เนื่องจากฮ่องเต้มีแต่บุตรสาว ไม่มีบุตรชายสักคนหนิงจินจึงมีโอกาสเป็นรัชทายาทมากที่สุด ฮองเฮายังไม่มีบุตรแต่จะเอาลูกของพี่ชายมารับเลี้ยง ซึ่งผิดธรรมเนียมเพราะไม่ใช่สายเลือดราชวงศ์
สุดท้ายฉินกุ้ยเฟยให้คนสนิทเสี่ยงชีวิตติดต่อมาชายแดนให้ท่านอ๋องไปรับบุตรชายบุตรสาวซึ่งเป็นฝาแฝดนางมาเลี้ยงดูมีเพียงท่านอ๋องที่คุ้มครองสายพระโลหิตได้ ก่อนนางจะหายสาบสูญไป จนเพิ่งจะได้ข่าวว่าอยู่ที่แคว้นข้างๆ
หลังจากส่งสัญญาณก็มีคนประมาณห้าคนออกมา พวกเขาช่วยกันเก็บซากหมาป่าแบกขึ้นหลังเดินตามทั้งคู่ลงเขา
ดูท่าฐานะสามีของนางคงไม่ธรรมดา ดูจากการเคลื่อนไหวการทำงานคนพวกนี้เหมือนถูกฝึกมาอย่างดี แต่ก็ช่างเถอะหากเขารักนางตามที่สัญญานางก็ยินดีเป็นคู่เขาไปตลอดชีวิต หากเขาผิดสัญญานางก็แค่เดินสวยๆออกมา ไม่ได้ขี้เหร่สักหน่อยจะหาใหม่ไม่ได้เชียวไง เหอะ
"อาซ้อ ในที่สุดก็ถึงสักที เสือนี้ทำอย่างไรดีขอรับ"
"อาหลี่ เจ้าชำแหละได้ไหม เอากระดูกแยกออก ส่วนหมาป่านำไปขายเถอะเอาไว้แต่เนื้อเสือพอ คืนนี้จะทำเนื้อย่างให้พวกเจ้ากับพี่น้องเจ้าที่มาช่วยกินกันด้วย กระดูกเสือกับเลือดนำไปให้ท่านหมอหยุน เขาให้ราคาเท่าไหร่ก็เอามาเถอะ ของไม่ได้ลงแรง แล้วช่วยซื้อครกบดยาให้ข้าด้วย รายการที่ต้องซื้อจะจดให้ แวะไปร้านช่างไม้ให้หน่อยบอกอาสามว่าข้าอยากได้ถังไม้สี่เหลี่ยมมาสำหรับอัดเต้าหู้ เถ้าแก่ร้านไม้จิตใจดีค้าขายยุติธรรม แบ่งเงินที่ขายหมาป่ากับกระดูกเสือได้ให้อาสามข้าสักห้าร้อยอีแปะ บอกเขาว่าถ้าเขาไม่รับแปลว่าเขารังเกียจข้ากับซูหยาง รีบทำงานเถอะอีกครึ่งชั่วยามก็ยามเซินแล้ว กว่าจะเดินทางอีก"
สั่งงานเสร็จเหล่านายพรานจอมปลอมก็พากันชำแหละทั้งเสือและหมาป่า จากนั้นก็นำใบบัวใส่ในตะกร้า เอาเนื้อหมาป่าใส่ลงไป เก็บหนังของมันไว้ให้ไป๋ซู่ฮวา
ไป๋ซู่ฮวาเดินเข้าบ้านก็เห็นหยางหนิงเฉิงนอนหลับอยู่ น่าจะเพราะยาลดไข้ที่ให้กิน ข้าวกลางวันที่วางไว้ให้เขาไม่แตะเลยไป๋ซู่ฮวาเลยต้องปลุกเขาแต่ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่นเอาแต่งึมงำ นางจึงงัดไม้เด็ดออกมา
"ท่านพี่ ไม่กินข้าวไม่ชอบอาหารที่ข้าทำถ้างั้นคืนนี้ข้าไปนอนกับน้องๆนะเจ้าคะ ท่านอยากอยู่คนเดียวข้าเข้าใจ"
ได้ผลคนตัวโตลืมตาคว้าเอวบางเข้าหาพลิกนางขึ้นเตียงตัวเขาคร่อมนางไว้จุมพิตดูดดื่มทันที จนเริ่มแหวกสาบเสื้อดูดกลืนทรวงอกนางไป๋ซู่ฮวาใช้มือดันหน้าอกเขาออกแล้วจ้องด้วยสายตาจริงจัง
"ท่านพี่ ท่านลงจากเตียงไม่ได้ ต้องอยู่บนนี้แต่เหตุใดเวลาเอาเปรียบข้าท่านไม่เหมือนคนเจ็บสักนิด อย่าให้รู้นะว่าหลอกลวงข้าๆเอาท่านตายแน่"
"หืม เจ้าจะฆ่าพี่เหรอเด็กดี พี่เจ็บขาจริงๆ แถมยังถูกธนูยิงอีกเป็นไข้ด้วยแต่เจ้าน่ากินนักแถมยังดีกว่ายาท่านหมออีกนะ หืมมม"
"ข้าไม่มีแรงจะเชือดไก่ ฆ่าท่านไม่ได้หรอกแต่ข้าจะไปนอนกับหนิงจินและหนิงหรง ให้ท่านนอนคนเดียว"
"ไม่ได้สิ เมียจ๋าขาข้าเจ็บจริงๆไม่ได้หลอกลวง แต่หมอหยุนบอกว่าข้าต้องขยับร่างกายบ้าง จะให้ทำอย่างไรเล่าออกแรงมากๆก็เจ็บ นอกจากขยับเวลาที่พี่อยู่ในกายเจ้านั่นรู้สึกไม่เจ็บเท่าไหร่"
"หยาง หนิง เฉิง ท่านมันคนลามก ข้าไปเตรียมเครื่องปรุงแล้วเดี๋ยวอาหลี่กลับมาจะได้ทำมื้อเย็น คืนนี้อดนะบอกเลย"
คืนนี้อดหรือไม่ได้ เขาคลั่งตายแน่ เมียเขางามเพียงนี้เย้ายวนเหลือเกิน ต้องหาทางให้นางไม่ทิ้งเขานอนคนเดียวก่อน
"พี่ล้อเล่น พี่อยากลงเดินบ้างค่ำนี้พี่อยากออกไปกินข้าวด้วย เจ้าจะรังเกียจพี่หรือไม่ เห็นว่านัดผู้ใหญ่บ้านมา เจ้าจะอายที่มีสามีขาพิการหรือเปล่า"
จมูกคลอเคลียกับแก้มนวลใส่ ไป๋ซู่ฮวาลูบใบหน้าของเขาก่อนจะรั้งมาจุมพิตแล้วเอ่ย
"ท่านไม่ได้พิการสักหน่อย อีกอย่างท่านรูปงามออกเยี่ยงนี้ข้ากลัวจะมีสตรีมาแย่งอยู่แต่บนเตียงน่ะดีแล้ว ข้าขี้เกียจตบตีกับพวกนาง พอแล้วข้าจะไปเตรียมมื้อค่ำอื้อ พอแล้วท่านพี่ ดูดจนแดงหมดแล้ว ท่านนี่นะคืนนี้อดจริงๆนะถ้าไม่เลิก"
หยางหนิงเฉิงหยุดทันที ค่อยๆจัดเสื้อนางให้เข้าที่ก่อนจะจุมพิตหน้าผากแล้วปล่อยไป๋ซู่ฮวาลงจากเตียง ไป๋ซู่ฮวาเหนื่อยใจ อยู่ใกล้ไม่ได้จริงๆเดี๋ยวล้วงเดี๋ยวควัก มือไวนักตาบ้านี่
ไป๋ซู่ฮวา นำเนื้อเสือที่ได้มาหมัก นางจะทำเนื้อตากแห้งกับเนื้อรมควัน ช่วงนี้เป็นปลายฤดูฝน อยากขึ้นเขาหาเห็ดกับหน่อไม้ให้มากหน่อย ทำเป็นของแห้งเอาไว้
หยางหนิงเฉิงจะเดินทางไกล ไม่รู้ว่าไปนานเท่าไหร่เขาค่อนข้างเลือกกินนางต้องทำอาหารหลายอย่าง ดูว่าสิ่งไหนที่เขาชอบที่สุดและสามารถนำไปด้วยได้
ไป๋ซู่ฮวา ล้างพริกที่เก็บมาได้นำเนื้อเสือมาคลุกกับสุราเพื่อกลบกลิ่นคาว จากนั้นนำมาปรุงรสก่อนจะเสียบไม้แหลมเพื่อทำปิ้งย่าง แถวบริเวณบ้านไม่แห้งแล้ง พอให้เห็นกระเทียมป่ากับต้นหอมป่าประปราย
เขียนเครื่องเทศใส่กระดาษให้อาหลี่ไปซื้อนางต้องการเมล็ดผักมาไว้ปลูก นางจะไปบ้านของเซียวผิงผิงสักหน่อย ท่านป้าโจวแม่ของเซียวผิงผิงปลูกผักงามนัก ตอนนี้ที่บ้านไม่มีอะไรเลย นอกจากเนื้อหมูที่เหลืออยู่กับเนื้อเสือ
เดินมาถึงกลางหมู่บ้านก็เจอกับไป๋ซิ่วบุตรสาวลุงใหญ่ นางเดินมาขวางทาง แต่วันนี้กลับไม่หาเรื่องอีกทั้งยังพูดดีอีกด้วย
"นี่เสี่ยวฮวา น้องสามีเจ้าคนนั้นเขาจะมาพักอยู่ด้วยหรือ เขาชื่ออะไรบอกหน่อยสิ"
ไป่ซิ่วดูเหมือนจะชอบอาหลี่จริงๆ ไป๋ซู่ฮวาไม่อยากเป็นแม่สื่อให้ใคร นางเอ่ยบอกแค่ชื่ออย่างเดียว
"อ้อ อาหลี่หรือเสี่ยวจิ้งล่ะ ท่านพี่มีน้องชายสองคนน่ะท่านหมายถึงคนไหนล่ะ พี่หญิงข้าต้องไปบ้านผิงผิงแล้ว สามีรอกินข้าวอยู่ข้าจะไปซื้อผักน่ะ ขอตัวก่อนแล้ว"
ไปซู่ฮวาไม่แข็งไม่อ่อนเกินไป อย่างไรนางก็เป็นลูกพี่ลูกน้อง นางวางแผนจะส่งไป๋ซูหยางไปเรียนหนังสือ หากมีเรื่องกับบ้านใหญ่ไม่ดีต่อเส้นทางการเรียนน้องชายนัก แม้ว่าจะรังเกียจบ้านใหญ่นัก แต่คนสมัยนี้ ให้ความสำคัญเรื่องกตัญญูยิ่งนัก
"อาหลี่กับเสี่ยวจิ้งหรือ นี่วันนี้เจ้าเห็นน้องสามีของนังซู่ฮวาไหมซูหลิง รูปงามนักแม้งามไม่เท่าสามีนังแพศยานั่น แต่อย่างน้อยก็ไม่ขาเป๋"
ไป๋ซิ่วเอ่ยแก่สหาย หวังซูหลิงถอนหายใจนางยอมคบกับไป๋ซิ่วก็เพราะเล่นกันมาแต่เด็ก แต่พอโตมาไป๋ซิ่มเริ่มไม่น่าคบเสียแล้ว
อีกอย่างหวังซูหลิงไม่มีนิสัยชอบทับถมคนอื่น บางครั้งก็ไม่ชอบการกระทำของสหายคนนี้นัก
"อาซิ่ว หากเจ้าชอบเขาก็ว่าจะไม่มีอะไรไม่ดี แต่ว่าเจ้าปรับปรุงตัวหน่อยเถอะ อย่างไรน้องสาวเจ้าซู่ฮวาก็เป็นพี่สะใภ้พวกเขา พี่สะใภ้ก็เปรียบเหมือนมารดา เจ้าไม่เคยทำตัวดีกับน้องสามเจ้าสักครั้งเลยนะ"
"เหอะ เหตุใดต้องทำดี พี่สะใภ้ใหญ่อันใดพวกเขากับสามีขาเป๋นังนั่นเป็นแค่ลูกพี่ลูกน้องต่างหาก นี่ซูหลิงเจ้ายังเป็นสหายข้าอยู่หรือไม่ห๊ะ"
ไป๋ซิ่วโมโหที่หวังซูหลิงพูดเข้าข้างคนที่นางเกลียดนัก
"เอาล่ะๆ ข้าไม่เตือนเจ้าแล้ว ตอนนี้นอกจากข้ายังมีผู้ใดทนนิสัยเจ้าได้ แต่หากเจ้าไม่คิดว่าข้าเป็นสหาย ข้าไปก็ได้"
หวังซูหลิงไปแล้วแต่ไป๋ซิวยังไม่คิดว่าตัวเองทำสิ่งใดผิด ไป๋ซิวยังคงคิดถึงใบหน้าหล่อเหลาของอาหลี่
ไป๋ซู่ฮวาเดินมาถึงบ้านของเซียวผิงผิงก่อนจะตะโกนเรียก
"ผิงผิง เจ้าอยู่หรือไม่ข้าเองเสี่ยวฮวา" ไม่นานสตรีวัยกลางคนก็เดินมาเปิดประตูรั้ว นางคือป้าโจวมารดาของเซียวผิงผิง
"อ้าว นังหนูฮวาหรือ ผิงผิงไม่อยู่หรอกป้าให้ไปในเมืองน่ะ มีอะไรหรือเปล่า" ป้าโจวเอ่ยถามไปซู่ฮวา
"ข้ามาขอซื้อผักเจ้าค่ะท่านป้า บ้านสามีรกนักยังไม่ได้ดายหญ้าถางดิน เลยไม่มีผักให้กิน"
"เฮ้อ เขาดีกับเจ้าหรือไม่เสี่ยวฮวาเอ๊ย จางชุนคนนั้นสารเลวนัก กับสตรีคนนึงแถมยังเห็นกันมาแต่เด็กกับทำร้ายทำลายกันลงคอ"
ไปซู่ฮวารู้ดีว่าท่านป้าโจวห่วงใยนางอย่างจริงใจ จึงไม่อยากให้นางกังวล
"ท่านป้า ท่านพี่ดีกับข้ายิ่งนัก อีกอย่างขาของเขาใกล้หายดีแล้ว ไม่นานคงกลับไปเรียนได้อีกอย่างเขาบอกว่าทุกอย่างเขาไม่ถือสา จะรับข้าเป็นภรรยาคนเดียวทั้งชีวิตเจ้าค่ะ" ไป๋ซู่ฮวาบอกแก่ป้าโจว แต่ป้าโจวนางก็ไม่วางใจ
"เสี่ยวฮวาเอ๊ย เงินทองหากเก็บหอมรอมริบไว้ได้ก็เก็บเถอะนะ ใจบุรุษไม่แน่นอนดูอย่างไป๋ฮวนสิ เอ่อได้ข่าวว่าไปอยู่บ้านเก่าพ่อแม่เจ้าที่ท้ายหมู่บ้านหรือ"
"ขอบคุณท่านป้าที่หวังดีเจ้าค่ะส่วนอาไป๋ฮวนข้าทนเห็นนางถูกทุบตีไม่ได้ เรื่องที่ท่านสั่งสอนวันนี้ข้าจะจำไว้ ท่านป้ามีหลัวโป ถั่วฝักยาว กับผักกาดขาวไหมเจ้าคะ พอดีท่านพี่ต้องบำรุงข้าอยากต้มน้ำแกงให้เขาดื่มสักหน่อย"
"อ้อ มีแค่หลัวโปวกับถั่วฝักยาวน่ะ ผักกาดยังกินไม่ได้ มาเถอะอยากได้เท่าไหร่ก็เก็บไป ไม่ต้องจ่ายเงินหรอกป้าเห็นเจ้าเป็นลูกสาวคนหนึ่งมาๆ"