bc

คุณหมอที่รัก

book_age16+
1.2K
FOLLOW
16.0K
READ
family
HE
age gap
sweet
like
intro-logo
Blurb

เรื่องราวความรักที่เริ่มต้นขึ้นจากความผิดพลาด เอ้ย!! เข้าใจผิด จะเพราะอุบัติเหตุหรือความโก๊ะก็ไม่อาจแน่ใจ ทำให้ตรรกะความคิดของเธอแปรปรวนจนเปลี่ยนอาชีพให้คุณหมอเป็นคนส่งเอกสาร แต่อยู่ดีไม่ว่าดีโรคประจำตัวเจ้ากรรมกลับนำพาให้ได้รู้ว่าคนส่งเอกสารที่เข้าใจกลายเป็นคุณหมอเจ้าของไข้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น…

“ว่าไงเรา สร่างเมาพอจะคุยกับพี่ได้หรือยัง” น้ำเสียงเย็นชาไม่คุ้นเคยที่ลอยมากระทบประสาทหู เรียกคนตัวเล็กที่กำลังก้มหน้างุดๆ ให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาสบตาอย่างเสียไม่ได้

“มีอะไรจะแก้ตัวหรืออธิบายให้พี่ฟังกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมั้ย”

“…” …ก็ใครอยากจะคุยด้วย พี่ภีมตอนนี้น่ากลัวจะตายไป

“รู้มั้ยว่าถ้าพี่ไปไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น” อีกครั้งที่เขาถามเสียงเข้ม เรียกให้คนที่กำลังค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปมองคนตัวโต อย่างประเมินสถานการณ์ต้องรีบงุดหน้ากลับลงมาอีกครั้ง เมื่อเผชิญเข้ากับดวงตาคมที่ฉายแววดุอย่างจริงจัง

“สิ่งที่ลูกเกดทำ ผิดมั้ย” คราวนี้เขาหันมาถามเธอด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบอย่างใช้เหตุผล และในน้ำเสียงเรียบๆ นั้น เธอรู้สึกว่ามันแฝงแววบังคับให้เธอต้องตอบซะด้วย

“ผะ…ผิดค่ะ” เธอตอบออกไปอย่างไม่เต็มปากเต็มคำนัก แอบเหลือบมองคนข้างๆ ก็พบว่าเขาหันมามองเธออยู่ก่อนแล้ว

“เรื่องนี้ เราเคยคุยกัน เตือนกัน มาหลายครั้งแล้ว แต่เกดก็ไม่ฟัง คราวนี้พี่จะทำโทษ” เสียงนิ่งแต่ทว่าแฝงด้วยความเด็ดขาดที่กล่าวออกมา เรียกให้ดวงหน้าหวานที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตามองพื้นเงยขึ้นมามองเขาตาโตอย่างตกใจ ไม่รู้ว่าเขาจะลงโทษเธอยังไง แต่ยังไงซะจิตใต้สำนึกลึกๆ มันก็บอกออกมาว่า คงจะไม่ใช่เรื่องน้อยๆ แน่

และไวเท่าใจคิด หรือยังไม่ได้คิดอะไรให้มากมายไปกว่านี้ด้วยซ้ำ ดวงหน้าหวานที่ซีดเผือดอยู่แล้วก็ยิ่งกลับซีดเผือดลงไปอีก เมื่อรู้ว่าเขาจะจัดการกับความผิดครั้งนี้ของเธอยังไง

“ไปหาไม้เรียวมา”

ฮะ อะไรนะ เธอฟังผิดหรือเปล่า เมื่อกี้พี่ภีมพูดว่าอะไร ไม่เอาอ่ะ ไม่เอา เธอโตแล้วนะ ไม่อยากโดนตีด้วย นริศราส่ายหน้าอย่างไม่ยอมรับโทษ

“พูดให้รู้เรื่อง ลูกเกด” เขาสั่งเสียงเข้ม เป็นการย้ำให้เธอรู้ว่า คราวนี้เขาไม่ได้พูดเล่นแน่ๆ

“แต่เกดโตแล้ว พี่ภีมจะมาทำโทษเกดแบบเด็กๆ ได้ยังไง”

“โตแล้วแต่ยังทำตัวเหมือนเด็กๆ ก็ต้องโดนทำโทษแบบเด็กๆ นั่นแหละ จะไปหยิบมาเองดีๆ หรือจะให้พี่ไปหยิบมา บอกไว้ก่อนว่าถ้าให้พี่ไปหยิบเอง เราโดนเพิ่มเป็นสองเท่าแน่” เสียงที่เอ่ยมาอีกครั้งเสียงเฉียบขาดนั่น ทำให้นริศรารู้ว่าไม่สามารถอิดออดต่อรองต่อไปได้ และไม่ควรเสี่ยงยั่วโมโหพี่ภีมไปมากกว่านี้ด้วย จึงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาหันหลังเดินไปทำตามที่เขาสั่ง

chap-preview
Free preview
แรกพบ
ท่ามกลางความวุ่นวายในเช้าวันใหม่ใจกลางเมืองใหญ่ อาณาเขตเที่ถูกล้อมรอบด้วยตึกน้อยใหญ่ตั้งตระหง่านมากมาย อากาศที่ร้อนอบอ้าว ความวุ่นวายของผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมา ในนั้นปรากฎร่างเล็กกระทัดรัดของหญิงสาวคนหนึ่งในชุดนักศึกษาของมหาวิทยาลัยชื่อดัง กำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งหลบผู้คนเพื่อไปยังจุดหมายให้ทันเวลา "ตาย ตายล่ะฉัน แปดโมงห้าสิบแปด อีกสองนาทีเก้าโมง ตายแน่ๆ งานนี้" นริศราอุทานกับตัวเอง หลังจากก้มมองเวลาบนหน้าปัดโทรศัพท์มือถือ "ฮือ ต้องทันซิ ต้องทัน เดินเร็วๆ สิยัยเกด แกเดินให้มันไวกว่านี้ได้มั้ย เฮ้อ ทำไมขาฉันมันสั้นจังนะ โอ๊ย เกิดมาเตี้ยนี่มันลำบากจริงๆ เล้ย" วิ่งไปพลางก็บ่นถึงความโชคร้ายของตัวเองที่เกิดมาเป็นคนตัวเล็กมีส่วนสูงไม่ถึง 160 เซนติเมตรดี "ต้องทันซิ ต้องทัน เฮ้ย นั่นไง ป้ายบอกทางไปอาคารเรียน 1 เขาบอกให้เลี้ยวซ้าย เลี้ยวซ้ายใช่มั้ย " เธอร้องออกมาด้วยความดีใจ เเต่ทันใดนั้นก็ โคร้ม!!!! หญิงสาวรู้สึกเหมือนว่าตัวเองชนกับวัตถุใหญ่ๆ อะไรสักชิ้นซึ่งเธอก็ไม่อาจทราบได้ แต่ความเเข็งเเรงของมัน ทำให้คนตัวเล็กๆ อย่างเธอกระเด็นลงไปล้มจุมปุ๊กอยู่กับพื้น เท่านั้นยังไม่พอ เธอยังรู้สึกว่ามีวัตถุขาวๆ อะไรสักอย่างหล่นมาบนศีรษะเต็มไปหมด "เฮ้ย นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี้ย" เธอโวยออกมาด้วยความไม่พอใจ มือเล็กปัดกระดาษสีขาวมากมายที่หล่นอยู่บนตัว พร้อมทั้งยันตัวลุกขึ้นยืน "อุ้ย เจ็บอ่ะ" หญิงสาวอุทานออกมาเบาๆ เมื่อสังเกตเห็นแผลถลอกที่ข้อศอกของตัวเอง "น้อง น้องครับ เป็นอะไรมากหรือเปล่า" เสียงห้าวของใครคนหนึ่งดังขึ้นมาขัดจังหวะ และนั่นก็เรียกสติให้เธอเงยหน้ากลับมามองว่า ไอวัตถุชิ้นใหญ่ที่ทำให้เธอล้มลงไปนั่งกับพื้นเมื่อครู่นี้ คือชายหนุ่มตัวสูง ผิวขาวคนนี้เอง นริศรามองวัตถุชิ้นใหญ่ ที่ตอนนี้ทราบแล้ว่าคือสิ่งมีชีวิตที่อยู่ตรงหน้าด้วยความอ่อนใจ ใจหนึ่งอยากต่อว่าเขากลับไปที่เดินมาชนเธอจนทำให้ทั้งเจ็บ ทั้งอาย แต่อีกใจหนึ่ง เธอไม่มีเวลาต่อล้อต่อเถียงกับเรื่องไร้สาระพวกนี้อีกเเล้ว เธอต้องไปให้ทันเข้าเรียนคาบเเรกของชีวิตนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ในวันเเรกนี้ "เฮ้อ" เสียงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ตอนนี้เธอยังไม่มีอารมณ์มาเจรจากับใครทั้งนั้น วันนี้เป็นวันเเรกของการเปิดเรียนภาคเรียนที่ 1 และสำหรับคณะที่เธอเรียน เมื่อเข้าสู่ชั้นปีนี้ นักศึกษาจะต้องย้ายมาเรียนในวิทยาเขตใหม่ของมหาวิทยาลัยเดิม ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุให้ชีวิตเธอต้องรีบเร่งมากในวันนี้ เพราะกว่าจะขนของเข้าหอพักใหม่และจัดเเจงเก็บข้าวของเสร็จเรียบร้อยในเมื่อวานก็ร่วมเข้าไปสู่เช้าของวันใหม่ ซึ่งเป็นเหตุผลทำให้เธอตื่นสาย อีกทั้งการที่เธอเพิ่งย้ายเข้ามาเมื่อวาน จึงทำให้ไม่มีเวลาพอที่จะศึกษาว่าอาคารต่างๆ ในมหาวิทยาลัยอยู่ตรงไหนบ้าง วันนี้จากที่สายอยู่แล้ว จึงต้องเสียเวลาวิ่งหาอาคารเรียนอยู่หลายรอบ เพื่อจะให้มาเข้าเรียนทันตามเวลาที่กำหนดไว้ "เฮ้อ" เสียงถอนหายใจคล้ายๆ กับที่เธอทำเมื่อครู่ดังขึ้นมาขัดจังหวะความคิด เธอซึ่งตอนเเรกไม่คิดจะติดใจเอาเรื่องอะไรกับเขา ที่ทำผิดในข้อหาเดินมาชนเธอในช่วงเวลารีบเร่งอย่างนี้ แม้จะโมโหอยู่บ้างที่วันนี้เขาทำให้เธอต้องเข้าเรียนสายเเน่เเล้วก็ตาม แต่...เสียงถอนหายใจของเขาเมื่อครู่นี้ คล้ายจะล้อเลียนเธอ!! ทั้งที่เขาเป็นคนทำให้เธอต้องเจ็บตัวเเท้ๆ ชนวนเล็กๆ จึงถูกจุดขึ้นมาในใจหญิงสาว นริศราหันหน้ากลับไปมองชายหนุ่มตรงหน้า เจ้าของรูปร่างสูง ผิวขาว เขาอยู่ในชุดลำลอง เสื้อยืดสีเขียวอ่อนกับกางเกงยีนส์สีซีด ถึงจะแต่งตัวดูสบายๆ แต่ในสายตาเธอหรือคนที่พบเห็นทั่วไปก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าด้วยท่าทางและใบหน้าที่บ่งบอกถึงการมีเชื้อสายจีนตามสมัยนิยม เขาเป็นผู้ชายที่ดูดีน่ามองคนหนึ่ง แต่ก็นั่นล่ะ ถึงเขาจะดูดีเเค่ไหน แต่ในเวลานี้กับสิ่งที่เขาทำ บวกกับสายตาที่มองเธอ เเววตาที่สื่อออกมาเหมือนไม่ถือสากับสิ่งที่เด็กตัวเล็กๆ ทำ มันทำให้เธอโกรธ เขาสื่อความหมายออกมาชัดเจนว่า "เธอผิด" ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยคิดจะต่อว่าเขาสักคำ (เหรอ) เเม้ว่าเขาจะไม่มีเเม้คำขอโทษให้เธอก็ตาม เจ้าของร่างเล็กมองตามคนตัวโตกว่าที่ตอนนี้ละสายตาจากเธอ ก้มลงเก็บกระดาษจำนวนมากที่หล่นบนพื้น "น้องไปนั่งรอตรงนั้นก่อนดีกว่า พี่เก็บของเเป๊บหนึ่ง เดี๋ยวจะเดินไปซื้อน้ำกับยาล้างแผลมาให้" เขาว่าเรื่อยๆ "แล้วความจริงไม่เห็นต้องรีบขนาดนี้เลย รีบแล้วเดินชนอะไรต่ออะไร สุดท้ายก็ต้องมาเจ็บตัวเอง" ฮะ?? แต่เมื่อกี้เขาว่าอะไรนะ เขาหาว่าเธอเดินมาชนเขาถึงต้องมาเจ็บตัวเองอย่างนั้นใช่มั้ย "ใช่ หนู เอ้ย ฉัน รีบ รีบเพราะว่ากำลังจะไปเรียนไม่ทัน แต่คุณจะมาโทษฉันฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ เพราะคุณเองก็ผิดเหมือนกัน นี่คงรีบไปส่งเอกสารอะไรสักอย่างแล้วเดินมาชนฉัน" คนตัวเล็กว่าอย่างไม่คิดใช้สรรพนามแทนตัวเองและเขาอย่างรุ่นพี่รุ่นน้องใช้กัน เพราะใจหนึ่งเธอคิดว่าเขาคงจะเป็นพนักงานหรือคนที่มาส่งเอกสารในมหาวิทยาลัย มือบางล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายสีน้ำตาลขนาดกลางควานหาโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา ก่อนตกใจตาโตเมื่อเห็นว่าเลยเวลาการเข้าชั้นเรียนมากว่าสิบนาทีเเล้ว นริศราหันไปมองคนตรงหน้าซึ่งตอนนี้เก็บเอกสารของเขาเสร็จแล้วและกำลังเดินเอามาวางไว้ตรงเก้าอี้มม้าหินที่เธอนั่ง "ฉันขอโทษที่ฉันมีส่วนผิดที่เดินมาชนคุณ จนทำให้คุณไปส่งเอกสารไม่ทัน จนอาจทำให้อาจารย์หรือเจ้านายคุณว่าได้ แม้ว่าคุณจะไม่เคยคิดขอโทษฉันเลยสักคำที่ทำให้ฉันไปเรียนไม่ทัน" เธอบอก ชายหนุ่มซึ่งกำลังเอาเอกสารในมือไปวางบนโต๊ะม้านั่งหินอ่อนซึ่งจัดเป็นชุดกับเก้าอี้ที่หญิงสาวนั่ง เงยหน้าขึ้นมามองด้วยใบหน้าเหวอ เขานิ้วชี้ชี้มาทางตัวเอง เธอขอโทษเขา เเต่น้ำเสียงนี่... ประชดกันชัดๆ นี่ยัยตัวเล็กคิดว่าเขาเป็นคนส่งเอกสาร แถมยังคิดว่าเขาเป็นคนเดินชนเธออีก ทั้งที่ความจริงแล้ว เธอนั่นเล่ะ ที่ก้มหน้าก้มตาเดินมาชนเขาที่กำลังยืนอยู่เฉยๆ ตรงนี้ ! "แล้วอีกอย่าง ก็ขอบคุณที่จะไปซื้อยาทำแผลให้ฉัน เเต่ไม่เป็นไรดีกว่า ฉันไม่ถือสา และจะถือว่านั่นคือคำขอโทษของคุณ" คนตัวเล็กว่าพลางก็ถือกระเป๋ารีบเดินออกไป ปล่อยให้เขายืนงงกับหน้าที่คนส่งเอกสารที่เธอยัดเยียดให้ แล้วยังคำพูดนั้นอีกล่ะ คำพูดที่ดูเหมือนว่า ไม่ถือสากับความผิดของเขาครึ่งหนึ่งที่เดินมาชนเธอเช่นกัน "โธ่เอ๊ย.. เด็ยเอ๋ยเด็ก"

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
13.0K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.3K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
38.3K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
3.9K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.2K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook