อิงฟ้า...
"เป็นยังไงบ้างอิงฟ้าเหนื่อยมั้ย"
พี่ผู้ช่วยผู้กำกับเอ่ยถามยิ้มๆ ฉันส่ายหน้าเบาๆ
"ไม่ค่ะไม่ค่อยได้ทำอะไรเลย ว่างจนรู้สึกไม่ได้อะไรเลย ฮ่าๆๆ"
ฉันพูดติดตลกแต่คนฟังคนจะรู้ว่าฉันไม่ขำ เขาถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะเดินมาตบไหล่ฉัน
"อดทนนะอิงฟ้า พี่ก็ช่วยไม่ได้มากพี่ก็ต้องฟังพวกเค้า เราก็คอยสังเกตเอานะว่าเค้าทำยังไงแบบไหน ไว้เรื่องหน้าพี่กำกับเองพี่จะให้หนูมาเป็นผู้ช่วยพี่"
ฉันยิ้มอย่างดีใจ ตื่นเต้นด้วย จริงๆคนที่ใจดีก็มีเยอะแต่ก็นะวงการมายาขนาดนางเอกที่กำลังดังยังเหวี่ยงไม่เลือกเลย
"ขอบคุณนะคะพี่แม็ค ยังไงเดี๋ยวฟ้าเอาบทไปให้คุณบีก่อนนะคะ"
"จ้า ไปเถอะ"
พี่แม็คเอ่ยยิ้มๆก่อนจะเดินจากไปส่วนฉันก็เกินเอาบทไปให้นางเอกของเรื่อง เดินมาถึงฉันทำใจอยู่นานกว่าจะเข้าไปได้เพราะไม่อยากทำไรให้ไม่ถูกใจเธออีก
"คุณบีคะ บทละครค่ะ ผู้ช่วยผู้กำกับฝากมาให้"
"วางไว้ตรงนั้นแล้วก็ไปซะ "
ฉันพยักหน้ารับคำแล้วก็หันหลังจะเดินออกไปเธอเรียกฉันไว้ซะก่อน
"เดี๋ยว"
ฉันหันกลับมามองหน้าเธออย่างงงๆ หล่อนมองฉันตั้ฃแต่หัวจรดเท้าก่อนจะแสยะยิ้มเหมือนนางมารร้ายในละครทีวีหลังข่าว
"จำไว้นะเธอเป็นแค่เด็กในกองถ่ายละคร อย่ามาทำตัวจุ้นจ้านให้คนอื่นเห็นอยู่ในมุมของตัวเองซะฉันจะบอกแค่นี้ ไปซะ"
ถึงฉันจะไม่เข้าใจอะไรมากแต่ฉันก็พอจะรู้ว่าเธอไม่ชอบฉัน ถึงจะไม่รู้สาเหตุก็เถอะแต่ฉันไม่อยากปะทะกับใครฉันอยากทำงานแบบมีความสุข
"ค่ะ"
[คล้อยหลังอิงฟ้าเดินออกไปนางเอกบีก็ทำหน้าบึ้งตึงมองตามอิงฟ้าไป ก่อนจะเอ่ยออกมากับตัวเอง
"เธอจะไม่มีทางได้มาเทียบเทียมฉันได้หรอก อิงฟ้า"
สามวันก่อน....
'พี่แน็ตตี้มองอะไรคะ'
บีเอ่ยถามผู้จัดการส่วนตัวของตัวเอง หล่อนเห็นเธอมองใครคนหนึ่งมาสักพักแล้วเธออยากรู้ก็เลยถามออกไป
'มองเด็กคนนั้นนะ เห็นแล้วนึกถึงบีตอนยังไม่เข้าวงการ หน้าตาเด็กคนนั้นสวยนะพี่ว่าถ้าจับมาปั้นให้ดังคนจะเกิดแน่ๆ'
หล่อนกำหมัดแน่นอย่างไม่พอใจในคำพูดของผู้จัดการของตัวเองสุดๆ คิดจะปั้นมันมาเทียบกันฉันเหรอ ไม่มีทาง! นังอิงฟ้า]
ป๋าธีม...
"ป๋าครับจะกลับเลยมั้ยครับ"
ผมนั่งอยู่ในออฟฟิศตอนนี้ก็ทุ่มหนึ่งแล้ว ไม่มีอะไรมากก็แค่ตรวจงานของพนักงานทั่วไป บริษัทผมขึ้นชื่อความถูกต้องโดยเฉพาะการให้ข่าวแก่ประชาชนผมจะให้ความสำคัญอย่างมากต้องผ่านการกลั่นรองความจริงมาดีแล้วเท่านั้นถึงจะเผยแพร่ออกไปได้ ละครเรื่องไหนเรื่องไหนก็ดังเปรี้ยงปร่าง เด็กในสังกัดของผมก็ไม่ค่อยมีประวัติเสียหาย ผมตัดหางทันทีถ้าพวกเขาทำไม่ถูกต้อง เพราะแบบนี้ไง BEM ของผมถึงเป็น No.1 ของประเทศนี้
"ก็ดีนะ ว่าจะไปหาอะไรทานสักหน่อยก่อนกลับเดี๋ยวแวะร้านประจำให้ผมหน่อยแล้วกัน"
ผมเอ่ยออกไปก่อนจะลุกขึ้นถือกระเป๋าส่งให้ผู้ช่วยผมแล้วเดินออกไปทันที ผมมีผู้ช่วยสองคนที่สนิทที่สุดและผมไว้ใจ แล้วก็มีบอดี้การ์ดติดตามไปอีกสี่คน ตามไปทุกที่ถึงผมจะไม่ค่อยมีศัตรูที่ไหนแต่มีผู้ติดตามก็เป็นหน้าเป็นตาอย่างหนึ่ง
"ครับป๋า เชิญครับ"
ผมเดินขึ้นไปบนรถหยิบโทรศัพท์มากดดูเรตติ้งละครของทางช่อง ดูความเคลื่อนไหวของประเทศ ราคาหุ้นผมเหมือนจะว่างอ่ะนะแต่ผมก็งานเยอะอยู่นะเพราะผมจะตรวจงานเอง
"ฝนตกเหรอเนี้ย"
ผมรำพึงรำพันกับตัวเองมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นคนร่างเล็กยืนอยู่ตรงป้ายรถเมล์ ชื่ออะไรนะอิงฟ้าใช่มั้ยผมเจอเมื่อเช้า เธอน่ารักดีนะเห็นหน้าเธอแล้วทำให้ผมยิ้มได้แปลกดีเหมือนกันเธอดูไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นที่ผมเคยเจอ
"จอดรถก่อน"
"ครับป๋า"
ผู้ช่วยผมจอดรถตรงข้ามกับป้ายรถเมล์ ผมมองหน้าผู้ช่วยผมแล้วเอ่ยออกไป
"ไปพาอิงฟ้ามาขึ้นรถ"
"เด็กผู้หญิงคนนั้นคนที่น่ารักเสื้อสีดำใช่มั้ยครับ"
"เออนั้นแหละ ไปรับเธอมาเอาร่มไปด้วย"
ผมเอ่ยออกไปลดกระจกลงนิดหน่อยมองเธอที่ยืนหลบฝนอยู่ตรงนั้น เวลาขนาดนี้แล้วยังไม่กลับบ้านอีกเหรอแล้วผู้หญิงตัวคนเดียวแบบนั้นยืนอยู่คนเดียวแบบนั้นมันอันตรายจะตายไปสักพักผู้ช่วยผมก็พาเธอมาจนได้เหมือนเธอจะกลัวผมอยู่นะ
"อิงฟ้า"
"ทะ.... ท่านประธาน"
"ขึ้นมาก่อนเปียกหมดแล้วมั่ง"
ผู้ช่วยผมเปิดประตูเพื่อให้เธอเข้ามาไวๆ เหมือนเธอจะเกร็งเมื่ออยู่ใกล้ผมยังไงก็ไม่รู้ ผมหันไปสั่งผู้ช่วยผมอีกคนให้หยิบผ้าขนหนูหลังรถมาให้
"เจมส์เอาผ้าขนหนูมาที"
"ครับป๋า"
ผมมองคนตัวเล็กตัวสั่นอย่างกับลูกนก ได้ผ้าขนหนูมาผมก็เอาไปวางไว้บนหัวของเธอจนเธอตกใจผงะถอยหลัง
"เอ่อ คือว่าหนู"
"กลัวผมเหรอ"
เหมือนเธอจะลังเลแต่ก็ส่ายหน้าปฏิเสธ
"ปะ.. เปล่าค่ะ คือหนูเกร็ง อยู่ๆท่านประธานก็ให้หนูมานั่งในรถด้วยหนูตกใจนี่ค่ะ แหะๆ เกรงใจด้วย"
ผมยิ้มออกมาทันทีตลกกับคำพูดของเธอด้วย ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งสวยผมสะดุดตาเธอครั้งแรกเมื่อตอนเช้ามาทำงานกับผมหลายเดือนแล้วแต่แปลกผมไม่เคยเจอ ก็นะพนักงานผมมีไม่รู้กี่พันกี่หมื่นคนผมจำไม่ได้ก็ไม่แปลก แต่เธอสะดุดตาผมตั้งแต่ครั้งแรกและผมยังจำติดตาจนถึงตอนนี้
"เดี๋ยวผมไปส่งนะ บ้านอยู่ที่ไหน"
"หนูกลับเองได้ค่ะเกรงใจท่านประธาน เดี๋ยวรถเมล์ก็มาแล้วค่ะหนูกลับได้สบายมากค่ะ"
"ไม่มีรถเหรอทำไมไม่ขับมาเอง"
ผมเอ่ยถามอีก ชีวิตเธอเหมือนมันสลับซับซ้อนจนผมงงๆ แต่ผมก็อยากรู้ว่าเธอทำอะไรอยู่ที่ไหน ผมว่าตอนนี้ผมเริ่มสนใจคนตรงหน้าแล้วหละ หึ
"ก็มีคันหนึ่งค่ะแต่ปกติถ้ามาที่บริษัทก็นั่งรถเมล์มามันง่ายกว่าค่ะ "
"อ่อ งั้นเหรอ งั้นผมไปส่งที่บ้านแล้วกัน"
"แต่ว่า"
"ถ้าเกรงใจงั้นก็ตอบแทนผมสิ"
ผมยื่นข้อเสนอไปไม่งั้นคนตรงหน้าผมจะคัดค้านหาเรื่องมาต่อต้านอยู่ดี
"ตอบแทนยังไงคะ"
"ทานข้าวเป็นเพื่อนที ทานคนเดียวมันเหงา"
คนตรงหน้าผมยิ้มเขินก่อนจะเบือนหน้าหนีไม่ยอมสบตากับผม ผมยื่นมือไปจับหัวเธอไว้แล้วค่อยๆเช็ดผมให้เบาๆจนเธอตัวนิ่งไปไม่ยอมกระดิก
"อย่างเกร็งสิสบายๆ"
"ใครไม่เกร็งก็ไม่ใช่คนแล้วล่ะค่ะ คงเป็นหุ่นยนต์ แหะๆ"
"หึ"