ตอนที่ 2

1210 Words
อารมณ์ก็ไม่เชิงเหงา สำหรับนักธุรกิจ ที่อะไรก็คล่องตัวไปหมด ยกเว้นคนของตัวเองที่ไม่อาจคอนโทรลเขาไว้ได้ อดสมเพทชีวิตของตัวเองไม่ได้ คนอย่างดวงตรามีศักดิ์ศรี มีทางเลือกที่ดีมากกว่านี้ อย่าหวังว่าดิฉันจะรับสายของโถมทรัพย์ที่โทรมาเกือบร้อยสาย ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ให้เขารู้ว่าการตัดสินใจของดิฉันแน่วแน่เสมอและแน่นอน ไม่ใช่เรื่องจะมาทำเล่นๆแบบนี้ ดิฉันมีเพื่อนรักที่สนิทสนมมากที่สุดเป็นเจ้าของโรงแรมแห่งนี้ไงคะ ในตัวจังหวัดระยอง แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง อย่างหาดแม่พิมพ์ ที่นักท่องเที่ยวคลาคล่ำทุกช่วงเทศกาล เพื่อนของดิฉัน โฉมวลีหรือไมร่า โฉมเป็นเพื่อนที่ดีและเรียนจบต่างประเทศเหมือนกัน โฉมมีรสนิยมทางเพศอย่างหนึ่งค่ะ คือเธอไม่ชอบผู้ชาย เพื่อนที่เธอคบ หรือการเลือกแต่งงานนั้นโฉมวลีเลือกเพศเดียวกัน ดวงตราไม่สนใจเรื่องราวส่วนตัวของเพื่อนหรอก แต่ขอเมาท์มอยสักนิด เพื่อนคงไม่โกรธ อยากจะโฟกัสชีวิตของตัวเองมากกว่า ที่มันมากลายกลับเป็นแบบนี้ ค่ะดิฉันกำลังยืนท้าลมหนาวนอกห้องสวีท แบบเดอร์ลุกซ์หรือสไตล์แบบโมเดอร์นของโรงแรมที่ออกแบบใหม่ เห็นทั้งฉากแหลมแม่พิมพ์สวยงามที่อยู่ตรงหน้ากับท้องฟ้าที่ดูเวิ้งว้าง ดวงตราตัวคนเดียวด้วยเสื้อกระโปรงสีหวานที่เนื้อผ้าพลิ้วและสะบัดไปตามแรงลม ผ้าชีฟองมีลูกไม้งดงามตามความชอบของดิฉัน อยากจะพักเรื่องราวที่ชวนปวดหัวของตนเองทิ้งไว้แค่นี้ก่อน และดวงตราจะต้องกลับไปเครียดต่ออย่างแน่นอน ตอนนี้ขอพักผ่อนจิตใจให้สบายใจไปก่อน ไมรายังแนะนำผู้ชายอีกคนให้ดิฉันรู้จัก "ดาด้าจ้ะ นี่ไง คุณวิธูวิทย์ ที่ฉันอยากจะแนะนำให้เธอรู้จัก" ชื่อของเขา วิธูวิทย์ ดิฉันเพิ่งได้ยินครั้งแรก แค่ชื่อก็แปลกเหมือนน่าค้นหา วัยของดิฉันจะว่าไปก็สามสิบนะคะ ดวงตราเลยได้เงยสายตามองหนุ่มตรงหน้า อดชำเลืองไม่ได้ อันที่จริงไม่อยากจะมาสนใจหรอกค่ะ เพราะสภาวะจิตใจของดิฉันที่บาดเจ็บจากแผลหัวใจ รุนแรง คือมันเศร้าซึมมากกว่าจะไปชายตาหรือเหล่หาผู้ชายคนอื่นเป็นอาหารว่าง ไม่เลยค่ะ ดิฉันยังบอบช้ำด้วยจิตใจ และมันสาหัสอย่างมากจากพิษรักคนในครอบครัวที่กระทำ เธอรับรู้ และทักเขา ในเมื่อมันเป็นมารยาท อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมานิดหนึ่งกับชายสูงโปร่งตรงหน้าที่เพิ่งเงยหน้าขึ้นจ้องมองเขา ผู้ชายคนนี้มีออร่าพุ่งทีเดียว ดูเด็ด แบบหล่อถูกใจ สาวช้ำรักอย่างดิฉัน คือความขาว ผิวพรรณกระจ่างใส เป็นผู้ชายที่ดูแลตัวเองค่อนข้างดีมาก จนดวงตราอดคิดในใจมากกว่านั้น เขาน่าจะเอ้อ แบบนั้น เธอจะนึกถึงผู้ชายที่สำอางทั่วไป เขาอาจจะไม่แมนแท้ เป็นพวกเก้งกวาง อายุนะเหรอ อ่อนกว่าดวงตราแน่นอน อาจจะรุ่นน้องหรือหลานไปเลยด้วยซ้ำ เมื่อเธอมองจ้องผู้ชายคนนี้ ดวงตาคม จมูกเรียวโด่งเป็นสันพองามเหมือนจะติดลูกครึ่ง ไม่งั้นก็ติดลูกเสี้ยวมาจากบรรพบุรุษ แต่ชื่อของเขา วิธูวิทย์เป็นไทยแท้ "เขาเพิ่งมาจากอัมสเตอร์ดัมจ้ะ" คำแนะนำของไมร่าเพื่อนรัก ทำให้ดิฉันหูผึ่ง อิมพอร์ตเสียด้วย "มาจากเนเธอแลนด์เชียวหรือ หนุ่มดัดช์นี่" ฉันอุทาน "ครับผมมาจากอัมสเตอร์ดัมประเทศเนเธอร์แลนด์ เพิ่งเรียนจบแล้ว ทำงานแล้วจะมาอยู่ที่เมืองไทย" "ไม่ได้มาท่องเที่ยวหรือคะ" ฉันอดถามไม่ได้ "ไม่จ้ะดาด้า เขาจะมาอยู่ที่นี่ถาวร" "แต่เงินเดือนในประเทศนี้ น้อยนิดนะถ้าเทียบเท่ากับโซนยุโรป" "บริษัทส่งตัวผมมาจากทางโน้น ผมกินเงินเดือนจากบริษัทแม่ และในไทย" อ๋อแสดงว่าเขามีรายได้สองทาง ก็ไม่เลว การอยู่เมืองไทยมาตลอดทั้งชีวิตทำให้ฉันรู้ดีว่า อัตราเงินเดือนค่าครองชีพของคนไทย ถ้าเทียบกับโซนยุโรปหรือประเทศที่พัฒนาแล้ว ยังไม่ถึงครึ่งเปอร์เซ็นต์ของพวกเขาเลย ห่างแทบไม่เห็นฝุ่น และระบบการจัดการสาธารณะ หรือสวัสดิการ เหมือนฟ้ากับเหว ดิฉันเริ่มมีความสนใจขึ้นมาบ้าง เพราะหนุ่มตรงหน้ามีข้อเสนอ เหมือนเขาพรีเซนตัวเอง เรียกว่าให้ดิฉันกระชุ่มกระชวยได้ไม่น้อย ผิวของเขาไม่เหมือนออกไปทางยุโรป เขาน่าจะเป็นลูกครึ่งไทยที่มีแม่เป็นคนไทยหรือพ่อเป็นคนไทยสักอย่าง ดิฉันไม่กล้าถามเขาตรงๆหรอกค่ะ แค่คะเนดู "ไงจ้ะ ต้องการหนุ่มหล่อไปทำงานด้วยหรือเปล่า เขาเป็นวิศวกรคอมเชียวนา" "แต่ ด้า ถึงเธอสนใจก็อดย่ะ เพราะว่าเขารับเงินเดือนจากทางบริษัทใหญ่ อยู่แล้ว ยกเว้นเขาสามารถปลีกเวลามาทำให้ได้ ในแบบฟรีแลนซ์" โฉมวลีเอ่ย “ฉันอยากได้ หล่อๆแบบนี้ เอาไว้ประดับบารมีเสียหน่อย ถ้ารับเข้าบริษัทนี่ สาวๆกรี้ดกันทุกวันแน่” ฉันพูดแบบทีเล่นทีจริงเท่านั้น คือยั่วเพื่อนเล่น หนุ่มหน้าใส รูปร่างดี ผิวสะอ้านคนนั้นยิ้มให้ ที่สำคัญคืออร่าหล่อพุ่งเตะตาดิฉันทันที นี่ถ้าดิฉันมีเพื่อนอยู่ในวงการบันเทิงจะส่งให้เขาไปคัดตัวเล่นละครทันที ผู้ชายอะไรเกิดมาหล่อสมบูรณ์ไปหมด "ผมชื่อแทมป์ครับ" หนุ่มหล่อแนะนำตัวด้วยภาษาไทย แม้แปร่งก็ยังฟังคมชัด แสดงว่าเขาเรียนด้านภาษาไทยมาบ้าง "ภาษาไทยคุณดีกว่าฝรั่งบางคนค่ะ" ตอบเขา "แม่ผมเป็นคนไทยครับ" "อ้อ มิน่าล่ะ ว่าแล้วเชียว เธอได้ส่วนผสมจากฝั่งแม่ผสมกับฝั่งทางพ่อนะ" เขายิ้มๆเมื่อฟังคำของดิฉันที่เผลอปากอดไม่ได้ ไปวิจารณ์เรื่องส่วนตัวของเขา นอกจากเขาไม่โกรธดิฉัน เขายังดูขี้เล่นไปอีก อือม ทำให้หนุ่มคนนี้น่าสนใจขึ้นมาบ้างในสายตาของดิฉัน "เขาเป็นหลานแฟนของฉันเองจ้ะ แวะมาเที่ยวก่อนแล้วจะไปทำงานที่กรุงเทพ" "ที่กรุงเทพเหรอ ก็คงได้เจอกันอีกสินะ" อดไม่ได้ที่จะแซวเขาเล่นๆ "ไม่เป็นไรจ้ะ ถ้าหล่อนจะจีบเขา มาที่นี่ก็ได้ เพราะทุกวันหยุดแทมป์จะแวะมาที่นี่บ่อย" ไมร่าชิงตอบเสียเอง "ไม่หรอกให้เวลาตัดสินใจดีกว่า โอกาสและการรอคอย อยู่ตรงหน้าหรือไม่ก็โชคชะตา" ตอบแบบนี้เหมือนดวงตาฉันเริ่มเศร้า ไมร่าเพื่อนรักสังเกตเห็น เขาก็สังเกต คนบอบช้ำกับชีวิตครอบครัว และท่าทางของดิฉันจริงจัง "ฉันอยากจะให้อะไรมันผ่านไปก่อน รู้ดีว่าตัวเองบาดเจ็บแค่ไหน" ไมร่าไม่พยายามถามอะไรอีก เพราะรู้ว่าเพื่อนรักประสบอะไร และเขาอีกคน ที่ฟังภาษาไทยพอได้แค่ทักทาย แต่ไม่รู้ภาษาลุ่มลึก ต้องเดา เพราะเรียนภาษาไทยแค่พื้นฐาน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD