เมื่อหญิงสาวสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกก็พบว่าตัวเองถูกพันธนาการไว้โดยอ้อมแขนของชายหนุ่มที่นอนหลับอยู่ข้างกาย แม้เธอจะมองไม่เห็นเขาแต่ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอของเขาที่เป่ารดคอของเธออยู่นี้ก็ทำให้เธอรู้ได้ว่าเขานั้นหลับอยู่
หญิงสาวนอนลืมตาพลางนึกคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาตลอดสามเดือนนี้ นับตั้งแต่คืนนั้นมาชายหนุ่มข้างกายของเธอคนนี้ก็มีท่าทีเปลี่ยนไปราวกับคนละคน
เขาไม่ได้มีท่าทางขี้เล่นหรือชอบกวนเธอเหมือนแต่ก่อน แววตาของเขาที่มองมายังเธอนั้นเปลี่ยนไปเป็นอีกคนราวกับว่าเธอไม่เคยรู้จักตัวตนทางด้านนี้ของเขามาก่อน
แม้หญิงสาวจะอยากคงความเป็นเพื่อนของทั้งคู่ไว้แต่การที่โดนกระทำแบบนี้นั้นทำให้เธอเริ่มไม่อยากเป็นเพื่อนกับเขาแล้ว
เขาเอาแต่ใจ ใจร้ายและเอาเปรียบเธอมาก ไหนจะความมักง่ายของเขาที่เวลาเขามีอะไรกับเธอแล้วไม่ยอมป้องกันอีก
หญิงสาวค่อยๆ ยกแขนของชายหนุ่มออกจากตัวก่อนจะลุกจากเตียงออกมานั่งสูดอากาศอยู่ระเบียงนอกห้องพลางมองวิวบรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยแสงไฟส่องสว่าง
ลมเย็นๆ ที่พัดมาในยามค่ำคืนทำให้หญิงสาวรู้สึกผ่อนคลายบ้างเล็กน้อยแม้ภายในใจจะมีความอัดอึดอยู่เต็มเปี่ยมก็ตาม
หญิงสาวนั่งกอดตัวเองพลางทอดสายตามองวิวนั้นอยู่นานจนรู้สึกถึงผ้าที่ถูกคลุมบนไหล่ของเธอทำให้หญิงสาวหันไปมองอย่างตกใจทันที
ชายหนุ่มที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอหญิงสาวนอนอยู่ข้างกายเขาจึงลุกออกมาตามหาเธอและพบว่าหญิงสาวนั่งกอดเข่าอยู่นอกระเบียงห้อง ด้วยอากาศตอนกลางคืนที่ลมค่อนข้างแรงเขาจึงหยิบผ้าคลุมไปคลุมให้กับเธอ
"ทำไมมานั่งอยู่นี่ พรุ่งนี้เธอมีเรียนไม่ใช่หรอ?" ชายหนุ่มเอ่ยถามก่อนจะนั่งลงข้างหญิงสาว
เธอหันไปมองเขาก่อนจะขยับตัวออกห่างจากเขาเล็กน้อยจนชายหนุ่มต้องหันมองท่าทางของเธอทันที
"ฉันมีเรียนบ่าย ตื่นสายหน่อยก็ไม่เป็นไร" หญิงสาวตอบออกไปพลางทอดสายตามองไปตรงหน้า ต่างกับชายหนุ่มที่จ้องมองพฤติกรรมที่เธอแสดงออกมา
ชายหนุ่มรู้ดีว่าหญิงสาวมีความโกรธเคียงเขาอยู่ไม่น้อยทั้งเรื่องที่เขาเอาแต่รังแกเธอแถมวันนี้ยังขังเธอไว้ในห้องทั้งวันอีก สิ่งที่เขาทำนั้นล้วนเป็นสิ่งที่หญิงสาวไม่ชอบทั้งสิ้น
"กลับไปนอนต่อเถอะคริสต์ อากาศข้างนอกก็เย็นเดี๋ยวเธอไม่สบายอีกนะ" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ
"ที่ฉันไม่สบายครั้งก่อนก็เพราะนายไม่ใช่หรอ? อีกอย่างฉันไม่อยากนอนเตียงเดียวกับนาย" หญิงสาวปรายตามองเขาครู่หนึ่งก่อนจะหันไปสนใจวิวด้านหน้าต่อ
"มากกว่านอนเราก็ทำมาแล้วนะ เธอจะอะไรกับแค่นอนเตียงเดียวกัน"ชายหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นักเพราะคำตอบของหญิงสาวมันเหมือนกับว่าเธอกำลังรังเกียจเขาอยู่
"ไม่มีครั้งไหนเลยมาร์ติน ที่ฉันจะเต็มใจหรือสมยอมที่จะทำแบบนั้นกับนายหรือถ้าจะพูดให้ชัดคือนายข่มขืนฉัน" หญิงสาวหันมามองเขาน้ำตาคลอเบ้าทำให้ชายหนุ่มรู้สึกจุกที่คอขึ้นมาจนพูดไม่ออก
สิ่งที่หญิงสาวเอ่ยออกมาล้วนเป็นความจริง เธอไม่เคยยินยอมพร้อมใจในสิ่งที่เขาทำกับเธอเลยสักครั้ง มีแต่เขาเอาแต่ใจตัวเองโดยไม่ได้นึกถึงจิตใจหรือร่างกายของเธอเลยว่าจะรับไหวหรือไม่
"ฉันขอโทษนะ" ชายหนุ่มเอ่ยออกมาเพียงสั้นๆ แต่กลับทำให้หญิงสาวน้ำตาไหลออกมาทันที ไม่ใช่ว่าเธอรอคำขอโทษจากเขาเพียงแต่เธอรู้สึกว่ามันไม่คุ้มเลยกับสิ่งที่เธอต้องสูญเสียไปแล้วได้กลับมาเพียงคำขอโทษแค่นี้
"เธอกลับเข้าไปนอนเถอะเดี๋ยวคืนนี้ฉันจะนอนโซฟาเอง พรุ่งนี้เธอมีเรียน" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นก่อนจะยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้มของหญิงสาวและดึงเธอให้ลุกขึ้นก่อนจะพาเธอกลับเข้าไปยังภายในห้องนอน
ชายหนุ่มหยิบหมอนและผ้าหุ่มสำรองในตู้ออกมานอนยังโซฟา แม้เขาจะไม่เคยต้องสละเตียงให้ใครแบบนี้มาก่อนแต่พอเห็นหญิงสาวร้องไห้ออกมาแบบนั้นแล้วเขากลับรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย
เขานอนจ้องเพดานอยู่นานพลางคิดถึงความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองว่าทำไมถึงต้องทำเช่นนี้กับหญิงสาวผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนของเขา ในตอนนั้นเขากล้าพูดได้เต็มปากเลยว่าที่เขาจะจีบเธอนั้นเพราะอยากลืมความรู้สึกที่มีต่อฮันนี่รักแรกของเขาที่เขาไม่อาจได้ครอบครอง
แต่การที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับเธอก่อนเกิดเรื่องนั้นมันก็ไม่ได้แย่ เขามีความสุขที่ได้กวนโมโหของหญิงสาวเพราะเธอเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่มาเรียนที่เดียวกัน แต่พอหลังจากเกิดเรื่องในคืนนั้นขึ้นความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอนั้นก็เปลี่ยนไป เขาไม่ได้เป็นแค่เพื่อนกับเธอแต่เขาเป็นมากกว่านั้น
ดังนั้นเขาจึงรู้สึกหวงในทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของเธอ เขาไม่อยากให้เธออยู่ใกล้หรือยิ้มหวานให้ผู้ชายคนไหนทั้งนั้น สิ่งเหล่านั้นมันควรจะเป็นของเขาเพียงคนเดียวเพราะเธอเป็นของเขาแล้ว! และด้วยความหวงแรงของเขานี้ทำให้เขาเผลอทำรุนแรงกับเธอครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่มันก็ไม่เป็นธรรมกับหญิงสาวเลยสักนิดเพราะแม้เขาจะได้ครอบครองร่างกายของเธอแล้วแต่ใจเขานั้นก็ยังไม่อาจจะตัดความรู้สึกที่มีต่อฮันนี่ได้อย่างเด็ดขาดสักที แม้จะผ่านมาสามปีกว่าแล้วก็ตาม เขาได้แต่เฝ้ามองหญิงสาวที่เป็นรักแรกของตัวเองมีความสุขกับเพื่อนรักของเขาโดยที่เธอคนนั้นไม่ได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่เขามีให้เธอเลยสักนิด
ชายหนุ่มกลัดกลุ้มและสับสนกับความรู้สึกของตัวเองที่เป็นอยู่ในตอนนี้เพราะเขานั้นอยากลืมฮันนี่และเริ่มต้นใหม่เปิดใจให้กับความรักครั้งใหม่กับหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงเขาในตอนนี้ แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อไปดีเพราะสิ่งที่ไว้กับเธอนั้นถือว่าเลวร้ายมากเลยทีเดียว
ตอนเที่ยง....
หญิงสาวตื่นขึ้นมาและพบว่าชายหนุ่มกำลังจัดเสื้อผ้าของเธอเข้าไปเก็บไว้ในตู้อยู่ ซึ่งของพวกนี้เขาน่าจะไปขนมาเมื่อวานตอนที่เขาออกไปข้างนอกมา หญิงสาวนั่งมองพลางถอนหายใจออกมาเพราะเธออยากกลับไปอยู่ห้องของตัวเองมากกว่ามาอยู่ร่วมห้องหับเขา
"ตื่นแล้วหรอ? ไปอาบน้ำสิเธอมีเรียนบ่ายนี่" ชายหนุ่มหันมาบอกกับเธอก่อนจะหันไปสนใจข้าวของของเธอต่อ
"สรุปแล้วคือฉันต้องอยู่ที่นี่?" หญิงสาวเอ่ยถามออกมาด้วยความรู้สึกเซ็งปนไม่พอใจ
"ใช่แล้วที่รัก เธอต้องอยู่กับฉันที่นี่" ชายหนุ่มหันมายิ้มกวนให้หญิงสาว นี่เป็นรอยยิ้มกวนครั้งแรกในรอบสามเดือนที่เขายิ้มแบบนี้ให้เธออีกครั้งเพราะตั้งแต่เกิดเรื่องคืนนั้นเขาก็ไม่ได้ยิ้มแบบนี้ให้กับหญิงสาวอีกเลย
แต่เมื่อคืนนี้เขาตัดสินใจว่าจะลองจริงจังกับหญิงสาวคนนี้ดูสักครั้งเพราะยังไงซะเรื่องมันก็เลยเถิดมาจนถึงขั้นนี้แล้ว เขาไม่อยากปล่อยให้ความสัมพันธ์นี้จบลงไปเหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้นและไม่อยากจมอยู่แต่กับคนที่ไม่อาจได้ครอบครองอย่างฮันนี่ด้วย
หญิงสาวเหลือบมองหน้าชายหนุ่มเล็กน้อยก่อนจะเดินหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าห้องน้ำไป แม้เธอจะไม่อยากอยู่ที่นี่เลยก็ตามแต่ดูแล้วเธอคงหลีกเลี่ยงยาก เพราะต่อให้เธอหนีเขาไปที่ไหนสุดท้ายเขาก็จะตามเธอจนเจออยู่ดี
หญิงสาวจึงเลือกที่จะเลี่ยงปัญหาความวุ่นวายเพราะอีกไม่กี่เดือนเธอก็จะเรียนจบแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นเธอจะหนีเขาไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้
ครึ่งชั่วโมงต่อมาหญิงสาวจัดการอาบน้ำแต่งตัวพร้อมที่จะไปเรียนแล้วเธอเดินออกมาจากห้องแล้วจ้องมองชายหนุ่มที่กำลังนั่งคุยโทรศัพท์หน้าบานยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับบรรดาสาวในสต๊อกของเขาอยู่ แต่เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวยืนมองอยู่เขาก็รีบวางสายทันที
"เอาคีย์การ์ดคอนโดกับกุญแจรถฉันคืนมาด้วย นายจะเก็บไว้เพื่อ?" หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับแบมือขอของของเธอคืนมาจากเขา
ไม่ใช่ว่าเธอไม่มีรถขับหรือขับรถไม่เป็นแต่ที่ผ่านมาชายหนุ่มนั้นคะยั้นคะยอที่จะไปรับไปส่งเธอจนเธอรู้สึกเอือมจนต้องให้เขามารับมาส่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
"ไม่ได้หรอก ฉันจะไปส่งเธอเอง" ชายหนุ่มเอ่ยก่อนจะลุกขึ้นและหยิบกุญแจรถเดินมาใกล้เธอ
"ไม่ต้องหรอก เย็นนี้ฉันมีนัดกับเพื่อนฉันจะขับรถไปเอง" หญิงสาวเอ่ยตอบเพราะเย็นนี้เธอมีนัดเป็นแบบให้เพื่อนถ่ายงานส่งอาจารย์และอาจจะเลยไปกินข้าวต่อกับเพื่อนเลย เธอจึงต้องการความเป็นส่วนตัว
"ฉันไปเฝ้าเธอก็ได้ มันหน้าที่ฉันอยู่แล้ว" ชายหนุ่มยักไหล่อย่างไม่ยี่หระก่อนจะดึงมือหญิงสาวให้เดินตามเขาแต่หญิงสาวกลับรั้งเอาไว้และยืนมองเขานิ่ง
"หน้าที่? นายไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลยนะติน ฉันแค่ต้องการความเป็นส่วนตัวที่จะไปไหนมาไหนกับเพื่อนฉัน ไม่ใช่จะให้ฉันตัวติดกับนายตลอดแบบนี้!" หญิงสาวเริ่มขึ้นเสียงด้วยความไม่พอใจที่ถูกชายหนุ่มตามติดขนาดนี้
แม้ก่อนหน้านี้เขาจะตามติดเธอแต่ก็ไม่ใช่ถึงขั้นที่จะตามเธอไปทุกที่แบบนี้ แถมตอนนี้เขายังมัดมือชกให้เธอย้ายมาอยู่กับเขาอีกนั่นยิ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกอึดอัดมากขึ้น
"ต่อไปนี้เธอจะเป็นแฟนฉัน และฉันจะทำหน้าที่แฟนที่ดีให้กับเธอ"
"แฟน? นี่นายกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ติน?" หญิงสาวถามออกไปด้วยความสงสัยและสับสน เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มกำลังทำสักนิด
"ฉันคิดดีแล้วคริสต์ ฉันนอนคิดทั้งคืนแล้ว เรื่องของเรามันเลยเถิดเกินกว่าจะเป็นแค่เพื่อนกันแล้วและฉันเองก็ไม่อยากจมอยู่กับความรู้สึกในอดีตที่มันเป็นไปไม่ได้ด้วย ฉันเลยคิดว่าฉันจะพยายามเปิดใจและลองรักเธอแบบจริงๆ จังๆ ดู" ชายหนุ่มเอ่ยออกมาพร้อมกับจ้องไปที่ใบหน้าหวานของหญิงสาว
"นายเห็นฉันเป็นอะไรอ่ะ? ฉันไม่ใช่ตัวแทนของใครนะติน ถ้านายยอมรับว่าเรื่องที่ผ่านมามันคือความผิดพลาดที่เราไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้นและนายปล่อยฉันไป นายจะไม่ต้องมาฝืนใจตัวเองทำอะไรแบบนี้เลยด้วยซ้ำ"
"ครั้งแรกฉันพลาดเพราะฉันแค่ขาดสติคริสต์ แต่ในความขาดสติของฉันตอนนั้นมันก็มีความตั้งใจของฉันอยู่ด้วยส่วนหนึ่ง" ชายหนุ่มหันมายืนประจันหน้ากับหญิงสาวตัวเล็กตรงหน้าก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยแววตาที่จริงจัง
"แต่ครั้งต่อๆ มา ฉันทำเพราะฉันต้องการเธอจริงๆ และฉันเป็นคนโลภคริสต์ ตอนนี้ฉันได้ตัวเธอแล้วฉันเลยอยากได้หัวใจเธอด้วย" ชายหนุ่มเดินเข้ามาประชิดตัวหญิงสาวก่อนจะรั้งเอวเธอเข้าหาตัวเขาจนเธอต้องยกมือขึ้นมาดันอกเขาไว้
"ฉันไม่ได้เห็นเธอเป็นตัวแทนของใครเลยคริสต์เธอก็คือเธอ ฉันแค่อยากให้เรื่องของเรามันชัดเจนมากกว่าที่เป็นอยู่หรือเธอไม่ต้องการล่ะ?"
"สิ่งเดียวที่ฉันต้องการจากนายคืออิสระติน นายมันเห็นแก่ตัว นายทำตามแค่ความรู้สึกของตัวเอง แม้กระทั่งตอนนี้นายก็สนใจแค่ตัวเองโดยที่นายไม่ได้สนเลยว่าฉันรู้สึกยังไง" หญิงสาวจ้องหน้าเขานิ่ง
คำตอบของเธอทำให้ชายหนุ่มหนักใจเพราะเขารู้ดีว่าเธอโกรธและเสียใจแค่ไหนกับสิ่งที่เขาทำกับเธอก่อนหน้านี้ แต่เขาก็ตั้งใจไว้แล้วว่าเขาจะลองดู หากถึงที่สุดแล้วหญิงสาวยังไม่รู้สึกอะไรกับเขา เขาก็คงจะต้องปล่อยเธอไปตามที่เธอต้องการ เพียงแต่มันยังไม่ใช่ตอนนี้
"ใช่คริสต์ ฉันเห็นแก่ตัว แต่ตอนนี้ฉันก็จะยอมทุ่มหมดหน้าตักที่ฉันมีเพื่อที่จะให้ได้ใจของเธอมาเหมือนกัน ฉันจะให้ใจฉันก่อนแต่ถ้าถึงที่สุดแล้วเธอยังไม่ให้ใจฉันกลับ ถึงตอนนั้นเธอจะได้อิสระอย่างที่เธอต้องการ" คำพูดและแววตาของชายหนุ่มที่จ้องมาที่เธอนั้นทำให้ใจเธอเริ่มสั่นเล็กน้อยเพราะเธอไม่เคยเห็นเขาในมุมนี้มาก่อน ในช่วงเวลาไม่นานเธอได้เห็นเขาในมุมที่ต่างออกไปมากกว่าผู้ชายรักสนุกจอมกวนที่เต๊าะหญิงไปวันๆที่เธอเห็นมาตั้งแต่สมัยมัธยม
"ฉันต้องไปเรียนแล้ว เดี๋ยวเข้าเรียนสาย" หญิงสาวเปลี่ยนเรื่องทันทีพร้อมกับผลักชายหนุ่มออกห่างจากตัว
"เดี๋ยวฉันไปส่งและรอรับเธอกลับพร้อมกันนะ" เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับจูงมือของหญิงสาวออกจากห้องเพื่อพาเธอไปส่งที่มหาวิทยาลัย
รถยนต์คันสวยเคลื่อนตัวมาจอดที่หน้าคณะในมหาวิทยาลัย หญิงสาวในรถเอี้ยวตัวกำลังจะเปิดประตูแต่ก็ถูกชายหนุ่มข้างกายรั้งแขนเอาไว้ทำให้เธอหันมองหน้าเขาอย่างสงสัย
"ที่ฉันพูดตอนอยู่ห้องอ่ะ พูดจริงนะและจริงจังมากด้วย ฉันจะทำแบบนั้นจริงๆ" ชายหนุ่มเอ่ยออกมาเสียงหนักแน่นเพราะเขาไม่รู้ว่าการที่หญิงสาวเงียบมาตลอดทางที่นั่งรถมานี้เธอรู้สึกแบบไหน
"ฉันไม่ชอบใช้ผู้ชายร่วมกับใคร" หญิงสาวเอ่ยออกไปเสียงเรียบ ต่อให้เธออยากจะให้โอกาสเขาได้ลองทำตามที่เขาพูดดูแต่มันก็คงเป็นไปได้ยาก ด้วยนิสัยที่รักสนุกของชายหนุ่มที่ติดตัวมาตั้งแต่สมัยก่อนทำให้ตอนนี้เขามีสาวๆ ในสต๊อกที่คุยเล่นด้วยนับไม่ถ้วนและบางคนถึงขั้นตามารบกวนเธอเพราะการกระทำที่ผ่านมาของชายหนุ่มที่ตามมาก่อกวนเธอตลอดทำให้ผู้หญิงเหล่านั้นไม่พอใจเธอนัก
"เธอไม่ได้ใช้ฉันร่วมกับใครแน่นอนคริสต์เธอเองก็เป็นคนแรกของฉันเหมือนกัน" ชายหนุ่มเอ่ยออกไปอย่างรู้ทัน ถึงแม้ที่ผ่านมาเขาจะคุยกับใครหลายคนแต่ก็ไม่เคยเลยเถิดถึงขั้นที่เขาทำกับเธอเลย มากสุดแค่นั่งตักหรือหอมแก้มแค่นั้น หญิงสาวข้างกายเขาคนนี้เป็นคนแรกที่เขาทำกับเธอมากกว่าใครคนอื่นทั้งนั้น
หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเพราะที่ผ่านมาเขาควงผู้หญิงเยอะมาก เธอจึงเชื่อได้ยากมากว่าชายหนุ่มคนนี้จะไม่เคยมีสัมพันธ์กับผู้หญิงคนไหนมาก่อนนอกจากเธอ
"ฉันต้องเข้าเรียนแล้วปล่อยเถอะ" หญิงสาวเอ่ยเปลี่ยนเรื่องพลางมองมาที่แขนของเธอที่โดนชายหนุ่มรั้งเอาไว้
"เรียนเสร็จแล้วบอกฉันนะ ฉันไปทำธุระก่อนเดี๋ยวฉันมารับเธอ" ชายหนุ่มปล่อยมือจากแขนหญิงสาวก่อนที่จะเอ่ยบอกกับเธอ
แต่หญิงสาวไม่ได้เอ่ยตอบอะไรกลับมาก่อนจะเปิดประตูรถและเดินเข้าคณะเรียนไป ชายหนุ่มมองตามหญิงสาวเดินเข้าคณะไปจนลับตาก่อนที่เขาจะขับรถออกจากหน้าตึกคณะของเธอไปทันที