“มา...มาทานข้าวกับเพื่อนค่ะ”
“อ่อ แล้วเพื่อนล่ะ”
“เพื่อน? อ๋อ เพื่อนกำลังมาค่ะ แล้วพี่ฟีนิกซ์มีอะไรรึเปล่าคะ”
“พี่เหรอ?”
“...ค่ะ”
“พี่แค่เห็นเรานั่งอยู่คนเดียวเลยมาทักทาย”
“อ๋อ ค่ะ สวัสดีค่ะ” เยส! ได้ยินวัตถุประสงค์ของพี่ฟีนิกซ์ฉันก็สบายใจมาก~
“แล้วก็...จะคุยเรื่องคืนนั้นของเราสองคน”
“คะ?” เขา...จำได้เหรอ
มะ ไม่จริง พี่ฟีนิกซ์ล้อเล่นแน่ ๆ
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น อย่าบอกว่าจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ห้องพี่”
“...” ใครจะจำไม่ได้วะ ทั้งจำได้ทั้งตามหลอกหลอนทุกวันทุกคืนทั้งเวลาตื่น เวลาหลับ หลอนแม้กระทั่งเวลาขี้จนถึงวันนี้แล้วเนี่ย! T^T
“จำไม่... / หึ ๆๆ พี่ว่าเราจำได้นะ ขนาดพี่เมายังจำได้เลย”
“...ก็ จำไม่ได้น่าจะดีกว่าค่ะ” สุดท้ายฉันว่าตอบออกไปตามความรู้สึกดีกว่า เพราะอะไรรู้ไหม? เพราะแสดงอาการเลิกลั่กให้พี่เขารู้ทันแล้วไง ที่สำคัญตรงหน้าฉันเป็นแค่เพื่อนพี่ชายด้วยวันนั้นเขาแค่เมาเลยขาดสติทำอะไรแบบนั้นเฉย ๆ พี่เขาคงแค่อยากขอโทษเพราะยังไงก็ได้ชื่อว่าเป็นน้องของเพื่อน
เฮ้อ! ไม่ต้องคิดมากหรอกวีญ่าแค่จูบกับลูบคลำนิดหน่อย คนเมาเขาทำกันทั้งนั้น...มั้ง
“หึ ๆๆ ขอโทษนะ”
“คะ? อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ ช่างมันเถอะพี่ฟีนิกซ์ทำไปเพราะเมาญ่าเข้าใจค่ะ ไม่คิดมากหรอก” โกหกสิ้นดีเลยวีญ่า ปากบอกไม่แต่ใจคิดเกินล้าน T^T
“ถ้างั้นให้พี่เลี้ยงข้าวสักมื้อแล้วกัน”
“เอ่อ...วันนี้ญ่านัดกับเพื่อนแล้วค่ะ”
“พี่ว่าเพื่อนคงไม่มาแล้วมั้ง” พี่เขามองแล้วยิ้มที่มุมปาก ดูเจ้าเล่ห์ยังไงก็ไม่รู้แต่ก็ยังหล่อมากนะ หล่อได้เปลืองมาก
“มาค่ะ เพื่อนกำลังมา”
“โอเค ถ้างั้นไว้วันหลังแล้วกันเดี๋ยวพี่โทรหา”
“คะ?” โทรหาเหรอ?
“ตามนั้นครับ ไว้เจอกันนะ...วีญ่า”
“...ค่ะ” ฉันเผลอมองสบตาของพี่ฟีนิกซ์แล้วอัตราการเต้นของหัวใจก็แปลกไป ถึงจะแค่นิดหน่อยก็ตามแต่ก็ได้ชื่อว่าไม่ปกติอยู่ดี
สายตาพี่ฟีนิกซ์เมื่อกี้มัน...
-///-
#WIYA
#PHOENIX
ใครจะคิดว่าผมจะได้เจอน้องไอ้เวลที่นี่ โคตรบังเอิญ แต่ผมเห็นเธอนั่งมองนาฬิกาท่าทางใจจดใจจ่อจนดูหงุดหงิดรอเพื่อนหรือใครสักคนที่เธอนัดไว้มาหนึ่งชั่วโมงแล้วถึงได้เข้าไปทัก
ท่าทางน้องไอ้เวลจะโดนเทว่ะ หน้าตาเธอตอนแชทคุยกับใครสักคนก่อนผมจะเข้าไปทักดูไม่สบอารมณ์ บางทีอาจจะเป็นแฟนหรือไม่ก็คงเป็นคู่เดทของเธอ
ผมกลับมานั่งที่เดิม นั่งดื่มเพื่อให้จิตใจสงบจากเรื่องบางเรื่องที่รบกวนจิตใจมานานพร้อมกับมองไปที่ผู้หญิงในชุดเดรสสายเดี่ยวสีดำขับผิวขาวของเธอให้ยิ่งขาวและผ่องออกมามากขึ้นจนกระทั่งไม่นานน้องสาวของเพื่อนสนิทก็เดินออกไปจากร้านเงียบ ๆ คนเดียวโดยที่มีสายตาของผู้ชายเกินเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ในร้านมองตาม
ก็คนสวยนี่ครับ สวยจัดซะขนาดนั้นใครจะไม่มอง
น้องสาวของเพื่อนสนิทผมสวยมาก น่าค้นหา น่าหลงใหล ขนาดผมเองยังมองตามจนเธอลับสายตาไปแต่ผมไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษนอกจากมองเพราะสวยเพราะใจของผม...มีแค่คนคนเดียว
-หลายวันต่อมา-
“คนนั้น”
“คนไหนวะ”
“นั่นไง” ผมชี้ไปที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยมากให้ไอ้พวกเพื่อนเหี้ยในโต๊ะดู เธอกำลังเต้นอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย ผมเห็นเธอนานแล้ว เธอมากับผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่...สวยไม่แพ้กัน
“ใครเล่นบ้าง?” เพื่อนคนหนึ่งของผมถามออกมาแล้วก็มีหลายคนเสนอจนได้คนที่ร่วมเล่นเกมนี้อยู่หลายคนเพราะเดิมพันมันสูงรวมถึงไอ้เพื่อนสนิทที่นั่งหน้านิ่ง มันไม่ออกความเห็นเอาแต่จ้องไปที่ผู้หญิงคนนั้นไม่วางตา จ้องมานานตั้งแต่ผมยังไม่เสนอเกมด้วยซ้ำ และเพราะผมเห็นมันจ้องนี่ล่ะผมถึงได้เสนอเกมนี้ขึ้นมาเพื่ออะไรบางอย่างที่ผมต้องการ
หึ ๆๆ เดี๋ยวก็จะมีเพื่อนของผมเป็นคนเปิดทางให้ผมเองซึ่งก็คงไม่ใช่ใครนอกจากไอ้ห่าหน้านิ่งที่โคตรจะเย็นชาอย่างไอ้แม็คเวล แต่กว่ามันจะทำอะไรอย่างที่ผมคิดก็คงอีกนานผมคงต้องจัดการอะไรสักอย่างเพราะตอนนี้มีคนจับได้และกำลังบอกน้องรหัสของเธอว่ากำลังถูกไอ้เวลเพื่อนรักของผมนั่งจ้องอยู่ เธอเห็นมันครับแต่ไม่เห็นผม ซึ่งก็แน่นอนจะเห็นได้ไงในเมื่อผมตั้งใจไม่ให้เห็นตั้งแต่แรกจนกว่าจจะถึงเวลาที่เหมาะสมซึ่งตอนนี้ล่ะเหมาะสมที่สุดแล้ว หึ ๆๆ
ผมเดินไปด้านหลังเห็นผู้หญิงสองคนที่พูดได้เต็มปากว่าเธอสองคนสวยที่สุดแล้วในผับนี้ เธอทั้งสองคนกำลังคุยกันโดยที่ไม่ได้สนใจคนอื่นเลย
“ไง” ผมทักทายจากด้านหลังคนฟังทำให้ผู้หญิงที่กำลังเป็นฝ่ายพูดอย่างออกรสหยุดชะงักทันที
“...นิกซ์~” เสียงเธอที่ก่อนหน้านี้เหมือนจะพูดคุยอย่างสนุกสนานเปลี่ยนไปกลายเป็นเสียงอึ้งปนเหม่อที่ได้เห็นว่าใครเป็นคนทักทาย
“มาเที่ยว?” ผมถามเธอที่เอาแต่มองผม และแน่นอนว่าผมก็มองเธอ
มองคนที่ไม่คิดจะกลับมาหาผมอีก แต่ผม...ก็ยังรอ รอและคอยเฝ้ามองเธอห่าง ๆ มานานจนกระทั่งวันนี้ที่มาปรากฏตัวต่อหน้าเออีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้โผล่หน้ามาให้เธอเห็นนานเกือบปี
“...ค่ะ”
“มากับใคร” ผมถามเธอแล้วปลายตาไปมองผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เพื่อยั่วให้เพื่อนของผมที่มองอยู่รีบเข้ามาสักที
“มากับ... / ไอ้นิกซ์”
ขวับ!
เธอกำลังจะตอบผมแต่ไอ้แม็คเวลเพื่อนรักของผมก็เรียกผมขึ้นมาซะก่อนทำให้ผม เธอแล้วก็น้องรหัสของเธอหันไปมองที่มันเป็นตาเดียว
“มีไรวะ” ผมหันไปถามมันโดยที่เรายืนขนาบข้างกับผู้หญิงที่ผมรู้ว่ามันสนใจแต่สายตาไอ้แม็คเวลกลับมองไปที่อีกคนแล้วยกมือทำท่าทางเหมือนจะชี้ไปที่เธอช้า ๆ
“กูจำได้ว่า... / มีอะไรพูดมา” ผมรู้ทันว่ามันจะพูดอะไรเลยรีบตัดบทด้วยความหงุดหงิดซึ่งไอ้เวลก็ยิ้มกวนตีนออกมาบาง ๆ เพื่อยั่วอารมณ์ผม
“ไม่มีไรก็แค่...ถ้ามึงเจอเด็กมึงแล้วงั้นคนนี้”
หมับ!
“เฮ้ย!” ผู้หญิงที่ถูกไอ้เวลจับมืออุทานออกมาด้วยความตกใจเพราะมันเล่นจับมือเธอแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยในขณะที่สายตามันกำลังมองมาที่ผมแถมยังยิ้มเยาะ
“...กูเอา” ไอ้แม็คเวลพูดออกมาเบา ๆ พูดจบมันก็ดึงผู้หญิงคนนั้นออกไปทันทีเหลือแค่ผมกับ...แฟนเก่า
“เอ้า!” เธออุทานด้วยความอึ้งหันมองตามน้องรหัสที่โดนลากไปแล้วทำท่าจะเดินตามผมก็จับข้อมือเธอเอาไว้ทันทีเธอเลยหันมามองผมอีกครั้ง
“พี่นิกซ์ปล่อยค่ะเบ้จะไปดูน้องเบ้”
“ไม่ต้องหรอกโต ๆ กันแล้ว...ไปคุยเรื่องของเราดีกว่า”
“คุยอะไร?”
“...เบ้ก็รู้”
-เวลาต่อมา-
“พี่นิกซ์ จอดรถเถอะ” ผมขับออกมาจากผับได้แค่สองกิโลเองมั้งเบเบ้ก็พูดขึ้น
“พี่ไปส่งจะได้คุยกันด้วย”
“เราเคยคุยกันแล้วพี่นิกซ์”
“นั่นมันเมื่อก่อน ตอนนั้นเราสองคนยังเด็ก”
“...” ผมหันไปมองเธอที่เงียบไป ผมไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรแต่ผมไม่อยากปล่อยเวลาให้ผ่านไปเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว
“คุยกันก่อนเบเบ้ เราไม่ได้คุยกันนานแล้ว บางที... / จะเมื่อก่อนหรือตอนนี้เบ้ก็เหมือนเดิมนะ พอเถอะ...พี่นิกซ์อย่าพยายามเลยขอร้อง”
“...”
“เราจบกันแล้ว พอเถอะ...เบ้หมดใจไปนานแล้ว” คำพูดของเธอทำให้ใจผมชาขึ้นมาดื้อ ๆ เท้าก็ค่อย ๆ แตะเบรกแล้วชะลอรถจอดข้างทางอย่างที่เธอต้องการทั้งที่ความจริงอยากไปส่งให้ถึงคอนโด ผมจอดรถเธอก็มองมาที่ผมนิดหน่อยแล้วหันไปเปิดประตูรถ
“...พี่ไม่มีหวังเลยเหรอ” ก่อนที่เธอจะลงจากรถไปผมก็ถามทั้งที่รู้คำตอบดีแต่ก็ยังโง่ถามเพื่อตอกย้ำความเจ็บปวดของตัวเอง เธอหันมามอง ยิ้มบาง ๆ ให้ผมก่อนจะเอ่ยคำพูดที่กรีดหัวใจผม
“พี่นิกซ์รู้ดีว่าเบ้หมดรักพี่นิกซ์ไปนานแค่ไหนแล้ว อย่าฝืนตัวเองต่อไปเลยนะ...พาตัวเองไปเจอคนที่เขารักพี่นิกซ์ดีกว่า”