ความร้อนแรงของเธอในตอนนั้น อย่างชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยในชีวิต
เธอต้องการเหลือเกิน
กลีบปากของเธอถูกดุ้นเอ็นสอดใส่เข้าออก แววตาของเธอถึงกับคลอหน่วย ด้วยความทรมาน เธอต้องการมากกว่านั้น
“ผัวจ๋า อูย เมื่อไหร่จะทำ”
ไม่ปรากฏว่าเจ้าของดุ้นเอ็นนั้นจะตอบว่าอย่างไร นอกจากสอดใส่เข้ามาในปากของเธอรัวกว่าเดิม ความเสียวซ่านกำลังทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง
“ไม่ไหวแล้วผัวขา”
ร่องรักตอดขมิบหนักหน่วงขับน้ำเหนียวเยิ้มทะลักออกมาอีกระลอก...
เช้านี้...
นภาเพ็ญพิถีพิถันกับตัวเองเป็นพิเศษ ร่างเปลือยเปล่าในกระจกเงา อวดความงดงามสมบูรณ์แบบฉายออกมา
ปกติ ต่อให้เพียงแค่ทาแป้งอ่อน ๆ ใบหน้าของหญิงสาวก็ดูอ่อนโยนกว่าวัยอยู่แล้ว เช้านี้ เธอเติมสีชมพูที่แก้ม ปากดูแดงเข้มขึ้น ทำเอาคนที่มองเห็นเป็นคนแรกอย่างเสี่ยชูศักดิ์ถึงกับร้องอุทาน
“อะไรกันเนี่ย”
“คืออะไรคะป๊า” หญิงสาวชักสีหน้าเล็กน้อย ความมั่นใจเหมือนกับหายวูบไปนิดหนึ่ง
“ไม่เคยเห็นลูกพ่อสวยแบบนี้มาก่อนเลย”
“สวยอะไรกันคะ” เธอเขิน แทบไม่อยากสบตาผู้เป็นพ่อ “ไม่เอาดีกว่าค่ะ เดี๋ยวหนูไปทำงานดีกว่า”
“อ้าว เดี๋ยวก่อนสิลูก”
“คะ”
ร่างนั้นชะงัก เดินกลับมา
เสี่ยชูศักดิ์ยังเดินเหินไม่คล่อง แต่สติปัญญาและสมองยังใช้ได้ดี เขาไม่ชอบนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่กับที่ แม้ว่ากิจการทุกอย่างจะปล่อยให้นภาเพ็ญรับช่วงดูแลจนเธอสามารถบริหารงานได้เองเป็นอย่างดี แต่ก็ยังคอยเป็นที่ปรึกษาในฐานะผู้มีประสบการณ์ ผ่านช่วงเวลาทั้งเลวร้ายและรุ่งเรือง อุปสรรคปัญหาต่าง ๆ
ปัจจุบันยังมีเรื่องน่าห่วงอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นก็คือ คู่อริ...
จริงอยู่ว่า กฎหมายยังไม่สามารถเอื้อมไปถึงได้ แต่ก็รู้ ๆ กันอยู่ว่า อริเตรียมพร้อมตลอดเวลา เผลอเมื่อไหร่ อาจจะพลาดท่าเสียที
คนมันใจใหญ่ กล้าใช้คนนอกกฎหมายเข้ามาลงมือได้ในครั้งแรก ใครจะรับประกันได้ว่าจะไม่มีครั้งต่อไป
โดยเฉพาะ...นภาเพ็ญ ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เพียงคนเดียว ต้องกุมบังเ**ยนกิจการระดับนี้ ไม่เพียงแค่คู่อริทางการค้าเพียงอย่างเดียว
อาจจะมีหลายคนจ้อง...จะทดสอบฝีมือของเธออยู่ไม่น้อย
ผู้หญิงน่ะนะ ต่อให้เก่งกาจแค่ไหน ก็ยังคงมีคนพร้อมจะลองดีเสมอ ๆ
“เมื่อไหร่จะมีคู่กับเค้า ป๊าอยากเห็น”
“แหมป๊า...” นภาเพ็ญเขินอีกแล้ว
“เขิน...ไม่เคยเห็นลูกเขินเลย”
“โธ่ ป๊า หนูก็ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งนะคะ ป๊าเล่นมาพูดแบบนี้ หนูเขินเป็นเหมือนกันนะคะ ไม่เอาแล้ว... หนูจะไปทำงานละ”
คราวนี้ นภาเพ็ญผละออกไปทันที โดยมีสายตาของเสี่ยชูศักดิ์มองตามอย่างมีความหวัง เพียงแต่...ใครกันนะที่ทำให้ลูกสาวของเขาเกิดอาการแบบนี้ได้
ประสบการณ์นั่นเองทำให้คนเป็นพ่อสามารถอ่านอาการของลูกออก และคิดว่าไม่ใช่เรื่องปกติแน่ ๆ
นภาเพ็ญกวาดสายตา เห็นพวกคนงานกำลังเร่งมือทำหน้าที่ของพวกเขา ระบบงานที่เธอได้วางเอาไว้ มีหัวหน้ารับผิดชอบในแต่ละแผนก ความจริงเธอไม่จำเป็นต้องลงมาคุมเองก็ได้ งานก็สามารถเดินต่อไปได้อย่างดี
ไม่เห็นเขาคนนั้น!
นภาเพ็ญรู้สึกหวั่นวูบขึ้นมา เป็นอารมณ์ที่เหมือนกับกำลังจะพบความสูญเสียบางอย่าง หรือที่เรียกว่าอกหักนั่นแหละ
ถ้าเขาไม่มา ก็แปลว่า งานอันหนักหน่วงของที่นี่ ทำให้เขาคนนั้นจากไปแล้วเหมือนกับคนงานโดยเฉพาะพวกคนไทย ที่น้ำอดน้ำทนแทบไม่มีอยู่เลย
แต่แล้ว...หัวใจของหญิงสาวพลันเต้นรัวเร็วขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเหลือบไปเห็นเจ้าของร่างสูงใหญ่ คลุมใบหน้าเอาไว้อย่างมิดชิดเดินออกมาจากด้านหนึ่ง
เขายังอยู่!!
เธอก้าวเข้าไปหา ก่อนที่เขาคนนั้นจะได้เริ่มงาน
“เดี๋ยวก่อน”
“ครับคุณหนู” ร่างสูงใหญ่นั้นชะงัก
“นายชื่ออะไร”
“สุดเทพครับ” เขาตอบ
“เหรอ ขับรถได้ไหม”
“ได้ครับ” เขาตอบ ดวงตาสนิมเหล็กที่มองสบกับหญิงสาวกลางนภากาศนั้น ทำเอาใบหน้าของเธอร้อนวูบ สูญเสียความมั่นใจที่เคยมีไปชั่วขณะ “ใจจริงผมอยากสมัครขับรถบรรทุกแหละครับ แต่เห็นว่าที่นี่ไม่มีตำแหน่งว่าง อีกอย่างผมยังไม่มีใบขับขี่รถใหญ่ด้วยก็เลยเป็นจับกังไปพลาง ๆ”
“อืมม...ก็ดี ว่าง ๆ ก็ไปทำใบขับขี่นะ เผื่อ ๆ ไว้”
“ครับคุณหนู”
“ไปทำงานเถอะ ไม่มีอะไรแล้ว”
“ครับคุณหนู”
ท่าทางว่านอนสอนง่ายดี...แถมมีความมุ่งมั่น... หญิงสาวนึกในใจ ทำไมเธอถึงได้รู้สึกเขิน ๆ ต่อสายตาของเขาที่มองมา
ภาพเหตุการณ์เมื่อค่ำวานยังกระจ่างอยู่ในหัว พวกคนงานเวลาทำงานก็ทำจริงจัง มีเสียงพูดคุยบ้างก็เป็นเพียงเรื่องธรรมดา แต่เวลาเลิกงาน พวกเขากลับมีความดิบ ๆ เถื่อน ๆ เสียจนน่าหวาดหวั่น หรือว่านั่นคือเรื่องปกติของพวกเขา
ถ้าผิด คงผิดที่เธอเองดันไปเห็นอะไรแบบนั้นเข้า โทษใครไม่ได้
“คุณหนูครับ แย่แล้ว”
มีเสียงคนวิ่งกระหืดกระหอบมาบอก
“อะไร เกิดอะไรขึ้น”
“รถบรรทุกที่กำลังขนสินค้าประสบอุบัติเหตุครับ...นี่ครับ” ผู้มาส่งข่าวเป็นหัวหน้าอีกแผนก ประจำอยู่ในโกดังยื่นมือถือให้กับคนเป็นเจ้านายสาว
“เอาสิ” เธอตอบ
ทว่า...เธอเคยผ่านมาแล้ว ครั้งนี้เธอก็จะผ่านเหตุการณ์ได้เหมือนทุกครั้งนั่นแหละ
“ให้ผมขับรถให้ไหมครับ”
เสียงทุ้มของเขาคนนั้น ตอนที่เธอก้าวไปที่รถกระบะ
นภาเพ็ญสีหน้าเผือด เพราะนับตั้งแต่หญิงสาวเข้ามารับช่วงกิจการต่อจากผู้เป็นพ่อ เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งนัก
แต่ก็หลีกเลี่ยงได้ยาก โดยเฉพาะเมื่อการทำงานต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องราวบนท้องถนน รถทุกคันมีประกันก็จริง แต่ทุกครั้งที่เกิดขึ้น ทำให้สูญเสียรายได้ไปไม่น้อย