แผนการของจางลี่หลิง

1820 Words
เช้าวันต่อมา "อ๊ะ! ซี๊ดด" คนตัวเล็กที่เพิ่งตื่นในช่วงเช้ามืด รู้สึกได้ถึงความเจ็บที่กลางกายสาวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ส่วนคนที่ทำให้เธอเจ็บน่ะเหรอ? เจ้าตัวนอนใช้มือท้าวศีรษะสบายใจเฉิบ ไม่เพียงเท่านั้นยังยิ้มกรุ้มกริ่มมองเธออย่างน่าหมั่นไส้อีกต่างหาก "ตื่นแล้วเหรอ จะไปไหน?" "คือ..ฉันจะไปอาบน้ำ พี่ตื่นนานแล้วเหรอ" "นานพอจะเห็นว่ามีคนฉวยโอกาสกอดพี่ตั้งนาน" คำพูดของตงกูทำให้ฉุนหรานต้องรีบดึงเอาผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเธอเอาไว้ คนฉวยโอกาส กล้าดียังไงมาว่าเธอ เขาเองไม่ใช่เหรอที่ทำให้เธอต้องเปลือยเปล่าจนหนาวสั่น "จิ๊! ก็พี่นั่นแหละที่ทำให้ฉันหนาว คนฉวยโอกาส ยังมาว่าฉันอีกเหรอ" ท่าทางดุอย่างกับแม่เสือ มันทำให้ตงกูอดประทับใจในตัวเธอไม่ได้ ไหนชาวบ้านบอกว่าเธอเป็นคนอ่อนแอน่าสงสารยังไงล่ะ แต่สิ่งที่เขาเห็นตลอดคืนและตอนนี้เธอคือแม่เสือสาวต่างหาก "ดุซะด้วย เอาล่ะ พี่ไม่แกล้งเธอแล้ว เดินไหวไหมเดี๋ยวพี่พาไป" "ไหวค่ะ ตะ..แต่พี่หลับตาก่อนได้ไหม หรือหันไปทางอื่นก็ได้" "หึ หึ เอาอย่างนั้นก็ได้ แต่เธอไม่ควรอาบน้ำเช้าขนาดนี้นะ ไว้รอพี่ไปต้มน้ำให้ก่อนดีไหม?" ฉุนหรานอดนึกถึงคำพูดของแม่สามีไม่ได้ เรื่องที่บอกให้พวกเธออยู่ในนี้จนกว่าจะสว่าง หรือไม่ก็ 3 วัน 3 คืน แล้วแบบนี้เธอจะกล้าให้เขาไปต้มน้ำให้ได้ยังไง หากจะแอบเข้าไปอาบน้ำอุ่นในมิติก็คงไม่ได้เพราะกลัวจะเงียบจนผิดสังเกต "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอาบได้" พอเห็นว่าสามีจอมเจ้าเล่ห์หันหน้าไปทางอื่นแล้ว ฉุนหรานจึงควานหาเสื้อผ้าที่อยู่ปลายเตียงมาสวมใส่พอให้ปิดบังร่างกาย ก่อนจะรีบเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ ในห้องอาบน้ำไม่มีอะไรมานอกจากสบู่ก้อนเล็ก ๆ ฉุนหรานจำเป็นต้องใช้เพียงเท่านั้นไปก่อน ไว้ค่อยขอให้สามีพาเข้าเมืองไปซื้อเสื้อผ้ากับของใช้ อย่างน้อยเธอจะได้มีข้ออ้างหากนำของออกมาจากมิติ 10 นาทีต่อมาฉุนหรานเดินออกจากห้องอาบน้ำด้วยเสื้อผ้าชุดเดิม ตงกูที่เห็นแบบนั้นจึงหันมาถามภรรยาเผื่อว่าเธอต้องการอะไรเพิ่ม ห้องนอนของเขาเป็นห้องชายโสด ทุกอย่างที่มีก็ล้วนเป็นมารดาจัดหามาให้ ไม่รู้ว่าสำหรับผู้หญิงแล้วจะอยู่ได้หรือไม่ "ออกมาแล้วเหรอ ขึ้นมานอนต่ออีกหน่อยเถอะ พี่เติมฟืนในเตียงเตาให้แล้ว พี่มีเรื่องอยากจะถามเธอสักหน่อย" คนตัวเล็กไม่ได้ปฏิเสธคำเชื้อเชิญ ถึงจะยังไม่คุ้นชินแต่อีกฝ่ายก็เป็นสามีของเธออย่างถูกต้องและสมบูรณ์แบบ "พี่มีอะไรจะคุยกับฉันเหรอ" "พี่จะถามเธอว่าอยากได้อะไรเพิ่มไหม นี่เป็นเงินเก็บในส่วนของพี่ เงินพวกนี้ได้จากการล่าสัตว์ในป่าเข้าไปขายในเมือง แต่เรื่องนี้ถือเป็นความลับ เธอรู้ใช่ไหม?" ฉุนหรานมองดูเงิน สามร้อยกว่าหยวนที่สามียื่นมาให้เธอ แน่นอนว่าเธอรู้ว่าการค้าขายของชาวบ้านในยุค 70 ถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ที่ทำได้มีเพียงการแลกเปลี่ยน หากใครที่ล่าสัตว์ป่าได้สามารถแจ้งหัวหน้าหมู่บ้าน จากนั้นให้คนเชือดสัตว์ประจำหมู่บ้าน จะทำการแบ่งสัดส่วนที่พอเหมาะส่วนแล้วให้คนในหมู่บ้านนำสิ่งของมาแลกเปลี่ยนได้ แต่หากใครที่ไม่อยากเสียเวลาทำแบบนั้นก็ต้องเสี่ยงขนสัตว์ลงเขาเข้าไปขายที่ตลาดมืด แบบนั้นจึงจะได้เงินสดมาเป็นก้อน "รู้จ้ะ" "เงินในครอบครัวเรา ต่อไปพี่จะให้เธอเก็บ ส่วนพี่จะเป็นคนหามาให้ ถ้าเธออยากเข้าเมืองไปซื้อของให้บอกพี่ พี่จะเป็นคนพาเธอเข้าไปเอง" ถึงเวลานี้ฉุนหรานถึงได้รู้ว่าเธอช่างมีสามีที่ดีจริง ๆ ต้องขอบคุณป้าหลี่ที่หาคู่ครองดี ๆ แบบนี้มาให้เธอ "ฉันอยากเข้าเมืองก็จริง แต่วันนี้ฉันคงเดินไม่ไหว เอาไว้วันพรุ่งนี้พี่ค่อยพาฉันไปได้ไหม ส่วนเงินที่พี่ให้ฉันเป็นคนดูแล ฉันจะเก็บรักษาเอาไว้อย่างดี ถ้าพี่มีเรื่องต้องใช้ให้มาเอาได้ตลอดเวลา" "ได้ ตกลงเอาตามนั้น นอนพักอีกสักหน่อยเถอะ ตอนนี้ยังเช้าเกินไป อีกอย่างเราก็ยังออกไปไหนไม่ได้" มือหนาจัดที่นอนให้ภรรยาอย่างใส่ใจ ทว่าเรื่องที่ฉุนหรานอยากถามอีกฝ่ายยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เธอต้องมาใช้ชีวิตที่นี่คงต้องหาอะไรทำให้เป็นชิ้นเป็นอัน แต่จะให้ไปค้าขายก็คงไม่ได้ "แล้วเรื่องงาน... ฉันต้องทำอะไรช่วยพี่บ้างนอกจากงานบ้านงานครัว" "งานเหรอ? ช่วงนี้ไม่มีอะไรให้ทำหรอก ต้องรอจนหมดหน้าหนาว ถึงตอนนั้นอาหรานอาจจะอุ้มท้องลูกของเราอยู่ก็ได้ พี่คงไม่ยอมให้เธอไปทำงานในคอมมูนให้ลำบากหรอกนะ หรือว่าอาหรานอยากทำอะไรก็บอกพี่ได้ บ้านนี้ทุกคนพร้อมรับฟังความคิดเห็นของคนในครอบครัวเสมอ" "ขอบคุณนะคะ ฉันโชคดีจริง ๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของบ้านโหลว" คำพูดนั้นไม่ได้เกินจริงเลยสักนิด หากเป็นครอบครัวอื่นคงไม่มีใครมาถามว่าลูกสะใภ้อยากทำอะไร มีแต่จะบังคับให้ทำในสิ่งที่พ่อแม่ต้องการเสียมากกว่า "มาเถอะนอนต่ออีกหน่อย เมื่อคืนเราได้นอนไปนิดเดียวเอง" ตงกูดึงร่างของภรรยาเข้าไปกอด เขาเปิดหน้าต่างเอาไว้จึงทำให้ลมหนาวพัดเข้าห้องอยู่บ่อยครั้ง แต่คนตัวเล็กที่ซุกอยู่ในอกแกร่งกลับไม่รู้เลยว่านั่นคือความตั้งใจของสามีตัวดี พอท้องฟ้าสว่างคนที่บ้านใหญ่ก็เตรียมอาหารมาวางเอาไว้หน้าห้องของบ่าวสาว หลังจากหมดหน้าที่ทุกคนจึงแยกย้ายไปทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ในยามว่างของตนเอง ผู้ชายคงไม่แคล้วเข้าป่า ส่วนผู้หญิงก็อยู่บ้านเย็บเสื้อกันหนาวพร้อมกับยัดนุ่นเพื่อเพิ่มความอบอุ่นก่อนที่ฤดูหนาวจะมาถึง บ้านจาง จางฮันเดินออกมาจากห้องนอนก็ต้องพบเข้ากับผู้เป็นภรรยาที่ยืนทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่หน้าห้องนอนของลูกสาว การกระทำนั้นมันทำให้เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าจางลี่หลิงอาจจะไม่ได้อยู่ในห้อง "หล่อนไปทำอะไรอยู่ตรงนั้นอาจิ่น แล้วอาหลิงอยู่ไหน!" "พะ..พี่! พี่ฟังฉันก่อนนะจ๊ะ ลูกเพิ่งออกไปข้างนอกเมื่อเช้านี้เองจ้ะ" "ออกไปข้างนอก! ออกไปตอนนี้นะเหรอ หล่อนบอกฉันมาตามตรงเลยนะว่าใครกันแน่เป็นพ่อของเด็ก ไม่อย่างนั้นฉันต้องถลกหนังหัวหล่อนออกมาวันนี้แน่ ๆ กล้าดียังไงมาทำให้บ้านจางของฉันเสื่อมเสีย" จางฮันระบายโทสะออกมาอย่างเดือดดาล ทั้งที่หาทางออกเรื่องเด็กในท้องยังไม่ได้ แต่นางตัวต้นเรื่องยังวิ่งร่าออกไปหาผู้ชายอื่นอีก "ใจเย็น ๆ ก่อนนะพี่ อาหลิงตัดสินใจแล้วว่ายังไงก็หาทางแต่งเข้าบ้านฉินให้ได้ ละ..แล้วตอนนี้ลูกก็กำลังไปดักรอฉินฟางอยู่ที่ริมน้ำตรงที่เจ้าตัวชอบไปตกปลา" ในที่สุดจางลี่จิ่นก็เล่าสิ่งที่ตกลงกับลูกสาวเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ตามที่จริงลี่หลิงออกจากบ้านตั้งแต่เมื่อวานยังไม่กลับ คิดว่าป่านนี้คงทำตามแผนการได้สำเร็จแล้ว "ถ้าทำพลาดละน่าดู! ฉันเกลียดนักไอ้พวกที่ชอบสร้างปัญหา ถ้างานนี้ทำไม่สำเร็จละก็ เตรียมส่งไอ้มารหัวขนนั่นกลับนรกไปได้เลย อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยให้ลืมตาดูโลกมาสร้างความอัปยศให้แซ่จางของฉัน" นางลี่จิ่นแทบใจขาดรอน ใจหนึ่งก็กลัวจะห้ามสามีเอาไว้ไม่ได้ อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าลูกสาวจะทำไม่สำเร็จ "ฉันรู้แล้วพี่ แต่รออีกสักนิดเถอะนะจ๊ะ อีกเดี๋ยวลูกก็คงกลับมาแล้วล่ะ" สองสามีภรรยาร้อนรนจนนั่งไม่ติดอยู่หลายชั่วโมง ในที่สุดจางลี่หลิงก็กลับเข้ามาในบ้าน ผู้เป็นแม่เห็นแบบนั้นก็รีบวิ่งกระวีกระวาดเข้าไปหาลูกสาวพร้อมกับถามไถ่ถึงความสำเร็จ แอดดดดดดด "พ่อ แม่" สีหน้าของลี่หลิงซีดลงเล็กน้อยเมื่อเปิดประตูเข้ามา แล้วพบว่าผู้เป็นพ่อรออยู่ในบ้านด้วย ทั้งที่ควรมีแค่แม่คนเดียวแท้ ๆ "เป็นยังไงบ้างลูก อาหลิง แผนสำเร็จไหม? รีบตอบมาเร็วเข้า พ่อของลูกรอฟังอยู่" นางลี่จิ่นรีบเข้าไปถามลูกสาวด้วยความเป็นห่วง "สำเร็จแล้วจ้ะแม่ เมื่อคืนฉันกับเพื่อนวางยาพี่ฉินฟาง สุดท้ายเค้าก็มีอะไรกับฉันแล้ว เมื่อเช้าฉันให้เพื่อน ๆ แสร้งทำเป็นบังเอิญไปเห็นเพื่อเป็นหลักฐานมัดตัวพี่ฉินฟางเอาไว้" ได้ยินแบบนั้นผู้เป็นแม่ก็โล่งใจขึ้นมาเปราะใหญ่ ต่างจากผู้เป็นพ่อที่ได้ยินแล้วแอบรู้สึกผิดหวังอยู่ลึก ๆ นี่นะหรือลูกสาวที่เขามองว่าใสซื่อและแสนดีมาตลอด "แล้วเป็นยังไง ฉินฟางว่ายังไงบ้าง? หมอนั่นจะยอมรับผิดชอบไหม?" "รับสิแม่ ภายในวันนี้ลุงหัวหน้าหมู่บ้านต้องมาที่บ้านของเราเพราะเรื่องนี้แน่ ๆ ยังไงบ้านนั้นก็ไม่กล้าเมินเฉยไม่รับผิดชอบหรอก" "ได้ยินแบบนั้นแม่ก็โล่งใจ เอาเป็นว่าพวกเรารีบเตรียมตัวกันดีกว่านะ ถึงตอนนั้นลูกต้องร้องห่มร้องไห้ให้สมบทบาทเข้าใจไหมลูก" "ฉันรู้แล้วน่า แม่ไม่ต้องเป็นห่วง" หลังจากได้ยินว่าแผนการขั้นแรกสำเร็จ ทั้งสามคนก็รีบไปเตรียมตัวรับมือกับขั้นตอนต่อไป เวลานี้พวกเขาต้องหาคนมารับเป็นพ่อของเด็กในท้องให้เร็วที่สุด ไม่รู้ว่าบ้านฉินที่กำลังจะมาเยือนจะมีข้อเสนอใดกันแน่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD