“โอ้โห ด่าขนาดนี้นี่ลากไปตบเลยดีกว่า เราว่าเจ็บพอกัน” ฉันแยกเขี้ยวแล้วหันไปฟาดแขนเขาดังป๊าปด้วยความหมั่นไส้ ฉันว่าฉันน่าจะได้มีมวยกับเขาเข้าสักวัน พ่อแม่สอนมายังไงวะ ปากหมาเหลือเกิน “รักหรอกจึงหยอกเล่น” เขาพูดด้วยน้ำเสียงทะเล้น คือหน้านางปริ่มเปรมปรีดา ท่าทางอิ่มสุขสุดๆ คือนี่รักเหรอ ไม่บอกไม่รู้เลยนะ ถ้าจะรักฉันแล้วเป็นแบบนี้ก็ไม่ต้องรักกันก็ได้ ฉันเกรงใจอ่ะ “เจนี่ นอกจากหน้าตาก็ไม่มีอะไรดีแล้วนะเนี่ย” “เดี๋ยวๆ หลอกด่าปะเนี่ย?” “เฮ้ย ชมดิ เราจะด่าเจทำไม?” “โอ้โห ขอบคุณมาก พูดจาน่ารักสมกับที่เราลดตัวลงมาจีบจริงๆ” ค่ะ ณ จุดนี้นะคะ คุณผู้ชม แพนกล้องไปทางฝั่งซ้าย นี่คือชายชาตรีผู้มีดีกรีเป็นเด็กวิศวะโยธาหน้าตาน่ารัก ส่วนสูงร้อยแปดสิบเซนติเมตรกว่าๆ งานปากหมาคือพรสวรรค์ การปั่นประสาทคืองานอดิเรก ส่วนฝั่งขวา คือกุลสตรีหน้าหมวย ไม่รวยแต่สวยมาก ท่ายากไม่เยอะ แต่เลอะเทอะด้านสติปัญญา มาจากคณะ