วันนี้หลี่ซูนางตั้งใจที่จะไปหาฮองเฮาที่วังหลวง เพราะว่ามีจดหมายส่งตรงมาจากในวังว่าขอพบนาง จนหลี่ซูนางต้องนึกย้อนกลับไปว่านางนั้นสนิทกับฮองเฮาที่สุดแล้ว
ฮองเฮานั้นเอ็นดูนางเสมือนดั่งน้องสาวแท้ๆคนหนึ่ง แล้วก็เห็นใจว่านางนั้นมิได้เปิดตัวในวงสังคมใดๆเลย ถึงแม้ว่าจะมีขุนนางบางคนนั้นทราบว่านางนั้นเป็นพระชายาของท่านชินอ๋อง แต่บางคนก็มิได้ทราบ
สาวรับใช้ได้ทำการแต่งตัวให้พระชายาให้สวยที่สุด ''เสร็จแล้วเพคะพระชายา''
หลี่ซูลอบมองไปที่กระจกก่อนที่จะพอใจในรูปลักษณ์ของตนในยามนี้นางนี่แต่งชุดโบราณก็เข้าเหมือนกันแฮะ
''ไปกันเถิดประเดี๋ยวจะสายเอาได้''
วันนี้นางพาแค่สาวรับใช้คนสนิทคนเดียวไปเท่านั้นมิได้เอาใครไปอีก ส่วนเรื่องท่านชินอ๋องจะทราบหรือไม่ว่านางได้เข้าไปในวังหลวงก็มิอาจรู้ได้ เพราะนางฝากบอกแค่หัวหน้าพ่อบ้านเพียงเท่านั้น
รถม้าเคลื่อนที่ออกเดินทางไปยังวังหลวงแล้วไม่ลืมที่จะนำจดหมายติดตัวมาด้วย เพื่อที่จะเอาไว้ยืนยันก่อนที่จะผ่านประตูเข้าไปภายในวัง เพราะในวังหลวงเคร่งครัดเรื่องการเข้าออกอย่างมาก
ใช้เวลาไม่นานก็ถึงจุดหมาย วังหลวงนี่มันสวยจริงๆ ข้าเคยไปเที่ยวชมอยู่หลายครั้งแต่ไม่คิดว่าพอมาเห็นของจริงๆแบบนี้แล้วมันสวยกว่าที่จินตนาการเอาไว้มากเลยทีเดียว
''ถึงแล้วเพคะพระชายา'' สาวรับใช้เอ่ยออกมาพร้อมกับพยุงตัวหญิงสาวให้เดินลงจากรถม้าอย่างระมัดระวัง
''เรียนพระชายา หม่อมฉันคือสาวรับใช้ส่วนตัวของฮองเฮา โปรดตามหม่อมฉันมาทางนี้เถิดเพคะ''
ทั้งสองคนก็ได้เดินตามสาวรับใช้ไปพร้อมกับมองไปยังบริเวณโดยรอบที่ประดับประดาไปด้วยสิ่งของเครื่องใช้ยุคเก่าราคาแพง
''ถึงแล้วเพคะ'' พอถึงจุดหมายสาวรับใช้ก็ได้เอ่ยบอกหญิงสาวก่อนที่จะผลักประตูเข้าไปด้านใน
''พระชายามาถึงแล้วเพคะ'' สาวรับใช้ตะโกนออกมาทำให้หลี่ซูได้มองไปยังบริเวณข้างหน้าตอนนี้นางเห็นสตรีคนหนึ่งกำลังวิ่งมาหานางด้วยใบหน้าดีใจ
''ซูเอ๋อร์!''
ก่อนที่จะมีเสียงทุ้มตามหลังดังออกมา
''ฮองเฮาเจ้าอย่าวิ่งได้หรือไม่'' ฮ่องเต้เอ่ยเสียงดุๆพร้อมส่งสายตาเป็นห่วงไปให้หญิงสาวที่ตนรัก
หลี่ซูได้ยินเช่นนี้ก็ได้รีบปรับสถานการณ์ของตนเองอย่างรวดเร็วคนที่วิ่งมากอดนางก็คือฮองเฮาอีกคนที่ตะโกนตามหลังมานั้นก็คือฮ่องเต้ ถึงแม้ว่าจะตกใจไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนี้ หญิงสาวก็ได้รีบทำความเคารพ
''ถวายบังคมฮ่องเต้ และฮองเฮาเพคะ'' หญิงสาวรีบก้มตัวลงพร้อมกับทำความเคารพทำแบบนี้ถูกไหมนะเคยดูแต่หนังละครไม่คิดว่าชีวิตจริงนางจะต้องมาทำเช่นนี้ ก่อนที่จะมีมือมาฉุดร่างกายของนางให้ลุกขึ้นมา
''เจ้าไม่ต้องมากพิธีหรอก เราคนกันเอง มาเถิดตามข้ามาเร็วเข้า'' ฮองเฮารีบดึงแขนหญิงสาวให้ตามตัวเองมาอย่างรีบร้อนก่อนที่จะไปหยุดที่โต๊ะคล้ายว่าจะเป็นโต๊ะทานข้าวส่วนตัว
โต๊ะเป็นวงกลมมีเก้าอี้ล้อมรอบประมาณสี่ตัว
''ซูเอ๋อร์เจ้ารีบนั่งเร็วเข้า วันนี้ข้าสั่งให้หัวหน้าพ่อครัวทำของโปรดเจ้าทั้งนั้นเลยนะลองดูสิ'' ฮองเฮาเอ่ยบอกหญิงสาวตรงหน้าด้วยความเอ็นดู
นางรักเด็กสาวผู้นี้เสมือนดั่งน้องสาวแท้ๆของนางคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ตอนแรกนางคิดว่าเด็กสาวผู้นี้ต้องการยศหรืออำนาจเลยเลือกที่จะขอแต่งกับท่านชินอ๋อง แต่ไม่เลยนางไม่เคยเรียกร้องอะไรเลยแม้แต่ครั้งเดียวแถมงานแต่งของนางยังจัดแบบเงียบๆอีกด้วย ไม่แม้จะเปิดตัวให้ใครนั้นได้รู้จัก
นางเลยแอบสงสารเด็กสาวผู้นี้ยิ่งนัก พอได้ลองทำความรู้จักจริงๆแล้วเด็กสาวผู้นี้เป็นคนดีกว่าที่นางนั้นคิดเอาไว้เสียอีก
''เอ่อ...ขอพระทัยเพคะ''
ก่อนที่หลี่ซูรับรู้การถูกจ้องมองจึงได้คีบอาหารเข้าปากเล็กอย่างรวดเร็ว
''.....''
''เป็นอย่างไรบ้างซูเอ๋อร์ อร่อยหรือไม่'' ฮองเฮาเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าด้วยรอยยิ้มและความคาดหวัง
ฮ่องเต้ที่เห็นท่าทางของสตรีที่รักแล้วลอบมองไปที่เด็กสาวผู้นี้ท่าทางกระอักกระอ่วนจนเห็นได้ชัดจึงหลุดขำออกมา
ฮองเฮาที่ได้ยินเสียงหัวเราะจึงได้ส่งสายตาดุๆไปให้เขาก่อนที่จะปรับสีหน้าแล้วมองมาที่เด็กสาวข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม
ฮ่องเต้เห็นสายตาเช่นนี้จึงได้แต่นั่งคอตก
หลี่ซูนางที่เห็นเช่นนี้จึงยิ้มออกมา ''อร่อยมากเพคะ''
ฮองเฮาที่พอใจกับคำตอบของเด็กสาวแล้วจึงค่อยๆเอ่ยถามเด็กสาวออกไป
''ช่วงนี้เจ้าเป็นอย่างไรบ้างซูเอ๋อร์''
หลี่ซูที่ได้เห็นสายตาเป็นห่วงของสตรีตรงหน้าจึงตอบออกไปด้วยรอยยิ้ม เพื่อไม่ให้เป็นห่วงนางมากจนเกินไป หลี่ซูคนก่อนนั้นฮองเฮาทั้งรักและเป็นห่วงเสมือนดั่งน้องสาวแท้ๆคนหนึ่ง
''หม่อมฉันสบายดีเพคะ'' หลี่ซูตอบออกไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะหยิบของที่นางนั้นได้เอามาฝากฮองเฮาออกมา
''หม่อมฉันมีของมาฝากฮองเฮาด้วยเพคะ แต่ว่า...'' หลี่ซูทำสีหน้าลำบากใจที่จะหยิบออกมาจนฮองเฮานั้นรู้สึกได้จึงได้เอ่ยไล่ฮ่องเต้นั้นออกไป
''ท่านพี่ออกไปก่อนเพคะน้องจะคุยกับซูเอ๋อร์แค่สองคน''
''แต่ว่าพี่อยากอยู่กับเจ้า...'' ไม่พลายส่งสายตาอ้อนวอนไปให้สตรีที่รัก ก่อนที่จะได้รับสายตาดุๆส่งกลับมาแทนจนเขานั้นต้องยอมเดินคอตกออกไปอย่างน่าสงสาร
นางตกใจมากไม่คิดว่าความจริงแล้วฮ่องเต้นั้นเป็นคนกลัวเมียและเชื่อฟังถึงขั้นนี้ !
ฮองเฮาที่ได้เห็นหญิงสาวทำหน้าตาตกใจเช่นนั้นจึงได้รีบเอ่ยออกไปอย่างติดตลกว่า
''ฮ่าๆๆ เป็นเรื่องปกตินะเจ้าอย่างได้ใส่ใจ''
''เอ่อ เพคะ!''
ก่อนที่หญิงสาวจะหยิบเอาชุดที่นางตัดเอาไว้ออกมาให้ฮองเฮานั้นได้ดู เป็นชุดชั้นในสีแดงบางประดับไปด้วยลวดลายสีทองสวยงาม
''นี่มันคือสิ่งใดกันหรือ'' ฮองเฮาหยิบมามองไปมองมาก่อนที่จะเอ่ยถามหญิงสาวออกไปด้วยความสงสัยแต่ก็สนใจมิน้อย
''มันคือชุดชั้นในแบบยั่วๆเพคะ''