การเข้ามเวลา

4305 Words
ฉันชื่อดิว แม่ชื่อดวงใจ พ่อชื่อเด่น น้องชายชื่อดนตรี พ่อเปิดร้านขายของสะสมยุค90พ่อเป็นนักดนตรีเก่าแม่เป็นนักร้้องยุค90แม่ชอบนักร้องยุค90ชื่อ ดิวกับดรีม ใช่แล้วล่ะชื่อของฉันมาจากนักร้องที่แม่ชอบ แม่เปิดเพลงเขาทุกวันจนฉันจำได้ ร้องได้ และเบื่อฟังมาก นักร้องชื่อดิวหายออกจากวงการตั้งแต่ปี2,000ส่วนคนชื่อดรีมแต่งงานมีลูกแฝดและดังมากในตอนนี้ "ดิวๆๆมาดูนี่สิพ่อได้ของจ๊าบ จ๊าบมาด้วย" พ่อเรียกฉันไปดูบางอย่างที่พ่อซื้อมา "พ่อเขาเลิกใช้ไปนานแล้วจ๊าบน่ะเดี๋ยวนี้มันต้อง สุดเจ๋ง" พ่อเอาโทรศัพท์เครื่องเก่าคร่ำครึมาให้ดู "ใช้ได้มั๊ยนี่..น่าจะไม่ได้หรอกพ่อแบตหมด สู่ขิตไปแล้ว" "อะไรคือสู่ขิต เด็กสมัยนี้พูดไม่เป็นภาษาเลยฟังไม่รู้เรื่อง" พ่อบ่น แม่เป็นแม่บ้าน ทำงานบ้านมีงานอดิเรกคือเป็นนักเขียนนิยายเมื่อก่อนขายไม่ค่อยได้ตั้งแต่ฉันสมัคเว็ปเขียนนิยายให้แม่ก็มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ ส่วนพ่อขายไม่ได้เลยของเก่าอะไรไม่รู้ "ดิวๆ อ่ะพ่อให้" พ่อยื่นโทรศัพท์เก่าเครื่องนั้นให้ฉัน "มันใช้ไม่ได้ไม่เอาหรอก" ฉันปฏิเสธรับ "เอาไว้ดูเล่นก็ได้" "พ่อนี่สมุดอะไรน่ะ" ฉันเห็นสมุดแปลกๆมีแต่ตัวเลขเต็มไปหมด สมุดบันทึกคำนวนลอตเตอรี่ ของยายน่ะแม่เก็บไว้เป็นที่ระรึก ซื้อทุกงวดถูกกินทุกงวด ยายจดไว้ด้วยนะว่าแต่ละงวดเลขออกอะไร" พ่อบอก ฉันหยิบโทรศัพท์ของฉันมาถ่ายรูปเก็บไว้ดู ฉันชอบถ่ายรูปลงมือถือ ฉันพึ่งซื้อมือถือมาใหม่รุ่นใหม่ จากน้ำพักน้ำแรง 30,000 กว่าจะได้ "ซื้ออะไรมาอีกเยอะแยะ ซื้อมาก็ขายไม่ได้เงินจมกับสิ่งของพวกนี้" แม่บ่น ทะเลาะกันทุกวันฉันเบื่อ บางทีก็คิดว่า ถ้าครอบครัวฉันหายไปคงดีแม่ก็ไม่เคยให้อิสระเลยห้ามนู่นห้ามนี่อ้างแต่ว่าอายุยังไม่ถึง18 ยังเด็กเกินที่จะทำนู้น นี่ นั่น "แม่ไปมินิมาร์ทแป๊บนะ" ฉันลำคานพ่่อแม่ทะเลาะกันจึงหาเรื่องออกมาคว้ากระเป๋ากับโทรศัพท์คู่ใจมาด้วย ฉันซื้อขนมกินหน้ามินิมาร์ท เสร็จแล้วก็จะเดินกลับบ้าน ครึ้้้้มฟ้าครึ้มฝนฉันรีบเดินกลัวฝนตก "ตี๊ด..ติ๊ด..ติ๊ดๆๆ." เสียงโทรศัพท์เครื่องเก่าที่พ่อให้มาดังขึ้น ฉันตกใจ แปลกใจ ไม่มีแบตเตอรี่ ติดได้ไง ฉันอยากรู้ว่าใครโทรมาจึงรับสาย" "ฮัลโหล...ฟีดดดดคุรุครืดครืดก" เสียงอะไรฟังไม่รู้เรื่อง ทันใดนั้น "เปรี้ยงงงง...ภาพตัด!?" ฉันหมดสติไปตื่นมาไม่รู้นอนอยู่ไหน มืดมากแต่ก็ยังมีถนน ฉันเดินไปตามถนน ฉันจำได้ว่าฉันรับโทรศัพท์หน้าหมู่บ้านนี่แต่หมู่บ้านหายไป รึว่าฉันจะถูกลักพาตัว แต่เงินในกระเป๋าก็มีเยอะนะไม่หายเลยสักบาท "เอี๊ยดดด..โครม..." ภาพตัดอีกแล้ว ฉันตื่นมาที่ไหนสักแห่งได้ยินเสียงคนคุยกันแต่ฉันลืมตาไม่ขึ้น "ดิว มึงเลยถ้าเขาตายเราซวยแน่ ขับรถยังไงวะ ?!.." "มันมืด แล้วอยู่ๆยัยนี่ทะเล่อทะล่าเข้ามาใครจะเบรกทันวะ" ใคร ใครกันชื่อเหมือนฉัน ฝันไปแน่ๆ ฉันหลับไปอีกครั้ง ตื่นมาเห็นผู้ชาย2คน ฉันตายไปแล้วรึนี่เทพบุตรชัดๆ "เธอฟื้นแล้ว จำอะไรได้บ้าง" เขาทั้ง2ถาม "ฉันอยู่ไหน?" ฉันถาม "เธออยู่โรงพยาบาล โดนรถชน " เขาตอบ "ฉันจำได้ทุกอย่างฉันจะกลับบ้านได้ตอนไหน" ฉันถาม อีก2วัน เธอหลับไป3วัน "ชิบแล้ว... ป่านนี้พ่อแม่ตามหาฉันแย่แล้ว " ฉันหาโทรศัพท์เขายื่นให้ฉัน นี่ฉันอยู่โลกไหนนี่โทรศัพท์ไม่มีสัญญาณเลย "โทรศัพท์เธอแบตเตอรี่หมดเลยไม่ได้ติดต่อแม่เธอ ลองชาร์จแล้วไฟไม่เข้าเลย เครื่องพังแล้วล่ะเขาตอบ" "อีก2วันจะไปส่งบ้านนะ" เขาอีกคนบอก ฉันมองรอบๆโรงพยาบาลมันดูใหม่แปลกๆทั้งๆที่ชื่อโรงพยาบาลนี้แม่เคยพามาบ่อย มาครั้งล่าสุดมันดูเก่ากว่านี้ ฉันก็ไม่ได้คิดอะไรคิดว่า เขาอาจต่อเติมห้องใหม่ ฉันอยู่โรงพยาบาล ขาหักต้องใส่เฝือก ฉันคิดว่ารอบตัวมีบางอย่างแปลกๆผู้คนแต่งตัวแปลกทั้งๆที่วัยเดียวกันกับฉัน หรือว่าฉันตกเทรนด์เห็นเขาว่ากันว่า แฟชั่นยุค90กำลังมา "เธอ...เธอชื่ออะไร" "ฉันชื่อดิว' "เฮ้ย...!" "นั่นมันชื่อชั้น" "สมองเสื่อม" "มึงเขาสมองเสื่อม" "ออกจากโรงพยาบาลวันนี้แล้วจำทางกลับบ้านได้มั๊ย?" "จำได้แม่พาชั้นมาโรงพยาบาลนี้ประจำ" "เฮ้ออ..ค่อยดีหน่อยนึกว่าสมองเสื่อม" "ทำไม่ชื่อดิว..ชื่อเหมือนเพื่อนชั้นเลยนั่นน่ะคนที่ยืนเต๊ะหล่ออยู่นั่นน่ะ ชั้นชื่อ ดรีมนะ ถ้าเธอจำบ้านได้ก็ "ไปกันเลยชั้นจะขับรถไปส่ง" คนชื่อดรีมคุยตลอด ถาม นู่น นี่ นั่น ดรีมเข็นรถมาที่หน้าโรงพยาบาลเขาขับรถมาจอดรับ "นี่..นี่มันอะไรกันนี่ ปกติจะมีมินิมาร์ทอยู่ตรงนี้มันหายไปไหน โรงพยาบาลพึ่งสร้าง แม่เคยบอกว่าโรงพยาบาลนี้สร้างมา20กว่าปีแล้วนี่ คืออะไร หรือว่าฉันฝันไป สิ่งแปลกๆทำให้ฉัน งงงวย อาจจะเบลอยาแหละ เขาขับรถ ตลอดถนนหนทางสภาพแวดล้อมไม่คุ้นตาเอาซะเลย เบลอแหละเบลอยา ฉันคิดบวกไว้ก่อน คงไม่มีอะไรแปลกไปกว่าตัวฉันแล้วล่ะ ฉันนี่แปลกสุดและ แต่เอ๊ะขับมานานแล้วน่าจะถึงหมู่บ้านแล้วนี่แต่ทำไมมี่แต่ป่า ถนนลาดยางก็จริง ตรงนั้นก็มีโรงงานก็ผ่านมาแล้วต่อไปต้องเป็นหมู่บ้านแม่สิ บ้านแม่อยู่ปทุมธานีต้องเจริญกว่านี้สิทำไมเป็นป่า ฉันไม่เข้าใจ หรือว่าสมองได้รับความกระทบกระเทือนจึงเห็นสภาพแวดล้อมผิดแผกไป "เธอ...ไหนบ้านเธอ ไหนบอกว่า10นาทีนี่มันเลย10นาทีแล้วนะ" คนชื่อดิวถาม "คุณเห็นป่ามั๊ย" "เห็นสิ..." "คุณเห็นหมู่บ้านมั๊ย..ตรงนี้คือหมู่บ้าน บ้านแม่อยู่ตรงนี้" "สมองเสื่อม...!" ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน "แม่...แม่..แม่..อยู่ไหน พ่ออยู่ไหน ดนตรี พี่ขอโทษ นี่คำขอของชั้นเป็นจริงหรือนี่ ฮือๆๆ...ๆๆ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ลูกขอโทษ เอาบ้านเอาแม่เอาน้องกลับมาเถอะลูกขอถอนคำพูด...ช่วยด้วยหนูอยากกลับบ้าน" "ทำไงดี...เธอสมองเสื่อม..มึงต้องรับผิดชอบมึงขับรถชนเขา" "ไอ้ดรีมมึงจะมาโยนให้กูแบบนี้ไม่ได้เพราะมึงให้กูขับมาทางนี้" "แต่มึงเป็นคนชนดิวมึงพาเขาไปพักอยู่บ้านมึงก่อนเดี๋ยวครอบครัวก็ประกาศหาตามหนังสือพิมพ์หรือไม่ก็ทีวีแหละลูกทั้งคนนี่" "บ้านมึงไง อยู่หลายคนไม่น่าเกลียดกูอยู่คนเดียวจะให้อยู่กัน2ต่อ2ได้ไงผู้ชายผู้หญิง" "ไอโง่ใครถามก็บอกคนรับใช้หรือญาติก็ได้ ที่บ้านมึงก็มีแม่บ้านนี่" "แม่บ้านอยู่แค่กลางวันแต่กลางคืนกูต้องอยู่กับเธอแค่2คนนะ" "ไงมึงกลัวผู้หญิงตัวเล็กๆข่มขืนมึงรึไง ไม่รู้แหละมึงชนมึงรับผิดชอบบ้านกูไม่สะดวกแม่รู้กููโดนด่าแน่" ทั้งสองเถียงกันในขณะที่ฉัน ฉงนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนหมาหลงทางไม่รู้จะไปทางไหนดี พวกเขาขับรถมาที่บ้านไม้ทรงไทยหลังใหญ่มีอานาเขตกว้างใหญ่ไพศาลมีสวนผลไม้ล้อมบ้านไปหมด เขาจอดรถ ทั้งสองพยุงฉันเข้าบ้านฉันเหลือบไปเห็นรถจอดอยู่ที่โรงรถน่าจะเป็นของคนชื่อดิว รถรุ่นเดียวกับของพ่อ พ่อบอกเลิกผลิตมาเป็น10ปีแล้วแต่ที่จอดอยู่ป้ายแดงพึ่งออกใหม่ "กูกลับก่อนนะ..ไปล่ะ" "เฮ้ย..ทิ้งกูอยู่กับกูก่อนสิกูไม่เคยอยู่กับคนอื่นกูทำตัวไม่ถูก" "เธออยู่ห้องนี้นะ...ห้องรับรองแขกชั้นล่างมีห้องน้ำอยู่ในห้องจะได้สะดวก ไม่มีใครอยู่ครอบครัวชั้นไปอยู่เมืองนอกกันหมดมีชั้นคนเดียวไม่ไป ชั้นชอบที่นี่ ชั้นให้แม่บ้านเตรียมชุดให้แล้วเป็นชุดของน้องสาวชั้นเอง...เธออยากได้อะไรบอกแม่บ้านได้เลยแม่บ้านจะอยู่แค่5โมงเย็น ชั้นจะลงมาทำอาหารให้นะตอน5โมงเย็น" "อ้าว..มีแม่บ้านทำไมไม่ให้เขาทำให้ล่ะ?" "ไม่ชั้นชอบทำกินเอง...ชั้นชอบทำอาหาร" เห็นเขาไม่ค่อยพูดแต่เวลาพูดดูเขาใจดีอยู่เหมือนกัน ฉันหลับไปนานเท่าไรไม่รู้รู้ตัวอีกทีตอนได้กลิ่นอาหาร ฉันเดินออกไปเห็นเขากำลังทำอาหารอยู่ พระเจ้า ชีวิตในฝันชัดๆ มีผู้ หล่อๆมาทำอาหารให้กิน ฟินลืมบ้านเลย ฉันใช้ไม้เท้าพยุงสังขารออกมาตามกลิ่นอาหารหิวท้องจะขาด "หิวหรือยัง?" ฉันพยักหน้า เขาให้นั่งรอที่โต๊ะ อาหาร3-4อย่างได้ฉันคิดว่าอยู่2คนจะทำเยอะทำไม "ปกติชั้นทำแค่กินคนเดียวแต่เธอมาอยู่ด้วยไม่รู้กินเยอะแค่ไหนเลยทำเผื่อไว้เหลือไม่เป็นไรพรุ่งนี้แม่บ้านมาจะให้เขาอุ่นไว้ให้เธอ" เขาดูอ่อนโยนดี แต่ไม่อยากจะบอกฉันตัวเขมือบต่อให้มีอีกชั้นก็กินหมด "ชั้นไม่ค่อยคุ้นกับการกินข้าวกับคนอื่นแลดูปลกๆ" "แต่ชั้นไม่คุ้นกับการกินข้าวแค่2คนเพราะที่บ้านมี4คนแย่งกันกินสนุกดี" พอพูดจบน้ำตามันมาจากไหนไม่รู้ชั้นคิดถึงบ้าน...คิดถึงแม่ ฉันอยู่ไหนฉันก็ไม่รู้ "ไม่อร่อยเหรอ..ร้องไห้ทำไม?" "อร่อย..แต่ คิดถึงแม่? "เอาเถอะ..ถ้าเธอจำทางกลับบ้านได้เดี๋ยวก็ได้กลับเอง" กินข้าวเสร็จแล้วเขาไล่ให้ฉันไปอาบน้ำเตรียมตัวนอนในห้องมีทีวีอยู่แต่รุ่นเก่ามากยังใช้กันอยู่อีกหรือ ฉันทุลักทุเลกับการอาบน้ำมาก ถ้าจะซักแห้งก็กลัวคนรอบข้างจะเหม็น เอาขาพาดที่สูงไม่ให้โดนน้ำดีที่ยังมีอ่างอาบน้ำแต่จะลุกยังไงก่อนช่างเถอะอาบเสร็จค่อยว่ากัน "พลั๊กกก...โครม...โอ๊ย..." นั่นไงนั่นไงว่าแล้วเชียวขณะที่ฉันตะเกียกตะกายลุกขึ้นนั้น เขาเอาผ้ามาคลุมตัวให้ฉันแล้วอุ้มขึ้นมา "กรี๊ดดดดด....เข้ามาทำไมเข้ามาได้ไงชั้นล็อกประตูนะ แล้ว..แล้วชั้นโป้นะ..เห็นหมดเลย" "เธออยู่บ้านชั้น..ชั้นต้องดูแลเธอ เป๋ข้างนึงอยากเป๋อีกข้างรึไง ชั้นไม่มีอารมณ์กับคนพิการหรอก" ฉันอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนเขาวางฉันบนเตียง อยากกลับบ้านซะเดี๋ยวนี้เลย ลองคิดสภาพดูสิ คนหล่อมาเห็นเราในสภาพทุเรศโอย...พรุ่งนี้จะมองหน้าเขายังไง "ใส่เองได้นะ..รึจะให้ใส่ให้..ระวังด้วย" "ทำได้ออกไปเถอะ...ขอบคุณค่ะ" ฉันตื่นมาได้ยินแม่บ้านทำงานบ้านฉันหิวเลยออกไปหาอะไรกิน เขาไม่อยู่แล้ว...โล่งอกไปที ฉันกินข้าวเสร็จแล้วก็ไม่รู้จะทำอะไรเปิดทีวีเก่าๆในห้องดูผู้ประกาศข่าวรายงานข่าวว่า "อีกไม่กี่เดือนจะเข้าปีคริสต์ศักราชที่2,000 เข้าสหัสวรรษที่2 ตามคำทำนายโลกจะถึงกาลวิบัติ น้ำจะท่วมโลก โลกจะแตกจะจริงหรือไม่เรามานับถอยหลังกันค่ะ" ฉันดูข่าวแล้วตกใจ นี่มันอะไรกัน ฉันลากสังขารออกมาจากห้องอีกครั้ง "ป้า วันนี้วันที่เท่าไรเดือนอะไรปีอะไรคะป้า?" "วันนี้วันที่15 มิถุนายน พ.ศ.2542 นั่นน่ะปฏิทิน" ป้าชี้ปฏิทินให้ดู นี่มันอะไรกันนี่ฉันยังงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นไปได้ยังไง ฉันย้อนเวลามายุค90 ข้ามเวลามา21ปี โทรศัพท์เครื่องนั้นแน่ๆพาฉันมา ฉันนั่ง อยู่สวนหลังบ้านเวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ ฉันไม่รู้อะไรเลย ฉันจะมีชีวิตอยู่ในยุคนี้ได้อย่างไร ไวฟายไม่มี โซเชียลไม่มี เพื่อนไม่มี ฉันจะทำอย่างไรดี ฉันอยากกลับบ้าน ฉันตื่นขึ้นมามองเห็นเพดานห้อง ฉันอยู่ในสวนนี่นา ใช่แล้ว เย้ๆ แค่ฝันไปน่ะเอง หืมหอมจัง สงสัยแม่ทำอาหารเย็นอยู่แน่ๆ เย้ๆ ฉันลุกขึ้นมา อ้าว ห้องเดิม ทีวีเก่าเครื่องเดิม ฉันยังฝันอยู่รึนี่ "เพี๊ยย...โอ๊ย..ไม่ได้ฝัน" แล้วฉันกลับมาห้องยังไง ฉันเดินตามกลิ่นอาหารไปอย่างทุลักทุเล เพราะขาใส่เฝือกนี่แหละ โธ่เอ้ย..เขากลับมาตอนไหนนะ อย่างกับแม่ศรีเรือนกลับมาทำอาหาร "ตื่นแล้ว...ปลุกเท่าไรไม่ตื่น...นี่สินะวิธีปลุกเธอให้ตื่นก็ต้องใช้กลิ่นอาหาร " "ฉันกลับมาได้ไง?" "ชั้นอุ้มเธอมา.." "อ้าวทำไมไม่ปลุกล่ะฉันปลุกง่ายจะตาย" "พูดมาได้..ปลุกง่ายเหลือเกิน...ชั้นกลัวยุงจะหามไปเสียก่อนเลยต้องอุ้มมา " "ขอโทษค่ะฉันรู้สึกไม่ดีน่ะ " "คิดออกยังว่าบ้านอยู่ไหน?" "ฉันคงกลับบ้านไม่ได้แล้ว" "อยู่นี่ไปก่อนแล้วกันเดี๋ยวก็นึกขึ้นได้เองแหละ...ปะกินข้าว" การกินข้าวกับผู้ชายหน้าตาดีที่ไม่ใช่แฟนเรามันก็อึดอัดนะ ถ้าเป็นแฟนเราคงดี หล่อฟ้าประทานขนาดนี้ "เธอนี่กินเก่งนะ...กินเยอะกว่าชั้นอีก ชั้นตัวใหญ่กว่าแต่กินนิดเดียว เธอตัวนิดเดียวแต่กินเยอะ" "จะว่าตะกละก็ว่ามาเถอะ...แม่ว่าฉันประจำเปลืองของ กินแล้วไม่โต แต่ฉันชอบกิน กินได้ทั้งวัน" "อืมดีจริงกินแล้วไม่อ้วน...กินเถอะกินเยอะๆ ชั้นชอบทำอาหาร บางทีกินไม่หมดก็แบ่งๆให้คนระแวกนี้ไปบ้าง ชั้นชอบดูเวลาเธอกินเพลินดีดูน่าอร่อยดี" เอ๊ะๆ หรือว่าจะแอบชอบเราแหมๆพึ่งเจอกันเอง แอบบอกเป็นนัยๆว่าชอบแน่เลย "นี่ยิ้มอะไร...คนอะไรกินข้าวยังหลับในได้...หมดทุกอย่างแล้วเนี่ยไม่เหลืออะไรให้กินแล้ว เดี๋ยวชั้นเก็บจานไปล้างก่อน" "ฉันช่วย" "ไม่ต้องเดี๋ยวจานชั้นแตก" แหมแค่นี้ต้องดุ ฉันนั่งดูรูปในโทรศัพท์มือถือที่มีแบตฯแค่20%ไม่มีสัญญาณแน่ล่ะสิยุคนี้ไวฟายยังไม่เกิดนี่นา เขาล้างจานเสร็จเหมือนจะสนใจสิ่งที่ฉันเล่นอยู่ "ไอเครื่องดำๆนี่คืออะไรไม่เคยเห็นเลย?" "โทรศัพท์มือถือ" "8210 ที่แบตหมดก็ของเธอเหรอ?" "อันนั้นของพ่อให้มา" "ฉันมาจากโลกอนาคตอีก21ปีข้างหน้า..โลกที่มีการพัฒนามากกว่านี้" "เธอ..สมองมีปัญหาแน่เลย" ฉันคิดอยู่แล้วว่าเขาไม่มีทางเชื่อฉันแน่ฉันเลยเปิดโทรศัพท์ให้ดูสิ่งที่อยู่ในนั้นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นฉันชอบถ่ายรูปอย่างที่บอกฉันเก็บรูปไว้ในโทรศัพท์เยอะมาก "ไม่อยากเชื่อเลย...เคยเห็นแต่ในหนัง...เธอมาได้เพราะอะไร..อะไรนำพาเธอมา..?" "8210โทรศัพท์เครื่องนั้นมันพามา" ฉันทำหน้าเศร้าแล้วถามเขาว่า "ถ้าฉันกลับบ้านไม่ได้...คุณจะไล่ฉันไปมั๊ยตอนนี้ฉันไม่มีที่ไปจริงไปแล้ว" "ไม่..ถ้ากลับไม่ได้ก็อยู่ที่นี่แหละฉันดูแลเธอได้..ขนาดหมา แมวหลงมา ฉันก็เลี้ยงมันเอาบุญตั้งหลายตัว มันเดินเล่นอยู่แถวๆนี้แหละ" เกือบจะดีอยู่แล้วเชียวเปรียบฉันกับหมาแมวซะนี่ ดึกแล้ว ฉันดูทีวีตรงห้องรับแขก จากที่เขาไม่ค่อยพูดตอนแรก แต่เหมือนเจาจะสนใจโลกอนาคตเจาถามนู่นนี่นั่น "ฮ้าววว..." "ง่วงแล้วหรือ...ไปชั้นช่วยพยุงให้ ...อีกสัก2วันคงหายเจ็บแล้วล่ะคงไม่เจ็บเท่าไร" เขาพยุงฉันเข้าห้อง...พอถึงห้องเขาก็พยุงฉันไปที่เตียงแต่ ฉันเผลอลงแรงที่เท้าข้างที่หัก ทำให้เสียหลักล้มลงบนเตียงทั้งคู่ ฉันทับบนตัวเขาจมูกโด่งคมสันสัมผัสเข้ากับแก้มป่องของฉัน ตัวร้อนหน้าร้อนผ่าวอีกแล้ว สงสัยจะมีไข้ ฉันพยายามลุกแต่ขา ไม่อำนวยความสะดวกเลย ด้วยความที่พยายามลุกลี้ลุกลนจะยืนให้ได้ ทำให้หัวเข่าฉันไปสัมผัสกับบางสิ่งที่มันอยู่ตรงเป้าเขาพอดี ตอนนี้เหมือนมันจะมีชีวิต มันดุกดิกได้ ฉันตกใจมาก เขาเหมือนเห็นท่าไม่ดีจึงบอกให้ฉันอยู่นิ่งๆเขาจะลุกเอง เขาจับเอวฉันไว้แล้วพลิกตัวฉันเบาๆให้ฉันนั่งอยู่บนเตียงแล้วเขาก็รีบออกจากห้องไปทันที ฉันนอนไม่หลับทั้งคืนนึกถึงถึงเหตุการณ์เมื่อตอนค่ำ "เป็นอะไรวะนี่...นอนไม่หลับเลย มันคืออะไรหว่า... เพราะแม่เลยชอบกักขังหน่วงเหนี่ยวไม่ให้ออกไปใช้ชีวิตกับเพื่อนเลยไม่มีประสบการณ์...ให้ได้รู้เลยอาการแบบนี้คืออะไร หรือว่าเราจะชอบเขา หรือว่าแค่เคลิ้มกับความหล่อ ไม่ได้ ...ไม่ได้เราจะมาชอบคนยุคนี้ไม่ได้...ถ้าเรากลับบ้านได้ล่ะ...เพราะฉะนั้นห้ามชอบแต่อืมมม...ฟินจัง..." ทุกๆวันที่นี่แสนจะน่าเบื่อฉันคงอยู่ที่นี่ไม่ได้ ทีวีดูได้แค่เที่ยง ทุกช่องปิดรายการหมด กว่าจะได้ดูทีวีอีกทีก็4โมงเย็น ตำนานรักดอกเหมย ฉันยังขำตัวเอง ห้องฉันที่บ้านแม่ มีทีวีแต่ไม่เคยเปิดเลย มีรายการดูได้ทั้งวัน แต่อยู่ที่นี่ใจจดใจจ่อให้ถึงบ่าย2โมง ช่วงเที่ยงไปกินข้าวกับแม่บ้านก็ฟังวิทยุกับแม่บ้าน แม่บ้านชอบเปิดละครในวิทยุมีแต่เสียงต้องใช้จินตนาการเอา ก็สนุกดี แต่ก็ เหงาอยู่ดี วายฟายจ๋าอยู่ไหน คิดถึงจัง.....บางครั้งก็แอบชะเง้อมองว่าเมื่อไรเขาจะกลับมาปานว่าเป็นแฟนเขา นี่ถ้าอยู่ยุคปัจจุบันก็คงส่งข้อความแชทคุยกันได้แล้ว บางครั้งก็สงสัยว่าวัยรุ่นยุคนี้ถ้าอยู่ไกลกันจะคุยกันยังไง...ว้าวุ่นใจน่าดู 4โมงเย็นแล้ว อีก1ชั่วโมงเขาจะกลับแล้ว ฉันดูซีรี่ย์จีนกำลังภายในรอเขาทุกวัน อย่าเข้าใจผิดนะฉันรอกินข้าวต่างหากเพราะเขาต้องกลับมาทำอาหาร "ป้าๆ..ป้าเคยทำอาหารให้คุณดิวกินมั๊ย?" "เคยสิ ตอนเขาป่วยน่ะทำแค่ข้าวต้มแต่ถ้าเขาดีๆเขาจะทำเองเขาชอบทำอาหาร" ป้ากลับบ้านแล้วป้าบอกว่าไม่ต้องรอ บางวันเขากลับดึกให้กินอะไรไปก่อน เหมือนฉันติดรสอาหารของเขารอดีกว่า ฉันนอนรอที่โซฟา จนเผลอหลับไป "นี่เธอ...เธอ...เธอ...เฮ้อขี้เซาชะมัด คนอะไรเหมือนหมาเลยนึกจะนอนตรงไหนก็นอน แล้วนี่มานอนบนพื้นทำไมโซฟาก็มี" "ฟุดฟิด...ฟุดฟิด อือหือหอมจัง เขากลับมาแล้วสินะ" "เออเธอนี่ปลุกให้ตื่นได้ด้วยกลิ่นอาหารจริงๆชั้นเรียกคอแทบแตก" "ฉันรอคุณอยู่นะนี่ทำไมกลับดึกจัง...?" "วันนี้ซ้อมเตรียมขึ้นคอนเสิร์ต..." "คุณเป็นนักร้องหรือ..?" "ดิวกับดรีมไงไม่รู้จักหรือ?...อย่างว่าแหละเธอไม่ใช่คนยุคนี้จะไปรู้ได้ไง" ฉันตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกนี่คือ ไอดอลของแม่เลยฉันได้เห็นตัวเป็นๆได้สัมผัส...เยอะด้วย...แม่อิจฉาแน่ถ้ารู้ ว่าแล้วเชียวคุ้นๆ "แม่ฉันชอบคุณมากชั้นร้องเพลงคุณได้ด้วยนะแม่เปิดทุกวัน" "แล้วทำไมตอนแรกจำชั้นไม่ได้...?" "ก็ไม่ได้สนใจ...แต่ก็คุ้นๆอยู่" "งั้นตอนนี้สนใจรึยัง?" "สนสิ...ก็ฉันต้องฝากท้องไว้กับคุณนี่" "มีความหมายแค่เป็นคนทำอาหารแค่นั้นเอง...?" "หิวแล้วอ่ะงับ...ขอกินข้าวหน่อยงับ" "งับอะไร..นี่ภาษาคนรึ?" ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนเจ้าหญิงมากมีเจ้าชายคอยดูแลคิดแล้ว...โชคดีจริง "นี่เธอ...เพี้ยนจริงยิ้มคนเดียว..คนอะไรหลับในตอนกินข้าวก็ได้..นิ่งเป็นหลับขยับเป็นกิน" "ยอมรับ..เพราะฉันชอบกิน" "ไม่ต้องลุกมานะ...ชั้นเก็บเอง...อย่าทำซึ้ง..ถ้าขาเธอหายเมื่อไร...เธอต้องทำหน้าที่นี้" "ทำได้อยู่แล้ว...ทำได้มากกว่าล้างจานอีก" เขาหันมายิ้มแล้วก็เดินไปล้างจาน ฉันดูรูปในโทรศัพท์เหมือนเขาจะสนใจโทรศัพท์ของฉันมาก เขาล้างจานเสร็จ จึงเดินมาหาแล้วพููดว่า "ดีจริง...เราสามารถพกความทรงจำที่ดูได้ตลอดเวลา" "ก็ไม่ตลอดหรอกนี่แบตเตอรี่จะหมดแล้วความทรงจำจะหายไปแล้วฉันไม่สามารถหาที่ชาร์จในยุคนี้ได้" เราคุยกันนานเท่าไรไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็ดึกแล้ว...ฉันจึงลุกขึ้นเพื่อจะไปนอนแต่ขาเป็นตะคริวเพราะเจ็บขาขวาตอนนั่งจึงลงน้ำหนักที่ข้างซ้าย นานเกินไป ฉันเผลออีกแล้วเผลอลงน้ำหนักขาที่เจ็บ เขาคว้าแขนฉัน ฉันเสียหลักลงไปนั่งตักเขา โอ๊ะ..แม่เจ้า ตักผู้ชายทำไมรู้สึกดีจัง หอมด้วย ขนาดมีเหงื่อเพราะร้อนตอนทำอาหาร เขาใช้น้ำหอมแบรนด์อะไรนะ "นี่เธอ..เธอ นานไปมั๊ย ผมก็รู้สึกหนักนะ" "ก็ไหนคุณบอกฉันตัวเล็กไง เชอะ?" ฉันลุกขึ้นแล้วก็ลากสังขารเข้าห้องไปนอนแต่ก็นอนไม่หลับ...ทีวีก็ไม่มีอะไรให้ดูแล้ว ทำไมฉันต้องตื่นเต้นทุกครั้งที่อยู่ใกล้เขา ฉันคงต้องลากสังขารออกไปข้างนอกแล้วล่ะ ฉันเดิน3ขาออกไปสูดอากาศ ฉันมองขึ้นไปบนฟ้าทำไมยุคนี้ดาวเยอะจัง หรือที่จริงแล้วมันก็มีเท่าเดิมแหละแต่ฉันไม่เคยสนไม่เคยมองดาวพวกนี้เลย ฉันยืนดูดาวอยู่พักใหญ่จึงหันหลังกลับ เขามาอยู่ข้างหลังฉันตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ฉันชนเขาเข้าอย่างจัง เขากลัวฉันจะล้มแขนสองข้างของเขาโอบที่เอวฉันไว้ เขาจ้องหน้าฉัน แสงจันทร์สาดส่องเห็นใบหน้าของเขาสลัวๆ เราสบตากันอยู่พักหนึ่ง อีกแล้วหัวใจเลี้ยงไม่เชื่องควบคุมไม่ได้เลยมันช่างดื้อดึงนัก ไม่ได้ ฉันจะมาชอบคนยุคนี้ไม่ได้เพราะฉันยังมีความหวังที่จะกลับบ้านอยู่ ผู้ก็อยากได้ บ้านก็อยากกลับ ฉันจะเลือกทางไหนดี "คุณคะ..ปล่อยเถอะค่ะ" "ไม่ได้ปล่อยไม่ได้" "อ้าว..ทำไมคะ?" "ก็เธอ...กอดฉันอยู่น่ะสิ" "อ้าว...เหรอ..ขอโทษค่ะ" ตรูไปกอดเขาตอนไหนเนี่ย...ความเปิ่นความแปลกแบบนี้โดนแม่ว่าหลายครั้งแล้ว เขาพามาส่งที่ห้อง "เออคุณคะ..ฉันว่าจะไปบ้านยายที่นนทบุรีพาไปหน่อยได้มั๊ยคะ " "อ้าว...เขาจะจำเธอได้เหรอ เธอมาจากอนาคตนะเท่ากับว่าเธอยังไม่เกิด พวกเขาไม่รู้จักเธอหรอก สุ่มสี่สุ่มห้าเข้าใบบอกเขา เขาจะหาว่าบ้าน่ะสิ" "จะลองดูน่ะถ้าเขาเชื่อ ฉันจะได้ไม่เป็นภาระคุณไง" "ใครบอกว่าเธอเป็นภาระ " "ก็ตอนแรก คุณบอกว่าไม่ชินกับการอยู่กับคนอื่นนี่" "แต่ตอนนี้ชินแล้ว...จะอยู่นานเท่าไรก็ได้" เขายิ้มให้สายตาอบอุ่น...ว๊ายเขิล ฉันมัวแต่ม้วนอาย อีกแล้วเผลอลืมลงน้ำหนักที่ขาข้างเจ็บอีกแล้ว เขารีบคว้าแต่ไม่ทันล้มลงทั้งคู่ปากเขาชนกับปากฉัน "โอ๊ย...โอ๊ย..." แตกสิครับไม่เห็นเหมือนในซีรีย์เกาหลีเลยฉากแบบนี้ฟินจิกหมอนทุกเรื่อง "นี่เธอ..อีกแล้ว..เลือดเลยนี่ ปากบวมขนาดนี้จะไปทำงานยังไงพรุ่งนี้มีสัมภาษณ์สดด้วยสิ" เขาเดินไปโทรศัพท์คุยกับผู้จัดการ "ฮัลโหลพี่เกิดอุบัติเหตุปากบวมมากพรุ่งนี้ทำยังไงดีครับ" "โอย ปากบวมจะมาออกรายการได้ยังไงรอให้หายก่อนเดี๋ยวจะให้เขาเลื่อนนัดไปก่อนไปทำอีท่าไหนเนี่ย คราวหลังระวังตัวด้วยสิ" "นอนเถอะ...ก็ดีเหมือนกันจะได้พักบ้าง เดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาไปเลย" "ไปทำไม่เลย?" "นี่มุขใช่มั้ย?" "มุขอะไร?" "จะพาไปนนทบุรีเลย...เลยพูดสั้นๆก็เราพึ่งคุยกันเรื่องนี้เมื่อกี้เนี่ย ใครจะรู้ว่าเธอขี้ลืม" "ขอบคุณนะ..แต่รีบพาไปเพราะเห็นฉันเป็นตัวซวยรึเปล่า อยู่ใกล้ฉันทีไรมีแต่เรื่อง " "ไม่หรอก ไม่มีหรอกตัวซวย ตัวมันเป็นยังไง?" "งั้นนอนก่แนนะคะ รีบนอน ดีกว่า" เช้าวันรุ่งขึ้น ปิ๊งป่อง ปิํงป่อง"!? "ทำไมรู้สึกร้อนวูบวาบหรือจะเป็นไข้หว่า"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD