ผู้หญิง(เคย)เลว..3

1933 Words
ก๊อกๆ ปกติก็ไม่เคาะหรอก แต่นี่ยังเช้าอยู่ ลองสักหน่อยเพื่อมารยาทที่ดี "กูเข้าไปนะ" เคาะก็แล้ว ยืนรอก็เงียบ เลยถือวิสาสะพูดเองเออเองเปิดประตูเข้าไปด้านใน ห้องนี้ค่อนข้างกว้างเพราะเป็นทั้งห้องทำงานและห้องนอนญาติผมคนนี้ แต่เท่าที่มองดูโซนทำงานและรับแขกไม่มีร่างสูงอยู่ งั้นขอเดินไปดูที่ห้องนอนที่อยู่ด้านหลังหน่อยแล้วกัน "ไปไหนของมันวะ!?" สบถอย่างหัวเสีย เวลามีเรื่องด่วนเรื่องสำคัญทีไรไอ้ญาติผู้น้องคนนี้ชอบหายหัวจริงๆ "หรือว่ามันจะกลับบ้าน" บ้านที่ผมกำลังพูดถึงเป็นบ้านที่มันซื้อไว้ตั้งแต่เริ่มเปิดคลับนี้เมื่อหกเจ็ดปีที่แล้ว ซื้อทำเฮี้ยไรก็ไม่รู้ตั้งแถวชาญเมือง ไกลก็ไกล แถมต้องเสี่ยงนั่งตูดชาเพราะต้องฝ่ารถติดในเมืองออกชาญเมืองอีก แต่ทำไงได้ ตอนนี้ผมต้องพึ่งมันงานผมถึงจะสำเร็จ "อย่าให้กูเจอตัวจะบ่นจนหูชา" ปากก็บ่น ขาก็ก้าวเดินไปข้างหน้า ลงมาชั้นล่าง เจอเข้ากับพนักงานที่สนิทที่สุดในนี้ "ไอ้เอ็กซ์!" ผมตะโกนเรียก 'เอ็กซ์' บาร์เทนเดอร์ที่หน้าตาหล่อเหลาที่สุดของที่นี่ และสนิทกับผมระดับหนึ่ง "อ้าว สวัสดีครับเฮียตีสอง" สังเกตไหมว่าสองคนที่เจอผมทักไม่เหมือนกัน ก็บอกแล้วระดับความสนิทมันต่างกัน ไอ้เอ็กซ์นี่จัดอยู่ระดับที่สอง ยังมีสรรพนามสำหรับคนสนิทมากๆ อยู่อีกนิดหน่อย "เฮียมึงไปไหน" ไอ้เอ็กซ์สนิทกับเจ้าของที่นี่กว่าพนักงานคนอื่นๆ ถามมันอาจจะได้คำตอบที่ดีกว่า "เมื่อคืนพอคลับปิดก็รีบขับรถออกไปเลยเฮีย" มันว่า ก่อนจะพูดต่อ "แต่เหมือนจะไปไหนสักที่เพราะเห็นเตรียมเสื้อผ้าแล้วก็อาหารแห้ง" ผมคิดตามที่ไอ้เอ็กซ์พูด เตรียมเสื้อผ้า อาหารแห้ง มันจะไปถือศีลหรือไง ไม่หรอก คงกลับบ้านอย่างที่ผมฟันธงไว้นั่นแหละ "เออ ขอบใจ" "ไม่เป็นไรเฮีย" ถ้าไอ้นี่เป็นผู้หญิงผมว่าต้องสวยมากแน่ๆ ขนาดเป็นผู้ชายยังหล่อออกหวานๆ เลย "เอ้อ เอ็กซ์" นึกอะไรขึ้นได้พอดี "ฮะ?" ไอ้เอ็กซ์ที่กำลัฃจะเดินไปทำหน้าที่มันหยุดชะงักก่อนจะหันมาเลิกคิ้วถาม นี่ถ้าผมนิยมกินเพศเดียวกันคงจับไอ้หน้าหวานตรงหน้ากดแม่งบนบาร์แล้ว "ถ้าลูกพี่เอ็งกลับมาบอกให้โทรกลับหาด่วน" สั่งไว้เพราะกลัวจะสวนทางคาดกันไปกันมา "ได้ฮะ เดี๋ยวจัดการให้" รอยยิ้มขี้เล่นผุดขึ้นมา เอ็กซ์เอ้นเอ็กซ์ กูล่ะเสียวจะมีคนหน้ามืดจับมึงไปกินจริงๆ "งั้นไปล่ะ" ผมโบกมือลาไอ้เอ็กซ์ก่อนจะเดินกลับมาขึ้นรถตัวเองที่จอดอยู่หน้าคลับ "ลองอีกสักรอบดิวะ" ก่อนจะขึ้นรถผมเลยหยิบมือถือขึ้นมากดโทรซ้ำลงไปที่เบอร์เดิม ตู้ดดดด เสียงรอสายดังจนตัดไปเองอีกครั้ง "แม่งต้องให้เหนื่อย เดี๋ยวไม่ช่วยแม่งเลย" บ่นให้ญาติผู้น้องก่อนจะขึ้นรถขับออกไปทางชานเมืองเพื่อไปหาตัวต้นเหตุให้ผมขับรถเล่นรอบเมือง @บ้านไททันแถวชานเมือง ใช้เวลาขับจากทีเอสคลับมาที่นี่เกือบชั่วโมงกว่าๆ เป็นอะไรที่ทรมานโคตรๆ อาจจะเพราะผมเคารพกฎจราจรไม่ได้ขับเร็วมั้งเลยมาช้า ผมจอดรถไว้หน้าประตูบ้านสีขาวนวล ก่อนจะกดโทรออกหาเจ้าของบ้านอีกครั้ง แต่ก็เหมือนเดิม มันไม่ยอมรับสาย "เข้าไปเลยแล้วกันวะ" ใช้กุญแจสำรองที่เจ้าของบ้านเคยให้ไว้ตั้งนานแล้วไขประตูรั้วบานเล็กเข้าไป "อยู่นี่จริงๆ ด้วย" ผมมองเห็นรถ Lykan Hypersport ซูเปอร์คาร์สีดำมะเมี่ยม ที่ผลิตเพียง 7 คันเท่านั้นจอดอยู่ในโรงจอดรถ "แล้วเสือกไม่รับโทรศัพท์กู อย่าให้รู้ว่าพาหญิงมาซุกนะมึง" ผมก็บ่นไปเรื่อยตามประสาอายุเลขสามต้นๆ ของตัวเองนี่แหละ เอาเข้าจริงๆ ผมไม่เคยเห็นไอ้ญาติผู้น้องคนนี้มีแฟนเป็นตัวเป็นตนหรือจีบผู้หญิงเลยสักคน ครืดดด ผมเลื่อนประตูกระจกใสที่หน้าบ้านก่อนจะตรงดิ่งเพื่อเตรียมตัวขึ้นชั้นสอง แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมเลือกเดินไปที่ประตูอีกบานที่อยู่ด้านหลังบ้านมัน "มันกลัวขโมยขนาดนี้เลย" ผมเห็นลูกกุญแจอันใหญ่คล้องอยู่ที่บานประตู ถึงจะบอกว่าที่นี่นอกชาญเมืองที่เจ้าของบ้านหลังนี้รวยมาก ขนาดรถราคาเป็นร้อยล้านยังมีปัญญาซื้อ มันจะมากลัวอะไรแค่ขโมยขึ้นบ้านผมว่าชักจะมีกลิ่นตุๆ แกร้ง!! "โอ้ย!" ตอนแรกก็เลิกสนใจเรื่องความปลอดภัยบ้าบออะไรของมันแล้วแหละ แต่จังหวะที่หมุนตัวจะเดินไปลากตัวปัญหาที่ทำผมเสียเวลามาหลายชั่วโมงมาคุยธุระ หูก็ได้ยินเสียงเหมือนเหล็กหรืออะไรแข็งๆ กระทบพื้นปูน ตามมาด้วยเสียงร้องขอผู้หญิง "ผู้หญิง? เอาจิดิ!" ผมเปิดผ้าม่านหน้าต่างที่อยู่ติดกับประตูบานนั้นออกดู ประตูที่ว่ามันคือทางเข้าออกของสวนหลังบ้าน ตรงจุดนั้นมีผู้หญิงผมสีทองดัดหลอนปลายนั่งพับเพียบอยู่ที่พื้นตรงใกล้ๆ ศาลาริมน้ำ กึกๆ ผมเขย่ากุญแจที่ใช้ล็อกประตูนั้นไว้พร้อมมองหาลูกกุญแจว่าไอ้เจ้าของบ้านโรคจิตนี้มันเอาไปซ่อนตรงไหน แต่ไหล่กลับถูกมือหนาจับไว้ก่อน หมับ! "เฮียมาทำไม" หน้านิ่งๆ เหมือนคนเพิ่งตื่นนอนหมาดๆ ถามขึ้น แต่ผมไม่สนใจเลือกที่จะถามมันกลับแทน "นี่มึงริอาจเป็นโจรลักพาตัว?" มันไม่ยอมตอบ แต่เชือกผลักไหล่ผมให้เดินนำหน้ามันไปที่โซฟาห้องนั่งเล่น "ไอ้ไททัน กูพี่มึงมั้ย?" "แค่ญาติที่แก่กว่า" เออ ไอ้ฉิบหาย สาบานว่าผมแก่กว่ามันสามปี นี่ไม่มีความรับถืออะไรกูเลย ถ้าไม่นับถืออายุก็เกรงใจดาวบนบ่า ตำแหน่งหน้าที่การงานกูด้วย โว้ย!! อารมณ์เสีย Taitan's said รำคาญหูฉิบหาย ใครส่งเฮียสองมาวันนี้วะ ตุบ! พอลากเฮียตีสองที่เป็นญาติผู้พี่ผมถึงห้องนั่งเล่นเสร็จก็ผลักเฮียแกลงนั่งที่โซฟาคนละตัวกับตัวเอง "มึงช่วยเกรงใจดาวบนบ่ากูได้ป้ะ!?" ผมหยักไหล่ไม่ใส่ใจกับคำพูดนั้นของเฮียตีสอง ก่อนจะรีบถามถึงการมาเยือนบ้านผมในวันนี้ "เฮียมาทำไม / ผู้หญิงคนนั้นใคร?" เสียงพวกเราสองคนแทบจะออกมาพร้อมกันจนฟังไม่ค่อยรู้เรื่องแต่ก็เข้าใจดีว่าเฮียตีสองถามอะไร "ไม่ต้องยุ่ง" ฟังดูเหมือนผมไม่ให้เกียรติญาติผู้พี่คนนี้เลยใช่ไหม ก็คงประมาณนั้นแหละ อาจจะเพราะเราสนิทกันมากจนบางทีผมเห็นเฮียแกเป็นเพื่อนมากกว่าพี่ ก็เหมือนเด็กสามคนที่อยู่ในกลุ่มผมที่แทบจะตบหัวผมเล่น ไม่เคารพความเป็นพี่ของผมเลย แต่ดีที่พวกมันยังเรียกผมเฮีย "ไม่ยุ่งไม่ได้ว่ะ" เฮียตีสองส่ายหน้าไปมาแต่ตายังจ้องมาที่ผมเหมือนคาดคั้นผู้ร้าย นี่สัญชาตญาณความเป็นตำรวจออกอีกแล้วสิท่า "ปล่อยผ่านบ้าง แก่แล้วนะ" ผมหยิบบุหรี่พร้อมไฟแช็กขึ้นมาเตรียมจุดสูบ "เก็บ!" เสียงเข้มกดต่ำ ทำผมที่ปากคาบมวนบุหรี่ไว้แล้วต้องชะงัก เสียงเข้มๆ จริงจังแบบนี้ของเฮียตีสองจะมาตอนที่อยู่ในโหมดสารวัตรตราบศึก ถ้างั้นตอนนี้ในสายตาเฮียตีสองคงมองผมเป็นผู้ต้องหาคนหนึ่งที่รอรับคำสารภาพผิด "สรุปจะรู้ให้ได้?" คิ้วเข้มของผมเลิกขึ้นอย่างกวนๆ พร้อมด่าในใจว่า 'จะอยากเสือกอะไรขนาดนี้พี่กู' "เออ นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ นะไอ้ไททัน นั่นมึงกำลังริดรอนสิทธิส่วนบุคคลอยู่ มึงไปล่าม" ตุ้บ! ผมแกล้งทุบวางไฟแช็กลงโต๊ะเพื่อหยุดสิ่งที่เฮียตีสองกำลังจะเทศนาผม “เรื่องของผมเฮียปล่อยไปเถอะ ทำเหมือนไม่รู้ไม่เห็นสักเรื่องดีกว่า” ผมจ้องหน้าเฮียตีสองอย่างจริงจัง เรื่องบางเรื่องผมก็ไม่ได้อยากให้ใครมายุ่งเหมือนกัน ยิ่งโดยเฉพาะยัยนั่น ผมยิ่งไม่อยากให้เฮียตีสองมารับรู้อะไรไปมากกว่าวันนี้ “เออ เอาที่มึงสบายใจไอ้ไท” เฮียตีสองพูดเสียงติดงอน “ขอบใจว่ะเฮีย” คนถูกผมขอบใจทำปากยื่นปากยาวใส่ “แล้วธุระของเฮียล่ะ” ในเมื่อเฮียตีสองยอมยกธงขาวแล้ว ผมเลยรีบเปลี่ยนเรื่องทันที ไม่งั้นเดี๋ยวเฮียผมคนนี้ได้วกกลับไปเรื่องยัยนั่นอีกแน่ แปะ!! รูปถ่ายขนาดเท่าฝ่ามือถูกวางลงบนโต๊ะตรงหน้า ก่อนเฮียตีสองจะใช้นิ้วชี้เลื่อนรูปใบนั้นมาใกล้ๆ ฝั่งผม "ใคร?" ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน จู่ๆ ก็เอารูปถ่ายใครไม่รู้หัวสีนกแก้วท่าทางเหมือนพวกติดยาแถวซอยบ้านผมออกมาให้ดู "ไอ้นี่มันจะไปปล่อยยาที่คลับมึง" รอยยิ้มบนมุมปากยกขึ้นนิดหน่อย เฮียตีสองเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งเหมือนกำลังพูดว่า 'มึงต้องขอบคุณกูกับข่าวนี้' อะไรทำนองนั้น "เฮียก็ไปจับดิ" ผมพาดแขนทั้งสองข้างวางบนพนักพิงหลังท่าทางสบายๆ อยากดูดบุหรี่ฉิบหาย แต่ไอ้เฮียแม่งไม่ยอมกลับสักที แล้วทำไมผมไม่ดูด? ก็เดี๋ยวไปเฮียมันจะอยากดูดบ้างน่ะสิ ตอนนี้เฮียตีสองกำลังเลิกดูดบุหรี่อยู่น่ะ แกเลิกมาได้เกือบจะสามเดือนแล้วแต่ก็ยังมีอยากบ้างเวลามีคนมาดูดบุหรี่ตรงหน้า แต่เฮียแกไม่กล้าใช้สายตาดุด่าแบบนี้กับคนอื่นยกเว้นคนสนิทเท่านั้น "ถ้ามันง่ายกูคงไม่ถ่อมาหามึงถึงที่นี่" สีหน้าเฮียตีสองดูขยาดกับการเดินทางในเมืองมาบ้านผม ก็นะ บ้านผมมันอยู่เขตชาญเมือง จะเดินทางมาทีไม่ต่ำกว่าชั่วโมงในการขับรถส่วนตัว แต่บังเอิญรถผมมันแรง ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว "แล้ว?" ผมเลิกคิ้วถามท่าทางสบายๆ "มึงต้องช่วยเฮีย" เวลาจะใช้แรงงานน้องนุ่งนี่พูดฮงพูดเฮีย เหมือนถูกหลอกใช้ยังไงไม่รู้ "ไม่ เว้นแต่ว่า..." ผมหยุดคำพูดไว้แค่นั้น ก่อนจะมองผ่านไปยังประตูหลังบ้านที่มีกุญแจดอกใหญ่คล้องไว้อยู่ "ไม่ๆๆๆ" เฮียตีสองมันฉลาด รู้ว่าผมหมายถึงอะไร "งั้นก็ไม่ เหมือนกัน" ผมเน้นหนักแน่นในคำตอบ "ไอ้ไททัน มันคนละเรื่องนะเว้ย" "เรื่องเดียวกัน" ผมไม่สน ผมหน้าด้าน ถ้าอยากให้ช่วยจับพวกนั้นก็แค่ทำตามที่ผมขอ ทุกอย่างก็จบ win win กันทั้งคู่ เฮียตีสองได้ผลงาน ส่วนผมได้... ดัดนิสัยผู้หญิงสารเลว!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD