"เดี๋ยวสิ!"
รีบรั้งเจ้าของผมเทาควันบุหรี่ที่ลุกขึ้นหมายจะเดินออกจากห้องทั้งๆ ที่ก่อนหน้าเขาบอกจะปล่อยฉันออกจากห้องนี้อยู่เลย
"ฉันไม่ขี้ลืม เหมือนเธอ" สายตาดูถูกสะใจที่หลอกด่าฉันสำเร็จมันทำให้ต้องข่มอารมณ์เดือดของตัวเองไว้
อย่าเพิ่งนาเดียร์ เธอต้องออกจากห้องนี้ให้ได้ก่อนแล้วค่อยเอาคืนก็ไม่สาย
"อีกสิบนาทีจะกลับมาปล่อยให้ออกไปเดินเล่น แต่ระหว่างนี้เธอต้องทำพื้นที่สกปรกตรงนั้นให้คืนสภาพเดิม"
ผู้ชายเผด็จการจอมสั่งพูดเสร็จเขาก็เดินออกจากห้องไป ก่อนที่ฉันจะได้ยินเสียงกุญแจด้านนอกประตูดังขึ้นบ่งบอกว่าไททันปิดทางหนีทางเดียวของฉันไปแล้ว
สวบ..
หลังจากที่อยู่คนเดียวในห้องทึบๆ ที่มีแค่แสงไฟช่วยเพิ่มความสว่างก็ล้มตัวนั่งลงบนเตียงหนานุ่มที่ใช้หลับนอนมาตลอดเกือบสองเดือน
'แม้แต่ความเป็นเพื่อน ฉันก็ให้เธอไม่ได้'
เสียงใสๆ ในความทรงจำเมื่อเกือบสองเดือนก่อนดังขึ้นมาหลอกหลอนอีกครั้ง
"แก้มใส" เรียกชื่ออดีตเพื่อนรักที่ฉันเคยทำเลวกับเธอด้วยความเจ็บปวด
"ป่านนี้เธอจะเป็นยังไงบ้างนะ" เอนกายทิ้งตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียงกว้าง
สายตาเหม่อมองเพดานสีขาวที่มีหลอดไฟสีเหลืองนวลๆ ส่องสว่างอยู่
'แก้มใส' ที่ฉันเอ่ยถึงคืออดีตเพื่อนรักตั้งแต่เรียนมัธยมมาด้วยกัน และคนที่เป็นต้นเหตุทำให้ฉันต้องเป็นคนเลวในสายตาเพื่อนรักและครอื่นๆ คือเขา 'กรุงโซล' อดีตผู้ชายที่ฉันเคยสารภาพรัก แต่ปัจจุบันคือสามีของอดีตเพื่อนที่เพิ่งแตกหักกัน
แต่จะโทษว่ากรุงโซลผิดคนเดียวก็คงไม่ถูก เพราะถ้าวันนั้นฉันไม่วางแผนกับ 'ดาด้า' ที่จงเกลียดจงชังแก้มใสอยู่ตัดเบรกรถเธอฉันคงไม่รู้สึกเป็นทุกข์แบบนี้
พูดถึงดาด้าฉันยังไม่รู้เลยว่าหลังจากที่เรื่องราวทุกอย่างถูกเปิดเผยเธอเป็นยังไงบ้าง จะทุกข์ทรมานเหมือนฉันตอนนี้หรืออยู่อย่างสุขสบายกับ 'เฮียเซน' ญาติผู้พี่ที่เคยหักหลักฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง
แต่ถ้าทั้งสองคนที่เอ่ยมาสุขสบายดีฟ้าคงลำเอียง ในเมื่อเราสามคน ฉัน ดาด้า เฮียเซน ต่างก็ร่วมเลวด้วยกันทำไมฉันถึงต้องมารับกรรมอยู่คนเดียวแบบนี้
แกร้ง!
สะบัดหัวไล่ความคิดที่มีแต่บั่นทอนจิตใจออกไปให้หมด ก่อนจะลุกขึ้นนั่งหย่อนขาลงขอบเตียง มองไปรอบๆ ห้องที่ไม่มีแม้หน้าต่างสักบาน นี่ฉันทนอุดอู้อยู่ในห้องนี้ได้ยังไงกันนะตั้งเกือบสองเดือน
นึกย้อนไปถึงวันแรกที่ถูกไททันพามากักขังไว้ที่นี่แล้วมันน่าโมโห
หลังจากที่ฉันถูกแก้มใสตัดขาดความสัมพันธ์ฉันเพื่อนเสร็จไททันคนสารเลวก็ลากฉันออกจากห้องผู้หญิงในสตอคของเฮียเซนที่ชื่อน้ำฟ้า
เขาถือวิสาสะมัดมือปิดตาแล้วยัดฉันเข้ามาในรถ ก่อนจะใช้เวลาเกือบๆ ชั่วโมงเพื่อพาฉันเข้ามาขังในห้องทึบๆ ห้องนี้
แกรก แอดดด
ฉันเช็ดพื้นเสร็จพอดีกับเสียงประตูห้องที่ถูกเปิดเข้ามาอีกครั้งด้วยฝีมือผู้ชายคนเดิม
"แบบนี้หน่อย ค่อยน่ารัก" ฟังเหมือนเขาจะชมแต่เปล่าเลยนั่นน่ะประชดต่างหาก
ฉันในสายตาไททันไม่ได้ดูน่ารักน่าทะนุถนอมตั้งแต่เราเป็นคู่หมั้นกันแล้ว
"อย่าลีลาไททัน" ฉันส่งสัญญาณทางสายตาให้เขาปลดพันธนาการโซ่ตรวนนี้ออกสักที
"จะรีบร้อนไปไหน ฉันไม่ได้ปล่อยเธอเป็นอิสระสักหน่อย"
"ไททัน!!" ตะโกนก้องเมื่อไททันเย้าแหย่ด้วยสายตาที่สื่อออกมาว่า ฉันคือลูกไก่ในกำมือเขา อย่าคิดหนีเสียให้ยาก
"ไม่ต้องเรียกบ่อย ชื่อฉันมันจะแปดเปื้อน"
"..." ฉันได้แต่จิกเล็บเข้าฝ่ามืออย่างนิ่งๆ ไม่ตอบโต้ใดๆ แม้ในใจอยากจะล้วงคออ้วกมันเสียตรงนี้ให้กับคำว่า 'แปดเปื้อน' ของเขา
ทำราวกับตัวเองเป็นผู้ชายใสสะอาดไม่อยากเกลิอกกลั้วกับคนเลวๆ อย่างฉันทั้งๆ ที่การกระทำมันบอกโต้งๆ อยู่ว่า เราสองคนมันเลวไม่ต่างกัน
"จะเปลี่ยนเสื้อผ้าหรืออกไปชุดนี้?" เขามองมาที่ชุดบนตัวฉัน
สองเดือนที่ผ่านมาฉันต้องทนใส่เสื้อผ้าของผู้ชายตรงหน้า ยังดีหน่อยที่เขายังซื้อของใช้ผู้หญิงมาไว้ให้พอผัดเปลี่ยนทำความสะอาดอยู่ไม่กี่ชุด
"พูดเหมือนฉันมีชุดดีๆ ให้ใส่" ประชดกลับนิ่งๆ
คนถูกประชดทำเพียงยิ้มมุมปากหน่อยๆ ก่อนจะเดินมาปลดโซ่ให้
"เดิน" มือแกร่งผลักดันไหล่ฉันเล็กน้อยให้เดินออกไปจากห้องทึบๆ นี้
"อยู่ตรงนี้แหละ อย่าเที่ยวถเลไถลไปไหน" ดวงตาสีฟ้าอมเทามองมาอย่างนิ่งๆ ก่อนจะเดินออกไป ปล่อยให้ฉันนั่งอยู่ศาลาริมน้ำที่สวนหลังบ้านคนเดียว
"คงจะออกไปได้หรอกเล่นล่ามโซ่ฉันไว้กับเสาขนาดนี้" คล้อยหลังร่างหนาฉันบ่นให้เขาอย่างหัวเสีย
นี่เหรออิสระที่เขาบอก อ้อ ลืมไป เขาบอกแค่จะปล่อยฉันขึ้นมาสูดอากาศหายใจนี่นะ
"อย่าให้ฉันหลุดไปได้นะ ไททัน ไอ้คนสารเลว" กำหมัดแน่นก่อนจะทุบมันลงบนโต๊ะหินอ่อนตรงหน้า
ถามว่าไม่เจ็บมือเหรอ? ตอบเลยว่า ไม่!
ความรู้สึกเจ็บคงจะกัดกินฉันจนชินชาไปแล้วล่ะมั้ง
Teesong' said
ตู้ดดด
ผมโทรหาเบอร์นี้เป็นรอบที่ห้า แต่มันดันไม่รับสาย ปกติโทรไม่กี่กริ๊งมันก็รับแล้ว "หรือมันจะยังไม่ตื่น" ผมมองนาฬิกาที่จอมือถือ เก้าโมง มันอาจจะยังไม่ตื่นจริงๆ
"โทษทีว่ะ งานด่วนจริงๆ กูคงต้องไปลากคอมึงแล้ว" ผมพูดกับชื่อที่ยังค้างอยู่หน้าจอมือถือ ก่อนจะเก็บมันยัดลงกระเป๋ากางเกง หยิบเสื้อแจ็คเก็ตสีดำคู่ใจพาดบ่ารีบออกจากคอนโดทันที
"สวัสดีครับสารวัตรตราบศึก" รปภ. ที่รักษาความปลอดภัยคอนโดที่ผมอาศัยอยู่ทักขึ้นพร้อมทำความเคารพตามปกติ
ผมยิ้มให้ยามขมก่อนจะรีบขับรถมุ่งไปที่ TS-CLUB เพื่อคุยธุระกับญาติสนิทที่ไม่ยอมรับสายผม ถามว่าผมาเป็นถึงตำรวจทำไมไม่ค้างที่แฟลตตำรวจ
บอกเลยว่ามันน่าเบื่อ พักที่คอนโดส่วนตัวนี่แหละสบายแล้ว ทำอะไรก็สะดวกกายสบายใจ อีกอย่าง ผมเป็นคนที่เน้นลุยใช้กำลังกายมากกว่านั่งใช้สมองในห้องแอร์สบายๆ แล้วนั่งเทียนเขียนรายงานจากลูกน้องน่ะ
ผมใช้เวลาขับรถประมาณสิบห้านาทีก็มาถึงหน้าคลับๆ หนึ่งที่ตั้งตระหง่านตกแต่งสวยงามตามแบบฉบับคลับสำหรับคนมีตังค์
แต่ตอนนี้เพิ่งเก้าโมงเศษๆ คงต้องเข้าด้านหลังเพราะคลับยังไม่ถึงเวลาเปิด
"อ้าว สวัสดีครับเฮียตราบศึก" หนึ่งในพนักงานของที่นี่ทักผมทันทีที่เห็น
"ลูกพี่นายล่ะ" ผมถามเสียงเรียบ
ผมมาที่นี่ไม่ค่อยบ่อยเท่าไหร่ เพราะชีวิตตำรวจอย่างผมไม่ได้ว่างเป็นเวล่ำเวลา แต่ก็ไม่ใช่ไม่เคยมา พนักงานของที่นี่จึงพอรู้จักผมอยู่บ้าง แต่ที่ไม่เรียกผมสารวัตรเพราะผมเคยบอกเจ้าของที่นี่ไว้ให้เรียกเหมือนพวกมัน แต่ถ้าไม่สนิทกันก็อย่างที่คนเมื่อกี้เรียก เฮียตราบศึก
"น่าจะยังไม่ตื่นนะครับ แต่เอ... เหมือนผมจะไม่เห็นเฮียตั้งแต่เมื่อคืนหลังคลับปิดแล้ว" พนักงานคนเดิมบอกผม
"เฮียตราบศึกขึ้นไปดูก่อนก็ได้ครับ เผื่อเมื่อคืนผมไม่ทันสังเกตดีๆ" ผมพยักหน้าให้พนักงานคนนั้นก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นสาม ห้องพักเจ้าของคลับที่นี่