บทที่ 3

1077 Words
“มัทขอเวลาหน่อยได้ไหมคะ แค่เดือนเดียวก็ได้ค่ะ มัทจะ…”             “ไม่ได้! ฉันต้องการเงินทั้งหมดของฉันคืนภายในสามวัน! ถ้าไม่มีเงินมาคืนฉันก็ไสหัวออกไปจากบ้านที่พ่อเธอเอามาจำนองไว้ไป”              “คุณราม แม่ของมัทตอนนี้ท่านกำลังป่วยหนัก พ่อเองก็ไม่ค่อยจะแข็งแรงเท่าไหร่ มัทขอร้องเถอะนะคะ ให้เวลาพวกเราอีกหน่อย มัทสัญญาว่าจะรีบหาเงินมาคืนคุณให้เร็วที่สุดให้ได้” มัสยาแทบเข่าอ่อน เธอทรุดกายลงตรงหน้าเขาอย่างสิ้นศักดิ์ศรี แม่กับพ่อของเธอรักบ้านหลังนั้นมาก  และเธอไม่อยากต้องสูญเสียมันไปไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ อย่างไรซะก็ต้องพยายามทำให้ถึงที่สุด!              “แม่เธอนี่ไม่ใช่แม่ฉัน! หรือถ้าเธออยากจะปลดหนี้ให้ครอบครัวด้วยวิธีเร่งรัดล่ะก็มันก็พอมีวิธีอยู่เหมือนกัน!” อัศวินเอ่ยขึ้นก่อนจะลอบมองคนตรงหน้า  ที่ดูท่าทางดีใจอยู่ไม่น้อยกับคำพูดเขา              “วิธีไหนคะ” มัสยาไม่รีรอที่จะถามไถ่ ต่อให้ข้อเสนอของเขามันจะยากเย็นสักแค่ไหนเธอก็พร้อมที่จะทำเพื่อแลกกับบ้านที่พ่อกับแม่ของเธอทั้งรักและอยากจะใช้ชีวิตจนสิ้นลมหายใจสุดท้ายไว้ที่นั่น ต่อให้ข้อเสนอของอัศวินมันจะยากเย็นสักแค่ไหนเธอก็พร้อมที่จะทำ!              “มาเป็นนางบำเรอให้ฉันสิมัสยา มอบทั้งหมดในตัวเธอให้ฉันแล้วฉันจะถือว่าหนี้สินของครอบครัวเธอมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!!” มัสยาเงียบงันไปนานนับนาทีกับสิ่งที่เพิ่งจะได้ยินมันจากปากของคนตรงหน้าที่กำลังเหยียดยิ้มดูแคลนเธออย่างไม่คิดปกปิดความเกลียดชังภายในใจของเขาที่มันมีต่อเธอ… ผู้หญิงที่เขาเกลียดจับใจและอยากที่จะได้เห็นเธอได้มีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างเจ็บปวดทรมานเป็นที่สุด              “ฉันให้เวลาเธอสามวัน! สามวันเท่านั้นมัสยา กลับไปคิดเอาเองว่าจะเลือกทางไหน แต่ขอบอกเอาไว้ก่อนเลยนะว่าอย่าคิดตุกติกกับคนอย่างฉัน! ถ้ายังเป็นห่วงลมหายใจของพ่อแม่เธอ! ออกไปได้แล้วฉันจะทำงาน!”มัสยาพยักหน้ารับอย่างช้าๆ ก่อนจะรีบพาตัวเองวิ่งออกมาจากคนใจร้ายที่หยิบยื่นข้อเสนอที่แสนน่ารังเกียจมาให้กัน              ข้อเสนอที่มันทำให้เธอไม่กล้าคิดเลยว่าบทบาทของนางบำเรอที่เขาอยากให้เป็น.. มันจะต้องทำอะไรแบบไหนกับเขาบ้าง               สามวันต่อมา            หลังจากใช้เวลาสามวันคิดทบทวนมัสยาก็เดินทางกลับมาขอเข้าพบเจ้าหนี้หน้าเลือดของตัวเองอีกครั้งเมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าเธอควรจะเลือกทางไหน หญิงสาวยอมละทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อพยุงความสุขเล็กๆ ของพ่อและแม่ผู้ให้กำเนิดเอาไว้ให้ได้นานที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ ไม่ว่าผลลัพธ์จากนี้ไปมันจะเป็นเช่นไรเธอก็ต้องยอมรับและอยู่กับมันให้ได้  ต่อให้ไม่อยากจะทำเลือกแต่ก็ต้องเลือกมันอยู่ดี เพราะหนทางในชีวิตตอนนี้ นี่มันคงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วจริงๆ             “มัทตกลงค่ะ…” อัศวินเหยียดยิ้มอย่างพอใจในคำตอบที่เขาเองก็คาดเอาไว้อยู่แล้วว่าคนอย่างมัสยาต้องเลือกทางนี้ ภายใต้ใบหน้าที่เอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตานั่นหล่อนคงลอบยิ้มที่จะได้ครอบครองเขาสมใจ แต่นั่นมันคงจะเป็นแค่ความฝันที่ไม่มีวันเกิดขึ้นจริงของเธอฝ่ายเดียว! เพราะหน้าที่นางบำเรอที่เขากำลังจะมอบให้จากนี้นั้น..มันจะทำให้เธอต้องทนทุกข์ทรมานอย่างถึงใจเลยทีเดียว!!             “มานี่!” เขาปล่อยทิ้งความเงียบอยู่ครู่ถึงได้เอ่ยเรียกขึ้น ซึ่งเมื่ออีกคนก้าวตรงเข้ามาใกล้จึงอาศัยจังหวะที่เธอเผลอกระชากต้นแขนกลมกลึงเข้าหาตัวอย่างแรง  จนร่างแน่งน้อยล้มลงมานั่งบนตัก              “คะ…คุณรามจะทำอะไรคะ” มัสยาร้องถามเสียงสั่น สองมือน้อยๆ ที่พยายามผลักอกเขาให้ถอยห่างถูกมือของเขากระชากออกไปราวกับอัศวินไม่ต้องการให้มีอะไรมาขวางกลั้นความใกล้นี้ก็ไม่ปาน      เขาจ้องมองดวงตาคู่สวยอยู่ครู่ใหญ่ก่อนที่จะเฉลยให้ได้รู้             “อย่ามาทำใสซื่อไปหน่อยเลยน่ามัสยา! ฉันก็แค่จะทดลองสินค้า ว่ามันจะคุ้มค่ากับเศษเงินที่ฉันต้องเสียไปรึเปล่ามันก็เท่านั้น!” จบสิ้นคำตอบริมฝีปากหยักหนาก็ครอบงำเข้าหาเรียวปากสวยอย่างรุนแรง ไร้ซึ่งความอ่อนโยนที่ควรต้องมีในจูบแรกที่เกิดขึ้นระหว่างกันจนอีกคนเผลอออกแรงดิ้นรนขัดขืนสุดชีวิตขึ้นมาด้วยไม่คุ้นชินกับมัน              “อยู่เฉยๆ ถ้าขืนเธอดิ้นอีกแค่ครั้งเดียวฉันจะถือว่าเธอทำผิดข้อตกลง! แล้วคงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่าถ้าฉันเกิดโมโหขึ้นมาเมื่อไหร่ผลร้ายจากการกระทำอันงี่เง่าของการกระทำของเธอในตอนนี้มันจะไปตกลงอยู่ที่ใคร!” มัสยากลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเฝืองให้กับคำขู่ที่น่ากลัวของคนตรงหน้า เธอไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวหนียามเมื่อมือของเขาค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของตัวเองจนมันอ้ากว้างออก   เผยให้ได้เห็นทรวงอกขนาดใหญ่สองเต้าที่ชูชันท้าทายสายตา “ใหญ่ใช่เล่น! มิน่าล่ะคนของฉันมันถึงได้ชอบเธอนัก!!” อัศวินตวาดลั่นอย่างเดือดดาล นึกหงุดหงิดใจไม่น้อยที่ลูกน้องมาอ้อนวอนขอร้องให้เขาอย่าทำร้ายหล่อนทั้งๆ ที่พวกมันต่างก็รู้แก่ใจกันดีว่าหล่อนต่างหากที่ทำร้ายเขา ทำลายทุกสิ่งที่เขารักหวงแหนไป ยิ่งคิดไฟในกายก็ยิ่งร้อนรุ่มหนักจนต้องรีบปิดกั้นมันด้วยการแยกสาบเสื้อให้พ้นทาง เขาจัดการกระชากชั้นในสีหวานออกอย่างรุนแรงจนมันลอยละลิ่วไปกองอยู่ที่พื้นก่อนลมหายใจจะสะดุดยามเมื่อได้เห็นดอกบัวตูมคู่งามที่กะจากสายตาแล้วค่อนข้างใหญ่เกินตัว   ส่วนมันจะเป็นของแท้หรือไม่ นั้นคงต้องลองพิสูจน์ด้วยตัวเองเท่านั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD