บทที่ 3 ผู้หญิงหน้าเงิน
“ยัยสิบแปดมงกุฎ!”
อัลเฟรดพูดเสียงลอดไรฟัน นัยน์ตายังคงฉายแววความไม่พอใจร่างบางที่อยู่ตรงหน้าอย่างแรง
“หากคิดว่าจะหาจับผู้ชายด้วยวิธีแบบนี้ เลิกซะ!” ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลายังคงพูดจาดูถูกเหยียดหยาม ร่างสูงไม่อยากจะเสียเวลาอยู่ที่นี่ต่อจึงลุกออกไปโดยไม่สนใจมารดา
คุณหญิงวาสนาเห็นลูกชายเดินออกไปแล้ว แต่ไม่ลืมที่จะเอ่ยปากขอโทษหมอดูน้อยที่ลูกชายพูดจาดูถูกเธอ
“เอ่อ ขอโทษด้วยนะจ้ะ พอดีว่าลูกชายของฉันไม่ถูกกับการดูดวงเท่าไหร่จ้ะ อย่าถือสาเลยนะ เดี๋ยวเงินที่เหลือจะโอนให้เต็มจำนวนจ้ะ”
“ค่ะ” เจ้าของตำหนักบุพเพตอบ
คุณหญิงยิ้มวาสนาให้ร่างบางที่อยู่ตรงหน้า แล้วเดินออกไปตามลูกชาย ตอนนี้อัลเฟรดสตาร์ทรถคันหรูไว้รอแล้ว ใบหน้าหล่อเหลายังคงบูดบึ้งอย่างไม่สบอารมณ์ ผู้เป็นแม่ได้แต่ถอนหายใจออกมา ค่อย ๆ พูดกับลูกชายอย่างใจเย็น
“อัลเฟรด…”
“…..”
“แม่หวังดีนะ…ถึงพาลูกมาที่นี่”
“หือ? หวังดีคงไม่พาผมมาที่นี่หรอก แม่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบ และผมก็ไม่เชื่อ หากแม่เชื่อแม่ก็มาที่นี่เพียงคนเดียว”
นี่คงเป็นประโยคที่ชายหนุ่มพูดยาวที่สุดในชีวิต
“แต่แม่เชื่อ…”
“….” อัลเฟรดถึงกับพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าอะไรครอบงำแม่ของเขาอยู่กัน ไปเชื่อคำพูดของหมอดูมากกว่าคำพูดของลูกตัวเอง
ณ ตำหนักบุพเพ
ร่างบางได้แต่ชะงักนิ่งกับคำต่อว่าของชายหนุ่มหน้าตาดีเมื่อครู่ ไม่เชื่อก็ไม่เห็นต้องพูดจาดูถูกขนาดนี้เลยนี่ การทำอาชีพนี้ของมิชรินทร์เป็นอาชีพสุจริต ไม่ได้หลอกลวงเสียหน่อย
“เฮ้อ” คนตัวเล็กถอนหายใจออกมา เธอพึ่งเคยพบเจอคนที่ปากหนักเช่นนี้เป็นคนแรก
“โอเคไหมลูก” แม่ลดาถามลูกสาวอย่างเป็นห่วง เมื่อนัยน์ตาลูกสาว
คนสวยแสดงถึงความไม่สบายใจ
ร่างเล็กที่ได้ยินแม่ของตนเอ่ยปากถาม ใบหน้ายามก็ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ จากนั้นส่งยิ้มให้มารดาของตน
“โอเคค่ะ”
“งั้น เราไปช็อปปิ้งกันดีกว่านะคะ” แม่ลดายิ้มพร้อมกับฉุดข้อมือบางของลูกสาวให้ลุกขึ้น
“ค่ะ” ร่างเล็กยิ้มรับ เมื่อนึกถึงกระเป๋าใบหรูในช็อป ก็ทำให้ใบหน้าคลายความกังวลออกมา
ใช้เวลาเดินทางมาห้างสรรพสินค้าเพียงครึ่งชั่วโมง สองแม่ลูกตำหนักบุพเพก็ได้มาถึงช็อปกระเป๋าแบรนด์เนมชื่อดัง
“อยากได้ใบไหนหยิบได้เลยลูก” แม่ลดายังคงตามใจลูกสาว
“วันนี้หนึ่งใบเหมือนเดิมใช่ไหมคะ” คนตัวเล็กเอ่ยปากถามผู้เป็นแม่ ใบหน้ายิ้มแย้มดวงตาฉายแววตื่นเต้นไม่น้อย
“จ้ะ เดี๋ยวแม่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่นะลูก เดี๋ยวรินเลือกไปก่อน”
สิ้นคำพูดของแม่ลดาดวงตากลมโตได้กวาดสายตามองไปรอบ ๆ สะดุดตากับกระเป๋าใบหนึ่ง ใช้วัสดุอย่างดี พร้อมด้วยคัตติ้ง หรือการตัดเย็บอย่างประณีตและพิถีพิถันอย่างเห็นได้ชัด ทั้งเรื่องฝีเข็ม รอยตะเข็บที่สม่ำเสมอ ความต่อเนื่องของลายผ้า ความคมชัดของลายสกรีน รูปทรงของกระเป๋าที่ได้สัดส่วนเท่ากัน แถมสีโทนอ่อน เป็นสีที่เธอชอบพอดี
มุมปากของมิชรินทร์ยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ ลืมเรื่องราวก่อนหน้านี้ไปจนหมดสิ้น กระเป๋าที่อยู่ตรงหน้าน่าสนใจมากกว่าเรื่องของทายาทตระกูลอัลนั่น แม้มิชรินทร์จะรู้สึกชื่นชอบเขาตั้งแต่แรกพบ ทว่าเมื่อเห็นพฤติกรรมของเขาแล้ว คนตัวเล็กขอเป็นโสดเสียดีกว่า
จากนั้นมือเรียวบางจึงเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าขึ้นมาดูใกล้ ๆ ทว่ากลับถูกมือใครบางคนคว้าไปเสียก่อน
หมับ!
มิชรินทร์หันขวับไปมองทันที กลับพบว่าเป็นผู้หญิงคนหนึ่งหน้าตาสะสวย ใส่เดรสสีแดงสด ริมฝีปากยกยิ้มขึ้นมาอย่างมีชัย ด้านข้างของหญิงคนนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นทายาทตระกูลอัลคือ อัลเฟรด
คนตัวเล็กไม่สนใจอะไร แต่เอ่ยปากจะขอกระเป๋าใบนั้นจากผู้หญิงตรงหน้า
“คุณคะ กระเป๋าใบนี้ฉันกำลังจะหยิบ แล้วคุณมาฉวยโอกาสหยิบตัดหน้าฉันได้ยังไงกัน”
“อะไรกันกระเป๋าใบนี้เป็นของฉัน” หญิงสาวยืนกราน
“จะเป็นของคุณได้ยังไงคะ ในเมื่อฉันมาดูไว้ก่อนคุณอีก…” คนตัวเล็กเถียงอย่างไม่ลดราวาศอก กระเป๋าใบนั้นเธออยากได้มันจริง ๆ
อัลเฟรดปรายตามองมิชรินทร์ด้วยใบหน้าที่ราบเรียบ ส่วน
สาวสวยที่มาด้วยรับรู้ได้ว่าอัลเฟรด ชายที่แม่ของเขานัดบอร์ดมาให้
ไม่ชอบหญิงสาวตรงหน้าของเธอ เธอจึงได้เอ่ยปากสุมไฟในใจของอัลเฟรดต่อไป
“เฟรด ดูสิคะ แม่หนูคนนี้เถียงเก่งจัง ฉันหยิบก่อนแท้ ๆ”
สาวสวยพูดจีบปากจีบคอ แล้วถือวิสาสะควงแขนของอัลเฟรด
ร่างสูงปรายตามองหญิงสาวเล็กน้อยแล้วชักมือกลับ เขาไม่ชอบให้ใครทำตัวป็นเจ้าของ ถึงแม้จะเคยแอบกินกันลับ ๆ ก็ตาม แต่เพียง
ครั้งเดียวเท่านั้น อัลเฟรดไม่นิยมกลับไปกินอีก ถึงแม้ทายาทตระกูลดังจะไม่ชอบหมอดูน้อยคนนี้ ทว่ารตีไปแย่งจากมือของมิชรินทร์จริง ๆ
สาวสวยที่โดนอัลเฟรดชักมือกลับ ใบหน้าซีดเผือดอย่างเห็น
ได้ชัด แต่ยังคงเชิดใบหน้าเพื่อรักษาความเย่อหยิ่ง ทะนงตัวไว้
เมื่อพนักงานสาวเห็นว่าลูกค้าทะเลาะกัน จึงได้รีบปรี่เข้ามาเพื่อห้าม พร้อมกับสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น
“คุณลูกค้า ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าคะ” พนักงานสาวถามอย่างนอบน้อม
“คือกระเป๋าใบนี้ค่ะ ฉันเห็นก่อน แล้วคุณผู้หญิงคนนี้หยิบไปต่อหน้าต่อตาฉันเลยค่ะ” คนตัวเล็กพูด
“ฉันหยิบก่อนค่ะ เธอแค่มองเฉย ๆ เพราะฉะนั้นมันคือของฉันค่ะ” สาวสวยแย้ง
“ได้ไงคะ เมื่อกี้รินดูอยู่…”
“ทำไมจะไม่ได้ มือใครยาวสาวได้สาวเอาไม่เคยได้ยินเหรอ?” รตีเถียงอย่างไม่ลดละ
ทำให้พนักงานสาวแสดงสีหน้าลำบากใจออกมา คนหนึ่งลูกค้าประจำ ส่วนอีกคนลูกค้า VIP
ร่างสูงที่ยืนนิ่งอยู่ กรอกตามองบนด้วยความรำคาญ ด้วยเหตุผลนี้แหละที่ทำให้เขาไม่ชอบคบหากับผู้หญิง มีไว้เพื่อสนองตัณหาเท่านั้น
ในที่สุดคนพูดน้อยอย่างอัลเฟรดก็พูดขึ้นมาบ้างเพื่อหยุดความน่ารำคาญนี้
“ผมซื้อไว้แล้วไม่ใช่ของใครทั้งนั้น”
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งพร้อมกับ
ยื่นใบเสร็จให้กับพนักงาน เดิมทีกระเป๋าใบนี้เขาได้สั่งจองไว้นานแล้ว เพื่อมอบเป็นของขวัญให้คุณแม่ในวันเกิด และวันนี้จึงถือโอกาสมารับกระเป๋าทีเดียว เนื่องจากคุณแม่นัดบอร์ดไว้ ดังนั้นสาวสวยจึงอยากเดินมารับกระเป๋าด้วย
แต่คิดไม่ถึงว่าจะเจอหมอดูน้อยที่เอาความเชื่อของคนมาทำมาหากินจะติดหรูถึงเพียงนี้
“จริงด้วยค่ะ กระเป๋าใบนี้คือของคุณอัลเฟรด”
เมื่อได้ยินคำพูดของพนักงาน ทำให้มิชรินทร์คอตก ใบหน้าง้ำงอ อุตส่าห์อยากได้ใบนี้แท้ ๆ
“ในเมื่อเป็นของคุณเอาไปเถอะค่ะ เดี๋ยวรินไปดูใบอื่น”
ร่างสูงยังคงมีใบหน้าที่เคร่งขรึมไม่พูดอะไรออกมาจากนั้นเขาจึงเดินไปนั่งรอพนักงานหยิบกระเป๋าใส่ถุงให้
ในใจของอัลเฟรดได้แต่คิดในใจว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีทางที่จะเป็นเนื้อคู่ของเขาได้ เธอไม่ใช่สเปคของเขาเลยด้วยซ้ำ ดูท่าทางก็ไม่
เฉลียวฉลาด ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมคน คงมีเหตุผลเดียวที่เธอพูดว่าเธอคือ
เนื้อคู่ของเขา เพราะเธอต้องการจับผู้ชายรวย อยากรวยทางลัด นั่นเป็นสิ่งที่อัลเฟรดเกลียดที่สุด ผู้หญิงหน้าเงิน!