บทที่ 3เจอเพื่อน
ที่ผ่านมามีหลายครั้งที่เพื่อน ๆ มาเตือนฉันให้ระวังสามีเรื่องผู้หญิง แต่ฉันกลับคิดว่าเพื่อนอิจฉา…สุดท้ายไม่เหลือเพื่อนข้างกายสักคน จะมีแค่เจต ที่นาน ๆ โทรคุยกัน…ไม่ได้หายไปเหมือนเพื่อนคนอื่น ๆ
“ไปเดินห้างดีกว่า” อะไรที่จำเป็นฉันจะซื้อมาไว้…แล้วหลังจากพรุ่งนี้ ถ้าเขาไม่หย่าให้ นวลพรรณคนนี้มีอีกวิธีที่เอาคืนสามีแบบที่เขากระอักเลือดละกัน
คุณตาบอกว่าที่ที่จะไปนั้นเป็นยุคสมัยที่ความเจริญเข้าไม่ถึง…ชาวบ้านเกือบทั้งหมดประกอบอาชีพรับจ้างทำนา หรือเก็บของป่าไปขาย เธอนึกถึงสภาพบ้านของ 4 พ่อลูก ก็คิดออกทันทีว่าจะซื้ออะไรบ้าง
วันหยุดเสาร์อาทิตย์ รถราติดยาวเหยียด หญิงสาวเอาโทรศัพท์ขึ้นมาจดของที่จะซื้อ ระหว่างนั้นก็ดูไฟจราจรไปด้วย …
“พี่กรณ์ คุณนวลว่ายังไงบ้างคะ” หลังจากที่นวลพรรณออกไปแล้ว ปกรณ์ขึ้นไปหาภีรนีย์ ภรรยาคนที่สองชื่อเล่นว่าพีช คนที่เขาส่งเสียเธอเรียนจบปริญญาตรีไม่นานมานี้ ก่อนหน้านั้นพีช ออกจากมหาวิทยาลัยเพราะตั้งท้องลูกเขา
“เธอจะขอหย่ากับพี่…เรื่องนี้พีชอย่ายุ่งดีกว่า ให้พี่จะจัดการเอง” ภีรนีย์ยิ้มหวานให้สามี แต่ในใจภาวนาเช้าเย็น ขอให้ทั้งคู่หย่ากันโดยเร็ว หรือเธอจะทำให้การหย่าเร็วขึ้นนะ
ถ้าภีรนีย์รู้สักนิดว่า สามีกำลังจะล้มละลาย เธอจะขัดขวางการหย่าครั้งนี้ แต่เธอไม่รู้ คิดว่าหลังจากหย่า ทุกอย่างจะเป็นของเธอ เพราะเธอมีลูกชายให้ปกรณ์
การเดินห้างที่มีเป้าหมายมันสนุกอย่างนี้นี่เอง นวลพรรณใช้เวลาในห้างใหญ่ทั้งหมด 2 ชั่วโมง ของที่คิดว่าจำเป็นและมีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตที่ไม่มีแม้กระทั่งไฟฟ้าและน้ำมัน
เธอซื้อของตามที่จดไว้ ระหว่างเดินเห็นบางอย่างที่ไม่ได้จดไว้ ก็หยิบมาใส่ตะกร้าด้วย เมื่อเต็มรถเข็น ก็ไปจอดไว้ แล้วไปเอารถเข็นคันใหม่ จนเมื่อมีพนักงานผู้หญิงและผู้ชายเดินมาช่วยเธอเข็นรถ
“ขอบใจน้อง พี่จะไปจ่ายเงินแล้ว” ทั้งสองมาเข็นรถของเธอไปต่อแถวที่ 1 ที่ยังว่างอยู่ ส่วนอีกคนมาถามเธอว่า
“รถเข็นรอจ่ายแถวนั้นของคุณผู้หญิงใช่ไหมคะ” เธอพยักหน้าให้ จากนั้นน้องผู้หญิงเรียกเพื่อนมา เพื่อนำรถเข็นไปต่อแถวช่องที่ 1 รถเข็นเกือบ 20 กว่าคัน เป็นของเธอคนเดียว
“มึง ดูพี่สาวคนสวยนั้นสิ ซื้อของเยอะขนาดนี้ เหมือนพรุ่งนี้ห้างจะปิดบริการไปหลายเดือน อิ อิ อิ”
