ครอบครัว
ลินนารากลับมาถึงบ้านเกือบจะตีสองแล้ว เสื้อผ้า และผมยาวสยาย มีแต่กลิ่นเหล้า กลิ่นบุหรี่เต็มไปหมด มือบางถอดชุดเดรสตัวสั้น แล้วเดินตรงไปที่ห้องน้ำ ก่อนจะรีบชำระร่างกาย น้ำอุ่นจัดไหลลงมาที่ผมยาว ไล่ลงมาตามร่างกายเปลือยเปล่าของเธอ แล้วเธอก็หลับตาลง
ผู้เป็นพ่อกลับมาในตอนรุ่งเช้า ขณะที่ลูกสาวกำลังเตรียมตัวไปโรงเรียน มือของพ่อมีเงินกลับมาปึกใหญ่ วางเอาไว้ที่โต๊ะกินข้าว กลิ่นบุหรี่กลิ่นเหล้า เหม็นคลุ้งไปหมด แต่สายตาของพ่อที่มองมาอบอุ่นเสมอ
" ลิน มานี่สิลูก " พ่อเรียกลูกสาวมาใกล้แล้วดึงเงินสดเอามาใส่มือ
" เก็บเงินไว้นะลินพ่อไม่มีงานประจำเป็นหลักแหล่ง เงินได้มาลินต้องเก็บไว้ อย่าใช้ฟุ่มเฟือย "
เสียงพ่อบอกออกมา ก่อนจะกอดรัดลูกสาวคนเดียวเอาไว้
" ลินเป็นเด็กดีของพ่อแม่ ต้องรักดี ตั้งใจเรียน และที่สำคัญ อย่ายุ่งกับยาเสพติดเด็ดขาด เข้าใจไหมลูก "
ลินนาราจำได้ว่านั่นเป็นไม่กี่ครั้งที่พ่อสอน หลังจากนั้นไม่นาน พ่อก็ไม่กลับมาหาเธอกับแม่อีกเลย
สองแม่ลูกหอบกันไปมาหลายที่ หลายเขต กว่าจะมาปักหลักที่บ้านหลังนี้ ลินนารามองแม่ที่ทำอาชีพเล่นกินด้วยความไม่พอใจ หากแต่เธอเป็นลูก ที่ยังขอเงินแม่ทุกวัน เธอจึงไม่กล้ามีปากมีเสียงอะไร มากไปกว่านี้ เพราะสิบปีที่พ่อหายไป เธอก็มีแม่เพียงคนเดียวเช่นกัน
ร่างกายเปลือยเปล่า อาบน้ำชำระร่างกายเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะเดินตรงมาที่โต๊ะเครื่องแป้งของตัวเอง สอดมือเข้าไปปลดล็อกด้านในก็พบสมุดบัญชีธนาคารหลายเล่ม ถูกซ่อนอยู่ในนั้นมือบางเปิดออกมา ก็พบว่ามีเงินฝากหลายแสนบาท ที่เป็นยอดสุดท้าย
ลินนาราจะไม่ตำหนิแม่ จะไม่ว่าแม่ ไม่ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร เพราะชีวิตเธอเป็นแบบนี้ พ่อแม่เธอเป็นแบบนี้ เราเลือกครอบครัวเองไม่ได้ แต่เราเลือกจะรักษาคนในครอบครัวได้
สมุดบัญชีหลายเล่มมีเงินรวมกัน เกือบสามล้านบาท หากแม่ผิดพลาดไป เงินนี้ จะเป็นทุนตั้งตัวให้แม่ และเธอ จนกว่าจะเรียน
เจ็บช้ำ
ภาพของผู้เป็นแม่ที่กำลังนอนอยู่ในห้องไอซียูในต่างประเทศ ทำเอาคนที่มองกลั้นน้ำตาไม่อยู่ สายระโยงระยางรอบตัวที่กำลังช่วยชีวิต หญิงวัยกลางคนที่ถูกทำร้ายอย่างสาหัสเกินกว่าคำว่าโหดเหี้ยม
เจ้าหน้าที่สถานฑูตมองนักศึกษาสาวที่กำลังตกใจสุดขีดด้วยความสงสาร เพราะเจ้าหน้าที่ติดต่อไป ให้ลูกสาวของผู้ป่วยเดินทางมาที่นี่ เพื่อรับทราบข้อมูลโดยเฉพาะ
" ทางเราได้รับการติดต่อว่ามีหญิงไทยถูกชิงทรัพย์และทำร้ายที่หน้าโรงแรมครับ "
เจ้าหน้าที่บอกด้วยความไม่สบายใจ เพราะไม่รู้ว่าลูกสาวรู้เรื่องแม่ดีแค่ไหน
" ทรัพย์สินถูกนำไปหมดครับ เงินสดน่าจะเกือบห้าล้าน ทรัพย์สินของมีค่า ทั้งหมด ไม่เหลืออะไร นอกจากพาสปอร์ตที่ระบุว่าเป็นใครเท่านั้นครับ "
ลินนาราทรุดตัวนั่งลงที่เก้าอี้ มือสั่นสะท้านด้วยความกลัว
" ถ้าพากลับไทย " เธอถามออกมา แต่เจ้าหน้าที่ส่ายหน้า
" ไม่ง่ายครับ หมอที่โน่นคงไม่ยอม เพราะตอนนี้ มีค่ารักษาพยาบาลมากกว่าห้าแสนบาทแล้ว "
เจ้าหน้าที่สถานฑูตแนะนำเรื่องเอกสารต่างๆที่ต้องเตรียมไป แล้วบอกเสียงหนักแน่นว่า
" ทางเราจะช่วยเหลือทุกอย่างเท่าที่ทำได้ ขอให้คุณลินนารามีสติให้มากๆนับจากนี้ไป "
ลินนารากลับมาจัดกระเป๋าเก็บของใช้ที่บ้านทันที เพราะเธอจะต้องเดินทางไปหาแม่ให้เร็วที่สุด แล้วเสียงกริ่งหน้าบ้าน ก็ดังขึ้น
ชายวัยกลางคน และผู้หญิงอีกสองคน มายืนรอที่หน้าบ้าน พร้อมกับยื่นเอกสารให้อ่าน
" ท่านกังวลว่าคุณมาลี จะติดธุระกะทันหัน แล้วไม่กลับมาอีก จึงมีความจำเป็นให้คุณลินนารารับสภาพหนี้เอาไว้ก่อน "
ลินนาราเซ็นต์ชื่อของตัวเองลงไปในกระดาษ เพราะตอนนี้ไม่มีอะไรจะสำคัญไปกว่า แม่ของเธออีกแล้ว
" อีก45วัน ถ้ายังไม่มีเงินมาชำระ10ล้านบาท คุณลินนาราจะเป็นผู้หญิงของท่านทันที และไม่ว่าคุณลินนาราจะอยู่ที่ไหน ไกลแค่ไหน ประเทศอะไรก็แล้วแต่ ท่านจะไปรับคุณลินนารากลับมา "
ทนายความบอกด้วยความสุภาพ และเดินออกจากบ้านไป พร้อมกับน้ำตาของลินนาราที่ไหลออกมาอีกครั้ง
โหดเหี้ยม
" นายครับ ลูกค้าเราโดนแทง บาดเจ็บสาหัสครับ "
เสียงลูกน้องบอกผู้จัดการ กาสิโน แล้วก็รายงานถึงบอสใหญ่โดยตรง
เควินที่กำลังยืนมองในห้องกระจก มองนักพนันนับร้อยคนด้านล่าง ที่กำลังลุ้นกันตัวโก่ง การพนันไม่มีวันทำให้ใครรวย นอกจากเจ้าของ ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำสนิทแบรนด์ดัง หันมามองลูกน้องทันที
" ลูกค้าของเรา ที่ไหน "
เพราะที่นี่มีกล้องหลายร้อยตัว มีทีมงานรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยม เสียงห้วนดุถามด้วยความสงสัย
" โรงแรมครับ เธอออกจากที่นี่ไป ได้เงินไปหลายล้าน และทางตำรวจแจ้งว่า เธอกำลังจะกลับไทย แต่เกิดเรื่องก่อน "
เควินพยักหน้าแล้วออกคำสั่งทันที
" หามันให้เจอ เราต้องได้ตัวมันก่อนตำรวจ เพราะกูจะตัดมือมันเอง "
นายใหญ่สั่งการลงมาแล้ว แน่นอนว่าชะตาชีวิตของโจรรายนี้ ต้องไม่ยืนยาวแน่นอน
เครื่องบินจอดลงที่สนามบินแล้ว ลินนาราหอบกระเป๋าลากเดินทางออกมาเพียงลำพัง แม้จะไม่เคยเรียนต่างประเทศ แต่การเรียนในโรงเรียนที่เน้นภาษาอังกฤษเป็นหลัก ทำให้สาวสวยวัย20ปี พาตัวเองมาที่โรงพยาบาล ใจกลางเมือง ได้ไม่ยาก
คุณหมอวัยกลางคน พูดคุยกับลูกสาวคนไข้ด้วยความเห็นใจเหลือเกิน ภายใต้แว่นสีดำ มีน้ำตาไหลออกมาเป็นทางตลอดการสนทนาพูดคุย แผลลึกหลายแผล ทำลายช่องท้องและอวัยวะภายในไปมาก และด้วยอายุของคนไข้ ทำให้ต้องระวังทุกอย่างให้มากขึ้น มือนุ่มของคุณหมอจับมือญาติที่เดินทางมาเพียงคนเดียว เป็นการให้กำลังใจ
" ไม่ว่าจะต้องทำยังไง จะเสียเงินเท่าไหร่ ขอแค่ให้แม่ มีลมหายใจ อยู่กับลิน ลินพร้อมจ่ายค่ะ "
น้ำเสียงมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวบอกออกมา คุณหมอพยักหน้า
" ค่ะ หมอจะสู้ไปกับคนไข้ด้วย ญาติก็ต้องสู้ไปด้วยกันนะคะ อย่าหมดกำลังใจ "
ลินนาราจับมือขาวซีดของแม่เอาไว้ แล้วบอกเสียงสั่น
" ห้ามนะแม่ ห้ามทิ้งลินไปเด็ดขาดเรามีกันสองคน แม่กับลูก ลินจะคิดว่าแม่ไปทำงาน เดี๋ยวก็มา ลินจะหาเงินเอง แม่ใช้เงินได้เลย จะเอาเท่าไหร่ ลินจะหามาให้ แต่ห้ามเด็ดขาด ห้ามทิ้งลินนะแม่"
ลินนาราปาดน้ำตาแล้วมองแม่อีกครั้งก่อนจะเดินออกจากห้องมา