Don't call me Baby! Chapter 1.2

2865 Words
“แม่มึงเอ้ย ไผวะ มึงอยู่ ม.หยัง” เสียงตวาดดังออกมา ขอโทษคิดว่ากูจะกลัวรึไง รู้จัก อุ่น อุรดิศ น้อยไปซะแล้ว “เดี๋ยวบอก ฉี่ก่อนได้ป่าว นายนะนะ” แหะๆ ผมไม่ใช่นักเลงนี่นาปวดฉี่ด้วยล่ะ “มึงฮู้จักชื่อกูได้จั่งได๋วะ” ผ่างประตูเปิดออก โว๊ะ ไอ้นี่ตัวสูงใช้ได้ น่าจะประมาณโจ้เลยนะ หน้าตานี่เถื่อนดิบน่ากลัวมากผิวดำจนแดง “เฮ้ย มึงมาจากโรงเรียนหยังวะ” มันทำท่าตื่นเต้นครับ ขอโทษอีกที กูไม่มีเวลา ผมรีบจับแขนมัน แล้วเหวี่ยงไปอีกทางครับก็จะราดอยู่แล้ว “เข้ามาทำไม” ไอ้เชี่ยนี่มันตามผมเข้ามาสิครับ ผมร้องลั่นเลยงัดออกมาแล้ว ฉี่แล้วด้วยอั้นไม่อยู่แล้ว “ก็กูถาม ทำไมมึงไม่ตอบ” ปากมันยังคาบบุหรี่อยู่เลยนะครับ มันตบหลังผมแรงๆ แสรด รู้ไหมเนี่ยว่ากูฉี่อยู่นะเว้ย เดี๋ยวหันไปฉี่ใส่แม่งเลยนี่ “ฉี่ก่อนได้ป่ะ” ผมตอบเสียงเบาๆ มันเหมือนจะหยุดฉี่ไปเลยอ่ะ โหยไอ้นี่เดี๋ยวเถอะมึง “อ้อเด็กเทพฯนี่เอง แสดงว่ากูต้องพูดภาษากลางกะมึงดิ มึงเว้าอีสานบ่เป็นบ่ หรือว่ามึงกระแดะ สัด” อ้าวด่าตัวเองทำไมวะเนี่ย เอ้อนะแปลกคนไอ้นี่ “ว่าไง มีไรจะถาม เออเรามาจากกรุงเทพฯ นายจะพูดอีสานก็ได้นะเราพอฟังรู้เรื่อง ไม่ได้กระแดะ แต่พูดไม่เป็น ถอยจะล้างมือ” ผมทำหน้าเซ็งๆ แล้วดันตัวมันออกไปจากทางครับ “ป๊าด กล้าเนาะมึง ปึ๊ก” “โอ๊ย” เอ่อ มันผลักหลังผมครับท่าน ผมนี่เซไปข้างหน้าทันที ดีนะมีอ่างผมเลยเอามือยันไว้ทัน โหยๆหน้ากูกระแทกพื้นมามึงตายแน่ ไอ้หน้าเอี้ย “ทำไร” ผมหันกลับมาทำตาใหญ่ใส่มัน” “ผลักมึงดิ มึงรู้ไหมกูเป็นใคร” อ้าวควายแล้ว ตัวเองยังไม่รู้จักว่าตัวเองเป็นใคร แล้วใครจะไปรู้กับมึงไอ้เวรเอ้ย ผมเริ่มโมโหล่ะครับ “เออไม่รู้ แล้วมาผลักทำไม ใหญ่เหรอ” อันนี้คิดครับ อิอิ “ก็ไม่ได้ว่าไร” แหะๆ อันนี้พูดจริง ก็แหมนะ พอไอ้นี่มันโวยวายเพื่อนๆ มัน ที่สิงอยู่ในห้องน้ำก็โผล่ออกมา เอ่อ ขอบอกว่านี่มันโจรหรือว่านักเรียนวะเนี่ย ผมก็ยาวผิดกฎแน่ๆเท่าที่มองดู หน้าตานี่เหมือนพวกในข่าวหน้าหนึ่งที่ฆ่าข่มขืน เฮ้ย “ท่าทางแน่นี่มึงน่ะ ไหนมึงมาจากไหน” มันเดินตรงเข้ามาหาผมครับหน้าตาเอาเรื่องมากๆ “มาจาก เอ่อ อ้าวสวัสดีครับ ผอ.” ใครบอกผมเรียนไม่เก่ง เออ จริงครับผมน่ะเรียนไม่เก่งหรอกนะ แต่เรื่องแบบนี้ผมล่ะคิดว่าผมเก่ง อิอิ วิ่งสิครับท่านจะรอให้พวกมันกระทืบเหรอ “เฮ้ย สู เอามันมาย่อง” โว้ ดูมันขู่ร้องตามมาครับ ผมตัวเล็กผมเลยวิ่งเร็ว วิ่งแบบว่าไม่หันหลังกลับ วิ่งไปไหนต่อไหน ที่ไหนวะเนี่ย โว้ย วันนี้กูจะเจออะไรบ้างวะ นี่มันวันอะไรก็ไม่รู้ซวยเป็นบ้าเลย “แฮ่กๆ” ผมไปทรุดตัวลงจับเข่าตัวเอง อยู่ข้างๆสนามบาสฯครับ นี่มันโรงยิมหรือช็อปช่าง อะไรสักอย่างผมไม่แน่ใจ “หนีไผมาน้อง” เอ่อ ให้กูหายใจก่อนได้ป่ะค่อยถาม อะไรวะทำไมมาวุ่นวายวอแวกับกูจังเลย ไอ้คนพวกนี้ หันไปด่ามันเลยดีไหมเนี่ย “อ่า แฮ่ก อ่า” อึ้งสิครับ พระเจ้า หล่อมาก หล่อกระซวก หล่อโฮก จะโฮกไปไหนครับท่าน “อ้าว บ่แม่นเด็กโรงเรียนเฮานี่” เขาทำท่าทางตกใจ “แม่นๆ แฮ่กๆ แม่นๆ ผมเป็น ผมเป็น” ผมหอบนะมากด้วยแต่อยากพูดอ่ะ อยากคุยกับเขา อยากรู้จัก แรดไปไหมเนี่ยกู แต่ไม่รู้ล่ะไวก็ได้ ช้าก็อาจจะได้แต่เมื่อไหร่ล่ะ โว๊ะกู “อ้าวคนกรุงเทพฯนี่ พักก่อนน้องค่อยพูด พี่รอได้” พี่ด้วยอ่ะ โอ๊ย เขินแสดงว่าหน้าผมอ่อนกว่าวัยแน่ๆ โอ๊ยพี่อ่ะจะหล่อไปไหน น่ารักอีกต่างหาก “อ่า ครับพี่ ผมชื่อ อุ่นครับ เพิ่งย้ายมาจากกรุงเทพฯ มาวันนี้” พอเริ่มหายใจได้ผมก็ใส่เป็นชุดไม่ได้ๆ โอกาสมีไม่มากต้องรีบๆ “อ้อครับ ไม่ยักรู้” เขายิ้ม ให้ตายเถอะยิ่งยิ้มยิ่งปวดใจ โอ๊ยนะพี่จ๋าไม่ไหวแล้วน้า “พี่ไม่มีชื่อเหรอ” อิอิ ผมอยากรู้อ่ะ “อ้อครับ พี่ชื่อขอมครับ เป็นประธานนักเรียน” อ้าปากค้างก่อนจะค่อยๆกลืนน้ำลาย คุณคือผู้ชนะ ไม่ต้องจีบใครแล้วล่ะกู เอาคนนี้ล่ะ โว๊ะ แล้วโจ้ล่ะ ไม่ๆ โจ้คือตัวจริงส่วนพี่เขา ชื่อไรนะ ขอมเป็นอ่า อะไรดีเป็นคนรู้ใจอะไรประมาณนั้น อิอิ “อ้อ ครับ” ผมตอบออกไปยิ้มให้เขา “ไม่เรียนเหรอเรา หรือว่าหาห้องไม่เจอ” “เรียนพี่ ผมเอ่อผมจำไม่ได้อ่ะ พี่พาไปหน่อย” อิอิ นิดนึงน่าเนอะ ขอหน่อยเถอะ ไม่ได้บริหารเสน่ห์มานานมากแล้วตั้งแต่คบกับโจ้ “พี่ไม่ว่างอ่ะดิ พี่กำลังจะเข้าประชุม” ถอนหายใจ บริหารเสน่ห์ของผมได้ผลสรปุว่า ล้มเหลวครับท่าน ฮึ กูไม่น่ามองตรงไหนวะเนี่ย “อ๊ะๆ เดี๋ยวพาไปก็ได้ อยู่ทับไหน” อิอิ ไม่จริงครับ แสดงว่ายังมีอะไรในตัวอยู่ ยิ้มหน่อยๆ “ทับทรวง” อิอิ อยากตอบแบบนี้แต่ดูไม่ดีเท่าไหร่ ดูแก่แดดไปเดี๋ยวพี่ เขาจะมองผมไม่ดีไม่เอาหรอก “อ่า นั่นดิ ผมลืมเลยอ่ะพี่ อ่าทำไงๆ” “ฮ่าๆ ไหวไหมเนี่ย” พระเจ้าเขาหัวเราะยิ่งหล่อ โว๊ยพี่ ผมคิดว่าผมชอบพี่อ่ะ อยากบอกจังเลย เคยเจอไหม รักแรกพบ โว๊ะ เร็วไปไหมกู “ทำไมอ่ะ ผมจำไม่ได้จริงๆนะครับพี่ ผมวิ่งลงมา ห้องมันอยู่ตรงมุม ชั้นไหนหว่า” ผมทำท่าคิด ไม่ได้ทำท่าหรอก จำไม่ได้จริงๆก็ใครจะไปจำได้เนอะ เวลาเดินขึ้นก็ก้มหน้านี่นา ผมก็ยืนมองหน้าเขา พยายามส่งสายตาขอความเห็นใจออกไปมากที่สุดล่ะครับ “เดี๋ยวพี่พาไป ป่ะ แต่ต้องรีบหน่อยนะ เขาจะเข้าห้องประชุมอยู่แล้ว” สำเร็จ ผมยิ้มออกมา อยากจะกระโดดกอดพี่เขามากเลยนะ พี่ขอม เออคนอะไรวะชื่อขอม ประหลาดแต่ขอบอกว่าเท่มาก ชื่อขอมต่อไปเถอะ อย่าหยุดเท่เลยขอร้องผมมีความสุขแล้ว พี่ขอมเดินนำผมไปครับ ผ่านโรงยิมไปแล้วก็เป็นอาคารเรียน เฮ้ย ไอ้พวกนั้นมันยืนจ้องผมตาเขียวอยู่ตรงใต้ตึกเรียนครับ “เป็นหยังบ่ไปเรียน มาเฮ็ดหยังอยู่แถวนี้” พี่ขอมตวาดออกไปครับ พวกนั้นหน้าซีดกันทุกคน ยกเว้นไอ้คนที่มีเรื่องกับผม “อย่าเสือก บ่แม่นเรื่องของอ้าย” เอ่อ ไอ้นั่นมันพูดออกมาครับ พี่ขอมทำท่าขึงขังใส่ แต่ไอ้นั่นมันกลัวที่ไหนล่ะ มันจับแขนเสื้อมันขึ้นแล้ว “อย่าไปยุ่งกับพวกนี้นะ นักเลง ดีแต่เรียนเก่ง แต่นิสัยไม่ดีอย่าไปยุ่งนะ” พี่เขาหันมาบอกผมครับ ครับผมเชื่อพี่เลยเชื่อทั้งใจ “มึงน่ะ กูมีเรื่องจะคุยนะ” มันเรียกใครไม่สนใจเดินตามหลังพี่เขาไปครับ “เฮ้ย มึงน่ะอยากโดนเตะใช่ไหมวะ” ยังอีก ยังแหกปากตะโกนอยู่ได้ ดีแต่แหกปากหรือไงนะ “มีหยังกัน อย่ามาวอแวกับนักเรียนใหม่นะบักเดี๋ยว” พี่ขอมหันมาทำตาดุใส่มันครับ เท่จังพี่ เท่มากๆ “อ้อ นี่มึงเป็นนักเรียนใหม่เหรอ วอนโดนตีนซะแล้วนะมึง ไอ้หน้าจืด” ว่าพี่เขาอีกแล้ว ไอ้นี่ เขาเป็นประธานนักเรียนนะเว้ยมึง มึงนั่นล่ะวอน หนอยแน่ เดี๋ยวกูเตะก้านคอเลยนี่ อิอิ “ไม่มีอะไรกันนะพี่ ผมไม่รู้จักเขา” ผมตอบออกไป แล้วเดินตามหลังพี่เขาไปล่ะครับ พอเดินไปหน่อย ผมก็เอามือขวาปล่อยลงข้างตัวแล้วเอามาทำท่าจับก้น แต่ก็งอนิ้วทั้งสี่ขึ้น กำให้เหลือนิ้วเดียวชูลงข้างล่าง “สัด ไอ้เชี่ยนี่มึงด่ากูเหรอ” มันวิ่งตามทันทีครับ “หยุดนะบักเดี๋ยว มึงเป็นอีหยัง มายุ่งกับน้องเขาเฮ็ดหยัง ว่างหลายบ่มีเรียนบ่ เดี๋ยวจะให้ไปล้างห้องน้ำ มึงสิเอาจั่งได๋” พี่ขอมเขาหันมาขู่มันครับ ผมทำท่ากลัว โหยนะกลัวตายล่ะ แต่ก็นะ อิอิ ไปแอบอยู่หลังพี่เขาดีกว่า ก็ไอ้บ้านี่มันตัวยังกะยักษ์ ไม่ไหวหรอกครับผม เราต้องใช้สมองที่มีให้เป็นประโยชน์ เออๆ ถึงจะเรียนไม่เก่งก็ตามทีเถอะ ใครจะทำไมไม่ทราบ “เราขึ้นไปเองได้ไหมครับ พี่จะจัดการกับไอ้นี่ก่อน เดินขึ้นไปบนตึกชั้นสามนะ ห้องมุมสุด” อ้าว โว้ยเพราะมึงคนเดียว โมโห ไอ้บ้านี่มาขัดขวาง กำลังว่าจะขอเบอร์อยู่เชียว โว้ย เออๆ ไปก็ได้วะ ผมทำหน้าหงิกแล้วเดินขึ้นตึกไปล่ะครับ เออ จะว่าไป โรงเรียนนี้มันก็เด็กนักเรียนเยอะเหมือนกันนะ พวกมันไม่เรียนกันหรือไงนะ เดินกันยั้วเยี๊ยะไปหมด เริ่มเวียนหัวล่ะก็จะอะไรล่ะครับ ก็ตอนเดินขึ้น มันเล่นแซวผมซะนี่สิ เออๆก็แปลกตา แต่แหมนะ เกรงใจกูหน่อยเถ๊อะ ไม่กลัวกูจะเขินจะอายบ้างหรือไงนะ “ขออนุญาตครับ” ผมเปล่งเสียงออกไป ก่อนเข้าห้อง ก็เจ๊คนเมื่อกี๊ยังยืนเหมือนจะเด่นอยู่หน้าห้องเลยนี่ครับ “ไปนานจังนะคะ แหมไปเข้าห้องน้ำที่ไหนเนี่ย แอบไปบิ๊กซีมารึเปล่า” หือมีห้างด้วยเหรอ แว้กก ดีมาก ดีเลยเลิกเรียนกูจะได้ไปเดินหาไรกิน แหมไม่คิดเลยนะ ว่าที่นี่จะมีห้าง ถึงจะบิ๊กซีก็ตามทีเถอะวะ อย่างน้อยก็ยังดี “เพื่อนเขาเรียนไปไกลแล้วนะ ภานุพงศ์บอกเพื่อนซิว่าเราเรียนกันถึงไหน” พอผมไม่สนใจ เดินเลยมาที่โต๊ะ เจ๊แกก็บอกไอ้ดำนี่ล่ะครับ “เรียนถึงเวกเตอร์หน้า ๔๖” หือ คืออะไรนี่มันวิชาอะไรกันวะต้องเรียนด้วยเหรอ อะไรเวกเตอร์ เอ๊ะหรือว่าจะเป็นภาษาใหม่เหรอ ผมหันไปมองหน้ามันงงๆ “ฟิสิกส์” อื้ม อ้อ เฮ้ย แว้กก อะไรอ่ะ ทำไมบ้านนอกขนาดนี้ต้องเรียนฟิสิกส์ด้วยจะเรียนไปทำไมกัน โอ๊ย อุตส่าห์หนีมาแล้วนะ ทำไมกันวะ ใครนะคิด หลักสูตรเกลียดๆๆๆๆ “โตบ่ได้เอาหนังสือมาติ๊” มันถามครับ ผมรีบพยักหน้าทันทีอย่างรวดเร็ว “อ่ะ เบิ่งกับเฮา” จะมาใจดีอะไรตอนนี้ กูไม่มีหนังสือก็ไม่ต้องให้เรียนสิวะ ไม่เอาอ่ะ ไม่อยากดู เวียนหัวขึ้นมาทันที “ไหน ลองความรู้จากเด็กในเมืองหน่อยซิ ครูเคยไปกรุงเทพฯเขามีติวฟิสิกส์กันด้วยนะคะ เธอน่ะเคยไปติวหรือเปล่า” ใครวะนักเรียนใหม่ ใคร๊ ไม่มี๊ ตายล่ะสิทำไมต้องมองมาที่กูคนเดียวแบบนั้นวะ “เอ่อ คือผมไม่ถนัดวิชานี้ครับ ถ้าเป็นเคมีก็ว่าไปอย่าง” เอาวะแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน ไม่มีทางไอ้แอ้มหรอกนะเจ๊ คนอย่างอุรดิศไม่มีทางหลงกลหรอก วะฮ่าๆๆ “อุ๊ย เก่งเคมีด้วย พอดีเลย อาจารย์บุญมีกำลังหาเด็กไปแข่งทักษะเดี๋ยว ครูฝากให้นะ” หือ อะไรนะ พูดอะไรอ่ะเจ๊ ไม่ค่อยได้ยินเลย แว้กก ตายๆเหงื่อตกเลย ทำไงดีๆ “คาบต่อไปนี่ล่ะเคมีน่ะ” ไอ้ดำมันตอกย้ำครับ หา มึงว่าไงนะ แงๆ แม่จ๋าไม่เอาเค้าไม่อยากเรียน เค้าอยากกลับบ้าน โอ๊ย เป็นลมดีไหมเนี่ย ไม่ดีนะไม่ดี “โตไหวบ่หน้าซีดแท้” ไอ้ดำมันถามครับ ไม่ไหวกูไม่ไหว “เมื่อไหร่จะกินข้าวเหรอ” ผมถามมันครับมันยิ้มทันที อุ๊ย แอบหล่อนะมึง เสียดายดำไปหน่อย “เบิ่งหยัง มีหยังติดแข้วเฮาติ๊” “เปล่า ทำไมอ่ะ คุยกะนายไม่มองหน้าให้มองจู๋เหรอ” “เฮ้ยบ่ดีๆ ของเฮาขึ้นง่าย อย่าเบิ่งมันสิขึ้น” หือแปลว่าไงวะเนี่ย มองสิครับ อิอิมองทันทีทันใด “นั่นบ่เอาๆ” “นี่เธอสองคนน่ะ คุยอะไรกัน เดี๋ยวค่อยสานสัมพันธ์ได้ไหมคะครูสอนอยู่นะ มารยาทน่ะสะกดเป็นไหม” เจ๊หน้าห้องแกแว้ดเสียงขึ้นครับ สะกดเป็นสิเธอ ง่ายจะตาย มา ระ ยาด จบป่ะ อิอิ ผมแอบยิ้มในใจหนอยกะอีแค่ภาษาไทย คำบ้านๆใครสะกดไม่ถูกก็โง่เต็มที “นายสะกดถูกป่ะ” ผมแอบกระซิบถามมันครับ “เป็นตั้ว ง่ายกะด้อ” มันยักคิ้วใส่ผม “ไหนเขียนซิ” ผมแอบแกล้งถามมัน มันก็เขียนคำว่า “มารยาท” หือ ฮ่าๆ ไอ้บ้า สอบที่ไหนก็ตกเว้ย ตลกล่ะนี่ล่ะนะ เล่นเอ็มเยอะเลยโง่ “บ้าเหรอ เขาเขียนแบบนี้ นายอย่าไปเขียนให้ใครดูนะ อายเขา ไปสอบ ก็ตกนะเนี่ย” ผมพูดอย่างมั่นใจแล้วก็เขียนคำว่า มาระยาด ตัวใหญ่ๆ เหนือตัวหนังสือที่มันเขียน เผื่อมันจะคัดลายมือลอกผมไง อิอิ “เฮ้ย บ้าแล้ว บ่แม่นๆ” “แม่น จั่งซี้ล่ะนาย” ผมล้อเลียนมันครับ ทำหน้าแบบมั่นใจมากๆใส่มัน มันก็ทำหน้าเหวอเหมือนคนสูญเสียความมั่นใจไป “บ่แม่นต้องเขียนจั่งซี้” “แม่น นายนั่นล่ะบ่อแม่น” ผมก็ไม่ยอมสิ เออนะ ยังจะมาเถียง รู้ไหมค่าเทอมกูเท่าไหร่ที่กรุงเทพฯน่ะ อย่านะมึง อย่าๆ ขอร้องอย่าแสดงความเขลาออกมาให้กูเห็นขำว่ะ “บ่แม่นทั้งสองคน ออกไปยืนหน้าห้อง อุษนีเอาไม้บรรทัดให้สองคนนี้คาบด้วย ยืนขาเดียว ตอนนี้ จะแม่นก็ไปแม่นข้างนอก” หือ เจ๊แกเดินมาตรงโต๊ะของเราครับ หมายถึงมันหรือผม หรือว่าเราสองคนวะเนี่ย เสียงเพื่อนๆในห้องหัวเราะกันเกรียวกราวชอบใจ เอ่อ นับเป็นประสบการณ์ใหม่ ผมไม่ผิด อะไรอ่ะเจ๊ก็แค่มันเขียนไม่ถูกแล้วผมสอนมันอะไรอ่า “เห็นบ่ย้อนเจ้าผู้เดียว มาเถียงเฮา” ไอ้ดำมันบ่นครับ “อะไร ก็นายเขียนไม่ถูกอ่ะ เราก็บอกที่มันถูก ผิดตรงไหนไม่ยุติธรรมนะ” ผมก็ไม่ยอมสิครับ อะไรกัน แต่ก็นะ สรุปก็คือ ผมกับมันก็ไปยืนขาเดียวคาบไม้บรรทัด เอ่อ คือว่าห้องมุมก็จริงนะ แต่มันตรงระเบียงนี่ คนเดินก็อย่างที่บอก ว่าเด็กนักเรียนโรงเรียนนี้ มันไม่ได้น้อยเลยนะและตึกนี้ก็มีแต่ ม.ปลาย แว้กก “สมน้ำหน้า” เสียงคนพูดขึ้นข้างๆครับ ผมหันไปปรายตามองไม่ได้สนใจมาก อ่าไอ้ยักษ์เมื่อกี๊ มันมายืนกอดอกดูเรา “ฮึ” ผมสะบัดหน้ากลับไม่สนใจมัน แต่มันเดินเข้ามาใกล้ เอ๊ะหรือว่ามันเป็นเพื่อนสนิทกับไอ้ดำนี่วะ โว้ย อย่ามาใกล้กูมากกูเหม็น “เป็นไงล่ะ มาวันแรกก็โดนทำโทษ แน่เหมือนกันนี่มึงน่ะ ฮ่าๆๆ” มันหัวเราะครับ อ้าวมาจี้เอวผมอีก แสรดด นี่แน่ะ ดีดเท้าออกไปเลยสิครับเข้าหน้าขามัน “โอ๊ย ถีบกูเหรอมึง” มันกระโจนเข้ามาหาผมครับ ผมก็เอาขาลงสิจะยืนขาเดียวเพื่อ พอเอาลงเสร็จก็กระโดดหนี “จารย์บักเดี๋ยวมันมากวน” ไอ้ดำมันร้องขึ้นครับ “อะไร มากวนอะไร ไปให้พ้นนะไอ้เดี๋ยว ไม่งั้นมึงเจอดีแน่” โอ้พระเจ้า เสียงนั้นเหมือนกับเสียงนางพญาเสือดาว ดังคำรามออกมา พร้อมกับเจ้าตัวที่ เอ่อ พอตัวมายืนท้าวสะเอวอยู่นั้น มันช่างแตกต่างกับเสียงที่เปล่งออกมาเสียเหลือเกิน ไอ้ยักษ์นี่ ท่าทางจะกลัวอาจารย์อยู่ไม่น้อยครับมันกัดฟันแล้วชี้หน้าผม ชี้เลย เอาสิยังไงหน้ากูก็ไม่ติดไปกะนิ้วมึงหรอกนะเว้ย ฮ่าๆ สมน้ำหน้ากูเหรอ เป็นไงล่ะ มันยอมเดินหนีไปแล้ว ส่วนผมก็ยืนขาเดียวคาบไม้บรรทัดต่อไป ไม่อยากจะเชื่อว่าการทำโทษบ้านนอกจริงๆ อายคนก็อาย โว้ยย อะไรวะ ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD