ประตูถูกเปิดกว้าง ตามด้วยแรงอารมณ์ไม่พอใจผ่านทางสายตาของสมร แต่กลายเป็นว่าต้นเหตุดันยืนยิ้มแป้นต่อหน้าเธอ ทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาวที่มาสร้างความวุ่นวายให้เจ้าของบ้าน
"มิ้นท์เข้ามาได้แล้วนะคะ"
"แค่ห้านาทีนะ" สมรยังคงดึงหน้าใส่มินตรา
"สิบนาทีได้มั้ยคะ อุส่าปีนเข้ามา เจ็บทั้งตัวเลย"
สมรไม่ได้เอ่ยอนุญาต แต่ก็ยอมให้มินตราเข้าบ้านโดย เธอเดินนำไปยังห้องโถง
ไม่ต้องได้ยินมินตราอธิบายการเข้าบ้านแบบผิดธรรมชาติ เธอก็รู้ดี เพราะเนื้อตัวของมินตราถลอกปอกเปิกไปทั้งตัว ผมเพ้ายุ่งเหยิง หากไม่ติดว่ายังเคืองเรื่องการบุกรุก เธอคงจะส่งเสียงหัวเราะออกมากับสารรูปที่ได้เห็น แต่ตอนนี้เธอต้องตีหน้าขรึม เพื่อไม่ให้มินตราได้ใจ
ทั้งท่าทางแสนกวนประสาทของมินตราที่ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างสบายใจราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ตกลงว่ามีอะไร" สมรเพียงยืนกอดอกอยู่ฝั่งตรงข้ามไม่ได้นั่งลงข้างมินตรา
"อย่าทำหน้าดุแบบนั้นสิคะ"
"นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ไม่คิดว่าเป็นการรบกวนกันรึไงหืม.."
"มิ้นท์จะเลิกกับพี่ตรีค่ะ"
"อ อะไรนะ" สมรตาเบิกโพลง ทั้งยังรีบร้อนนั่งลงข้างมินตรา ต่างจากท่าทางเมื่อครู่ "หนูมิ้นท์พูดว่ายังไงนะ" พร้อมถามย้ำอีก
"มิ้นท์จะเลิกกับพี่ตรีค่ะ" มินตราบอกออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"หนูกับยัยตรีก็ไปด้วยกันดี ทำไมจะต้องเลิกกัน"
"คนที่พี่ตรีรักไม่ใช่มิ้นท์ค่ะ และพี่ตรียังรักเล็กอยู่ นี่เป็นเหตุผลได้ใช่มั้ยคะ"
สมรอ้าปากค้าง ก็ทุกอย่างมันผิดคาดไปหมด เธอพยายามสลัดมินตราออกจากตัวในทีแรก แถมยังผลักไสให้ไปรักกับลูกสาว แต่ตอนนี้ ดูเหมือนทุกอย่างกำลังจะแย่ลง ที่เธอทำไปวันนั้นไม่มีผลดีเลย
"ให้มิ้นท์เลิกกับพี่ตรีเถอะนะคะ" มินตราได้แต่จ้องมองสีหน้าสมร ที่ตอนนี้หล่อนเหมือนแบกภูเขาไว้ในอก "คบกับมิ้นท์เถอะนะคะ"
'เพี้ยะ' ใบหน้ามินตราหันตามแรงตบ
"ว้าย! ขอโทษ ป้าขอโทษ ป้าไม่ได้ตั้งใจ เวลาที่ตกใจ จะเป็นแบบนี้ทุกที" ก็สมรดันเผลอเหวี่ยงมือไปที่ใบหน้าของมินตราเสียจนเต็มแรง
มินตราเองเมื่อได้ฟังที่สมรอธิบายก็เผลอยิ้มออกมา แทนที่จะโมโห แต่เพราะรู้สึกว่าคนตรงหน้านั้นยิ่งน่าค้นหา "ไม่เป็นไรค่ะ นี่เจ็บน้อยกว่าที่ถูกคุณหยาดตบอีก" ทั้งยังเอ่ยถึงดาราอีกคนที่มินตราทำงานด้วย เอาเป็นว่า อย่างน้อยพวกเธอทั้งสองก็เคยถูกหยาดพิรุณตบมาเหมือนๆ กัน
"ป้าขอโทษนะ" สีหน้าสมรยังดูสำนึกผิดไม่หยุด เธอเอาแต่ลูบที่แก้มใสๆ ของมินตรา เพื่อให้บรรเทาอาการเจ็บ โดยไม่ทันไม่ได้มองปฏิกิริยาของคนตรงหน้า ว่าหล่อนลิงโลดแค่ไหน ที่สมรให้ความสนใจเธอมากมายขนาดนี้
"คบกับมิ้นท์นะคะ"
'เพี้ยะ! '
"โอ้ยย/ว้ายย" ทั้งคู่ร้องเสียงหลงออกมาพร้อมกัน
คนหนึ่งเพราะความเจ็บและอีกคนเพราะตกใจเหมือนเช่นเดิม
"มิ้นท์เข้าใจแล้วค่ะ" แต่รอบนี้มินตราดันเข้าใจไปอีกแบบต่างจากเดิม "ขอโทษนะคะที่มาก่อกวน"
ในทีแรก มินตราเข้าใจไปว่าสมรคงจะตกใจจริงตามที่พูด เธอจึงถูกตบ แต่เมื่อมันมีครั้งที่สอง แสดงว่าประโยคที่บอกออกไปคงจะกระทบจิตใจคนตรงหน้ามาก จนไม่อาจควบคุมตัวเองได้
"ป้าขอโทษ ป้าไม่ได้ตั้งใจ"
"คุณป้าไม่ได้ผิดอะไรนี่คะ" บอกออกมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่งก่อนจะลุกขึ้นยืน "กลับนะคะ"
สมรเองก็เพียงมองตามมินตราที่กำลังเดินห่างออกไป อย่างใช้ความคิด จนสุดท้าย จนแล้วจนรอดก่อนที่มินตราจะคว้าจับประตู
"เดี๋ยว! " เธอส่งเสียงดังออกมาเพื่อหยุดการกระทำของแขกที่ไม่ได้รับเชิญในทีแรก พร้อมกับเดินตามไปหยุดอยู่ด้านหลัง "กลับไปนั่งก่อนสิ ป้าไม่ยอมให้หนูกลับไปด้วยสภาพแบบนี้หรอกนะ" สมรบอกเสียงอ่อน เพื่ออยากให้มินตราใจเย็นลง
ทั้งคู่กลับมานั่งด้วยกันที่ห้องรับแขกเล็กๆ ในมุนขวามือของบ้านที่พอจะเป็นส่วนตัว ไม่ใช่โถงรับรองเหมือนดังเดิม
"เจ็บหรือเปล่า" สมรถามเสียงอ่อน ทั้งยังใช้นิ้วสัมผัสที่แก้มมินตราด้วยความเบามือ
คนตรงข้ามเพียงส่ายหัวเล็กน้อย และคว้าจับมือสมรเอาไว้ "คุณป้าไม่ได้เกลียดมิ้นท์ใช่มั้ยคะ"
"โธ่ ถ้าป้าเกลียดหนู คงไม่ให้เข้าบ้านหรอก" บอกแค่นั้นก่อนจะดึงมือตัวเองออก ทั้งยังพยายามหลบสายตาอันหวานเชื่อมจากมินตรา "เดี๋ยวป้าจะเอาเสื้อผ้าลงมาให้เปลี่ยน แล้วกลับยังไงจ๊ะ ให้คุณแจ๊สมารับใช่มั้ย" สมรพยายามตัดบท
"ให้มิ้นท์ขึ้นไปด้วยไม่ได้เหรอคะ และขอนอนที่นี่ด้วย พี่แจ๊สไปต่างจังหวัดค่ะ"
"แต่ว่า.."
"คุณป้าเคยบอกนี่คะ ว่ามิ้นท์ไม่ควรนั่งแท็กซี่ตอนกลางคืนคนเดียว มันอันตราย"
สมรเริ่มไปไม่เป็น ทั้งยังคิดหนัก หากให้มินตราค้างที่นี่ เธอคงจะปวดหัวน่าดู
ไหนจะเรื่องของลูกสาว นิรา รวมถึงมินตราอีก ช่างประเดประดังมาอย่างพร้อมเพรียง
"นะคะ"
'เคล้ง! ' เสียงบางอย่างราวกับของตกแตกดังสนั่นมาจากชั้นบนของบ้าน มินตราแหงนขึ้นไปมองทันที ก่อนจะหันมาหาสมร
"มีคนอยู่ข้างบนเหรอคะ"
"บ้าเหรอ! " สมรเสียงสูง ทั้งสายตายังแสดงออกมาอย่างมีพิรุธ "ป้าอยู่คนเดียว"
"แต่มิ้นท์ได้ยินเสียงของตกนะคะ คงจะมีใครทำอะไรร่วง" มินตรายังคงส่งเสียงคาดโทษใส่เธอไม่หยุดราวกับจะจับผิด
"อ๋อ.. ป้ารู้แล้ว อัครเดชน่ะ ต้องอัครเดชแน่ๆ " สมรทำหน้าทำตาต่างไปจากเมื่อครู่ หล่อนดูผ่อนคลายกว่าเดิม จนคนฟังต้องคิ้วขมวด
"ใครคืออัครเดชเหรอคะ"
"กุมารทองน่ะ ป้าเลี้ยงเอาไว้หลายปีแล้ว เวลาดึกๆ น้องเค้าจะออกมาเดินเล่น แล้วนี่ก็เลยเวลานอนแล้ว คงจะเรียกร้องความสนใจ ปกติ เราจะเข้านอนพร้อมกัน"
มินตราตาอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้ยิน "นี่คุณป้า นอนกับผีทุกคืนเลยเหรอคะ"
สมรลุกขึ้นยืนหันหลังให้ เธอกำลังแอบขำกับคำถามของมินตรา "กุมารทองจ้ะ ไม่ใช่ผี" แต่สักพักสายตาก็หันไปสบกับนิราจากภาพสะท้อนของกระจกเงา หล่อนกำลังเดินตรงมาทางเธอในชุดคลุมอาบน้ำ ดีหน่อยที่ไม่ได้อยู่ในระดับสายตาของมินตรา
สมรตาโตทันที ก่อนจะทรุดลงนั่งตรงหน้ามินตราและดึงหล่อนเข้ามากอดเสียแน่น
"อื้ออ.." มินตราร้องออกมาเสียงหลง เพราะถูกกอดจนแนบแน่น ไม่อาจขยับได้
"โถ.. หนูมิ้นท์คงจะตกใจแย่เลย" เธอเอาเรื่องกุมารทองมาเบี่ยงเบนความสนใจของมินตรา
"ก็ตกใจค่ะ ไม่คิดว่าคุณป้าจะมีของแบบนั้นอยู่ในบ้านด้วย"
มินตราไม่มีทางรู้เลยว่าด้านหลังของตนเองมีนิราอยู่ และสมรก็กำลังส่งสัญญาณให้เด็กสาวกลับขึ้นห้องไป
"ป้าอยู่คนเดียวนี่จ๊ะ มันเหงา ถ้ามีเด็กๆ มาวิ่งเล่นและอยู่เป็นเพื่อนคงจะดีกว่าอยู่ลำพัง" เธอโกหกออกมาเป็นตุเป็นตะ ก่อนจะชะเง้อมองจนนิราหายลับตาไป จึงยอมคลายกอดมินตรา "หนูคงไม่กลัวใช่มั้ย อภิชาติไม่เคยเป็นแบบนี้ แต่เพราะคงไม่คุ้นหน้าหนูมิ้นท์เลยแสดงอิทธิฤทธิ์ออกมา"
มินตราขมวดคิ้วอีกครั้ง "อัครเดชไม่ใช่เหรอคะ" แม้จะรู้สึกขนลุกกับเรื่องลี้ลับ แต่เธอก็ความจำแม่น
"ป้ามีสององค์น่ะ" ปดออกไปอีกจนได้ ดีหน่อยที่หัวไว ก็ดันจำชื่อผิด "ให้มีองค์เดียวคงเหงาแย่ ป้าเลยบูชามาเพิ่มอีกหนึ่ง เค้าจะได้เล่นด้วยกัน เวลาที่ป้าไม่อยู่"
มินตรากลืนน้ำลายอึกใหญ่ "มิ้นท์ขอนอนกับคุณป้านะคะ มิ้นท์กลัว"
การโกหกหนึ่งครั้ง ก็จะตามมาด้วยครั้งที่สองอย่างเสียไม่ได้ เพื่อจะปกปิดคำโกหกในครั้งแรก และก็คงจะต้องมีอีกหลายต่อหลายครั้งตามมา
ไม่รู้ว่าตอนนี้ใครจะต้องกลัวกันแน่ มินตราที่ตัวสั่นเทา ด้วยความกลัวและหวาดระแวง เพียงเสียงของเครื่องปรับอากาศดังขึ้นมาเพียงนิดเพราะรีโมทในมือของสมร มินตราก็สะดุ้งตัวโยน แถมยังจงใจกระถดตัวเข้าใกล้เจ้าของเตียง จนแผ่นหลังแทบจะชิดกัน
เพราะความกลัวผีแท้ๆ
"เป็น.."
"อุ้ย! "
สมรตั้งใจจะถามเพราะรู้สึกถึงความตัวสั่นของคนด้านหลังแต่ยังไม่ทันที่จะพูดจนจบประโยค เสียงอุทานของมินตราก็ดังแทรกขึ้นมา จนสมรต้องหันไปหาและใช้มือแตะลงที่หัวไหล่ "เป็นอะไรหรือเปล่า"
"มิ้นท์กลัวผีค่ะ" บอกออกไปตามตรงทั้งยังนอนขดตัวยิ่งกว่าเดิม
สมรคิ้วขมวดอย่างใช้ความคิด ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าแท้จริงแล้ว เธอเองที่เป็นสาเหตุ ที่ทำให้มินตรากลัวมากขนาดนั้น
"ปกติแล้ว อัครเดชและอภิชาติของคุณป้านอนตรงไหนคะ" เสียงสั่นๆ ของมินตราร้องถามออกมา
สมรผุดลุกขึ้นเพียงนิด เพื่อชะโงกดูอาการของมินตรา ก่อนจะเลื่อนมือไปจับแก้มของคนที่นอนตัวสั่น
"อุ้ย!"
กลัวว่ามินตราจะหัวใจวายเสียก่อน เธอจึงกระถดตัวไปใกล้กว่าเก่า พร้อมจงใจกระซิบ "จุ๊จุ๊.. ไม่เป็นไร นี่ป้าเอง"
มินตราไม่ส่งเสียงอะไรทั้งนั้น เอาแต่นอนเงียบ ทั้งยังหลับตาปี๋ แต่ยังดีหน่อยที่อาการตัวสั่นเริ่มเบาลง
"ไม่ต้องกลัว เพราะมีหนูมิ้นท์อยู่ในห้อง วันนี้น้องๆ เลยเสียสละ ไปนอนห้องรับรองแขกน่ะ" สมรอยากจะหัวเราะ แต่ก็ต้องพยายามข่มจิตตัวเอง
การหัวเราะเยาะมินตราที่กำลังกลัวสุดขีดเพราะเรื่องโกหกที่เธอสร้างขึ้นคงจะไม่ดีนัก
สมรจงใจลูบสัมผัสช่วยเช็ดเม็ดเหงื่อของมินตรา "ทำไมขี้กลัวแบบนี้นะ" ทั้งยังเอ่ยออกมาด้วยความเอ็นดู นั่นจึงทำให้คนขี้กลัวเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ แต่ไม่ได้ขยับกาย เพียงปล่อยให้คนด้านหลังช่วยปลอบโยน
"ไม่มีน้องๆ อยู่ในห้องด้วย คงนอนได้แล้วใช่มั้ยหืมม" สมรจงใจบอกออกมา ไม่ได้จะรอรับฟังคำตอบ เธอละสัมผัสจากใบหน้ามินตรา เพื่อจะกลับลงไปนอนเช่นเดิมโดยไม่ทันได้ตั้งตัว และไม่ทันระวัง
มินตราพลิกกลับมาหาสมร และจงใจดันไหล่เจ้าของบ้านให้ล้มตัวลงไปนอนที่เก่า
ตอนนี้มินตราคงไม่กลัวผีแล้ว และสมรก็ควรจะกลัวมินตราให้มาก
"ว้าย.." เสียงสมรร้องออกมาด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจู่ๆ มินตราจะนึกคึกขึ้นมาในเวลานี้ ทั้งยังจงใจขึ้นคร่อมตัวเธอ
มินตราหมายจะจูบพรมคนใต้ร่าง แต่ก็ถูกดันไหล่ให้ห่างจากตัวและเอ่ยห้าม
"อย่าสิ" น้ำเสียงที่บอกออกมาไม่ได้ดุดันสักนิด ทั้งคนฟังยังรู้สึกว่ากำลังถูกยั่วยวน เพราะสมรเพียงดันไหล่มินตรา แต่ไม่ได้หลบหนีสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
"มิ้นท์รักคุณป้าจริงๆ นะคะ"
เพียงได้ยินคำว่ารักจากปากคนตรงหน้ามันยิ่งทำให้สมรใจอ่อนยวบ ทั้งในสถานการณ์แบบนี้อีก
"แต่มิ้นท์จะไม่ทำ ถ้าคุณป้าไม่ต้องการ" มินตราบอกออกไปแบบนั้นก่อนจะลงจากตัวสมรช้าๆ และล้มตัวนอนดังเดิม
ทิ้งให้สมรอารมณ์ค้าง ตาเบิกโพลงในความมืดอยู่พักใหญ่ ก็อยู่ๆ มาทำให้อยาก แล้วปล่อยให้ค้างเติ่ง หากมินตราคิดสักนิด คงจะรู้ว่าสมรไม่ได้อยากจะห้ามแบบจริงจังนัก
สมรได้แต่นอนคิดด้วยความเจ็บใจ ไร้เสียงพูดจากปากของมินตรา
แต่จะทำอะไรได้เล่า จะมาร้องขอให้คนข้างๆ เริ่มใหม่ คงน่าอายแย่ เพราะเธอเป็นคนหยุดมันเอง
ดังนั้น หากอยากจะสานต่อ เธอคงจะต้องเป็นคนเริ่ม ด้วยตนเอง
'เอาวะ' คิดแค่นั้น ก็ลุกขึ้นจากที่นอน และย้ายไปนั่งคร่อมอยู่บนตัวมินตราแทน
"หืมม ไหนว่าอย่าไงคะ"
"ชู่วว" สมรบอกกับคนใต้ร่างเท่านั้น เธอไม่อยากให้มินตราส่งเสียงทักมากกว่านี้ เพราะอย่างน้อยเธอก็อายเป็น
หลังจากนี้ คงไม่ต้องมีคำพูด สมรดึงรั้งชุดนอนตัวบางออกจากร่างทางศีรษะ และทิ้งมันลงที่ใบหน้าของมินตราราวกับจงใจจะแกล้ง
ท่าทางมินตราที่เบี่ยงหน้าไปมาแถมยังใช้มือดึงรั้งชุดนอนของสมรให้ห่างออกจากตัว ทำให้สมรยิ้มเยาะออกมา
ตอนนี้มินตราสนใจกับคนตรงหน้ามากกว่า ในเมื่อชุดนอนของสมรอยู่ที่ตัวเธอ นั่นก็หมายความว่า สมรกำลังเปลือย เธอไม่อยากต้องพลาดของดีตรงหน้า
มินตราเด้งตัวขึ้นนั่งเผชิญหน้ากับคนบนตัก ก่อนจะรวบกอดสมร
"อร้าย! " สมรส่งเสียงออกมาลอดลำคอ ก็ถูกสวมกอดเสียแนบแน่นแบบนี้ มีหรือจะทนนิ่งเฉยอยู่ได้ แถมยังยินดีที่มินตราจูบพรมเธอไปทั่วเนินอก
สมรเองก็ลูบคลำไปทั่วศีรษะมินตรา เธอกำลังแสดงออกว่าชอบกับสิ่งที่มินตรามอบให้ ใบหน้าของสมรแหงนมองที่เพดาน เธอไม่อาจบรรยายได้ว่าเสียวซ่านมากแค่ไหน ได้แต่แสดงออกมาโดยท่าทาง ทั้งยังจงใจแอ่นอกให้มินตราได้ครอบครองทั้งสองข้างราวกับหิวกระหาย
"อื้ออ" มือของสมรกำลังดึงรั้งศีรษะคนใต้ร่างให้แนบชิดเธอมากกว่าเดิม จนต้องกัดริมฝีปากเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ความกระสัน แต่แค่นั้นมันคงไม่พอสำหรับสมร
มือที่กำเส้นผมของมินตราอยู่ กลับเลื่อนลงไปด้านหลังของตนเองเพื่อจับมือของมินตราที่กำลังกอดรัดเธออยู่
สมรจงใจดึงรัังมือของมินตราให้ห่างจากแผ่นหลังตัวเอง เพื่อให้มันได้ทำอย่างอื่นนอกจากลูบไล้เนื้อตัว สมรดันมือมินตราให้ล้วงลงไปในแพนตี้ตัวน้อยของตัวเอง
"อืม" เพียงนิ้วเรียวของมินตราสัมผัสที่จุดกึ่งกลางความสาว สมรก็ส่งเสียงออกมา ทั้งยังจงใจขยับบดเบียดบนนิ้วของมินตรา
"ทำไมถึงใจร้อนคะ" เพราะริมฝีปากยังวนเวียนอยู่ที่ทรวงอกคนตรงหน้า จึงได้แต่งึมงัมบอกออกมา แต่มินตราก็รู้หน้าที่ตัวเองดีว่าจะต้องทำอย่างไร ไม่รอให้สมรต้องร้องขอ
นิ้วของมินตราขยับหยอกล้ออยู่ที่จุดสงวนของคนด้านบน เธอรักทุกส่วนที่เป็นร่างกายของสมร รวมถึงสิ่งที่กำลังสัมผัส นิ้วเรียวกำลังบดคลึงปลุกเร้าความต้องการของสมรให้ลุกโชนยิ่งขึ้น
เสียงหอบหายใจของสมรดังระงมไปทั้งห้อง เธอเสียวแบบที่แทบจะขาดใจ และต้องการมากกว่านี้ สมรกอดรัดต้นคอมินตรา "เอาเข้ามาข้างในสักที" ไม่มีความอายหลงเหลืออยู่ และไม่จำเป็นต้องอายกับเรื่องแบบนี้
ได้ตามคำขอ นิ้วของมินตราเปียกชุ่ม และก็พร้อมที่จะเข้าไปในกายของสมร
นิ้วกลางหนึ่งนิ้วเข้าไปด้านในของสมรจนสุดความยาว
สมรกระตุกกายเพียงนิดกับสิ่งแปลกปลอมที่เพิ่งจะเข้ามา ยิ่งมินตราขยับมัน เธอยิ่งเหมือนจะขาดใจ แต่ก็ยังไม่พอใจ "อีกนิ้วได้มั้ย" แถมคราวนี้ สมรไม่อยู่เฉย เธอเองก็มีส่วนช่วยไม่ให้มินตราต้องเหนื่อย ด้วยการขยับสะโพกเข้าหานิ้วของมินตรา ที่ตอนนี้ได้เพิ่มจำนวนในกายเธอเรียบร้อย
มินตราปล่อยให้สมรได้ปลดปล่อยอารมณ์ด้วยการใช้นิ้วของเธออย่างพอใจ
เสียงหัวเตียงกระทบกำแพงดังสนั่นเพราะเจ้าของบ้านที่กำลังเริงรัก โดยหลงลืมว่ามีใครอีกคนอยู่อีกห้อง
ส่วนมินตราก็ไม่ต้องกลัวว่าใครจะรู้หรือเห็นเพราะ เข้าใจว่าอยู่ลำพังแค่สองคน แม้จะมีกุมารทองอีกสององค์ก็ตาม
ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล เพราะไม่มีใครอยากจะหยุด
อารมณ์นักแสดงที่ขึ้นๆ ลงๆ มองดูไม่ค่อยปกตินัก ซึ่งทั้งสองเป็นแบบนั้น
ทั้งคู่พยายามสร้างกำแพงมาผลักดันความต้องการของตัวเอง แต่ความอ่อนไหวกำลังพังทลายกำแพงของพวกเธอ และคืนนี้ไม่จำเป็นต้องปกปิดความต้องการของตัวเอง
เพราะมีครั้งแรก จึงมีครั้งที่สองตามมา เรื่องบนเตียงไม่เคยมีครั้งเดียวสำหรับคนอย่างมินตรา เธอมาหาสมร และตามตื๊อหล่อน ไม่ใช่เพราะติดใจเรื่องเซ็กซ์ แต่เพราะเป็นสมร เธอหลงรักสมรแบบเต็มเปา
สมรรู้สึกตัว ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เพราะรู้สึกถึงการรุกรานบนร่างกาย เมื่อปรับสายตาได้ในระดับหนึ่ง จึงรู้ว่ามันมาจากมินตรา ที่กอดรัดเธอจากทางด้านหลัง แถมยังจงใจพรมจูบไปตามท่อนแขนขึ้นมาถึงลำคอ
มันสร้างความรำคาญให้สมร จนต้องลืมตาตื่น เธอขยับตัวเบี่ยงการก่อกวนของคนด้านหลัง เพราะเมื่อคืนก็แทบไม่ได้นอน จนตอนนี้มินตรายังพยายามจะเริ่มมันอีก
"อื้ออ หยุดก่อน" สมรหันกลับมาหามินตรา ทั้งยังดันไหล่ให้ออกห่าง "นี่เช้าแล้วนะ" ทั้งยังส่งสายตาดุๆ ให้อีก
"ขอต่ออีกรอบไม่ได้เหรอคะ" มินตราตีหน้าเศร้าขอร้องคนใต้ล่าง ก่อนจะก้มลงหอมแก้มสมร และมันไม่ใช่แค่ครั้งเดียว
มินตราจงใจก้มลงกดจูบที่แก้มสมรซ้ำที่เดิมหลายต่อหลายที เพื่อจะเอาใจคนตรงหน้า
และมันเหมือนจะได้ผล สมรส่งเสียงหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ ก็มินตราน่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้ เธอจะแสร้งทำหน้าดุได้นานเท่าไหร่กันเชียว "นี่.. พอเถอะ ป้าไม่ไหวแล้วนะ ปวดไปทั้งตัว" การสารภาพความจริงออกมา น่าจะทำให้มินตรายอมหยุดความต้องการในตอนนี้
"งั้น.. มิ้นท์ไปอาบน้ำนะคะ" ทั้งยังเสมองไปที่หัวเตียงเพื่อดูนาฬิกา "ตอนสิบโมง มิ้นท์มีนัดกับพี่ตรีน่ะค่ะ" มินตราบอกออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะรีบลงจากเตียง และวิ่งเข้าห้องน้ำไปด้วยเนื้อตัวเปลือยเปล่า
รอยยิ้มของสมรเมื่อครู่หุบลงทันทีที่ได้ยินชื่อลูกสาว นี่เธอทำผิดอีกแล้ว เธอแพ้ความต้องการของตัวเอง ได้แต่กำผ้าห่มผืนหนาที่คลุมร่างเปลือยเปล่าของตัวเอง มันเกิดขึ้นอีกแล้วเมื่อคืน
นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี
เมื่อคืน มินตราทำให้เธอเชื่อและรักหมดใจ แต่ตอนนี้ มินตราดันคิดถึงคนอื่นที่ไม่ใช่เธอ
และคนคนนั้นคือตรีประดับ ลูกสาวแท้ๆ ของตนเอง