“ฉันว่าพี่สาวคนสวยต้องนำของที่ซื้อมาไปบริจาคแน่นอน ดูสิ มีของใช้ที่จำเป็นทั้งนั้น”
“ก็จริงของมึง…” ช่องจ่ายเงินที่ 2 เป็นวัยรุ่นที่มาซื้อของ การนินทาหรือถูกพูดถึงแบบระยะเผาขน นวลพรรณไม่ชอบเท่าไร แต่เธอจะให้อภัยเพราะน้อง ๆ สองคนนี้เรียกเธอว่าพี่สาวคนสวย…
บัตรเครดิตถูกรูดไป พร้อมกับใบเสร็จที่เธอต้องเซ็น จากนั้นน้อง ๆ10กว่าคนอาสาเข็นรถไปให้ที่ลานเจอรถชั้น 14 เธอยินดีให้ทิปพวกเขาคนละ 500 บาท บอกว่าที่เหลือจะมีคนที่บ้านมาขน ให้พวกเขากลับเข้าไปข้างในได้
นวลพรรณเข้ามานั่งในรถฟอร์จูนเนอร์สีขาว จากนั้นแตะไปที่ของ แค่คิดว่าย้ายเข้ามาในแหวน ของทุกอย่างหายวาบ เหมือนไม่มีอะไรอยู่ในรถ หญิงสาวไม่แน่ใจ จึงตั้งจิตเข้าไปดูในกำไลมิติ เห็นว่าของทุกอย่างเข้าไปอยู่ข้างในแล้ว
จากนั้นลงไปเปิดท้ายรถ นำของที่อยู่ในตะกร้าใส่รถ ระหว่างนั้นมองซ้ายมองขวาไม่เห็นใคร ก็เก็บเข้ามิติ สรุปของที่ซื้อตอนนี้ถูกเก็บในกำไลมิติหมดแล้ว
“สวัสดีเจต…นี่ฉันนวลนะ” หลังจากที่ออกจากห้างดัง นวลพรรณมีเรื่องจะปรึกษาเพื่อนชายคนเดียวที่ยังติดต่อกันอยู่
เธอแวะร้านกาแฟใกล้คอนโดเจต…เขากับคนรักทำงานที่สำนักงานเขตแห่งหนึ่งในกรุงเทพ
“ฮะ…นวล!!!วันนี้หิมะตกหรือเปล่าพี่ธัน…คุณนายนวลโทรหาผม” เสียงดีใจปนตกใจของเจตที่ไม่เชื่อว่าเธอจะโทรมา พร้อมกับหันไปถามพี่ธัน หนุ่มใหญ่รับราชการที่สำนักเขตที่เดียวกับเจต
เธอจำได้ดี สมัยเรียนพี่ธันมักจะพาพวกเธอไปเลี้ยงข้าวบ่อย ๆ แต่กาลเวลาคนรอบข้างเธอหายไปหมด เพราะเธอเลือกแฟนก่อนเพื่อน
“ลองปิดแอร์ดูไหมละ…แล้วนี่จะให้นวลรอสายเราไปถึงไหน”
“อุ้ย…ขอออกไปคุยข้างนอกนะครับพี่ธัน…คุณนายนวล…เดี๋ยวก่อน…ให้ฉันนับก่อน ว่าหล่อนไม่ได้โทรหาฉันกี่ปีแล้ว” ธันพยักหน้าให้คนรัก แล้วหันมาสนใจหนังสือพิมพ์รายวันที่อยู่ในมือ
“เวอร์ไปแล้วเจต…ตอนนี้ฉันอยู่ข้าง ๆ คอนโดแก…ถ้าว่างออกมาคุยกันหน่อยไหม…หรือจะให้ฉันขออนุญาตพี่ธันสุดหล่อ”
“ไม่ต้องย่ะ…แกรอฉันแป๊บนึง…พี่ธัน เจตขอออกไปหานวลที่ร้านกาแฟข้าง ๆนี่นะครับ” เสียงปลายสายบอกให้เจตไปได้ ใครจะไปรู้ว่าชายหนุ่มหล่อหน้าตาดี เท่ การแต่งกายเนี้ยบ ท่าทางสุขุม แต่อยู่ต่อหน้าเธอจะหลุดกิริยาที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของเขา