที่ตะกองกอดกันเป็นตัวแทนของความรู้สึกดีๆ ที่มีอยู่เต็มหัวใจทั้งของนิมาและทองทิพย์ จุมพิตอ้อยอิ่งกำลังสร้างรอยยิ้มๆ เล็กๆ ให้บนใบหน้าของทั้งสองสาวและรวมถึงหัวใจที่กำลังค่อยๆ หลอมรวมเข้าไว้ด้วยกัน
“นิ่มจะไม่ทิ้งทิพย์ไปไหนใช่ไหม ถึงแม้ทิพย์จะร้ายไปบ้างก็ตาม” ทองทิพย์จูบเบาๆ อีกครั้งไปที่ริมฝีปากที่แสนบางและอ่อนนุ่มของนิมา
“เลิกร้ายกับนิ่มได้แล้วนะคะ นิ่มเปิดใจให้ขนาดนี้แล้วนะ ยังจะร้ายกับนิ่มอีกหรือคะ” นิมามองสบตากับทองทิพย์ที่จ้องมอง
เธออยู่
“ไม่ได้อยากร้ายค่ะ แต่บางทีก็เหมือนโดนอะไรบังคับ” ทองทิพย์บอกคนที่อยู่ในอ้อมกอดของเธอ
“นิ่มจะทำตัวน่ารัก ทิพย์จะได้ไม่ร้าย หรือควรจะทำตัวร้ายกว่าดีคะ” นิมาอมยิ้มซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของทองทิพย์
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ว่าอยากให้เป็นแบบไหน แต่อยากให้อยู่แบบนี้เรื่อยไป” ทองทิพย์กระซิบบอกนิมา
“หวานก็เป็นนะคะ” นิมาจูบทองทิพย์เป็นรางวัล
“ร้ายบ่อยจนลืมไปแล้วว่าพูดหวานๆ เขาพูดกันอย่างไร” ทองทิพย์พูดยิ้มๆ แต่เธอก็ถูกนิมาจูบอีกครั้ง
“เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลยค่ะ หวานๆ น่ะ พูดง่ายจะตายไป ไอ้คำพูดร้ายๆ มันพูดยากกว่านะคะ นิ่มว่า” นิมาทำหน้าเป็นมองสบตา
กับทองทิพย์ที่ยิ้มเล็กๆ ดวงตาเป็นประกายวาววับ
“จะลองดูค่ะ จะนอนให้กอดอยู่แบบนี้หรือต้องกลับบ้านคะ” ทองทิพย์ถาม เพราะเธอเกรงว่าพี่สาวของนิมาอาจจะเป็นห่วงก็
เป็นได้
“ใจร้ายกว่าปากเสียอีกนะคะ ทำมิได้มิร้ายแล้วก็จะไล่กลับบ้าน น่าน้อยใจจริงๆ” นิมาทำท่าจะลุกขึ้น
“ทิพย์กลัวพี่สาวนิ่มจะเป็นห่วงที่หายมาแบบนี้ โทรไปบอกก่อนไหมคะ”
“ถ้าอย่างนั้นขอไปเช็คโทรศัพท์ดูก่อนนะคะ” นิมาทำท่าจะลุกขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ถูกรั้งตัวโดยการโอบกอดเอาไว้
“ไม่ให้ไปค่ะ” ทองทิพย์กระชับอ้อมกอดแน่นเสียจนคนที่ถูกกอดอยู่หัวเราะออกมา
“ไปหยิบโทรศัพท์แค่นี้เองค่ะ นะคะ แป๊บเดียวเอง” นิมาพูดอ้อนเสียจนคนฟังอมยิ้มกับความน่ารักของคนที่ทำตาละห้อยอยู่
ตรงหน้า
“ก็ได้ค่ะ แต่ให้เฉพาะเสื้อตัวนอก กับชุดชั้นในตัวล่าง กางเกงกับเสื้อตัวในต้องโดนริบไว้ก่อนไม่อย่างนั้นเดี๋ยวแอบหนีกลับ”
ทองทิพย์ยิ้มทะเล้นพร้อมกับหยิบเสื้อผ้าสองชิ้นส่งให้ตามที่บอก
“ช่างคิดเหลือเกินนะคะ” นิมาจัดการกับเสื้อผ้าที่ได้ไม่ครบชิ้น เดินอมยิ้มออกไปหยิบโทรศัพท์ที่ห้องรับแขกด้านนอก
“แล้วเราก็ผูกพันกันจนได้” ทองทิพย์บอกกับตัวเองและมองตามนิมาที่เปิดประตูออกไปเมื่อสักครู่