คนอย่างรสินไม่ต้องมาเสียเวลาติดตามเนทไอดอลอย่างกอหญ้าก็ได้
แต่ไม่รู้ทำไม ถึงแม้เธอจะแต่งตัวยั่วยวนแต่ก็ดูห่วงเนื้อห่วงตัว จะเรียกว่าหยิ่งหรือทรนงก็ไม่รู้จะเรียกได้เต็มปากหรือเปล่า
มันอาจเป็นความรู้สึกหลงใหลหรืออยากเอาชนะก็ได้
ปาลิดากำลังล็อกรถอยู่ ฉับพลันมีเงาร่างซ้อนอยู่ด้านหลัง
“อย่าขยับ! มีเงินเท่าไหร่ส่งมาให้หมด”
“เงินเหรอ”
ปาลิดาตกใจกับของแหลมที่จี้อยู่ที่เอว ผู้ชายที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังพยายามจะเอากระเป๋าสะพายของเธอไป แต่เงินนั้นมันเป็นค่ารักษาแม่ กว่าจะหาเงินก้อนนี้มาได้ มันไม่ง่ายเลยนะ แล้วไอ้หมอนี้เป็นใคร จะมาฉวยโอกาสเอาน้ำพักน้ำแรงของเธอไปงั้นเหรอ
“บอกให้ส่งมาไงเล่า”
“ให้ตาย ยังไงฉันก็ไม่ยอมให้หรอก”
“อีนี่ไม่กลัวหรือไง เดี๋ยวแม่งแทงให้ไส้ทะลักหรอก!”
“ฉันตายก็ไม่เป็นไร แต่เงินนี้ฉันต้องเอาไปให้แม่ มันเป็นค่ารักษาผ่าตัดของแม่ฉัน!”
“เอากระเป๋ามึงมาให้กูเดี๋ยวนี้”
ปาลิดากอดรัดกระเป๋าตัวเองแน่น ไม่ได้หรอก ถ้าไม่เอาเงินไปใช้หนี้ที่โรงพยาบาลก็ต้องถูกฟ้องแน่ๆ แล้วแม่ก็ไม่แข็งแรงไม่ได้ทำงานเหมือนเมื่อก่อนจะเอาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ก้อนโตนี่ได้ล่ะ
“เฮ้ย! ทำอะไรนะ”
รสินเห็นท่าไม่ดีรีบลงจากรถวิ่งเร็วๆ เข้าไปช่วย เขาตะโกนก่อนที่ตัวเองจะไปถึง ผู้ร้ายตกใจที่เห็นมีคนวิ่งมา มันผละร่างบอบบางแล้วรีบตะเกียดตะกายหนีไปทันที ชายหนุ่มเห็นหญิงสาวนั่งขดตัวงออยู่ที่พื้นก็รู้ว่าเธอเสียขวัญมาก เขามองดูว่าไอ้โจรนั้นวิ่งเตลิดไปแล้ว ก็เข้าไปประคองหญิงสาวให้ลุกขึ้นยืน
“คุณบาดเจ็บที่ไหนหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะ แค่ตกใจ”
ปาลิดาหอบหายใจแรง มือไม้เย็นและสั่นจนอีกฝ่ายมองเห็นได้ชัดเจน เขาเห็นสีหน้าเสียขวัญของเธอแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้
“คุณแน่ใจว่าไม่เป็นอะไรนะ”
“ค่ะๆ ขอบคุณมาก”
“จะไปแจ้งความไหมครับ ผมไปเป็นเพื่อนได้นะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ มันไม่ได้อะไรไป อีกอย่างฉันก็ไม่เห็นหน้ามันด้วย”
“งั้นให้ผมไปส่งคุณก็แล้วกัน” เขาอาสา แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงยหน้าจ้องมองเขา เขาก็ชูมือทั้งสองข้างขึ้น
“ผมหมายถึงส่งที่ประตูข้างหน้านี้นะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
ปาลิดายิ้มออกมา แต่เพราะความตื่นตกใจทำให้เธอแทบไม่มีแรงเดิน จึงต้องยอมให้เขาช่วยถือของพะรุงพะรังเดินขึ้นมาที่ชั้นสอง ที่ห้องพักของเธอ
“คุณเลยต้องเสียเวลามาส่งฉันเลย”
“ไม่เป็นไร ผมเลิกงานพอดี”
“คุณพักแถวนี้หรือคะ”
“เอ่อ...เพื่อนครับ เพื่อนผมอยู่แถวนี้ มาส่งเพื่อนครับ” รสินจำใจโกหกเพราะไม่อยากให้เธอรู้ว่าเขาแอบตามเธอมาตั้งแต่ที่ทำงาน
“ค่ะ”
“ผมรสินครับ” เขาแนะนำตัวเอง “คือ...ผมแค่อยากบอกคุณ เผื่อคุณจะสบายใจว่าผมไม่ได้คิดร้ายกับคุณ”
“ฉันกอหญ้าค่ะ” เธอยิ้มและยืนนิ่งอยู่ที่บานประตูทางเข้าอาร์พาทเม้นต์
“โอเค คุณถึงห้องแล้ว ผมควรไปได้แล้ว” เขายกมือเสยผมตัวเองอย่างเขินๆ ไม่คิดตัวเองจะมีอาการเขินอายกับเขาเหมือนกัน
“ค่ะ กลับดีๆนะคะคุณรสิน”
“ครับ ขอบคุณครับ”
ปาลิดามองดูชายหนุ่มร่างสูงโปรงในชุดสูธเนื้อดีสีเข้มที่หมุนตัวเดินจากไปสุดสายตา หญิงสาวเดินขึ้นบันไดมาอย่างเหนื่อยๆ เธอไขกุญแจแล้วเข้าห้องตัวเอง วางของลงบนพื้นแล้วถอนหายใจเบาๆ รู้สึกเจ็บที่เอวนิดๆ พอเลิกเสื้อยืดขึ้นก็เห็นคราบเลือด ปลายมีคงจิ้มเข้าเนื้อแต่ไม่ลึกและแผลก็ไม่ได้ใหญ่อะไรนัก เธอรีบจัดการล้างและเช็ดแผลให้เรียบร้อยขณะเดียวกันเธอก็อดยิ้มกับภาพผู้ชายตัวโตที่ทำหน้าเขินอายไม่ได้
โชคดีที่เขามาช่วยไว้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่มีเงินเอาไปให้แม่แน่ๆ หญิงสาวล้มตัวลงนอนอย่างเหนื่อยล้า และหวังว่าชีวิตเธอจะโชคดีอย่างนี้ตลอดไป
....
วันนี้เป็นวันหยุดหลังจากเสร็จงานมอเตอร์โชว์ พี่ชมพู่ให้ปาลิดาได้พักผ่อนบ้าง ซึ่งก็เป็นเรื่องดีของเธอ เพราะนอกจากงานพริ้ตตี้ งานโชว์ตัว งานแสดงสินค้าแล้ว ความลับอีกเรื่องหนึ่งก็คือดอกแก้วเป็น “วีเจ” ฟังดูดีแต่จริงๆมันคือ “สาวเซ็กส์โฟน”
‘กอหญ้า’ ติด1ใน10 ที่มีคนต่อคิวคุยด้วยมากที่สุดของเวบไซต์ใต้ดินที่หนึ่ง เอาเถอะ ชั่วโมงนี้แล้ว อะไรทำได้เงินเธอก็จำใจต้องทำไว้ก่อน เธออยากเก็บเงินให้ได้สักก้อน ลงทุนทำร้านอาหารตามสั่ง ไม่ต้องให้แม่กับพ่อเลี้ยงไปขายอาหารตลาดนัดให้เหนื่อยอีก
ใบหน้าหวานยิ้มเศร้าออกมา เธอไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน ครอบครัวของเธอเหลือเพียงแม่เพียงคนเดียว ความจริงปาลิดาเป็นคนเรียนเก่ง สมัยเรียนมัธยมได้รับทุนเรียนดีทุกปี แต่พอจะเข้ามหาวิทยาลัย เธอก็คิดดีแล้วว่า ต่อให้กู้ยืมเรียนตัวเองได้เรียนสบายแต่แม่ก็ยังลำบากอยู่ เธอจึงตัดสินใจเรียนมหาวิทยาลัยเปิด และทำงานไปด้วย รออีกหน่อย เมื่อเธอเรียนจบได้งานดีๆ มีเงินเดือนสูงๆ แม่ก็จะได้สบาย
ถึงปาลิดาจะเป็นสาวเซ็กส์โฟน แต่คนที่เสียเงินโทรศัพท์มาคุยกับเธอ บ่อยครั้งที่ไม่ได้จะคุยกันเรื่องเซ็กส์ มันเหมือนการพูดคุยอย่างเพื่อนสนิท ถามไถ่สารทุกข์ ระบายความเครียดของงานการที่ทำอยู่ ถึงเธอจะเป็นดาวเด่นในห้องแชตเซ็กส์แต่เธอยังไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องอย่างว่าเลย
มันตลกมากเลยใช่ไหมล่ะ?
ก็จะเอาเวลาที่ไหนไปมีแฟนได้เล่า ก่อนหน้านี้เธอทำงานที่ร้านสะดวกซื้อก็เข้างานเป็นกะ เลิกงานเธอก็เอาแต่ท่องหนังสือเตรียมสอบ พอมาเป็นพริ้ตตี้ก็ต้องคอยระวังผู้คนที่เข้าใกล้ ไหนจะงานเซ็กส์โฟนที่ทำอยู่อีก เธอเคยอ่านข่าวดาราตกอับมาเยอะ เพราะฉะนั้นตอนนี้เธอทำงานมีเงินไหลเข้ามามาก แต่รายจ่ายก็เยอะตามไปด้วย หญิงสาวลุกจากเตียงนอน จัดการทำความสะอาดห้องและซักเสื้อผ้าแล้ว ก็อาบน้ำแต่งตัวไปโรงพยาบาล
วันนี้เธอต้องเอาเงินไปจ่ายค่ารักษาที่ขอผ่อนจ่ายกับทางโรงพยาบาล
รสินได้รับโทรศัพท์จากคนรับใช้ว่าคุณย่าเข้าโรงพยาบาลกระทันหัน เขารีบมาโรงพยาบาลทันทีที่ทราบข่าว ครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวใหญ่ที่อยู่กับพร้อมหน้า คุณปู่เสียไปเมื่อปีที่แล้ว คุณย่าก็อ่อนแอลงมาก ถ้าจะบอกว่าเขาเป็นคนติดย่าก็ไม่ผิดนักหรอก เพราะย่าเป็นคนเลี้ยงเขากับมือ มากกว่าแม่ของเขาเสียอีก
“คุณย่าเป็นยังไงบ้างครับ” รสินถามพ่อทันที่ที่มาถึง พ่อกับแม่ยืนรออยู่หน้าห้องไอซียู
“หมอยังไม่ออกมาเลย” แม่เป็นคนตอบก่อน
“ปีนี่คุณย่าก็อายุเก้าสิบแล้วนะ” พ่อพูดเหมือนปลงๆ
“คุณย่ายังแข็งแรง ยังอยู่ได้ถึงร้อยปี”
รสินมันจะกลายเป็นเช่นนี้เสมอเมื่ออยู่กับย่า ย่ารักและเอ็นดูหลานชายอย่างเขามากกว่าหลานคนอื่นๆ แต่เขาไม่สนใจคนอื่นจะมองเขาเป็นอย่างไรหรอก ที่สำคัญคือเขาอยากให้คนที่เขารักอยู่กับเขาไปนานๆ ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกพร้อมกับคุณหมอเจ้าของไข้เดินออกมา
“คุณย่าเป็นยังไงบ้างครับ” รสินถามอย่างร้อนรน
“ท่านเป็นลิ้นหัวใจรั่ว อายุมากแล้วไม่สามารถผ่าตัดได้ ตอนนี้ก็ทำได้เพียงประคองอาการกันไป ถ้าดูแลใส่ใจดีๆ ก็อยู่ได้อีกหลายปีครับ”
“เข้าไปเยี่ยมได้ไหมครับ”
“ได้ครับ อีกสักครู่ก็จะย้ายเตียงได้ครับ”
รสินก้าวเร็วๆ เข้าไปหาผู้เป็นย่า เขาเข้าไปกุมมือเหี่ยวย่นของหญิงชรา ไม่กี่นาทีต่อมาดวงตาที่ปิดอยู่ลืมขึ้น พร้อมกับรอยยิ้ม
“ตาหนูของย่า”
“ครับ ผมอยู่นี่”
“ร้องไห้ทำไมละลูก”
ย่าเห็นน้ำตาของหลานชายก็อยากจะหัวเราะปลอบโยน แต่ยังไม่มีแรงทำได้ จึงได้เพียงแต่วางมือบนศีรษะของหลานชายที่นางรักมากที่สุด อาจเพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เกิดเลยก็ว่าได้ นางจึงรักและเอ็นดูรสินมากกว่าหลานคนอื่นๆ และเขาก็เป็นคนดีไม่เคยทำให้นางต้องผิดหวัง ทั้งการเรียน การงาน เขาทำได้ดีพร้อม กิจการที่ปู่สร้างไว้ก็สืบทอดไปยังรุ่นหลานได้อย่างไม่เสียเปล่า