You're my Baby!! Chapter 4.1

2853 Words
ให้ตายเถอะครับ ผมไม่ได้หัวเราะแบบนี้มานานมากๆแล้วนะ มาดูเอาเองเถอะหน้าไอ้เชี่ยนี่มันแบบว่าเอ๋อไปเลย ฮ่าๆ โอ๊ย มีความสุขจังวะ หนอยๆ ตอนแรกทำเถียงนะ มันอายแก้มแดงไปเลยครับ สรุปว่า ผมยืนหัวเราะมันจนเหนื่อยล่ะครับท่าน เว้ย มันมีความสุขจริงๆนะเนี่ย ไ*****อนี่นอกจากจะหน้ามึน ไม่กลัวอิทธิพลมืดของผมแล้ว มันยังเอ๋อเชี่ยๆไปเลย เวลาอายก็เหมือนจะเถียงในใจนะ แต่ไม่พูดแต่แก้มมันแดงๆดีนะผมชอบ เฮ้ย ไม่ชอบๆ ก็คนมันแก้มแดงใครเห็นก็มองล่ะวะ หรือว่าไม่จริง เถียงดิเดี๋ยวจะสอยให้             “จารย์ครับ วันนี้วันศุกร์ใช่ไหม” ฮ่าๆ พอเข้ามาถึงโรงเรียน เอ่อ คือพ่อกูก็ให้ไปยืนรอทำโทษอยู่ท้ายแถวล่ะครับ ไ*****อนี่มีหน้าไปถามพ่อกูอีกนะ ฮ่าๆ ผมอมยิ้มขึ้นมาทันที             “หือ นอนดึกหรือเปล่าเราน่ะ วันนี้วันพฤหัสฯนะ” “ฮ่าๆๆ” ไม่ไหวแล้วเว้ย แม่งเอ้ย ผมปล่อยก๊ากออกไปทันทีครับ มันทำหน้าแบบว่าผิดหวัง โอยๆ ไม่มีทีจะยืนแล้วกู             “อะไรบักเดี๋ยว หัวเราะเพื่อนทำไม” อ้าวพ่อกูอย่าๆ ตัวเองก็ยิ้มเถอะพ่อ             “ฮ่าๆ ฮ่วย แม่นเพิ่นนอนบ่กลับหมอนบ่น้อจารย์” ผมได้ทีครับ มันค้อนผมทันที             “แล้วนี่ เราหอบกระเป๋าอะไรมาเยอะแยะอุรดิศ อย่าบอกนะว่า” ฮ่าๆ พ่อกูนี่ก็นะอมยิ้มนะ เหมือนจะรู้แต่ก็ถามมัน             “อ้อ อ่า คือว่าผมเอามาเผื่อคาบพละไงครับจารย์ คือผมยังไม่มีชุดพละ” แถๆนะมึง ฮ่าๆ โอ๊ยยังไงก็ไม่เหมือน ผมนี่นั่งลงเลยครับไม่ไหวจริงๆ หัวเราะจนน้ำตาไหล             “บักเดี๋ยว หัวเราะเพื่อนนะมึง อ้าวเหรอ ดีๆ แต่ทำไมแก้มแดงๆ เหนื่อยเหรอ หรือว่าร้อน จะเหนื่อยจะร้อนยังไง ก็ต้องโดนทำโทษนะอุรดิศ โทษที่เรามาสาย มึงด้วยบักเดี๋ยว” อ้าวนะ รู้เว้ยพ่อ ต่อให้วิ่งรอบสนามบอลสักสิบรอบก็ไหววะวันนี้ มันมีความสุขจริงๆให้ตายเถอะ             “แต่เห็นว่าเราเพิ่งมา ครูจะให้วิ่งแค่รอบเสาธงก็พอ วันหลังรีบออกจาก บ้านหน่อยสิ บ้านก็อยู่แค่นี้เองไม่ใช่เหรอ” นั่นๆครับ สายตามันเหมือนตอบโต้อะไรสักอย่าง มันก้มหน้าล่ะครับแต่ผมนั่งไงผมเลยเห็น             “แต่มึงบักเดี๋ยว โน่นสนามบอล มาสายรายวันนะมึงน่ะ วันนี้ห้ารอบพอเสร็จแล้วไปหากูที่ห้อง”             “อ้าว บ่ยุติธรรมเด้อจารย์มันมากับผมเด้ เป็นหยังมันได้แล่นรอบเสาธง”             “ฮ่วย หรือมึงจะเอาสิบรอบ อย่ามาเถียง” เอ่อ พ่อผมตวาดใส่ครับ แต่กลัวที่ไหนล่ะ             “แล้วมีหยัง” ผมถามพ่อไปล่ะครับ             “เรื่องจะไปแข่งบอลที่อุบลฯ เขาเลื่อนขึ้นมาเป็นวันพุธหน้า” ว้าว เลื่อนขึ้นมา ดีๆผมจะได้ไปสีสาวๆที่นารีฯ อิอิ ดีใจเว้ย วันนี้มันโชคสองชั้นจริงๆนะเนี่ย ได้หัวเราะแต่เช้า แล้วก็จะได้ไปสีหญิงอาทิตย์หน้า พออาจารย์ปล่อยแถว พวกที่มาสายก็โดนทำโทษตามธรรมเนียมล่ะครับ คือโรงเรียนผมน่ะ มีนักเรียนสี่พันกว่าคนนะครับ มาสายก็ไม่ได้มีแต่ผมกับไอ้หน้าจืดนั่นสองคนหรอกนะ เกือบร้อยได้มั้ง ฮ่าๆ เป็นเรื่องปกติล่ะครับท่าน มีเด็กนักเรียนบางพวก ที่ไม่ยอมเข้ามาโรงเรียนก็มี พวกมันจะชอบเข้าทางรั้วหลังโรงเรียน เพราะมันเป็นรั้วหนามไม่ใช่กำแพง เออนะ ทำไมกูไม่เข้าทางนั้นวะเนี่ย ไม่เดีๆ นักเลงโตอย่างผมไม่มีทางทำอะไรลับหลังใครเว้ย มาให้เห็นโต้งๆแบบนี้ล่ะ             “อ้าวนี่ชุดใหม่ของมึง” พอผมเดินหอบเข้าไปในห้องปกครอง พ่อผมก็โยนถุงกระดาษมาให้ล่ะครับ             “เบอร์ ๑ คือเก่าบ่จารย์” ผมถามทันทีครับ เบอร์แห่งโชคลาภของผมผมต้องเป็นที่หนึ่งเว้ย เบอร์อื่นไม่เตะ แค่นั้น             “เออดิ จะมีไผยาดมึงวะ เชี่ย” ป้าด ใครวะ โอ้ ไอ้เชี่ยแบงค์ เมื่อคืนกูยังไม่ได้ชำระความเลยนะมึง ยาดแปลว่าแย่งนะขอรับ             “สัด ยาดแล้วเต๋ได้คือกูบ่ล่ะ เมื่อวานกูยังบ่ได้ชำระควมเด้อมึง” ผมถลนตาใส่มันล่ะครับ             “น้อยๆหน่อยเฮ้ย นี่ห้องกูนะ เอาล่ะๆ กูแค่จะบอกว่าเย็นนี้ซ้อมและก็จะซ้อมทุกวันเพิ่มจากเดิม ๒ ชั่วโมงเป็น ๓” พ่อกูสาธยายครับ             “อ่า หยังอ่ะจารย์ ซ้อมโดนแท้เมื่อยเด้” หลายเสียงครับ แต่กูนี่สิเครียดหนัก ก็จะอะไรล่ะ เย็นวันศุกร์นี้กูต้องไปเข้าค่ายเชี่ยไรนั่นดิ แม่งไมได้ซ้อมเลยกู เซ็งเว้ย             “หรือพวกมึงอยากแพ้ นารีฯน่ะ เขาแชมป์อุบลนะมึง กูไม่เสียค่าน้ำมันรถไปเพื่อแพ้หรอกนะ อย่าประมาท” เสียงอันทรงอำนาจ พูดครั้งเดียวจอดครับ ไม่มีใครอิ๊อ๊ะอะไรอีก กูนี่สิ             “แล้วผมล่ะจารย์ ต้องไปเข่าค่ายเด้ สิซ้อมจั่งได๋” ผมพยายามทำสีหน้าให้มันเครียดเข้าไว้ครับ             “ไม่กี่วันหรอกน่า กูเชื่อมือมึง ไม่ไปไม่ได้ด้วยอันนี้ ไฟลท์บังคับ” “เฮือก” เสียงผมถอนหายใจหน่ายเสียเหลือเกินครับ แม่งจะมีอะไรดีกว่าการไปเข้าค่ายปัญญาอ่อนนี้ไหมวะเนี่ย เว้ย เซ็งเว้ย             “มึงเอายาสูบมานี่แน่ะ บักแบงค์”             “บ่มีเว้ย ไถตลอดแม่งบ่เคยซื้อเอง เกิดดาวไถบ่มึงน่ะ” ป้าดพูดแล้ววิ่งออกไปเลยนะครับ มันคงรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับมัน             “สัดเอ้ย ไถเตี่ยมึงติ๊ เขาเอิ้นขอเว้ย บักเต้มึงมีบ่” ไอ้เต้มัน ม.๔ ครับ มันต้องเกรงใจผม ฮ่าๆ ผมตรงดิ่งไปหามันทันที             “อ่ะ เหลือโตสุดท้ายเด้นี่” มันทำหน้าแบบว่า กูขอแบ่งมรดกของพ่อมันประมาณนั้นล่ะครับ แม่งไอ้เชี่ยนี่ เตะหงายหลังสักทีดีไหม เพราะเกรงใจพ่อกูหรอกนะ             “สูบเข้าไปเยอะๆ เดี๋ยวมึงก็วิ่งไม่ออก พวกมึงนี่ มันเลวทุกตัวจริงๆนะ เรื่องดีๆน่ะ หัดทำเป็นไหมวะ หา” นั่นไงครับแกคงเหล่อยู่นาน จะว่าไปแล้วพวกผม คือทั้งทีมฟุตบอลนี่นะ ดูดบุหรี่กันทุกคน แต่ไม่ได้ติดเป็นจริงเป็นจังหรอกนะเว้ยเฮ้ย ดูดเป็นแฟชั่นน่ะเข้าใจไหม อย่ามาบอกว่ามันไม่ดี รู้เว้ย บางทีกูก็แค่ดูดเข้าไปไม่ถึงคอแล้วพ่นออกมา มันเป็นสังคมของลูกผู้ชายแถวนี้ใครจะทำไมวะ             “อ้าว น้องอุ่นๆ ไสบอกสิเลี้ยงติมอ้าย อ้ายถ่ากินอยู่เด้นี่” ผมได้บุหรี่จากไอ้เต้มา ก็เดินตรงไปห้องน้ำหลังโรงเรียนล่ะครับ แต่ว่าหูเสือกดีอีกไปได้ยินเสียงไอ้เชี่ยแบงค์มันร้องเรียกไอ้เตี้ยหน้าจืด พักบุหรี่ไว้ก่อนวะ แต่เอ๊ะ กูจะไปยุ่งกับมันทำไมวะเนี่ย เสียเวลาแท้ๆ             “ไรอ่ะพี่ เพิ่งจะเข้าเรียนนะ จะกินเลยเหรอ ตอนเที่ยงได้ป่าวผมรีบ” เสียงไอ้เตี้ยมันโตตอบครับ             “ซั่นเลี้ยงเข่าอ้ายนำเด้อ” เลี้ยงเข่านี่ไม่ใช่แข้งเข่าหรอกนะครับข้าวๆเว้ย             “โครม” ผมถีบถังขยะครับ ทนไม่ไหวไม่รู้ทำไม แม่งพวกเห็นแก่กินนี่โคตรเกลียดเลยนะกู แต่เอ๊ะ แล้วเกี่ยวอะไรกะกูวะเนี่ย เว้ย ทำให้มันเกี่ยวมันก็เกี่ยวล่ะวะสงสัยไปได้             “เฮ้ย มาสิงอยู่หยังในห้องน้ำบักห่านี่” ดูเอานะครับไอ้เชี่ยแบงค์ปากมอมด่าผมอีกแล้ว             “สัด อยากตายติ๊บักแบงค์ มึงด่ากูแล้วหนีสองเทื่อแล้วเด้ ตายคั่กๆมึง” ผมตรงดิ่งเข้าหามันครับ             “ฮ่วย น้องอุ่นๆ อ้ายไปก่อนเด้อ หมาว้อมันมาแล้ว” มันวิ่งหนีไปครับ ผมทำท่าจะวิ่งตาม แต่สายตาเหลือบไปเห็นรอยยิ้มถากถางของใครบางคน             “ยิ้มไร หรือมึงจะเอา” ผมเปลี่ยนเป้าหมายครับ ถามจริงๆเถอะคิดว่าผมเกเรไหมเนี่ย ไม่นะเว้ย ผมน่ะมันคนดีแท้ๆ อิอิ โว้ย ใครจะไปทนไหววะ ก็ไอ้รอยยิ้มที่มันยิ้มที่มุมปากนั่นน่ะมันเยาะเย้ยผมชัดๆ มาดูเองเลยมา             “หือ ใคร เราเหรอ”             “มึงนั่นล่ะไ*****อ” ผมยักคิ้วให้มันครับ             “ไม่ได้ยิ้มนี่ หลบได้ป่ะ เราจะเข้าห้องน้ำ” ป้าด มันยักคิ้วคืนครับท่าน ท้าทายๆ ผมเลยเอาบ่ากระแทกมันแรงๆ ตัวมันนี่เซไปเลยครับ ผมยืนยักคิ้วอีก             “นาย” มันเรียกครับนั่นๆมีเม้มปาก ด่ากูทางสายตาอีกแล้วเดี๋ยวเถอะมึง             “หยัง อยากเลียเท้าเหรอน้อง”             “ได้ข่าวว่าเรียนเก่งนี่นายอ่ะ” โว้ มันรู้ด้วยเว้ย ไม่รู้ก็แปลกล่ะ บอกตามตรงในโรงเรียนนี้มีใครไม่รู้จักไอ้เดี๋ยว วิชพงศ์ บ้างกูให้เตะเลยอ่ะ             “มันแน่นอนเว้ย” ผมไม่ได้ดีใจนะเว้ย แต่มันเขาเรียกว่าอะไรอ่ะ เขา เรียกว่าความภาคภูมิใจประมาณนั้น             “แต่ไม่เห็นจะใช้สมองเลยนิ ใช้แต่กำลัง” เออนะ มันเข้าใจชม เฮ้ย สัด ด่ากูนี่หว่า มึง             “เชี่ย มึงด่ากูเหรอ” มันวิ่งเข้าห้องน้ำครับ หนอยแน่ไอ้เชี่ยนี่แทนที่จะวิ่งหนีไปทางอื่น เข้าห้องน้ำแล้วปิดประตูเนี่ยนะ มึงตายแน่ๆไอ้เตี้ย             “ออกมาเลย มาสังเวยตีนกูซะดีๆ มึงด่ากูสองทีแล้วนะวันนี้” ผมตะโกนทุบประตูห้องน้ำอยู่ครับ เออ ขอบรรยายเรื่องห้องน้ำหน่อยนะว่าห้องน้ำที่นี่ มันไม่ได้สกปรกอย่างที่คิดหรอกนะครับ เพราะเขาแบ่งเวรกันทำเว้ย แต่ไอ้ห้องน้ำหลังช็อป ของอาจารย์สมพงษ์นั่นล่ะที่เน่าหน่อยเพราะพวกอย่างผมๆเนี่ยไปแอบสูบบุหรี่กันไง             “โอ๊ย นาย เราจะฉี่อ่ะ อย่าเสียงดังได้ป่ะ เราฉี่ไม่ออก”             “เชี่ย ยังจะมามีอารมณ์ฉี่อยู่อีก มึงตายแน่ๆ ไอ้เตี้ย กวนตีนกูมาหลายครั้งแล้วนะ คราวนี้ล่ะมึง”             “อ่า จะเจ็บไหมอ่ะนาย เรากลัว เรากลัว” โอ๊ย เชี่ยเอ้ย ดูมันทำเสียงครับ กูนี่กัดฟันกรอดๆ หน้าแดงแล้ว ความจริงถ้าถีบประตูเข้าไปโครมเดียวกลอนมันก็คงหลุด แต่ไม่เอาๆ ตอนนี้กูยิ่งมีคดีอยู่ด้วย ทำไงดี  “อ๊ะ นายจะทำไร” กูบอกแล้วว่ากูไม่ได้โง่ออกจะฉลาด มึงอยากจะแอบ อยูในห้องน้ำนั่นก็เชิญ มึงคิดว่ามันจะปลอดภัยว่างั้นไอ้เตี้ยเอ้ย ผมปีนสิครับท่าน ห้องข้างๆเลย คือว่าผมน่ะสูงอยู่แล้ว ไม่ได้เกิดมาเตี้ยก็เลยใช้มือเกาะ แล้วเหวี่ยงตัวขึ้นไม่ยากและใช้เวลาไม่นาน พอกระโดดลงไปในห้องน้ำเดียวกับไอ้เตี้ย ที่กำลังจะเปิดประตูออกมา ผมก็ยกเท้ายันประตูไว้สิครับ             “อ่า ขนขาเยอะนะ แหะๆ” แม่งเอ้ย ผมไม่รู้จะขำหรือจะโกรธมันดีครับ มันกลัวนะผมรู้ สีหน้ามันบอก เพราะหน้ามันซีด แต่คำที่มันพูดออกมานั่นสิมันทำให้ผมเม้มปากแทบตาย สัด             “ยังอีก มึงนี่มันวอนกินตีนกูจริงๆนะ ไอ้เตี้ย” ผมยังอยู่ในท่าเดิมครับ คิดว่าเท่มากแล้วท่านี้ มันก็อยู่ตรงกลางหว่างขาของผมนั่นล่ะ เคยเห็นไหมล่ะห้องน้ำในโรงเรียนมัธยมน่ะ หรือว่าไม่เคยเรียน กร๊าก             “ไรอ่ะ เรายังไม่”             “หุบปาก วันนี้ล่ะกูจะจัดการมึง” พูดไปสองไพเบี้ยครับ กระชากคอมันเข้ามาหาเลย บีบคอมันแรงๆเนื้อแดงขึ้นมาทันที             “โอ๊ย เจ็บเป็นนะเว้ย” มันร้องครับสนเหรอกูน่ะ             “ทำให้เจ็บไง จะได้ไม่ปากหมา”             “นายๆ” มันหน้าแดงจัดขึ้นมาทันทีครับ ผมยิ้มที่มุมปาก เป็นไงล่ะเจอกูบีบคอ             “ไร กูทำเบาไปเหรอ หรือว่ามึงจะอ้อนวอนกู ฮ่าๆ”             “ปะ เปล่า” “เชี่ย แล้วเรียกกูทำไมสัด กูกำลังมัน”             “นายช่วยเอาขาลงได้ป่ะ เหม็นอ่ะ” อึ๊ก จุกครับท่าน ป้าด บักห่านี่แม่ะ เป้ากูน่ะ มีแต่คนอยากลิ้มลองแล้วนี่มันอะไร ผมเอาขาลงผลักหลังมันให้กระแทกกับผนังห้องน้ำทันทีครับ             “อยากตายมากใช่ไหมมึงน่ะ หา” ทนไม่ไหวแล้วครับ ผมเอามือกดที่กลางคอมัน แล้วตะคอกแรงๆใส่หน้ามัน มันเม้มปาก หน้าแดงจัดเหงื่อเริ่มผุดออกมา ตอนนี้หน้ามันอยู่ห่างจากหน้าผมไม่ถึงนิ้วครับ เห็นเหงื่อเม็ดโป้งๆเลย             “ฮ่า นาย เรา เรา หายใจมะ” มันเหมือนจะขาดอากาศครับ ผมเลยเอามือออก เผื่อมาตาย กูสิจะซวย มันก้มลงทันที             “จำไว้ อย่ามาลองดีกับกู”             “ลองดีไรอ่ะ” “นั่น ยังอีก” ผมกระชากแขนมันขึ้นมาครับ หน้ามันอยู่แค่บ่าของผม ผมบีบปลายคางมันให้เงยหน้าขึ้นมองผม แม่งเอ้ย น้ำตามันคลอเบ้าอีกแล้วครับ ผมจ้องนัยน์ตามันอยู่ไม่เกินสามวิ ให้ตายเถอะ มือกูอ่อนเลย             “ออกไปได้ไหม เราจะฉี่” มันครางออกมาครับ ผมทำอะไรไม่ถูก ตายห่านแล้ว กูเป็นเชี่ยไรวะเนี่ย ทำไมมองตามันแล้วใจกูหวิวๆแปลกๆแบบนี้วะ             “ทะ ทำไม กูอยู่แล้วฉี่ไม่ได้ไง หรือว่าอาย เจี้ยวเล็กเหรอมึงน่ะ” ผมพูดไปงั้นล่ะครับ ไม่รู้จะพูดอะไร             “ฮ่า” มันหายใจทางปาก แล้วนั่งยองๆลงกับพื้นเลยครับ ผมนี่เอ๋อแดกไปเลย ห่านเอ้ยแล้วกูจะยืนให้มันดมเป้าอยู่หรือไงวะเนี่ย             “เฮ้ย บีบเบาๆจะตายจริงเหรอวะ” ผมกลัวมันตายจริงๆครับ เพราะท่าทางมันร่อแร่เหลือทน             “จะออกไปไม่ออก” มันเงยหน้าขึ้นมาครับ สายตามันนี่ด่าผมทั้งโคตรแล้วมั้งนั่นน่ะ             “ไม่” ผมมันแบบนี้ไง             “โว้ย ฉี่แล้วนะ” “สัด” เอ่อ ให้บรรยายไหมวะ ว่ามันรูดซิปกางเกงลงเลย แล้วก้าวมาเขี่ยผมออกจากโถส้วม คือผมยืนอยู่โถส้วมอ่ะนะแล้วมันก็งัดออกมาปล่อยเลยครับท่าน ทั้งที่ผมยืนอ้าปากค้างอยู่นั่น แสรดด เกิดมาไม่เคยดูของคนอื่น ฮ่าๆ เว้ย ใครไม่เคยเห็นของเด็กอนุบาลยกมือขึ้น ฮ่าๆ เท่านิ้วหัวแม่เท้ากูเองมั้งนั่นน่ะ เอ่อ ว่าแต่กูไปดูทำไมวะนั่น เฮ้ยกู ผมก้าวออกมาให้พ้นจากมันครับ             “เชี่ย เลวนะมึง”             “อ่า สบายจัง” “สัด ยังมีหน้ามาครางอีก เดี๋ยวกูถีบให้”             “อ้าว ก็เราจะฉี่อ่ะ นายเข้ามาเองนะช่วยไม่ได้” หนอยแน่ ยังมีหน้ามาต่อล้อต่อเถียง             “กูถามจริงๆ นั่นมันอะไรวะ ฮ่าๆ สัด เล็กมากๆ เจี้ยวเด็กเอ้ย” ผมล้อมันครับ ได้ผลมันอายหน้าแดงเลย มันรูดซิบแล้วก้มหน้าลงเลย             “ใหญ่นักเหรอนายอ่ะ”             “ใหญ่ไม่ใหญ่ไม่รู้เว้ย แต่สี่เท่าของของมึงละกัน ฮ่าๆ กูนึกว่าของหลานกู สัดเอ้ย”             “นิสัยไม่ดี แล้วไง ถอยเราจะออก” มันอายจัดครับ หน้านี่แดงถึงหู ฮ่าๆ เว้ยมีความสุขเว้ย             “กูไปบอกคนอื่นๆดีกว่า ว่ากูเห็นของเด็ก ฮ่าๆ” อ๊ะๆ อย่าคิดว่าผมจะทำอย่างที่พูด ไม่เว้ย มันไม่แมน ที่จริงมันก็เรื่องส่วนตัวมันล่ะครับ มันจะใหญ่จะเล็กผมไม่เกี่ยวนี่จริงไหม แค่ล้อมันให้มันอายแค่นั้นเอง จบตรงนี้ไม่มีต่อเว้ยเฮ้ย เป็นไงล่ะไอ้เดี๋ยวแมนมะ             “ฮึ ก็คงพอกันล่ะ เราก็จะไปบอกใครๆว่า เป้านายเน่า อิอิ” เอ่อ นี่มัน ซี๊ด กูว่าจะไม่เอาเรื่องมึงแล้วนะไอ้เตี้ย ยังมีหน้ามายักคิ้วให้กูอีก หนอยแน่มึง ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตาใช่ไหมเนี่ย อ้าวเชี่ย มันวิ่งหนีไปหน้าอาคารแล้วครับ หนอยแน่มึงไอ้เตี้ย โว้ย กูก็มาเซ็งอีกสิวะทีนี้ เดินไปหาไรยัดที่สหกรณ์ดีกว่า             “อ้าว ไม่เรียนบ่เดี๋ยว” ถามไรโง่ๆวะ ถ้าเรียนกูจะมาเดินหล่ออยู่ตรงนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD