EP : 17 : คำสัญญา

1755 Words
-หลายวันต่อมา- ติ๊ด! ฉันกดรับสายเบอร์ที่ช่วงนี้โทรมาบ่อยยิ่งกว่าเคอร์รี่ซะอีก (อยู่ไหนครับ) “ห้องเพื่อนค่ะ” (กลับตอนไหน) “มีอะไรคะ” (พี่ว่าจะชวนเราไปกินข้าว ว่างรึเปล่า) “ก็...ถ้ารอจนถึงสองทุ่มได้ก็น่าจะว่างค่ะ” ก็ไม่ได้อยากไปกินข้าวด้วยอะไรหรอกนะก็แค่เห็นเขาอุตส่าห์ชวนเลยไม่อยากให้เขาเสียความตั้งใจก็แค่นั้นเอง ถึงแม้ว่าเขาจะชวนไปกินข้าวเย็นด้วยกันทุกวันตั้งแต่วันที่เขาเอ่ยปากว่า จะจีบเมียตัวเอง เลยก็ตาม -///- (ให้พี่ไปรับที่ห้องเพื่อนไหม) “ไม่เป็นไรค่ะ เจอกันหน้าคอนโดญ่าเหมือนเดิมดีกว่า” (โอเค) “ค่ะ” (แล้วเจอกันนะครับ คุณเมีย) “บ้า!” (หึ ๆๆ) ติ๊ด! “คุยกับใคร งุ้งงิ้ง ๆ” “ฮะ?​ อ๋อ คุยกับพี่เวล” ฉันบอกเพื่อนรักอย่างขมิ้นเพราะว่ายังไม่ได้บอกเรื่องพี่ฟีนิกซ์ให้เพื่อนหรือใครรู้ ก็ยังไม่มั่นใจนี่คะเลยไม่กล้าบอก เอาไว้ชัวร์เมื่อไหร่เดี๋ยวจะเปิดตัวให้อลังกาลไปเลย แต่ก็คงไม่นานหรอกในเมื่อเขางานดีซะขนาดนั้น >//////-เวลาต่อมา- ก๊อก ๆๆ ขวับ! ฉันกำลังแต่งตัวแล้วก็รอให้พี่ฟีนิกซ์โทรมาจะได้ลงไปข้างล่างตามนัดแต่เสียงเคาะประตูก็ทำให้มาสคาร่าแทบจะเลอะเปลือกตา ใครกันที่มาเคาะห้องฉัน? อย่าบอกนะว่า... ไม่ใช่หรอก ปกติมารับทุกวันก็รอข้างล่าง น่าจะเป็นนิติบุคคลรึเปล่า นิติมีอะไรจะติดต่อมั้งคะสงสัยใช่ล่ะ แต่ว่า...ทุ่มสี่สิบห้าแล้วนะเขาทำโอทีเหรอ ไม่ใช่แล้วญ่า รีบเลย อีตาเพื่อนรักของพี่ชายแกแน่นอน ฉันรีบปัดมาสคาร่าเช็คหน้าตาให้ดูซวย เอ๊ย! สวยที่สุดแล้วก็ตรงดิ่งไปที่ประตูห้องทันที เซ้นส์มันบอกว่าต้องใช่เขาแน่นอนแล้วก็...ใช่จริง ๆ ด้วย! ฉันส่องตาแมวเห็นคนหล่ออย่างพี่ฟีนิกซ์มาในลุคที่...ดูดีมาก เหมือนทุกวันนั่นล่ะค่ะ เหมือนทุกวันไม่ใช่ลุคนะคะแต่หมายถึงดูดีมากเหมือนทุกวันส่วนลุคของเขาก็เปลี่ยนไปเลยนะวันนี้ พี่ฟีนิกซ์มาในลุคสบาย ๆ ผมไม่ได้เซ็ตปล่อยมันสบาย ๆ ดูเกาหลีหน่อย ๆ แต่ความแบดบอยไม่ได้จางหาย เขาใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นรองเท้าแตะยี่ห้อหรูพร้อมกับมือที่ถือถุง...กับข้าว อย่าบอกนะว่า... ก๊อก ๆๆ เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นอีกครั้งทำให้ฉันต้องเปิดประตูให้เขาทั้งที่ยังอยากคิดอะไรคนเดียวต่อ เปิดออกไปเจอคุณชายที่อยู่ในชุดสบาย ๆ ไม่ต่างจากชุดอยู่บ้านส่วนฉันก็อยู่ในสภาพ...ชุดเดรสสายเดี่ยวสีครีมอมทองกับเครื่องประดับจัดเต็มพร้อมสำหรับการไปดินเนอร์บนดาดฟ้าของโรงแรมหรูระดับแปดดาว “...สวยจัง” พี่เขามองฉันที่เปิดประตูให้ มองแล้วเงียบไปพักหนึ่ง มองหัวจรดเท้าแล้วก็เอ่ยคำชมที่ทำให้ฉันทำหน้าไม่ถูก เขาไม่ได้ประชดหรอกดูจากสายตาที่เหมือนจะกลืนกินฉันก็รู้ แต่ฉันพักเรื่องนี้ไว้ก่อนเพราะกำลังเซ็งเรื่องอื่นอยู่ “นี่คืออะไรคะ?” ฉันมองไปที่ถุงในมือเขาที่เยอะแยะเต็มไปหมดแล้วก็ถามทันที “ถุงกับข้าวไง” พี่ฟีนิกซ์ชูมันขึ้นมาแล้วตอบด้วยรอยยิ้ม “ไหนบอกไปกินข้าวไง” “เปลี่ยนใจ ออกไปข้างนอกทุกวันพี่เบื่อแล้วเลยอยากชวนเรานั่งกินข้าวดูหนังที่ห้องมากกว่า หลบก่อนครับ” พี่เขาพูดจบก็แทรกตัวเข้ามาในขณะที่ฉันกำลังเซ็งเพราะเสียเวลาแต่งตัวมาก มากซะจนฉันลืมสนใจเรื่องที่เขาขึ้นห้องฉันไปเลย แล้วก็เหมือนแขกจะรู้ถึงไปหันมามอง “เป็นอะไร” “แล้วก็ไม่บอก ปล่อยให้ญ่าแต่งตัวซะเวอร์” อันนี้งอนจริง ๆ นะคะ ดูเขาสิ แล้วดูฉันสิ “หึ ๆๆ ไม่เห็นจะเวอร์ สวยดีพี่ชอบนะ” “แต่มันก็ไม่ใช่ชุดที่จะใส่กินข้าวในห้องรึเปล่า” “ถ้างั้นก็ถอดสิ พี่ช่วย” เขาพูดจบก็ทำท่าทางขยับเข้ามาหาทำเอาฉันเอนตัวไปด้านหลังแทบไม่ทัน “บ้า!” “หึ ๆๆ ไม่เป็นไรหรอกน่า ตู้เสื้อผ้าก็อยู่แค่ตรงนี้เองไปเปลี่ยนก็ได้ แต่ไม่เปลี่ยนก็ได้นะ...เซ็กซี่ดี” “...” จะชมว่าเซ็กซี่ดีแล้วทำสายตาพร่าเหมือนคนมีอารมณ์แบบนี้ไม่ได้นะอีตาบ้า! “ตกลงเปลี่ยนไหม” “เปลี่ยนค่ะ เดี๋ยวไปเปลี่ยนตอนนี้เลย” ฉันตอบออกไปเขาก็ทำหน้าเสียดายออกมาให้เห็น “อ่าส์~ ถ้างั้นใส่ชุดอยู่บ้านที่มันเซ็กซี่ ๆ หน่อยนะ” “ทะลึ่ง!” “หึ ๆๆ ล้อเล่นครับ ไปเปลี่ยนชุดเถอะพี่จะจัดจานให้เอง” “ทำได้เหรอคะ” “ทำได้ทุกอย่างอยู่ที่อยากทำรึเปล่า แล้วที่สำคัญ...อยู่ที่ทำให้ใคร” “...” โดนตกจนได้ -///- ฟอด~ “อื้อ!” เขาอาศัยจังหวะที่ฉันโดนเขาตกขยับมาหอมที่แก้ม หอมแรงมากด้วย ฉันที่โดนหอมก็รีบขยับหนีแล้วเอามือปิดแก้มตัวเองเอาไว้ทันทีเพราะกลัวเขาจะหอมอีก “หวง?” “ก็ต้องหวงสิพี่ฟีนิกซ์! ไปเลย! ญ่าจะไปเปลี่ยนชุดแล้ว” “หึ ๆๆ โอเคครับ” เขาพูดจบฉันก็ก้มหน้างุดหลบสายตาเจ้าเล่ห์ของเขาแล้วปิดประตูห้องก่อนจะรีบเดินไปทางห้องนอนทันที “วีญ่า” กำลังจะปิดประตูห้องนอนอีตาพี่ฟีนิกซ์ที่ยังยืนอยู่ที่เดิมพร้อมถุงกับข้าวในมือก็เรียกฉันซะก่อน “คะ” “รอนะ” “ค่ะ ไม่นานหรอกค่ะ” “เปล่า พี่ไม่ได้หมายถึงรอเราเปลี่ยนเสื้อผ้า พี่หมายถึง...รอให้เราตกลงคบกับพี่ต่างหาก” “...” นี่เขาไม่คิดจะให้ฉันหยุดเขินบ้างรึไง แค่โดนขโมยหอมแก้มเมื่อกี้ก็เขินมากแล้วนะ พี่ฟีนิกซ์ไม่อ่อนโยนกับใจบาง ๆ ของฉันเลย “พี่รออยู่นะครับ” เสียงอบอุ่นละมุนมาก สายตาก็เช่นกัน สายตาไม่หื่นเลย สายตามีแต่ความละมุนเต็มไปหมดทำเอาฉันแทบจะตกลงเซย์เยสตอนนี้ไปแล้วแต่ดีนะที่ดึงสติตัวเองได้ทัน “...ขอดูพฤติกรรมก่อนค่ะ” “หึ ๆๆ พี่เป็นเด็กดีของเราแน่นอน” “...” ฉันไม่คิดมาก่อนว่าเพื่อนสนิทของพี่ชายที่ดูแบดบอยในสายตาฉันมาตลอดจะเป็นคนขี้อ้อนได้มากขนาดนี้ “ทำไมเงียบ ไม่เชื่อพี่เหรอ” พี่ฟีนิกซ์ถามแล้วก็เดินมาทางนี้ เขาวางถุงกับข้าวในมือแล้วก็เดินตรงมาหาทุกการก้าวเดินและการกระทำของเขาเชื่อไหมคะว่าเขาไม่ละสายตาจากฉันเลยทำให้ฉันปิดประตูห้องไม่ลงเหมือนคนที่ถูกสะกดเอาไว้ไม่มีผิด เขาเดินมาหยุดตรงหน้าห้องนอนแต่ไม่ได้เดินเข้ามานะคะ แค่หยุดตรงประตูแล้วยืนเอาไหล่พิงประตูพร้อมกับหัวของเขาที่เอนลงไปพิงเช่นกัน ท่าทางของเขาเลยยิ่งดูอ้อนมากไปกันใหญ่ “ว่าไง ไม่เชื่อพี่เหรอวีญ่า” “...ปกติอ้อนทุกคนแบบนี้รึเปล่าคะ” “ไม่ ไม่เคย...เราเป็นคนแรก” เขาตอบออกมาในทันทีด้วยน้ำเสียงหนักแน่นทำให้ใจฉันไขว้เขวไปหาเขามาก ๆ “ไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะ” ไม่อยากจะเชื่อแต่ลึก ๆ ในใจขอสารภาพเลยว่าเชื่อคำพูดหวาน ๆ ของเขาไปแล้วจริง ๆ นะ โบราณเขาบอกเอาไว้ว่าไม่ให้เชื่อคำหวานของผู้ชายง่าย ๆ แต่ถ้าได้เจอกับตัวเชื่อเถอะค่ะว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะไม่เชื่อ -///- “พี่รู้ แต่พี่ไม่เคยอ้อนใครแบบนี้จริง ๆ ไม่รู้จะอ้อนทำไมเพราะพี่ไม่ได้อยากได้ผู้หญิงคนอื่นมาเป็นแฟน” “...” ตายค่ะ ตายไปแล้ว ทำอะไรไม่ถูกพูดอะไรไม่ออกแล้ว เขามองมาที่ฉันส่งสายตาอ่อนโยนแล้วก็เอื้อมมือมาลูบแก้มฉันแผ่วเบาโดยที่ไม่มีท่าทีคุกคามอย่างอื่นให้ฉันกลัว มีแต่ความอ่อนโยนให้ใจโอนอ่อนไปหาเขาเท่านั้น “วีญ่า” “...คะ” “พี่รู้ว่ามันเร็วไปแต่เรื่องของเรามันเร็วมากตั้งแต่คืนนั้นแล้ว เราคบกับพี่ได้ไหม...พี่อยากมีเราอยู่ในชีวิตมากนะ คบกับพี่แล้วพี่สัญญาว่าพี่จะทำให้เรามีความสุขที่สุดเท่าที่พี่จะทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งได้”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD