เสียงพูดคุยดังสลับกับเสียงหัวเราะของทั้งสองสาว พนักงานของร้านก็แอบอมยิ้มเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของเจ้าของร้าน หลายคนยิ้มด้วยความดีใจที่เห็นนิมาดูมีความสุขกับการที่มีแขกมาเยี่ยมเยียนและช่วยขายของอย่างขะมักเขม้น ลูกค้าเดินเข้าร้านมากมายเสียจนทองทิพย์คิดไม่ถึงว่าเจ้าขนมหวานรูปร่างหน้าตาสวยงามจะขายดิบขายดีได้ขนาดนี้ หรืออาจจะเป็นด้วยอัธยาศัยของเจ้าของร้านที่แสนจะน่ารักก็เป็นได้ ทองทิพย์เผลอยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงความน่ารักของนิมา
“ยิ้มอะไรคะ” นิมาถามขึ้นเมื่อเห็นคนที่กำลังช่วยจัดขนมใส่กล่องยืนยิ้มมองจ้องขนมอยู่
“นึกถึงความน่ารักของใครบางคนอยู่ค่ะ” ทองทิพย์อมยิ้มมองสบตานิมา
“ใครกันช่างโชคดีจริงๆ น่าอิจฉานะคะ” นิมาพูดเสียงขุ่นๆ เล็กน้อย
“ทำไมต้องดุด้วยล่ะคะ แค่คิดถึงใครบางคนเท่านั้นเองนะ” ทองทิพย์แหย่
“ไม่ได้ดุสักหน่อยเลยค่ะ นิ่มจะมีสิทธิ์อะไรไปดุคุณทิพย์ได้ล่ะ” นิมาพูดจบก็เดินไปล้างมือที่หลังร้าน เพราะนี่ก็บ่ายมากแล้ว คนที่มาช่วยขายขนมและเธอยังไม่ได้ทานอาหารกลางวันกันเลย มัวแต่วุ่นวายกับการขายขนมอยู่จนเลยเวลา แต่ปกติเธอก็เป็นแบบนี้อยู่เป็นประจำบางทีแทบจะลืมอาหารกลางวันเสียด้วยซ้ำถ้าลูกค้าเดินเข้าเดินออกร้านเธอมากๆ
“หวงอยู่รู้ตัวบ้างไหม” ทองทิพย์พูดขึ้น นิมาจึงเดินไปทางด้านหลังร้านเพื่อเตรียมอาหารกลางวันสำหรับเธอและทองทิพย์
“เปล่าค่ะ” นิมาตอบเพียงสั้นๆ ทองทิพย์เดินตามมาติดๆ อมยิ้มกับคนที่ทำหน้านิ่งๆ ซึ่งกำลังเดินหนีมาทางด้านหลังร้าน
“รอยยิ้มหายไปแล้วนะคะ ยิ้มให้ทิพย์หน่อยนะ” ทองทิพย์กระซิบบอกพร้อมรอยยิ้มทะเล้น นิมาหันมายิ้มเจื่อนๆ ให้พร้อมกับแสดงอาการยักคิ้วยักไหล่ให้พร้อมกับหันไปเตรียมอาหารกลางวัน
“ไปรอข้างนอกก็ได้ค่ะ ข้างในร้อน เดี๋ยวเสร็จแล้วนิ่มยกออกไปให้” น้ำเสียงฟังดูห้วนๆ ของนิมาทำให้ทองทิพย์ยิ้ม
“ถ้าบอกว่าคนน่ารักที่นึกถึงอยู่ แล้วเผลอยิ้มออกมาให้เห็น เป็นคนแถวนี้ไม่รู้จะหายงอนหรือเปล่านะคะ” ทองทิพย์กระซิบบอก รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคนที่กำลังเตรียมอาหารง่วนอยู่
“แถวนี้มีอยู่ตั้งหลายคน” นิมาแอบอมยิ้มและยังคงพูดน้ำเสียงเรียบๆ
“แถวนี้มีหลายคน แต่ที่แอบเข้าไปอยู่ในใจทิพย์น่ะ มีคนเดียวเท่านั้นเองนะ ไปรอข้างนอกก็ได้ เดี๋ยวคนขี้งอนจะปล่อยให้หิวตาย” ทองทิพย์พูดน้ำเสียงอ้อนๆ ก่อน ที่จะเดินไปสวมกอดนิมาจากทางด้านหลัง
“จะอดทานมื้อกลางวันเพราะแบบนี้มากกว่า” นิมาพูดหลังจากที่ทองทิพย์กอดกระชับเธอแนบแน่น
“หายโกรธก่อนนะ ทิพย์นึกถึงความน่ารักของคุณนิ่มตอนขายขนมเลยเผลอยิ้มออกมา ไม่ได้นึกถึงใครที่ไหนเลยนะ เลิกทำเสียงดุดุได้แล้ว ยิ้มสวยๆ ให้ดูก่อนไม่ อย่างนั้นละก็ทิพย์จะกอดไว้แบบนี้ไม่ปล่อยแน่” ทองทิพย์ยิ้มกับตัวเองกับการพูดรวบรัดให้นิมาหายโกรธ
“กอดไว้แบบนี้ ก็อดทานอาหารกลางวันนะคะ ไม่หิวหรืออย่างไร” นิมาอมยิ้มเบียดตัวเองเข้าหาอ้อมกอดของทองทิพย์เล็กน้อยอยากให้คนที่กอดเธออยู่สัมผัสได้กับความรู้สึกดีๆ ที่เธอได้รับจากอ้อมกอดอันอบอุ่นนั้น แต่เสียงท้องร้องที่ดังมาจาก ทองทิพย์ทำให้สองสาวหัวเราะขึ้นพร้อมกัน
“อุ๊ย เสียงท้องร้องแอบตอบคำถามแทนไปแล้ว หิวมากค่ะ น่าอายจริงๆ”
“ออกไปรอข้างนอกก่อนนะคะ หาชาหอมๆ ดื่ม ถ้าหิวมากก็ทานขนมรอง
ท้องไปก่อน อีกสิบห้านาทีอาหารพร้อมแน่นอนค่ะ” นิมาหันมาอมยิ้มกับคนที่ยืนยิ้มกริ่มอยู่ด้านหลัง จูบเล็กๆ ของทองทิพย์สัมผัสเบาๆ ไปที่แก้มของนิมาพร้อมรอยยิ้มที่เกิดขึ้นจากทั้งสองคน
“ขอบคุณมากค่ะ รู้ตัวไว้ด้วยนะว่าน่ารักมาก” ทองทิพย์อมยิ้มมองสบตานิมาก่อนที่จะเดินออกไปรอที่ด้านหน้าร้านตามที่นิมาบอกกับเธอ
“คุณทิพย์นั่นแหละที่น่ารักมาก” นิมารำพึงเบาๆ กับตัวเอง
นิมาใช้เวลาไม่นานนักในการจัดเตรียมอาหารมื้อกลางวันสำหรับสองคน พนักงานของร้านอาสาช่วยยกมาจัดโต๊ะเตรียมให้ นิมานึกขอบคุณทุกครั้งๆ ที่ได้รับการช่วยเหลือจากพนักงานของร้านซึ่งบางสิ่งบางอย่างไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับงานเลย ด้วยความมีน้ำใจที่บิดาและมารดาได้สั่งสอนเธอมา ทำให้เธอได้รับน้ำใจจากคนรอบข้างด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะพนักงานของร้านที่เธอดูแลประหนึ่งว่าเป็นญาติซึ่งเธอเองก็ได้รับการดูแลช่วยเหลือประหนึ่งเป็นญาติด้วยเช่นกัน
“คุณทิพย์ยังไม่ได้นั่งเลยค่ะ ยังช่วยรับลูกค้าอยู่หน้าร้าน ลูกค้าท่าทางจะชอบเธอนะคะ” พนักงานคนที่มาช่วยยกของเพื่อไปตั้งโต๊ะอาหารกลางวันบอกกับเธอ
“หรือคะ ถ้าอย่างนั้นพี่ฝากชงชาหอมๆ ให้คุณทิพย์ด้วยนะ ขอบคุณค่ะ”
หลังจากได้ยินพนักงานบอกกับเธอเรื่องที่ทองทิพย์ยังคงมายืนช่วยขายของอยู่ที่หน้าร้าน ความน่ารักสดใสและขี้เล่นทำให้ลูกค้ายิ้มและหัวเราะไปกับเธอระหว่างรอรับขนมซึ่งกำลังถูกจัดเตรียมให้เรียบร้อย
“ไปทานข้าวได้แล้วค่ะ ขยันขนาดนี้ขนมจะไม่พอขายเอานะคะ” นิมาบอกกับทองทิพย์ที่กำลังส่งถุงขนมให้กับลูกค้าที่หันมายิ้มให้นิมาเจ้าของร้าน
“ผู้ช่วยน่ารักมากเลยนะคะ คุณนิ่ม” ลูกค้าที่รับถุงขนมไปจากทองทิพย์หันมาชมกับเจ้าของร้าน
“ขอบคุณมากนะคะ” นิมาบอกขอบคุณลูกค้าของเธอ ทองทิพย์หันมายิ้มให้พร้อมกับยักคิ้วหยอกล้อนิมา
“ถ้าลูกค้าที่ชมรู้ว่าคุณทิพย์ขี่เจ้ามดดำคันใหญ่ใส่ชุดสีดำสนิทไม่รู้จะว่าอย่างไรนะคะ เข้ากันเสียเหลือเกิน ขนมหวานกับเจ้ามดดำยักษ์นั่น” นิมากำลังนึก
ภาพทองทิพย์ในชุดป้องกันสำหรับการขี่เจ้ามดดำยักษ์ยืนขายขนมเธอก็หัวเราะขึ้น
“เจ้ามดดำยักษ์” ทองทิพย์นึกถึงเจ้ามอเตอร์ไซค์สีดำคันใหญ่ของเธอ
“ใช่ค่ะ คุณทิพย์ก็ดูสูงใหญ่อยู่นะคะ แต่พอได้ไปอยู่กับเจ้ามดดำยักษ์นั้นกลายเป็นคนตัวเล็กขึ้นมาทันทีเลย” นิมาอมยิ้มเมื่อนึกถึงความมีเสน่ห์ของคนที่กำลังจ้องมองเธออยู่ตรงหน้า
“แต่ทิพย์ก็สาวไทยนะคะ มาขายขนมไทยก็ไม่เห็นจะแปลก แต่ตอนนี้ไปทานข้าวกันดีกว่าค่ะ เดี๋ยวท้องร้องเสียงดังอีกอายน้องๆ พนักงานของคุณนิ่มนะคะ” ทองทิพย์ยิ้มแหยๆ ให้นิมาที่หัวเราะขึ้นอีกครั้งก่อนที่จะพาไปทานอาหารกลางวัน
เมื่อคนเรามีความสุข เวลามันก็มักจะเดินผ่านไปรวดเร็วเสมอ ทองทิพย์มอง ดูนาฬิกาข้อมือของตัวเองแล้วก็ยิ้มจางๆ เวลาที่จะได้อยู่ใกล้ๆ นิมากำลังจะหมดลงสองวันมานี่เธอรู้สึกเหมือนว่าเวลาในแต่ละวันมันช่างสั้นเสียเหลือเกิน แต่คงเป็นกับเฉพาะเธอคนเดียวหรือเปล่าไม่แน่ใจ เพราะท่าทางของเจ้าของร้านขนมหวานดูอิดโรยคงจะเหนื่อยจากการดูแลลูกค้าที่มากมาย ทองทิพย์ยิ้มจางๆ เมื่อได้เห็นท่าทางเหนื่อยล้าของนิมา ซึ่งกำลังหันมายิ้มให้เธอเช่นกัน
“อมยิ้มทั้งวันเลยนะคะ” นิมานั่งลงข้างๆ ทองทิพย์ที่ยังคงนั่งอมยิ้มมองไปทางพนักงานซึ่งกำลังเริ่มเก็บข้าวของเพื่อปิดร้าน
“มีความสุขก็ต้องยิ้มสิคะ” ทองทิพย์บอกกับนิมาที่นั่งอมยิ้มอยู่เช่นกัน
“ดีจริง เดี๋ยวได้ทานกุ้งแม่น้ำที่อยากทาน น่าจะยิ้มกว้างกว่านี้นะคะ” นิมาหัวเราะเล็กๆ
“ไม่อยากทานแล้วค่ะ” ทองทิพย์บอกก่อนที่จะยิ้มจางๆ ให้
“ทำไมล่ะคะ”
“สงสารคนพาไป คุณนิ่มพักผ่อนดีกว่านะคะ ทิพย์รู้ว่าคุณนิ่มเหนื่อยมาก กุ้งแม่น้ำทานเมื่อไหร่ก็ได้ค่ะ” ทองทิพย์ยิ้มมองสบตากับนิมา
“ก็ไม่ได้เหนื่อยมากนะคะ พาไปทานได้” นิมายิ้มสวยๆ ให้ทองทิพย์
“เห็นยิ้มก็รู้แล้วว่าเหนื่อย เราสองคนยังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกเยอะไม่ใช่หรือคะ เอาไว้วันหลังก็ได้ แอบมีความลับจะบอกด้วย
ค่ะ ว่าทิพย์แพ้กุ้ง แต่ว่าชอบทาน” ทองทิพย์ยิ้มจ๋อยๆ ทำหน้าตาตลกจนนิมาอดขำไม่ได้
“แพ้กุ้งแต่ชอบทาน ฟังดูแปลกๆ ไปนะคะ เอาไว้นิ่มจะหาวิธีให้คนแพ้กุ้งแต่อยากทาน แพ้น้อยๆ หรือบางทีอาจจะไม่แพ้เลยก็
ได้” นิมายังคงหัวเราะกับสิ่งที่ได้ยินไปเมื่อสักครู่
“เหมือนเห็นแก่กินอย่างไรไม่รู้นะคะ ถึงแม้จะคันก็ยังอยากกินเจ้ากุ้งนั่นอยู่” ทองทิพย์นึกขำตัวเองเช่นกัน
“เรื่องปกติค่ะ การได้ทานอะไรอร่อยๆ ถือเป็นความสุขอย่างหนึ่ง” นิมาบอกกับทองทิพย์ เมื่อพูดจบเธอก็หาวขึ้นมาทันที คนที่
นั่งอยู่อมยิ้มและนึกขำนิมาที่แอบหาวไปเมื่อสักครู่
“ทิพย์กลับก่อนนะคะ คุณนิ่มจะได้พักผ่อน มากวนใจอยู่ทั้งวันเดี๋ยวจะเบื่อกันเสียก่อน” ทองทิพย์ยิ้ม
“ขอบคุณนะคะ ขอบคุณที่ใจดี ขอบคุณที่เข้าใจ อ้อรอสักครู่นะคะ” นิมาเดินไปที่ตู้เย็นซึ่งอยู่ทางด้านหลังของร้าน และเดิน
กลับมาพร้อมกล่องสี่เหลี่ยมขนาดย่อมสำหรับบรรจุอาหารแช่ไว้ในตู้เย็น
“อะไรคะ” ทองทิพย์ถาม
“ผลไม้ค่ะ สำหรับคนรักสุขภาพ ไม่ได้ทานอาหารเย็นก็ทานผลไม้แทนก็แล้วกันนะคะ” นิมายิ้มพร้อมกับยื่นกล่องผลไม้ให้ทอง
ทิพย์
“จะไม่ให้หลงรักได้อย่างไรล่ะแบบนี้” ทองทิพย์รำพึงเบาๆ กับตัวเองแล้วอมยิ้ม สองวันมานี้เจ้าของร้านขนมแห่งนี้ได้มอบ
ความรู้สึกดีๆ ให้กับเธอ ความน่ารักของนิมากำลังจะทำให้เธอรู้สึกดีๆ ด้วยมากมายจนคิดเอาเองอยู่ในใจว่าตัวเองกำลังตกหลุมรัก
ผู้หญิงที่น่ารักคนนี้
“ขออะไรสักอย่างได้ไหมคะ นิ่มเกรงว่าจะไปยุ่งวุ่นวายกับชีวิตคุณทิพย์มากเกินไปเลยอยากขออนุญาตก่อน” นิมาพูดเสียงอ่อยๆ
“เรื่องอะไรคะ ทำไมต้องทำเสียงอ่อยๆ ด้วยล่ะคะ”
“ถึงบ้านแล้ว โทรหานิ่มหน่อยได้หรือเปล่าคะ” นิมายิ้มแหยๆ เพราะเธอคิดว่ามันจะดูเป็นการไปวุ่นวายกับชีวิตของทองทิพย์
มากจนเกินไป
“เป็นห่วงนั่นเอง ไม่ขอก็จะโทรบอกอยู่แล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับผลไม้นะคะ สัญญาว่าจะขับเจ้ามดดำยักษ์ช้าๆ ถึงบ้านแล้วจะ
โทรรายงานตัว ตกลงตามนี้นะคะ คุณแม่ค้าขนมหวาน” ทองทิพย์แกล้งเอานิ้วเขี่ยที่จมูกของนิมาด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ขอบคุณค่ะ” นิมายิ้มกว้างขึ้นทันที
“อ้อพรุ่งนี้เช้าไม่ต้องไปวิ่งดีกว่านะคะ เปลี่ยนเป็นพาทิพย์ไปทำบุญดีกว่า แล้วก็อย่าลืมขนมที่สั่งไว้นะคะ ไปแล้วค่ะ จะคิดถึงคุณนิ่มตั้งแต่ขี่เจ้ามดดำยักษ์ออกไปเลยนะ” ทองทิพย์ยิ้มทะเล้นกับคนที่ยิ้มอายๆ อยู่ตรงหน้า
“อยู่ใกล้ๆ แค่นี้ นิ่มก็คิดถึงคุณทิพย์นะ” นิมาอมยิ้มมองสบตาทองทิพย์กับสิ่งที่เธอคิดอยู่ในใจ
“แอบรู้ว่าคิดถึงเหมือนกัน ไม่ต้องคิดอยู่ในใจบอกกันบ้างก็ได้ ไปแล้วค่ะ พัก ผ่อนได้แล้ว ห้ามทำอะไรแล้วนะคะ สัญญานะ”
ทองทิพย์แกล้งทำเสียงเข้ม
“ได้ค่ะ สัญญา เดี๋ยวจะทานผลไม้เหมือนที่อยู่ในกล่องนั้น อาบน้ำเตรียมเข้านอนเลยค่ะ” นิมาตั้งใจจะทำอย่างที่ได้บอกไป
เมื่อสักครู่
“น่ารัก” ทองทิพย์พูดเพียงสั้นๆ ก่อนที่จะออกจากร้าน ขับเจ้ามดดำยักษ์กลับออกไป