ถึงจะเป็นแค่ฝันแต่ความรู้สึกดีจัง คริคริคริ...ปากหายบวมแล้ว ขาก็หายเจ็บแล้วแต่ก็เดินไม่สะดวกเพราะเฝือกมันหนัก ป่านนี้แม่กับพ่อคงตามหาเราให้วุ่นแล้ว ฉันเดินไปกินอาหารเช้าที่ล็อบบี้เห็นดิวนั่งอยู่ก่อนแล้ว
"อ้าว..คุณ..เป็นไงบ้าง...ฉันปวดหัวมากต่อไปจะไม่กินอีกแล้ว..ตอนกินก็สนุก..ตื่นมาทุกข์เลย แล้วดรีมล่ะ?"
"ยังไม่ตื่น..คออ่อนกันทั้งคู่แล้วก็ทำเก่งแข่งกันดื่มสมควรและ..ว่าแต่เธอเป็นยังไงบ้าง..จำอะไรได้มั๊ย?"
"หึ..จำไม่ได้เลย..จำได้แต่ฝัน"
"ฝันอะไร..?"
"ไม่มีอะไรช่างเถอะ"
ใครจะกล้าบอกเล่าว่าฉันฝันว่าจูบกับคุณน่ะแค่นึกถึงตัวก็ร้อนหน้าก็ร้อนแล้วถ้าเป็นเรื่องจริงฉันก็ละลายคาจูบคุณไปแล้ว
"นี่เธอเป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย...หน้าแดงหูแดงเชียวมีไข้หรือเปล่าทีหลังห้ามดื่มแล้วนะ..."
เขาเอามือมาแตะที่แก้มแล้วก็หน้าผาก บ้าเอ๋ย...ฉันจะละลายให้ได้ตรงนี้ อาการแบบนี้เขาเรียกว่าความรักใช่หรือเปล่าหนอ...
"ตัวก็ไม่ร้อนสักหน่อยสงสัยเมาค้าง..กินข้าวต้มร้อนๆแล้วกันเดี๋ยวชั้นไปตักให้"
อะไรมันจะดีขนาดนี้มีผู้มาคอยเทคแคร์ เราทั้งคู่กินอาหารเช้าเสร็จแล้วก็ไปเดินเล่นชายหาด พึ่งรู้ว่าทะเลตอนเช้าสวยขนาดนี้ หรือว่าเป็นเพราะมีเขาเดินอยู่ข้างๆก็ไม่รู้ รู้สึกดีจัง คนอะไรหล่อได้ตลอดดูดีได้ตลอด หยุดหล่อสักวันเถอะ คนที่อยู่ใกล้จะไม่ไหวแล้ว...ใจจะละลาย
"นี่มึง..ออกมาก็ไม่ชวนเลย"
"ดรีม...มึงส่างเมาแล้วเหรอ?"
"อืมมม...กูไม่ได้คออ่อนขนาดนั้นหรอก"
"แต่ดิว..คงครั้งแรกที่ดื่มแหละมั้งเห็นยังหน้าแดงตัวแดง อยู่เลย
"ดิว..หืมอะไรมึง..มึงหาชื่อใหม่ให้เขาเถอะกูงงแล้วนู้นก็ ดิวนี่ก็ดิว"
"บ้าเหรออยู่ดีๆไปเปลี่ยนชื่อที่แม่เขาตั้งให้"
"ดิว...มึงว่าสวยมั๊ยดิวน่ะ..?"
"อืม...สวย....."
"ดิวมึงชอบดิวเหรอ?"
"อะไร..มึงถามว่าอะไรสวย...กูหมายถึงทะเลตอนเช้าสวย"
"แต่กูเห็นมึงยืนมองเขาตลอดไม่ละสายตาเลยขนาดกูเดินมาใกล้จนจะเข้าสิงมึงอยู่แล้วมึงยังไม่รู้ตัวเลย มึงหวั่นไหวแล้ว กูว่ามึงรักเขาแล้วล่ะ"
"รู้ดี..เคยรึไงเคยมีคนรักรึไง?"
"ไม่เคยแค่สัมผัสได้...กับอาการของมึงน่ะ"
เขาคุยอะไรกันกระหนุงกระหนิง หรือว่าสองคนนี้มีซัมติงกัน ไม่ได้นะ..เสียดายของอย่านะ ทรัพยากรผู้ชายยิ่งมีไม่พอใช้งานอยู่ ฉันเดินไปที่สองคนนี้ อยากเผือกแหละไม่มีไร
"ขอเผือกด้วยคนดิ"
"เผือกอะไร..อยากกินเผือกหรือ..เธอนี่หาแต่ของกินตลอด"
"เออๆ..ขี้เกียจะอธิยาย.."
"เธอมีรอยสักที่ไหล่ด้วยหรือ?"
"อิอิ..ฉันพึ่งไปเพ้นมาเกร๋ปะ"
"อะไรเกร๋.."
"ก็สวยนั่นแหละ ศัพท์ใหม่ ในยุคฉันพูดไม่เหมือนยุคนี้หรอก"
"แล้วไปเพ้นตรงไหนเนี่ย เพ้นบ้าง..เพ้นบ้าง..จ๊าบมาก"
"สายแล้วเข้าห้องพักเถอะอยากนอนแล้ว..ไปฉันจะไปส่งที่ห้อง"
"อ้าว..มาเที่ยวทั้งทีอยู่แต่ในห้องน่าเบื่อจะตาย"
"มึงก็ไปสิรถก็มีอยากไปเที่ยวไหนก็ไป...แต่ว่ากูอยากนอน..เธอก็ต้องพักผ่อนเมื่อเช้ายังหน้าแดงอยู่เลย..คงยังไม่ส่าง..."
"เออกูไปคนเดียวก็ได้...เชอะ"
"ฉันอยากไปกับดรีมน่ะขอไปด้วยนะ"
"ไม่ได้เธอยังขาเจ็บอยู่"
"ฉันไม่เจ็บแล้ว..นี่ไงไม่ต้องใช้ไม้เท้าก็เดินได้นะนะอยากไป"
"อืมก็ได้...งั้นฉันไปด้วย"
"อ้าวไหนบอกอยากนอน..มึงนะกูรู้นะว่าคิดอะไร..หวงก้าง..หวงก้าง..หวง..อุ๊บ.อะ"
"ถ้าไม่หยุดพูด..กูจะเอาทรายยัดใส่ปากมึง"
"ใจร้าย..คนใจร้าย"
"เออคุณสองคนมีซัมติงกันเหรอ?..บางทีสนิทกันอาจเกิดความผูกพันธ์แบบไม่รู้ตัวก็ได้"
"พูดอะไรไม่เข้าใจ.."
"ช่างเถอะ...ไปกันเถอะ..อยากเที่ยว..อยากเที่ยว"
ดรีมขับรถพาฉันกับดิวเที่ยวไปทั่วไปตลาดปลามีของทะเลเยอะแยะ ดรีมบอกว่าจะพาไปเที่ยวตลาดไนท์พราซ่าของกินเพียบแค่คิดก็ตื่นเต้น กลับมานอนพักที่ห้องแล้วก็ตื่นมาอีกทีตอนเย็น ฉันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวหาของกินตอนเย็น สุขใดๆก็ไม่เท่าหาของกิน
"เธอนี่สวยนะ.."
"อืม..ยอมรับ.."
"แต่กินมูมมามเลอะเทอะสวยไปก็ไม่ช่วยอะไรหรอก"
"ฉันไม่สน...แล้วแต่ใครไม่ชอบก็ช่างฉันเป็นแบบนี้รับได้ก็รับรับไม่ได้ก็แล้วแต่"
"งั้น..เตรียมตัวนั่งรออยู่บนคานได้เลย"
"ช่างเดี๋ยวฉันก็รวยแล้ว..รวยแล้วทำอะไรก็ได้"
"คุณๆ ดรีมๆฉันเห็นใครไม่รู้แอบเดินตาเรามา"
"โอย..คนเดินเยอะแยะเดินไปทางเดียวกันหมดเขาไม่ได้ตามเราหรอก"
"ฉันมั่นใจว่าเขาตามมาจริงๆ"
"คงเป็นแฟนคลับน่ะแหละ..เขาอาจจะจำเราได้"
"กลัวจะเป็นซาแซงน่ะสิ"
"อะไร..คือซาแซง" พูดพร้อมกันอย่างสงสัย
"ก็เป็นติ่งที่คลั่งไคล้ดาราที่ตัวเองชอบมากแล้วก็ตามติดจนดาราคนนั้นไม่มีพื้นที่สวนตัวเลยร้ายกว้านั้นคือบางคนส่งของแปลกๆมาให้..น่ากลัวจะตาย"
"เธอรู้ได้ไง แล้วอะไรคือติ่ง "
"โอย...ติ่งก็คือแฟนคลับที่เป็นมากกว่าแฟนคลับ..จะสะสมของที่เป็นของดาราที่ชอบ...แค่ชอบสะสมของ แต่ไม่ร้ายเหมือนซาแซง..แล้วก็ที่รู้ก็เพราะว่าข่าวออกเยอะแยะดูข่าวไง"
"งั้นกลับกันเถอะ...ดรีม..ไปกลับห้อง นี่ก็มืดแล้ว"
ฉันกลับมาถึงห้องก็อาบน้ำนอนเลยเพราะเพลียมากจากการเที่ยววันนี้ ฉันหลับไป..สะดุ้งตื่นมาเพราะได้ยินเสียงคนเคาะกระจกหน้าต่าง
"ก๊อกๆก๊อกๆ..."
"กรี๊ดดดด...ผะผะผะผี...."
ฉันหลับตาลงแล้วลืมตาขึ้นมาก็ไม่เห็นสงสัยตาฝาดไปฉันจึงนอนแต่ไม่หลับเพราะกลัวผี
"ก๊อกๆๆ"
ฉันเดินไปเปิดประตู ไม่มีใครตอนแรกนึกว่าสองหนุ่มนั่นมา ฉันจึงกลับไปนอนอีก
"ก๊อกๆๆ"
อีกแล้วคราวนี้ที่หน้าต่าง แล้วเงาดำๆก็วิ่งผ่านหน้าต่างไป
โดนแล้วฉันโดนแล้วห้องนี้อาจมีประวัติเหมือนในหนังผีทุกเรื่อง ห้องนี้อาจเคยมีการฆ่ากันตายหรือไม่ก็หญิงสาวช้ำรักมาผูกคออยู่ห้องนี้ก็ได้
"ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ"
คราวนี้ประตู เคาะนานแล้ว จ้างให้ก็ไม่เปิดไม่ได้กินกูหรอกเดี๋ยวมึงก็ไปเคาะหน้าต่างอีกกูรู้ทันน่า
"ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ..นี่เธอเป็นอะไรหรือปล่าว"
"อ้าว..เสียงดิวนี่นา"
ฉันเดินไปเปิดประตู
"คุณมาทำไม?"
"มีคนแจ้งว่าห้องเธอทำเสียงดังเดี๋ยวเคาะหน้าต่างเคาะประตูมีเสียงกรีดร้องด้วย ทางฟร้อนเขาโทมาไม่ติดเขาเลยโทรมาห้องชั้น"
"เอ่อ..ฉันโดนผีหลอก..น่ากลัวมากเลย คุณอยู่เป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ นอนที่นี่ก็ได้ นอนเลยนอนบนเตียงเลย ฉันนอนโซฟาเอง"
"ไม่ได้ ผู้หญิงกับผู้ชายอยู่ด้วยกันไม่ได้..เขาถือ"
"ฉันไม่ถือ .อยู่เถอะ.."
"งั้นชั้นจะเฝ้าจนกว่าเธอจะหลับแล้วกัน"
ขณะที่ฉันนอนอยู่นั้น เงามาอีกแล้วฉันเห็นมันค่อยๆเข้ามาใกล้ๆ ยังไม่ทันที่ฉันจะบอกดิว เขาก็ค่อยๆคลานไปใกล้หน้าต่าง เขาค่อยๆเปิดกลอนหน้าต่าง โดยนั่งแอบในมุมมืด มันใกล้เข้ามา...ใกล้เข้ามา จนติดกับหน้าต่าง เขาเลื่อนหน้าต่างออกอย่างเร็ว แล้วก็คว้าตัวเจ้าเงาไว้ได้ทันที
"เด็กผู้หญิงนี่"
"มาแกล้งพี่ทำไม?"
"ก็พี่มาใกล้ดิวดรีมหนูทำไม?"
"พี่อย่าเอาเรื่องหนูเลยนะ"
"ไม่ได้หรอกถึงพี่ไม่เอาเรื่องแต่ทางโรงแรมเขาไม่ยอม"
เด็กหญิงเงามืดร้องไห้..สงสารอยู่แต่ก็ทำฉันแสบมากโดนสั่งสอนบ้างก็ดี..ติดคุกสักคืนนึงแล้วกันจะได้จำ
"เดี๋ยวพี่จะคุยกับโรงแรมให้นะแต่น้องต้องสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก"
"หนูสัญญาค่ะ..ขอโทษค่ะ"
ดิวไปคุยกับทางโรงแรมให้ปล่อยเด็กหญิงเงามืดไปทางโรงแรมเห็นว่าดิวไม่เอาเรื่องจึงปล่อยไป เขาเดินมาส่งฉันที่ห้อง แล้วก็กำลังจะกลับห้องแต่ฉันดึงชายเสื้อเขาไว้
"มีอะไร?"
"นอนกับฉันนะ"
"จะบ้าเหรอเป็นผู้หญิงมาชวนผู้ชายนอนด้วยได้ไง"
"ฉันว่า..สิ่งที่น่ากลัวกว่าผีก็คือแฟนคลับคลั่งของศิลปินนี่แหละ..ถ้ามีอีกล่ะ ช่วงนี้คุณฮอตมากนี่ คนคลั่งคุณเยอะฉันมาพัวพันกับพวกคุณ ฉันว่าฉันไม่ปรอดภัย.."
"อืมงั้นก็ได้"
เขาเข้ามาแล้วนอนโซฟา ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ แอบมองเขาตลอดเลยละสายตาจากเขาไม่ได้เลย พอเขามองมาก็แกล้งหลับ พอเขาหลับตาเราก็ตื่นมอง ว๊าย...ว๊าย..ตื่นเต้นชะมัด แต่ว่ายิ่งดึกยิ่งหนาว เขาหนาวนี่นอนขดเชียว
คงหลับแล้วหละ ฉันค่อยไปย่องเอาผ้าห่มสำรองไปห่มให้เขา อุ๊ย..อิอิ เหมือนในซีรีส์เลยอ่ะ...
"ว๊าย..!"
"ผมทนไม่ไหวแล้วนะ"
เปลี่ยนสัพนามจากชั้นมาเป็นผม คือไร..คือไร พูดไปพลางจับตัวฉันนอนลงบนโซฟา หัวใจหนอเต้นตูมตาม จนจะหลุดออกมาแล้ว เขาทับลงมาบนร่างของฉันเบาๆ ริมฝีปากเรียวบางสัมผัสกับริมฝีปากของฉันเบาๆ จุ่มพิตค่อยๆทวีควาลุ่มลึกมากขึ้นเรื่อยๆ เขาถอดถอนจุ่มพิต ออก แล้วก็อุ้มฉันมาที่เตียงนอน...แล้วเขาก็...ห่มผ้าให้ฉัน..อ้าวแค่นี้เหรอ...เสียดายจัง
เขากระซิบข้างหูฉันเบาๆว่า "2ครั้งแล้วนะอย่ามาให้ท่าอีก ถ้ามีครั้งหน้าจะไม่ทนอีกนะ"
ฉันเขิลคลุมโปงหนีเลยดีกว่าฉันไม่ได้ให้ท่าสักหน่อยแค่เห็นเขาหนาว งั้น2ครั้งก็คือไม่ได้ฝันสิ ฉันจูบเขาก่อนตายห่าละ...อยากวิ่งเอาหัวชนกำแพงตายให้รู้แล้วรู้รอดไป
"นี่ๆ..ตาเป็นหมีแพนด้าเลยเป็นอะไรทั้งคู่เลย แอบทำอะไรกัน..กูเผลอหลับไปนี่ไม่ได้เลยนะ ย่องไปหาเขาตลอดเลยอยู่ที่บ้านทำบ่อยน่ะสิ ตอนแรกปฏิเสธชอบอยู่คนเดียว ตอนนี้อะไร ?"
"ไม่มีอะไร...เมื่อคืนเกิดเรื่องเดี๋ยวเล่าให้ฟังเรื่องมันยาว"
"ยัยนี่ก็มานั่งตาดำหน้าแดง...มีพิรุจจริงๆ..อายๆ..เขิลๆ "
พวกเรากลับมาจากทะเลแล้ว กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมแบบเดิม ฉันก็ชินกับโลกที่ไม่มีโซเชียลแล้ว กลางวันอยู่2คนกับแม่บ้าน เมื่อก่อนอยากดูอะไรก็เซิร์ทหาในเน็ต แต่ตอนนี้ ต้องรอดูเวลาที่เขาออนแอร์ ไม่สามารถย้อนดูทีหลังได้ เป็นยุคที่ต้องใช้ความอดทน อดทนรอ หลายสิ่งหลายอย่าง รอดูละคร รอเขากลับบ้าน เขาจะกลับตอนไหนไม่มีทางรู้ได้เพราะไม่มีข้อความแชท บางครั้งแม่บ้านกลับบ้านไปแล้วเขาก็ยังไม่กลับ ฉันเหงา...ฉันกลัวการอยู่คนเดียว
"นี่เธอ..เธอ..ดิว..ดิว"
"อืม..กลับมาแล้วเหรอ?"
"มานอนอะไรตรงนี้มันดึกแล้ว"
"กินข้าวยัง?"
"กินแล้ว แม่บ้านบอกแล้วว่าคุณกลับดึก"
"ช่วงนี้งานก็เยอะ..ต้องตอบจดหมายแฟนๆด้วย"
"โห..คนเจ้าชู้..เชอะ.."
"แฟนคลับน่ะ เนี่ยส่งจดหมายมาเป็นกระสอบเลย"
"โอ้โหเยอะ ขนาดนี้จะตอบกี่วันหมด?"
"ต้องคัดแยกดูวันที่ใครส่งมาก่อนก็ตอบก่อนมีพนักงานรับแล้วก็จดวันที่ลงที่ซอง"
"พรุ่งนี้จะช่วยตอบให้นะ"
"อ่ะนี่ โทรศัพท์มือถือซื้อให้ใหม่ แล้วนี่ที่ชาร์จแบบเสียบแบตเตอรี่อาจจะชาร์จเครื่องใหญ่จอดำนั่นได้"
"คุณซื้อให้ฉันเหรอคะ แล้วจะโทรหาใครล่ะฉันไม่รู้จักใครนี่ อีกอย่างโทรศัพท์บ้านก็มีนี่"
"ดิวไม่รู้จักผมเหรอ ถ้าเหงาก็โทรมา..ถ้าไม่รับเดี๋ยวผมจะโทรกลับเองมีเกมเล่นด้วยนะ"
"ขอบคุณมากเลยค่ะ"
ฉันยิ้มให้เขาทำท่าแอ๊บว่าชอบมากตื่นเต้นมากกับเกมงูกินหางในมือถือยุค90 เขาเปลี่ยนสัพนามจากชั้นมาเป็นผมตั้งแต่วันนั้น กิ๊ว..กิ๊ว..คิดแล้วเขิล..ฉันคิดว่าถ้า8210ที่พ่อให้มามันดังอีกฉันจะเลือกทางไหนดี กลับบ้านหรือจะอยู่กับเขา โอ๊ยคิดไม่ตก
"คุณซื้อหมึกกับกระดาษมาด้วยนะฉันจะตอบจดหมายให้"
"หมึกอะไร"
"เครื่องพิมพ์ดีดในห้องนั้นไงใช้ไม่ได้เหรอ? ใช้เครื่องพิมพ์ดีดน่ะดีกว่าเขียนเองเพราะอ่านง่ายแล้วก็ไม่เมื่อยมือด้วย"
"ใช้ได้ของแม่ผมเอง แม่เคยทำงานบริษัท แล้วดิวใช้เป็นเหรอ "
"ใช้เป็นสิเคยเรียนมาแล้วก็ใช้คอมพิวเตอร์บ่อยฉันน่ะเป็นผู้ช่วยครูสอนพิเศษนะงานพาร์ทไทม์น่ะเก็บตังซื้อมือถืออันนั้นน่ะ 30,000บาท ฉันอยากทำตัวให้เป็นประโยชน์น่ะ"
"ขอบคุณนะ...น่ารักจัง"
อุ๊ย..อย่านะ..อย่านะ มากระซิบข้างหูกันได้ โอยขนลุก
"คุณ..อย่ามาอ่อยฉันนะ เดี๋ยวฉันอดใจไม่ไหว แปลงร่างเป็นแม่เสือสาวเขมือบคุณหรอก..แหง่วว"
"5555..เธอนี่ตลกจริง ..อ่อยคืออะไร ?"
"ก็ให้ท่าไง"
"เหมือนที่คุณทำกับผมน่ะเหรอ?"
"ฉันไม่เคยให้ท่าคุณนะ..ครั้งแรกฉันนึกว่าฝัน ครั้งที่2ฉันเห็นคุณหนาวเลยเอาผ้าไปห่มให้ หมกหมุ่นนะคุณเนี่ย"
"ผมไม่เคยเป็นกับใครหรอกพึ่งเป็นกับคุณนี่แหละ"
"ก็ฉันสวยไง..คุณถึงหวั่นไหว...ว้าวุ่นเลยทีนี้"
"5555หลงตัวเองจริงๆ.."
"ปะไปนอนกันเถอะ"
"ไป..."
"แล้วคุณจะตามฉันมาทำไมล่ะก็กลับห้องคุณไปสิ"
"อ้าว..นึกว่าชวนนอนด้วยกัน"
"ก๋ากั่นขึ้นทุกวัน..คนหัวโบราณหายไปไหนเมื่อก่อนห้ามอย่างนู้นอย่างนี้ผู้หญิงผู้ชายอยู่ใกล้กันไม่ได้"
พูดยังไม่ทันจบเขาก็ดันร่างฉันเข้าห้องล็อกประตูทันที เฮ้ย..ไม่ได้นะ..ไม่ได้..แบบนี้ไม่ได้ ฉันเห็นท่าไม่ดีถอยกรูดไปอย่างไกลเลย เขาก็ตามมาประชิดเขาโอบเอวไว้พลางดึงร่างบางของฉันเข้าประชิดร่างกายกำยำแน่นหนักของเขา มือข้างหนึ่งประคองท้ายทอยของฉัน เขาก้มลง ฉันก็ไม่ไหวแล้วจริงๆใครจะว่าฉันใจง่ายก็ช่างเถอะ เปลือกตาปิดลงขณะที่ริมฝีปากสัมผัสกัน ริมฝีปากหว่านพรมความร้อนไปตั้งแต่แก้มนวลอิ่ม หู และซอกคอขาว ไล่ลงมาที่
เนินเนียนขาว
"มะมะไม่ค่ะ...ไม่..ฉันกลัว.."
ก่อนที่อารมณ์ความต้องการจะกระเจิงไปมากกว่านี้ฉันต้องหยุด หยุดแค่นี้ดีกว่า ฉันไม่ได้กลัวเขาแต่ฉันกลัวใจตัวเอง
ฉันกลัวว่าฉันจะรักเขามากขึ้นทุกวันทุกวัน จนเมื่อถึงเวลาที่ต้องไปจากที่นี่ ฉันจะทิ้งเขาไปไม่ได้
"ขอโทษนะที่ผมทำให้คุณกลัว"
เขากำลังจะออกไปแต่ฉันสวมกอดเขาทางข้างหลัง..
"ฉันกลัวใจตัวเองค่ะไม่ได้กลัวคุณ..กลัวว่าถ้าเราผูกพันธ์กันไป แล้ววันหนึ่ง ฉันหายไปจากคุณเราสองคนจะเจ็บปวดทั้งคู่..."
"ดิวอยู่กับผมที่นี่ไม่ได้เหรอ..อย่าไปเลยนะ..ผม..ผมรักคุณ..ไม่รู้เมื่อไร..รู้ตัวอีกทีก็อยากกลับแต่บ้านตลอดเลยอยากคุยตลอด อยากดูคุณกิน อยากดูคุณนอน อยากกอดคุณ อยากจูบคุณ "
ฉันก็รู้สึกไม่ต่างจากเขาเลยแต่ฉันต้องหักห้ามใจไว้ ฉันไม่ใช่คนยุคนี้ ทำยังไงดีฉันไม่อยากกลับไปแล้ว แต่ฉันก็เป็นห่วงแม่ ห่วงพ่อ ป่านนี้พวกเขาคงทุกข์ใจแย่ ฉันคงต้องเลือกถ้าวันนั้นมาถึง ฉันเดินอ้อมมาข้างหน้าเขามือเรียวบางของฉันลูบไปที่แก้มของเขาทั้ง2ข้าง ฉันจูบเขาเพื่อเป็นการให้กำลังใจแล้วพูดว่า
"ฉันก็..รักคุณ..แต่ฉันให้ได้เท่านี้จริงๆ นะ ขอฉันทำใจหน่อยนะ บางทีฉันอาจจะกลับบ้านไม่ได้ก็ได้ ถึงตอนนั้นฉันจะอยู่ที่นี่ห้ามไล่ฉันออกจากบ้านแล้วกัน "
"ก็ได้ผมจะรอ ช่วงนี้ห้ามเข้าใกล้ผมห้ามสัมผัสผม ไม่งั้นผมไม่รับรองความปรอดภัยของดิว รู้มั๊ยว่ามันลำบากขนาดไหนที่ต้องห้ามใจตัวเองไม่ให้ทำอะไรคุณ"
"งั้นคุณก็รีบออกไปเลยค่ะดึกแล้ว..ฉันก็ต้องนอนแล้ว"
เขาออกไปแล้วหัวใจยังเต้นแรงไม่หยุด..เกือบไปแล้วเชียว หัวใจควบคุมไม่ได้ร่่างกายก็ยังจะควบคุมไม่ได้อีก
เขาออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว เขาทำอาหารไว้ให้
โทรศัพท์ที่เขาซื้อให้อยากโทรจังแต่ไม่ดีหรอกเขาอาจจะยุ่งอยู่ ฉันนั่งพิมพ์ตอบจดหมายฉบับแล้วฉบับเล่าจนค่ำแม่บ้านกลับไปแล้ว จดหมายเยอะมากฉันอ่านทุกฉบับอ่านเสร็จก็ตอบ ฉันเปิดอ่านอีก1ฉบับ ฉบับนี้มีรูปด้วย
พอเปิดรูปดูมือฉันสั่นใจฉันสั่นไปหมดฉันเห็นรูปของเขาจูบกับผู้หญิงสวยมากคนหนึ่งภายในจดหมายเขียนว่า
"ดิวเราคิดถึงดิวมาก..เราจะกลับมาแล้วนะ..อย่าลืมสัญญาที่ดิวให้ไว้กับเรานะ เรายังรักดิวเหมือนเดิม ดิวยังรักเราอยู่เหมือนเดิมมั๊ย..เราจะไปเอาคำตอบนะ
รัก ริสา
น้ำตาเอ่อล้นออกจากเบ้าตา..มากมาย ควบคุมไม่ได้อีกแล้วร่างกายของตัวเองแท้ๆแต่ควบคุมไม่ได้ เขาหลอกเรา ใช่สิฉันมันก็แค่คนหลงทางอยากจะทำอะไรก็ได้นี่
ไปแล้วไปดีกว่าอย่าอยู่เลย...ความน้อยเนื้อต่ำใจพาให้คิดไปเรื่อย แต่จะไปไหนล่ะเราไม่รู้จักที่นี่เลย ฉันเก็บจดหมายทั้งหมดแล้วก็กลับเข้าห้องนอน ปกติ ทนหิวไม่ได้ แต่วันนี้มันตื้อในคอ กลืนอะไรไม่ลงแม้แต่น้ำ ฉันร้องไห้จนหมดแรงหลับไป สะดุ้งตื่นมาตอนมีมือมาสัมผัสกับใบหน้าของฉัน
"ดิวๆ ทำไมไม่กินข้าวเป็นอะไรไม่สบายหรือปล่าวโทรมาตั้งหลายสายก็ไม่รับเลย..ผมเป็นห่วงคุณแทบแย่"
"คนหลอกลวง..คุณมีแฟนแล้วมาบอกรักฉันทำไม?"
"แฟนอะไร?...เล่ามาสิ"
"แฟนคุณเขียนจดหมายมา...ฮือๆ...กระซิก..กระซิก "
แล้วฉันก็ร้องไห้หนักมาก...จนพูดอะไรไม่รู้เรื่องทั้งตัดพ้อต่อว่าต่างๆนานา
"ขอดูจดหมายนั่นหน่อย.."
ฉันยื่นจดหมายให้เขาดูเขาอ่านจบก็พูดว่า
"ริษาเราเคยคบกันแต่มันจบไปนานแล้ว เขาเลือกที่จะไปกับใครคนหนึ่งผมไม่อยากพูดถึง แล้วก็ไม่มีสัญญาอะไรผมไม่เคยสัญญาอะไร "
"ฉัน..ฉันไม่มีตัวตนเลย ฉันจะอยู่กับคุณในฐานะอะไรได้
ฉันอยากกลับบ้าน.."
ปวดใจเหลือเกินไม่ได้ปวดใจที่เขาเคยมีแฟนไม่ได้ปวดใจที่เขาเคยจูบกับผู้หญิงคนอื่นแต่ปวดใจตรงที่ถ้้าฉันเป็นแฟนเขาคงเป็นได้แค่แฟนลับๆของเขาถ้าเขาเป็นแค่คนธรรมดาคงไม่มีปัญหาอะไรแต่เขาเป็นซุปตาร์ เขากอดฉันปลอบประโลมฉันให้ฉันคลายกังวล
"คุณถ้าถึงวันนั้นผมจะออกจากวงการเพื่อคุณ..จะอยู่กับคุณที่บ้านนี้ ต้องใช้เงินเท่าไรผมยอมทำให้คุณมีตัวตนในยุคนี้ให้ได้ ผมรักคุณ รักคุณคนเดียว"
"คุณจะไม่ทิ้งฉันใช่มั๊ย?"
"ไม่หรอกคุณต่างหากล่ะที่จะทิ้งผมไปรู้มั๊ยว่าผมโทรหาคุณเป็นร้อยสายคุณไม่รับผมคิดว่าคุณทิ้งผมไปแล้วซะอีก ทำไมไม่กินข้าวเห็นอาหารยังอยู่ครบเลยไม่สบายตรงไหนบอกสิ"
"ฉันกินไม่ลง "
"คุณหึงผมเหรอ?..ดีใจจัง "
"ดีใจที่ฉันเจ็บปวดรึไง?"
"ดีใจที่คุณรักผมมากไง เครื่องนั้นเอาไปทิ้งเถอะนะผมกลัว กลัวคุณจะหายไป ไปกินข้าวกันเดี๋ยวผมอุ่นอาหารให้นะ "
แม่จ๋าพ่อจ๋าหนูลาก่อนนะหนูขออยู่ที่นี่นะคะพ่อแม่ ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่กับเขาที่นี่อะไรจะเกิดก็ช่างมันเถอะฉันไม่สนแล้ว ฉันทนอยู่โดยที่ไม่มีเขาไม่ได้จริงๆ
ฉันทิ้งเครื่องที่พ่อให้ลงน้ำไป
"เชี่ยยย..108สาย ฉันไม่ได้ยินเลย ฉันพิมพ์จดหมายตอบให้คุณแล้วนะ ดูมือสิเลอะหมึกหมดเลยเครื่องพิมพ์ดีดมันติด"
"โหเยอะขนาดนี้เชียว คุณก็เก่งเหมือนกันนะนี่ นึกว่ากินเก่งอย่างเดียว"
"แล้วถ้าผู้หญิงคนนั้นเขามาหาคุณล่ะคุณจะทำยังไง?"
"ผมก็บอกตรงๆสิว่ามีคนรักอยู่แล้วไม่เห็นยากเลย เขาทิ้งผมไปเองนะ ไปกับเพื่อนสนิทผมเองนี่แหละชิงทุนไปเรียนเมืองนอกด้วยกันแล้วก็ขาดการติดต่อกันไปเลย
พรุ่งนี้ผมจะพาไปตัดเฝือกนะ ครบกำหนดแล้ว พรุ่งนี้เตรียมตัวเตรียมใจไว้นะถึงเวลาแล้ว ไม่มีไอ้นี่มาเกะกะอีกแล้วจะทำอะไรอะไรได้สะดวกหน่อย"
เขายิ้มกริ่ม แค่สายตาที่มองมา ร่างกายและหัวใจก็สั่นสะท้าน เขาจะทำอะไรนะ เขาจะทำอะไร คนอ่านช่วยบอกหน่อย...