เข้าห้องหอNC

1777 Words
อาเอินได้รับหน้าที่ให้ถือตะเกียงไฟสีแดงมาส่งบ่าวที่ห้องหอ ส่วนคนอื่น ๆ ก็ใช้ตะเกียงไฟที่มีช่วงส่องทางเพื่อความสว่างมาด้วยเช่นกัน แม้จะเป็นเวลาเพียง 1 ทุ่ม แต่ที่นี่ยังไม่มีไฟฟ้า ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็พบแต่ความมืด ทว่าภายใต้ความมืดนี้..กลับมองเห็นกลุ่มดาวที่อยู่บนท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน ดาวแต่ละดวงเปล่งประกายระยิบระยับจนคนที่ไม่เคยได้เห็นสิ่งเหล่านี้ต้องเงยหน้าขึ้นมองอยู่บ่อยครั้ง 'แม่คะ ยายคะ วันนี้เป็นวันแต่งงานของหนูนะ แม่กับยายช่วยอวยพรให้หนูด้วยนะคะ' "อาหรานเป็นอะไรรึเปล่าลูก?" แม่โหลวเห็นสะใภ้หยุดมองท้องฟ้าอยู่หน้าบ้านดินหลังเล็กจึงเอ่ยถาม "หนูแค่คิดถึงแม่กับยายค่ะคุณแม่" มือหยาบลูบหลังสะใภ้เบา ๆ ด้วยความสงสาร เด็กคนนี้สูญเสียแม่ไปตั้งแต่ยังเด็ก หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตมาอย่างยากลำบาก ช่างน่าเวทนาจริง ๆ "ลูกคิดถึงพวกท่านได้ แต่ต้องจำไว้ว่าต่อไปนี้ลูกไม่ได้อ้างว้างเดียวดายอีกต่อไปแล้ว ยังมีพวกเราที่จะอยู่เคียงข้างลูกในทุกช่วงเวลา" "ขอบคุณค่ะคุณแม่" "เข้าข้างในกันเถอะลูก" พอนึกถึงห้องหอร่างกายของฉุนหรานกลับร้อนวูบวาบอย่างบอกไม่ถูก ส่วนสามีของเธอนั้นถูกพี่ชายกับพ่อมอมเหล้าจนต้องช่วยกันพยุงเข้าห้องไปแล้ว "เฮ้อ เจ้าลูกคนนี้ เมาขนาดนี้แล้วมันจะทำหลานให้พ่อไหวไหมเนี่ย" "เชื่อผมเถอะพ่อ เจ้าเล็กไม่ทำให้ผิดหวังหรอก" "จิ๊! เจ้าเด็กพวกนี้ ตามปู่ออกมานี่เร็วเข้า" "ครับพ่อ/ครับปู่" หลังจากวางร่างของโหลวตงกูไว้บนที่นอนแล้ว ทุกคนจึงถอยออกมารอที่หน้าห้องตามคำสั่งของผู้เป็นปู่ พอฉุนหรานเดินมาถึง อาเอินกับแม่จึงรีบนำตะเกียงไฟมงคลไปวางไว้ที่หัวเตียง ก่อนจะรีบออกไปรออยู่กับทุกคน "เอาล่ะอาหราน หากเป็นช่วงอื่นคงเข้าห้องหอแค่ 1 คืนเท่านั้น แต่ช่วงนี้ใกล้เข้าหน้าหนาวแล้ว งานอย่างอื่นก็ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว แม่อยากให้ลูกทั้งสองเข้าห้องหอสัก 3 คืนเลยดีไหม?" "3 คืน!" คนฟังถึงกับตกตะลึง หากให้เธออยู่ในห้องกับสามี 3 วัน 3 คืนเต็ม ๆ อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเธอคงต้องเดินท้องโย้แน่ ๆ ใคร ๆ ก็เห็นว่าตอนอยู่บนโต๊ะกินข้าว คนหน้ามึนนั่นจ้องมองเธออย่างกับจะจับเธอยัดลงท้อง ทำเอาเธอเขินจนต้องแสร้งทำเป็นไม่เห็นอยู่บ่อยครั้ง "ใช่ลูก 3 คืน อ้อแล้วคืนนี้จะทำอะไรก็เต็มที่เลยนะลูก คุณปู่จะไปนอนที่บ้านใหญ่ บ้านหลังเล็กนี้มอบให้ลูกทั้งสองใช้เป็นเรือนหอได้อย่างเต็มที่ แต่ต้องระวังตะเกียงไฟด้วยนะลูก คืนนี้ห้ามให้ตะเกียงไฟมงคลดับเด็ดขาด" "ขะ..เข้าใจแล้วค่ะคุณแม่" "เข้าไปเถอะลูก พวกแม่จะกลับแล้ว ห้ามออกไปไหนเด็ดขาดจนกว่าจะครบกำหนด 3 วัน 3 คืน ส่วนข้าวปลาอาหารไว้เป็นหน้าที่ของแม่จะจัดการให้เอง" แม่โหลวพูดจบก็เดินออกจากบ้านไปพร้อมกับทุกคน แต่สายตาของคนที่มองเธอกลับทำให้เธอหน้าแดงจนปิดไม่มิด ฉุนหรานเฝ้าดูทุกคนจนเห็นว่าเดินออกไปไกลแล้ว เธอจึงปิดล็อกห้องให้เรียบร้อยก่อนจะหันเข้ามาสำรวจในห้องนอน ทว่า... "พะ..พี่ตงกูไม่ได้เมาจนไม่ได้สติหรอกเหรอคะ" ลมหายใจของฉุนหรานเริ่มติดขัดเมื่อหันกลับมาแล้วพบว่า ตอนนี้สามีของเธอกำลังถอดเสื้อออกจนเห็นมัดกล้ามที่เรียงตัวกันอย่างน่าหลงใหล "เมาครับ แต่ยังไหว ใครจะปล่อยให้ภรรยาอยู่คนเดียวในคืนวันแต่งงาน" เขาเพียงแค่โดนพ่อกับพี่ชายแซวบ่อยก่อนไปจึงแสร้งทำเป็นเมาจนคอพับ แต่ถึงอย่างนั้นเหล้าก็รู้สึกร้อนรุ่มแปลก ๆ จนได้ยินพ่อกับพี่ชายแอบพูดกันว่าเหล้าในกาของบ่าวสาวผสมยาชูกำลังขนาดเบาเอาไว้ "งั้น เราไปอาบน้ำกันไหมคะ" "ถ้าอาหรานอยากอาบน้ำ เปิดประตูบานนั้นไปจะเจอถังน้ำที่พี่เตรียมไว้ให้ แต่พี่ว่าเราต้องดื่มเหล้ามงคลแก้วนี้ก่อน" ตงกูหันไปมองถาดไม้ที่วางอยู่บนเตียงเตา ก่อนจะหยิบขึ้นมาส่งให้ภรรยาหนึ่งจอกและเขาเองก็ดื่มเข้าไปหนึ่งจอก อึก อึก "..." "อาหรานไปอาบน้ำเถอะ พี่รอได้" ฉุนหรานรีบเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำด้วยความรีบร้อน เธอไม่กล้าปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าสามีจึงต้องหอบเสื้อผ้าของเธอเข้าไปด้วย ซ่า ซ่า ซ่า ทว่ายิ่งใช้ขันตักน้ำขึ้นมาอาบมากเท่าไหร่ แต่ความร้อนรุ่มในกายกลับเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับตงกูที่รออยู่ในห้องนอน ตอนนี่เขาร้อนจนต้องถอดเสื้อผ้าออกจนหมดเหลือเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเท่านั้นที่ห่อหุ้มส่วนล่างเอาไว้ แก๊รก อึก อึก "ทำไมมันร้อนแบบนี้นะ หึ พี่ใหญ่นะพี่ใหญ่ เล่นของแรงเลยเหรอเนี่ย" ถึงจะรู้ว่าพี่ชายใส่บางอย่างลงไปในเหล้ามงคล แต่ตงกูก็ยังรินมาดื่มราวกับว่าอยากท้าทายว่ามันจะรุนแรงสักแค่ไหน แอดดด "พี่ตงกู ฉัน..เอ่อ" ตงกูจ้องมองภรรยาที่เดินออกจากห้องอาบน้ำมาด้วยเหงื่อเม็ดเล็กมากมายที่ผุดพรายขึ้นมาบนใบหน้า แก้มทั้งสองข้างของเธอแดงซ่านชวนมอง มือหน้ายื่นแก้วเหล้าให้ภรรยาดื่มเพื่อดับกระหายอย่างลืมตัวพร้อมกับดึงร่างของฉุนหรานมานั่งลงบนตัก อึก "นิ..นี่เหล้า" "ดื่มเข้าไปเถอะ นี่เป็นเหล้ามงคลของเรา" อึก อึก ฉุนหรานที่กำลังเคลิ้บเคลิ้มทำตามที่อีกฝ่ายบอกอย่างว่าง่าย ร่างกายของเธออ่อนระทวยเมื่อถูกเขาดึงเข้าไปกอด กลิ่นของบุรุษเพศเป็นแบบนี้นี่เอง เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แต่เธอชอบ..ชอบให้เขาลูบไล้ไปทุกสัดส่วนของร่างกาย มันเหมือนเธอถูกกระตุ้นอย่างบ้าคลั่งให้หลงใหลในสิ่งที่เขากำลังปรนเปรอให้ "ไหนบอกซิว่าตอนนี้อาหรานรู้สึกยังไงบ้าง" เสียงทุ้มต่ำกระซิบที่ข้างหูของฉุนหราน มันทำให้เธอแทบคลั่งกับการกระทำของเขา มือหนาของตงกูค่อย ๆ สอดเข้าไปในเสื้อผ้าสีซีดตัวเก่าของเธอ ก่อนจะพบเข้ากับยอดอกอิ่มที่แข็งตั้งเป็นตุ่มไต มือหนาสะกิดหยอกเย้าสลับไปมาทั้งสองข้าง บ้างก็นวดคลึงอกอวบอย่างลุ่มหลง ทางด้านคนที่นั่งอยู่บนตักของสามีก็รู้สึกได้ถึงความแข็งขืนที่ดันก้นของเธออยู่ ใจดวงน้อยเต้นรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มือสองข้างของตงกูออกแรงหนักขึ้นในการบีบนวดหน้าอกของเธอ มันทำให้เธอเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ มันเป็นความเจ็บที่ทำให้เธออยากเจ็บอีก ในยามที่เขาออกแรงนวดหนักเบาเป็นจังหวะ เธอชอบความเจ็บปวดนั้นจนเผลอส่งเสียงร้องออกมา "อ๊ะ! อ๊าา" นิ้วแกร่งจู่โจมกลางกายสาวอย่างไม่ปรานี เมื่อตงกูเห็นว่าภรรยาเริ่มมีน้ำหวานเอ่อล้นออกมาจนได้ที่แล้ว ผ้าเช็ดตัวของเขาและเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่อยู่ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป ทุกอย่างถูกสลัดทิ้งไปภายในพริบตา สองร่างเปลือยเปล่าโรมรันกันอยู่ขนเตียงเตาที่ถูกปูด้วยชุดเครื่องนอนสีแดง ใต้ร่างของตงกูมีร่างอรชรที่ดิ้นเร่าร่ำร้องให้เขาปรนเปรอสิ่งที่เธอชอบ ใบหน้าของฉุนหรานแดงซ่าน ดวงตาของเธอเคลิบเคลิ้มไปกับทุกสัมผัสที่ได้รับ ยิ่งตอนที่ริมฝีปากร้อนครอบดูดยอดอกของเธอ มันเป็นความรู้สึกเสียวซ่านที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน ร่างระหงแอ่นอกให้สามีฉกชิมได้อย่างเต็มอิ่ม ตงกูฉกชิมเรือนร่างหอมหวานอย่างบ้าคลั่ง เขาทั้งรอยรักไว้บนเรือนร่างของภรรยาทุกจุดด้วยความภูมิใจ "อ๊าา อาหราน น้องทำไมหอมหวานขนาดนี้" เสียงหายใจของทั้งคู่เหนื่อยหอบดังขึ้นเรื่อย ๆ ตงกูไล้ชิมเรือนร่างของภรรยาจนพอใจก่อนจะส่งหัวมังกรตัวเขื่องเตรียมมุดเข้าถ้ำสาวที่ปิดสนิท ไม่เคยมีใครได้กรายใกล้ กึด! "อ๊ะ! เจ็บ ฮึก พี่ตงกูฉันเจ็บ" เพียงแค่ส่วนปลายหัวหยักมุดเข้าปากถ้ำก็ทำเอาร่างแน่งน้อยสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวด "ชู๊ววว เดี๋ยวก็หาย พี่จะทำให้หนูมีความสุขตลอดทั้งคืน แต่เราต้องผ่านความเจ็บครั้งนี้ไปให้ได้ก่อน" พอฉุนหรานพยักหน้ารับ ตงกูจึงเริ่มดึงความสนใจจากเธอด้วยการมอบจูบที่เร่าร้อน พร้อมกับส่งมังกรตัวเขื่องในความยาวส่วนที่เหลือเข้าไปจนสุด "อ๊า! อึก" ใบหน้าของฉุนหรานมีน้ำตาไหลอาบแก้ม ตงกูจำต้องหยุดนิ่งเพื่อให้เธอได้ปรับตัวก่อน พร้อมกับเช็ดน้ำตาให้เธอด้วยความรู้สึกผิด เขาพยายามมากแล้วที่จะอ่อนโยนกับเธอ "ไม่ร้องนะคนดี พี่ก็ถูกหนูรัดจนปวดเหมือนกัน จากนี้ไปเราหลอมรวมเป็นคนเดียวกันแล้ว พี่จะไม่ทำให้หนูเสียใจที่ฝากชีวิตไว้กับผู้ชายคนนี้" "อื้อ" ฉุนหรานพยักหน้ารับทั้งน้ำตา เธอกับเขาไม่ได้เริ่มต้นกันด้วยความรัก แต่อย่างน้อยก็เริ่มต้นกันอย่างถูกต้อง พอตงกูเห็นว่าภรรยาเริ่มปรับตัวได้แล้วสะโพกหนาจึงเริ่มขยับเป็นเชื่องช้า และเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ตามความต้องการของพวกเขา เสียงเนื้อกระทบกันดัง ตั่บ ตั่บ ตั่บ ผสมกับเสียงครวญครางดังสนั่นลั่นบ้าน แม้กระทั่งคนบ้านใหญ่ที่นั่งอยู่หน้าบ้านยังแอบได้ยิน พ่อโหลวกับแม่โหลวมองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม เป็นแบบนี้ความหวังที่จะได้อุ้มหลานน้อยก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD