หลายวันต่อมา
วานิลขับรถกลับบ้านเอง ถึงจะมีลูกน้องคนสนิทแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทั้งสองจะตัวติดกันทุกวัน เพราะมันก็มีบางครั้งที่เธอจะส่งลูกน้องคนสนิทไปทำงานที่สำคัญ ซึ่งเธอก็ไว้ใจเขาได้แค่คนเดียว นอกจากเพื่อนแล้วก็จะเป็นลูกน้องคนสนิทเนี่ยแหละ
ระหว่างที่กำลังขับรถกลับจู่ๆ ฝากระโปรงหน้ารถของเธอก็มีควันโขมงขึ้นมา ทำให้เธอต้องตีไฟเลี้ยวเข้าริมขอบทาง จากนั้นก็ลงไปดูด้วยความตกใจ พอเปิดฝากระโปรงรถควันก็ลอยพวยพุ่งออกมาจำนวนมาก แถมยังได้กลิ่นไหม้อีกต่างหาก
"แค่กๆๆๆๆ!!~"
หญิงสาวยืนเท้าเอวมองพร้อมอาการที่เริ่มจะหงุดหงิด เพราะตอนนี้มันดึกแล้ว จะเรียกให้ใครช่วยได้ แถวนี้ยิ่งดึกรถก็ยิ่งน้อยลงมากขึ้นเรื่อยๆ อีกต่างหาก
และปกติเวลารถมีปัญหาลูกน้องคนสนิทของเธอก็จะเป็นคนจัดการเอง เธอจึงไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับช่างสักเท่าไหร่นัก แต่มันก็ดันมาเป็นเอาตอนนี้เนี่ย ตอนที่เธอต้องอยู่คนเดียว
ขณะที่เธอเดินไปที่ประตูรถอีกฝั่งนึงเพื่อจะหยิบโทรศัพท์มือถือ ก็เห็นไฟวงกลมเล็กๆ ซึ่งน่าจะเป็นไฟหน้ารถของรถมอเตอร์ไซค์ กำลังขับผ่านมาตรงที่เธอจอดรถอยู่
พอรถคันนั้นขับเข้ามาใกล้ๆ และจอด ถึงได้รู้ว่าเป็นรถของใคร
รัณ หรือศรัณย์ เด็กเสิร์ฟใหม่ที่ กาสิโนของเธอ บ้านเขาอยู่ทางนี้เหรอ ถึงได้ขับรถผ่านทางนี้ แต่ตอนนี้จะอะไรก็แล้วแต่เถอะ แค่มีคนขี่รถผ่านเธอก็ดีใจแล้ว
"รถเสียเหรอครับ"
"อือ มันมีควันขึ้นน่ะ ฉันก็เลยจอดก่อน"
"ขอผมดูหน่อยนะครับ"
"อืม..."
ชายหนุ่มเดินไปก้มหน้าตรวจดูตรงด้านหน้ารถของเธออยู่ได้สักพักนึง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา
"หม้อน้ำแห้งน่ะครับ ปกติเวลาเอารถเข้าศูนย์เขาจะเช็คให้เลยนะครับ อันนี้ไม่ได้เช็คเลยเหรอครับหรือว่า.."
"เรื่องนั้นฉันไม่รู้ เรนเป็นคนจัดการให้ทั้งหมด แต่ตอนนี้เขาไม่อยู่" เธอพูดเสียงเรียบเฉย มองหน้าผู้ชายตรงหน้าอย่างนิ่งๆ
"จริงๆ เอาน้ำมาเติมตรงหม้อน้ำ ก็ขับรถไปต่อได้แล้วนะครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าหม้อน้ำรั่วไหม คุณลองโทรหาช่างให้มาเอารถไปตรวจที่ศูนย์ดีไหมครับ แล้วเดี๋ยวผมไปส่งเอง ถ้าคุณไม่รังเกียจ"
"......" แล้วตอนนี้เธอเลือกอะไรได้บ้างล่ะ มันดึกมากแล้ว และเธอก็อยากกลับบ้านเราด้วย ถ้าจะรอจนกว่าช่างจะมา แล้วเธอจะกลับยังไง ให้ช่างไปส่งงั้นเหรอ
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันโทรหาคนของฉันเอง" ว่าแล้วเธอก็เปิดประตูรถหยิบโทรศัพท์ออกมา และจัดการโทรหาเจ้าสามแฝด
( ครับเจ้ )
"พวกนายอยู่ที่ไหน มีใครว่างบ้าง มารับฉันหน่อยรถเสียน่ะ"
( เอ่อ ไม่แน่ใจเลยครับเจ้ ตอนนี้เมากันทั้งนั้นเลย เดี๋ยวผมให้คนของผมไปรับได้ไหมครับเจ้ )
"ไม่เป็นไรๆ"
พอกดวางสายเธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างแรง ตอนนี้จะไปว่าพวกสามแฝดก็ไม่ได้หรอก เพราะมันกระทันหัน และทั้งสามคนนั้นก็เป็นคนที่ชอบสังสรรค์อยู่แล้ว ดึกป่านนี้จะเมากันอยู่ก็คงไม่แปลก
"ให้ผมไปส่งก็ได้นะครับ ตอนนี้มันดึกแล้วจะหารถแท็กซี่ก็ยาก เอารถทิ้งไว้ให้ช่างมาเอาไปซ่อมดีกว่าไหมครับ ถ้ายืนรออยู่ตรงนี้ยุงจะกัดเอานะครับ"
"อืม..." เธออยากจะปฏิเสธ แต่สถานการณ์ตอนนี้ก็บีบบังคับซะเหลือเกิน เธอจะไปปฏิเสธยังไงได้ ตรงนี้มันเปลี่ยว ตรงนี้มันมืด แถมยุงเยอะอีกต่างหาก โทรหาช่างแล้วก็ไม่รู้ว่าช่างจะมาถึงตอนไหนเวลาไหน
เธอเดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของเขา ยังไม่ทันจะได้ขึ้นคร่อม ชายหนุ่มก็ยื่นหมวกกันน็อคที่มีอยู่ใบเดียวให้กับเธอ
"มองอะไรครับ เอาไปใส่สิครับ"
"แล้วนายล่ะ?"
"ผมไม่ใส่ก็ได้ครับ ชินแล้ว คุณวานิลเอาไปใส่เถอะ"
"ขอบใจ"
เธอใส่หมวกกันน็อคและขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่ด้านหลังของชายหนุ่ม
"กอดผมไว้แน่นๆ นะครับ ถ้าไม่รังเกียจ รถมันแรง เดี๋ยวคุณจะปลิวเอา" ชายหนุ่มพูดติดตลก ทั้งๆ ที่ยังไม่สนิทกันขนาดนั้นแท้ๆ แต่กลับกล้าแซวเธอขนาดนี้ได้ ไม่ธรรมดาเลยนะ
"บ้านอยู่ตรงไหนเลี้ยวตรงไหนบอกผมนะครับ"
"นายมาทำอะไรแถวนี้?"
"กลับบ้านสิครับ บ้านผมก็ไปทางนี้เหมือนกัน"
"เดินทางตั้งไกลเนี่ยนะ"
"ก็มันไม่มีที่ไหนรับสมัครเลยนี่ครับ ไปสมัครไว้เขาก็เมิน ที่ไหนรับผมเข้าทำงานก่อนผมก็ไปทำที่นั่นแหละครับ"
"......" เพราะรถที่กำลังแล่นออกไปด้วยความเร็ว ทำให้เธอจำเป็นต้องกอดเอวของคนตรงหน้าเอาไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองตกลงไป คราวนี้ได้กลิ่นน้ำหอมบนตัวของเขาชัดเจนมากกว่าเดิมอีก
เวลาต่อมา
"ขอบใจมากที่มาส่ง" เธอพูดพร้อมกับยื่นหมวกกันน็อคคืนให้แก่เขา
"ไม่เป็นอะไรครับ"
"ขับรถกลับดีๆ"
"ครับ"
พูดจบวานิลก็หันหลังเดินกลับเข้าไปในบ้าน ก็ตามสไตล์ของเธอ ผู้หญิงห้าวๆ โหดๆ พูดเพราะพูดหวานไม่ค่อยเป็น มันค่อนข้างสวนทางกับหน้าตา การแต่งตัว เอามากๆ แต่แล้วไงล่ะ เธอสนใจซะที่ไหน ใครอยากจะมองยังไงก็แล้วแต่
หลังจากแยกย้ายกัน วานิลก็ยังคงเอาแต่คิดถึงกลิ่นน้ำหอมบนตัวของผู้ชายคนนั้น ถึงจะเป็นแค่เด็กเสิร์ฟ แต่ก็มีอะไรหลายๆ อย่างที่เธอรู้สึกว่าเขาพิเศษมากกว่านั้น
ผู้ชายหน้าตาดี รูปร่างดี อะไรดีไปหมดเลย น่าจะเป็นดาราได้เลยแท้ๆ แต่กลับบอกว่าไม่มีที่ไหนรับเข้าทำงาน มีแค่ที่นี่ที่เดียว แต่ก็สวนทางกับคำพูดของผู้จัดการ ที่บอกว่าเขาตั้งใจมาสมัครที่นี่ที่เดียว
ครืด ครืด ครืด ~
"อือเรน"
( ขอโทษนะครับ พอดีผมเพิ่งได้รับสายจากศูนย์ รถเสียเหรอครับ )
"อืม ฉันจอดเอาไว้ ให้ช่างมาเอาไปซ่อมแล้ว"
( แล้วนี่คุณวานิลกลับถึงบ้านแล้วใช่ไหมครับ )
"ฉันถึงบ้านตั้งนานแล้ว"
( สบายใจแล้วครับ ส่งรถซ่อมเอาไว้ก่อนนะครับ เสร็จแล้วเดี๋ยวผมไปจัดการต่อให้เอง )
"อือๆ แค่นี้แหละ"
เรื่องรถสำหรับเธอมันไม่ใช่เรื่องที่น่าซีเรียสอะไรขนาดนั้นหรอก เพราะต่อให้ไม่มีรถคันนี้ เธอก็ยังมีรถอีกนับสิบคัน มีให้เธอเลือกอีกตั้งมากมาย ส่วนใหญ่ก็เป็นรถหรูนำเข้าจากต่างประเทศทั้งนั้น บางคันก็เป็นของเจ้าของกาสิโนเก่า ที่ได้ยกสมบัติยกทุกอย่างให้กับเธอเป็นผู้ดูแลต่อ
ใครบอกว่าดวงดีไม่มีอยู่จริง แค่เธอเข้าไปช่วยคนที่กำลังจะถูกทำร้าย มันเลยทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้