ตอนที่ 10 หมาป่ากินพืชนามว่าหลินเซิน

1164 Words
หนึ่งพันปีต่อมา อรุณรุ่งบนยอดภูเขาสูงห่างไกลจากผู้คน ดอกท้อสีชมพูอ่อนหลายพันต้นผลิบานสะพรั่งไปทั่วบริเวณรับฤดูใบไม้ผลิ ใต้ต้นดอกท้อริมหน้าผามีชายหนุ่มผู้หนึ่งนอนหลับตาอยู่บนพื้นหญ้าสีเขียวขจี น้ำค้างยามเช้าค่อย ๆ ลู่ลงมาตามใบไม้พลันหยดลงที่หน้าผากอย่างแผ่วเบาปลุกเขาจากการหลับฝัน เขาลืมตาขึ้นมาช้า ๆ ยกมือขึ้นบังแสงแดดอ่อนที่กำลังแยงตา พักหนึ่งจึงลุกขึ้นยืนรับอากาศสดชื่นวันใหม่ สายลมพัดเรือนผมยาวสีเทาแกมชมพูปลิวไสว หลินเซิน หมาป่าขนเทาอาศัยอยู่เพียงลำพังบนเขาลูกนี้มาเป็นเวลากว่าพันปีแล้ว ชีวิตของเขาเรียบง่าย ไร้เรื่องกังวลใด ๆ ราวกับคำอวยพรของดอกท้อแสนปีได้สัมฤทธิ์ผล เขาใช้เวลาทั้งวันกับการนั่งเล่น นอนเล่น โดยไม่สนเรื่องราวภายนอก หากแต่ยังสงสัยตนเองอยู่บ้างว่าทำไมหมาป่าอย่างเขาถึงกินผลไม้เป็นอาหาร ดื่มน้ำค้างยามเช้า เขาเคยมีความคิดว่า อาจจะเป็นเพราะเกิดมามีพลังเซียนจึงทำให้เขากลายพันธุ์ไป เลยไม่ได้สนใจที่มาของตนเอง อย่างไรเขาก็มีความสุขมากแล้ว การมีพลังเซียนทำให้เขาไม่เคยต้องเหนื่อยใช้แรงงาน หากอยากดื่มน้ำค้าง ใบไม้เหล่านั้นก็จะคอยกักเก็บเอาไว้ให้ ยามอยากกินผลไม้ สิ่งนั้นก็ลอยมาหาเขาเอง แต่กระนั้นก็มีบางครั้งที่เขาลงมือทำด้วยตัวเอง อย่างเช่น กระท่อมไม้หลังน้อย เขาบรรจงตกแต่งด้วยดอกไม้รอบเรือนสวยงาม วันใดที่เบื่อ ๆ กับการบำเพ็ญตบะเซียนให้ครบเก้าขั้น เขาจะเข้าป่าไปขุดเห็ด หาโสมป่าหายากมาเก็บเอาไว้ ทุก ๆ หนึ่งร้อยปี หลินเซินจะลงจากเขาเข้าเมืองมนุษย์เพื่อดูความเป็นไปของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ บ้าง แน่นอนว่าเขาเป็นพวกที่ขาดของหวานไปไม่ได้ พอลงมาถึงด้านล่างก็ตรงดิ่งเข้าไปที่ตลาด มองซ้ายขวาอย่างรวดเร็วเก็บรายละเอียด จากนั้นเขาก็หายตัวไปอยู่ที่หน้าร้านถังหูลู่ หลินเซินจ้องพ่อค้าอย่างไม่วางตา “ข้าอยากได้ถังหูลู่สองไม้” เขาพูดกับพ่อค้าแล้วยิ้มสดใสให้เขาเหมือนเด็กน้อยที่กำลังอยากได้ของเล่น “คุณชาย สองไม้สองอีแปะ” พ่อค้าจัดแจงหยิบไม้ยื่นให้เขา อีกมือหนึ่งแบไว้รอรับเงินสองอีแปะ หากแต่ว่ารออยู่นานก็ไม่ได้รับของที่ว่าเสียทีจึงพูดย้ำอีกครั้ง “สองอีแปะขอรับ คุณชาย” “ราคาขึ้นอีกแล้วหรือ เมื่อก่อนข้าซื้อทีห้าไม้แค่อีแปะเดียวเอง” หลินเซินทำหน้าสงสัย เอียงคอด้วยความสับสน แม้แต่ราคาของกินก็เปลี่ยนไปในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา “คุณชาย ข้าขายราคานี้มาตั้งแต่เกิดแล้ว หากท่านไม่ซื้อ ข้าจะเก็บคืนนะขอรับ” เขาเลิกคิ้วกำลังจะชักมือกลับ “ซื้อสิ ข้าบอกเจ้าแล้วอย่างไร ขอสองไม้” หลินเซินจ้องไปที่ดวงตาของพ่อค้าอีกรอบ นั่นแหละ เขากำลังสะกดจิตพ่อค้าเพื่อถังหูลู่สองไม้ คงจะไม่แปลกอันใดหรอก เพราะหมาป่าอย่างเขาจะหาเงินจากที่ไหนมาให้ อยากได้อะไรแค่มองตาสะกดจิตก็ได้มาแล้ว จากนั้นไม่รอช้า หลินเซินมุ่งหน้าไปที่ร้านน้ำตาลปั้น สายไหม และผลไม้จากต่างเมือง ได้ของมากมายติดไม้ติดมือมา หลังจากอิ่มหนำแล้ว เขาใช้เวลาเดินเที่ยวรอบ ๆ ตลาด ผ่านเข้าไปในเมือง ยามเดินผ่านไปที่ใดก็มีแต่สายตามองมาที่เขา ราวกับมีแสงรัศมีเปล่งรอบตัว ผู้ใดก็คิดว่าเขาเป็นคุณชายสูงศักดิ์ สตรีโฉมงามมองเขา ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แม้แต่บุรุษก็อดทึ่งในรูปโฉมของเขาไม่ได้ หลินเซินผู้นี้ไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้เลย เขาเดินชมนกชมไม้ไปเรื่อย ๆ ตามใจ จนได้เวลาที่แสงอาทิตย์กำลังจะลับตา ระหว่างทางเดินกลับขึ้นเขา จู่ ๆ สายฝนก็เทลงมาห่าใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาเดือดร้อนอะไรนัก นานทีฤดูใบไม้ผลิจะมีฝนหลงฤดูมาบ้าง ถือเป็นเรื่องราวดี ๆ อย่างหนึ่ง เขาเดินตากฝนมาตลอดทาง เมื่อเจอแอ่งน้ำฝนก็จะกระโดดลงไปในหลุมให้น้ำกระเด็นขึ้นมา ทำให้แมวน้อยสีขาวตัวหนึ่งที่กำลังหลบฝนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ไม่เข้าใจเลยว่าสติเขายังดีอยู่หรือไม่ ฝนตกยามนี้ทั้งเปียกชื้นและเหน็บหนาว เมื่อรู้สึกว่ามีสายตาหนึ่งกำลังมองมาที่ตนเอง หลินเซินจึงหยุดเล่นชั่วครู่ ค่อย ๆ เดินมาใต้ต้นไม้ใหญ่ เขามองแมวน้อยสีขาว ตาสีฟ้ากลมโตตัวนี้ด้วยความเอ็นดู ขนของแมวน้อยเปียกจนลีบติดตัวดูลักษณะไม่เหมือนแมว จากนั้นจึงร่ายเวทกันน้ำฝนให้เจ้าแมวตัวนี้ “เจ้าสัตว์ตัวน้อย เจ้าคือตัวอะไรหรือ มาทำอะไรอยู่ที่นี่ หรือว่าเจ้าติดฝนเลยกลับบ้านไม่ได้” เขาก้มลงพูดน้ำเสียงอ่อนโยน แม้จะไม่รู้ว่าสิ่งมีชีวิตที่เขาเห็นคืออะไร แต่หากเจ้าแมวสีขาวนี้พูดได้ คงจะต้องบ่นออกมาแน่ ๆ ว่าเขาซื่อบื้อเพียงใดถึงแยกไม่ออก พอเห็นว่าแมวน้อยตัวสั่นเทาด้วยความหนาวก็ร่ายเวทส่งความอบอุ่นไปให้ ยามที่ขนสีขาวแห้งขึ้นก็ฟูฟ่องสวยงาม “เอ๊ะ! เจ้าเป็นแมวหรือนี่ ข้าไม่ยักจะเคยเห็นแมวน่ารักเช่นเจ้ามาก่อนเลย” หลินเซินนึกในใจ แถวกระท่อมเขาแทบไม่มีสัตว์อะไรอยู่เลยนี่นา ไม่รู้ว่าหายไปไหนหมด ไหน ๆ ก็ไม่มีอะไรต้องทำแล้ว เขาจึงนั่งรอฝนหยุดตกเป็นเพื่อนแมวน้อยกว่าหนึ่งชั่วยาม “ฝนหยุดแล้ว ทีนี้เจ้าก็กลับบ้านได้แล้วล่ะ” หลินเซินลูบหัว เกาคางแมวน้อยก่อนจะลุกขึ้นเพื่อกลับบ้านของตน ครั้นเดินมาไม่ได้ไม่ถึงสิบก้าวก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังตามมา “เจ้าเองหรอกหรือ ทำไมไม่กลับบ้านเล่า” ถามออกไปก็เท่านั้น แมวน้อยไม่ตอบกลับมา เพียงส่งเสียงร้องเหมียว เหมียวให้เขาแล้วเดินมาคลอเคลียวนรอบข้อเท้าของเขาอย่างนุ่มนวล หลินเซินยกเท้าขึ้นก่อนจะย่องไปอีกทางหนึ่ง ฉวยโอกาสวิ่งหนีมาอีกทาง เอาขนมหวานมาหลอกล่อเจ้าแมวน้อยเพราะคิดว่ามันคงชอบเหมือนตนเอง ถึงอย่างนั้นก็หนีไม่รอด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD