นาฬิกาเรือนเดิมเดินเรื่อยมาบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะสองทุ่ม ร่างเล็กของสาวหน้าหมวยจึงลุกเดินไปปลุกเพื่อนอีกครั้ง
"เกด สองทุ่มแล้ว ตื่นขึ้นมากินข้าวเร็ว หลับยาวเลยนะแก ตื่นขึ้นมากินข้าวก่อนแล้วค่อยนอนต่อ เดี๋ยวโรคกระเพาะกำเริบอีกหรอก" ลลนาว่า
ก็เมือครั้งที่อยู่ปีหนึ่งด้วยกัน เวลาที่เป็นช่วงสอบนริศรามักกินข้าวไม่เป็นเวลา จนทำให้ปวดท้องอยู่บ่อยๆ เคยมีครั้งหนึ่งที่เธอปวดท้องมากจนต้องพาส่งโรงพยาบาลกลางดึกกันเลยทีเดียว
"อึมๆ แก ไม่เป็นไรหรอก มื้อเดียวเอง ฉันง่วงอ่ะ เดี๋ยวหิวเมื่อไรจะลุกไปกินเองล่ะกันนะ" บอกแล้วคนพูดก็หลับหูหลับตาแย่งตุ๊กตาที่เพื่อนแย่งไปถือมาปิดตาเพื่อบังแสงไฟที่เปิดสว่างจากอีกมุมหนึ่งของห้อง
"เออๆ ข้าวอยู่ในตู้เย็นนะเเก หิวเมื่อไรก็เอาไปอุ่นกินเองละกัน" ลลนาบอกอย่างถอดใจ เพื่อนเธอก็เป็นอย่างนี้เสมอ ขี้เซาเป็นที่หนึ่ง ลองคุณเธอได้นอนไม่เต็มที่ ต่อให้เอาช้างมาลากเธอก็ไม่ลุกไปไหนหรอก
ด้านนริศรา กว่าเธอจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกที ก็ปาไปห้าทุ่มกว่าแล้ว หญิงสาวลุกขึ้นมาอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนตัวเก่ง ขณะเดียวกันกระเพาะที่ไม่มีอะไรตกลงไปให้มันได้ย่อยเลย นอกจากน้ำผลไม้ปั่นแก้วเดียวตั้งแต่เที่ยงวันก็เริ่มประท้วง
แต่ตอนนี้มันก็เที่ยงคืนแล้ว ทั้งเธอยังขี้เกียจที่จะเดินเอาอาหารไปอุ่นในไมโครเวฟที่อยู่ด้านนอก เธอจึงเลือกที่จะตัดสินใจล้มลงบนเตียง
‘เอาไว้ค่อยกินพรุ่งนี้ทีเดียวเลยละกัน’ เธอคิด ก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง
แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เพราะวันนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เธอตื่นสาย ข้าวเช้าจึงไม่ได้ตกลงในกระเพาะของเธอเช่นเคย
นริศรารู้สึกปวดท้องตั้งแต่เช้า แต่เธอก็ยังแข็งใจออกไปเรียน แต่ถึงอย่างนั้น อาการกลับมากขึ้นเรื่อยๆ จนเธอรู้สึกว่าทนนั่งเรียนต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงตัดสินใจกลับมานอนพักผ่อนที่หอพัก
"อ่าวเกด เป็นอะไรไปอ่ะ" ลลนามองตามเมื่อเห็นเพื่อนรักเดินโซซัดโซเซไปล้มตัวนอนบนเตียง
"ปวดท้องอ่ะแก แล้วแกไม่ไปเรียนเหรอ" เจ้าของร่างบางที่ตอนนี้กำลังเจ็บปวดกับโรคประจำตัวตอบ
"ฉันมีเรียนบ่ายอ่ะ ว่าแต่แกเหอะ ไหวป่ะเนี่ย" เห็นสภาพเพื่อนเป็นแบบนี้ ลลนาก็อดเป็นห่วงไม่ได้
"แล้วมียากินหรือเปล่า" ว่าที่เภสัชกรถามต่อ แต่สิ่งที่ตอบกลับมาคือความเงียบ
"เฮ้ย ไม่ไหวแล้วมั้งแก จะมานอนเฉยๆ ยังงี้ได้ไง ไปโรงพยาบาลเถอะ"
"ไม่เอา ไม่ไปอ่ะแก ไปฟังหมอบ่น เบื่อจะตาย นอนๆ ไป ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวก็หาย ขี้เกียจไปนั่งรอนานๆด้วย" นริศราทำหน้ายุ่งปฏิเสธเสียงแข็ง
แต่ดูเหมือนคำพูดของเธอจะไม่เข้าหูลลนา เมื่อตอนนี้เธอเห็นเพื่อนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเบอร์ติดต่อไปหาใครสักคน
"ฮัลโหล สวัสดีค่ะ พี่น้ำคะ นี่ยุ้ยองนะค่ะ คือพี่น้ำออกเวรหรือยังคะ" ลลนาทักทายและถามคนปลายสายอย่างรู้จักกันดี
"ค่ะ คือเพื่อนยุ้ยไม่สบายอ่ะค่ะพี่ สงสัยจะเป็นโรคกระเพาะ รบกวนพี่น้ำช่วยดูให้หน่อยได้มั้ยคะ" และคำตอบที่ได้รับจากปลายสายคงเป็นการตอบตกลง ใบหน้าหมวยจึงมีรอยยิ้มผุดขึ้นมา
"ค่ะ ได้ค่ะพี่น้ำ เพื่อนชื่อนริศราค่ะ เดี๋ยวจะพาไปเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ ขอบคุณนะคะ" และหลังจากกดวางโทรศัพท์ ลำดับต่อไปที่ต้องจัดการคือลากตัวเพื่อนรักไปโรงพยาบาลให้ได้ตามที่นัดคุณหมอ
"แก ไป ไปให้หมอตรวจหน่อย ไม่ไหวแล้วแก"
"ไม่เอายุ้ย แกทำอะไรของแก แกเคยถามฉันบ้างมั้ยว่าฉันเต็มใจจะไปกับแกหรือเปล่า เฮ้ย ไม่เอา" แต่ไม่ทันที่จะโวยวายจบ ยัยยุ้ยก็ฉุดเธอจนลุกขึ้นจากเตียงนอนได้สำเร็จ แม้ว่าเพื่อนจะรูปร่างไม่ต่างกับเธอเท่าไร แต่ในเวลานี้ที่เธอไม่มีแรง ก็ทำให้คนตัวเล็กพอกันสามารถฉุดให้ลุกขึ้นมาได้อย่างง่ายๆ
หลังจากยื้อยุดฉุดกระชากกันมานานพอดู ลลนาก็สามารถลากเพื่อนรักมาขึ้นรถเเท๊กซี่ได้สำเร็จ แม้ว่าโรงพยาบาลจะอยู่ไม่ไกลกับหอพักของเธอนัก แต่ในเวลานี้ เธอก็เลือกที่จะขึ้นรถเเท๊กซี่ และเพียงเวลาไม่นาน พวกเธอก็ได้มาอยู่หน้าโรงพยาบาลที่นัดหมายกับคุณหมอสาวเอาไว้