“อ้ายยยย...บอกให้หยุดตาบ้า วิคเตอร์!” เธอดิ้นพรวดๆ กลางเตียงฟาดมือฟาดไม้จนลืมความปวดแปล็บกลางร่างกาย จนเมื่อเสียงของชายหนุ่มเงียบหายไปจึงค่อยๆ แง้มชายผ้าขึ้นมองหา และรีบสำรวจทั่วบริเวณ กระชับผ้าห่มคลุมตัวจนแน่นดีจึงรีบกระโดดผลุงลงจากเตียง วิ่งหัวซุนไปล็อกประตูห้องนอน
“เห้อ!...” ถอนลมหายใจพรวดๆ มองหาเสื้อผ้าเพื่อสวมบนร่างกายเปลือยเปล่า ตู้ใบใหญ่คือเป้าหมายเธอรีบรุดเปิดออกและมองหาสิ่งที่ต้องการ แต่...ไม่มีซักชิ้นที่เธอต้องการเมื่อภายในตู้หลังนี้เต็มไปด้วยเสื้อผ้าผู้ชายจนเต็ม
“ไม่ยักกะเป็นเหมือนพระเอกในนิยายแฮะ ตาบ้านั่นไม่โรแมนติคเลย แทนที่จะฉุดเรามาอยู่ด้วย ไม่ยักเตรียมเสื้อผ้าสวยๆ มาประเคนให้ ตกลงรักฟ้าจริงไหมคะคุณวิคเตอร์ มาริน” เธอคว้าเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ยักษ์ออกมาหนึ่งตัว รีบสวมใส่บนตัวฉับไว แต่ปากอิ่มๆ ขยับต่อว่าชายหนุ่มไม่หยุดหย่อน แต่ไม่ได้เกลียดชังเหมือนที่แสดงออกต่อหน้าเขา อยู่เพียงลำพังเธอไม่ต้องปิดบังความรู้สึกตัวเอง เปิดเผยได้เต็มที่เพราะในสี่ห้องหัวใจ มีชายคนเดียวแอบแฝงอยู่ในนั้น
“ผมเป็นผู้ร้ายครับ ไม่ใช่พระเอกในนิยายประโรมโลกที่นางฟ้าชอบอ่าน เลยไม่รู้ว่าต้องเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้ฝ่ายหญิงด้วย ในเมื่อผมชอบที่จะให้ผู้หญิงของผมเปลือยมากกว่าสวมเสื้อผ้า มันเสียเวลาถอด เสียแรงโดยเปล่าประโยชน์นะครับ” เสียงทุ้มๆ กล่าวแก้ ฑิฆัมพรหมุนกายมาเผชิญหน้าเธอขมวดคิ้วเป็นปมเพราะประตูห้องเธอเป็นคนปิดล็อกด้วยตัวเอง แล้วเหตุไฉน วิคเตอร์จึงเข้ามาด้านในได้ พวงกุญแจพวงใหญ่ในมือของชายหนุ่มเฉลยสิ่งที่เธอสงสัยจนหมดสิ้น จึงรีบถอนสายตากลับและเสเดินหนี พร้อมทั้งเตรียมตัวสู้หากเขาเข้ามาอย่างไม่ประสงค์ดี
“ทานข้าวดีกว่าครับนางฟ้า เก็บแรงเอาไว้สำหรับตอนกลางคืน หรือคุณจะชอบตอนแจ้งๆ แบบนี้ สะกิดผมได้ตลอดเวลาเลยนะคนสวย ผมยินดีให้บริการ”
“ตุ๊บ!” หมอนใบใหญ่ปลิวตามแรงเหวี่ยง เมื่อฑิฆัมพรฟังคำของชายหนุ่มจบ เธอคว้าหมอนนุ่มๆ ปาใส่เขาสุดแรง แต่วิคเตอร์ก็กระโดดหลบทัน เขาส่งยิ้มหวานจ๋อยให้เธอ โดยไม่รู้สึกโกรธเคือง วิคเตอร์เดินลอยชายออกไปโดยมีเสียงหัวเราะก้องสะท้อนไปสะท้อนมา เธอกระทืบเท้าด้วยความขัดใจแต่ก็เหมือนเดิมวิคเตอร์ไม่สนใจ เขายังคงฮัมเพลงในลำคอและลงมือทำอาหารเช้าต่อไป เมื่ออารมณ์ดีสุดๆ หลังจากดื่มด่ำกับบทรักร้อนๆ ร่วมกันกับฑิฆัมพรเมื่อค่ำคืน
ความรัก เจ้าขา ข้าสงสัยในอุรา ว่าหน้าตาเจ้าเป็นฉันใด
คงสวยน่าพิสมัย น่ารัก น่าใคร่ ละเมียดละไมโสภา...
ความรัก เจ้าเอ๋ย ใจร้ายนั้นคงไม่เคย เจ้าคงเคยแต่กรุณา
ไม่ทำให้ช้ำอุรา เปี่ยมล้นเมตตา ล้ำเลิศหนักหนา ใช่ไหมคนดี
ข้า... เป็นทาสเจ้าแล้ว หมอบราบคาบแก้ว แล้วแต่จะคิดปรานี
อกของข้าครานี้เป็นตายร้ายดี แล้วแต่รักที่เวทนา
ความรัก... คนสวย โปรดจงสงสารข้าด้วยช่วยข้าสมดังปรารถนา
กราบแล้วความรักเจ้าขา โปรดคิดเมตตา...
สักคนเถิดหนาข้าขอวิงวอน...
ข้า... เป็นทาสเจ้าแล้ว หมอบราบคาบแก้ว แล้วแต่จะคิดปรานี
อกของข้าครานี้เป็นตายร้ายดี แล้วแต่รักที่เวทนา...
ความรักคนสวย โปรดจงสงสารข้าด้วยช่วยข้าสมดังปรารถนา
กราบแล้วความรักเจ้าขา โปรดคิดเมตตา สักคนเถิดหนาข้าขอวิงวอน...
เนื้อเพลงติดๆ ขัดๆ ฟังกระท่อนกระแท่นที่วิคเตอร์พรรณนาออกมาผ่านเสียงแหบเครือของเขา ฑิฆัมพรอยากจะหัวเราะ พอๆ กับร่ำไห้ เนื้อเพลงซึ้งโดนใจและบอกถึงความรู้สึกภายในของผู้ขับกล่อมเป็นอย่างดี เธอยกมือเล็กๆ ขึ้นปิดปาก หันแผ่นหลังพิงพนังห้องน้ำเย็นเฉียบ ค่อยๆ รูดตัวลงไปคู่เข่าอยู่ที่พื้นปล่อยให้น้ำตาร้อนๆไหลนองใบหน้า ซาบซึ้งกับความอ่อนหวานที่วิคเตอร์มอบให้ เขาคงไม่เคยรู้ว่านับตั้งแต่แตกเนื้อสาวจนถึงปัจจุบัน ผู้ชายคนเดียวที่แอบหลบอยู่ในหัวใจของเธอคือเขาแค่นั้น “ความรัก” เธอรู้จักกับคำนี้ดีและผลของมันก็เคยทำให้เธอซวนเซจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด หลังจากถูกเขาเสือไสออกไปให้พ้นจากสายตา เด็กสาวคนหนึ่งกับหัวใจแหลกยับเยิน เพียงแค่ว่าความบริสุทธิ์ในตัวเธอยังไม่ได้ถูกกระชากออกไปจากร่างกาย ด้วยเธอมีหัวใจสีดำมืดเพราะเห็นแก่หน้าพ่อและแม่ จึงหอบสังขารล่วงโรย เหินฟ้าไปเรียนต่อ ตัดเขาออกไปจากการรับรู้ แอบซุกเงาเขาไว้ในมุมหนึ่งของหัวใจ เธออยากจะตะโกนบอกให้เขาหยุด พอๆ กับอยากฟังจนจบ เมื่อเนื้อเพลงซาบซึ้งกินใจจนอยากจะบันทึกไว้ในหัวใจตราบชั่วชีวิต
“คนบ้า...” เสียงกระซิบเครือสะอื้นของฑิฆัมพรเอ่ยออกมาจากหัวใจ เธอดีใจที่สามารถทำให้คนที่เคยผลักไสย้อนกลับมาหลงรักตัวเองอีกครั้ง แต่! ในความเป็นจริงเธอไม่สามารถร่วมเดินบนเส้นทางแสนอันตรายกับเขาได้ เมื่อเขาเป็นผู้มีอำนาจถึงจะวางมือจากธุรกิจมืดแล้วก็ตาม แต่ฐานอำนาจเดิมๆ ยังคงอยู่ มีศัตรูอยู่รอบด้าน จึงไม่อยากเสี่ยงหากมีเลือดเนื้อเชื้อไข เขาจะต้องเติบโตขึ้นมาพบเจอกับอันตรายในรูปแบบใดบ้างกันแน่ การที่เธอตอบตกลงปลงใจแต่งงานกับฮิวล์ ก็เพื่อสลัดเงาของวิคเตอร์ออกไปจากใจทั้งหมด
ฮิวล์อยู่กับเธอมานานนับตั้งแต่เข้าศึกษาต่อในประเทศอังกฤษ ฮิวล์เป็นผู้ชายคนเดียวที่เธอให้ความสนิทสนมด้วย แต่ก็แค่ในฐานะเพื่อน เกือบ10ปี ที่ฮิวล์คอยดูแลเธอจนสำเร็จการศึกษาโดยไม่ปริปากบ่น แม้เธอจะเย็นชาใส่ เข้าเป็นสุภาพบุรุษแทบทุกกระเบียดนิ้ว แถมจัดอยู่ในกลุ่มนักธุรกิจไฟแรง พื้นฐานครอบครัวก็ไม่ได้น้อยหน้าวิคเตอร์ แถมมีภาษีดีกว่าชายหนุ่มกระล่อนแบบวิคเตอร์ด้วยซ้ำ เพราะเขาไม่เคยแสดงความเจ้าชู้ออกมาให้เธอเห็น ปฏิบัติตัวคงเส้นคงวา ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันจนถึงปัจจุบัน ฮิวล์แก่กว่าเธอ4ปี เขาจบการศึกษาในปีที่เธอไปเรียนต่อ แต่เขาก็ปลีกเวลามาคอยแทคแคร์เธอ ตามดูแลจนเธอใจอ่อนยอมรับเขาเป็นเพื่อนสนิท
“ตาบ้าวิคเตอร์...คนบ้า คนวางอำนาจ” ทั้งที่วิคเตอร์ไม่มีข้อดีเลยซักอย่าง ไม่ว่าจะนิสัยหรือความประพฤติแต่เธอก็ยังปักใจรักเขามาตลอดไม่สามารถลบเลือนหรือหาใครมาแทนที่เขาได้เลยซักนิด
วิคเตอร์ครวญเพลงที่เขาได้ยินได้ฟังในยูทูป เนื้อเพลงตรงใจเขาในเวลานี้ที่สุด ไม่ว่าจะถ้อยคำตรงท่อนไหนมันโดนใจเขาในเวลานี้ ฑิฆัมพรเป็นความรักที่เกิดขึ้นแบบแรกพบ แค่สบตาเธอเขาก็ตกลงไปในบ่วงรัก ยากที่จะถอนตัว ไม่ว่าเธอจะแสดงท่าทีรังเกียจหรือพยายามถอยห่างมากเพียงไหน เขาก็ไม่เคยย่อท้อ ต่อให้บุกน้ำลุยไฟเขาก็ไม่หวั่น เมื่องานที่ทำยากยิ่งกว่านี้หลายร้อยเท่าเขายังสามารถผ่านมาได้ นับประสาอะไรกับแค่การพิชิตหัวใจหนึ่งดวงมีหรือว่าเขาจะทำไม่สำเร็จและยิ่งในเวลานี้ฑิฆัมพรตกเป็นของเขาแบบเต็มตัว มีหรือที่เขาจะปล่อยให้เธอหลุดมือ ไอ้หมอนั่นเป็นแค่คู่หมาย แต่เขาเป็น “ผัว” ให้มันรู้ไปว่าฑิฆัมพรจะเห็นคนอื่นดีกว่าคนที่นอนร่วมเตียงเดียวกัน
“เจ้านายครับ” บอดี้การ์ดใบหน้าเหี้ยมโผล่ใบหน้าผ่านประตูหน้า ร้องถามเจ้านายหนุ่มและเขาก็ต้องตกใจกับสภาพของวิคเตอร์ เมื่อเจ้านายกำลังครวญเพลงทำนองแปลกๆ อยู่ในห้องครัว โดยคาดผ้ากันเปื้อนสีหวานแหว๋วบนร่างกายกำยำในสภาพที่ไม่เคยมีผู้ใดได้พบเห็นมาก่อน
“มีอะไร!” วิคเตอร์ตวาดแก้เก้อ เขาค่อยปลดผ้ากันเปื้อนออกจากตัว ก่อนจะโยนมันไว้บนหมอใบหนึ่งที่ตั้งอยู่บนชั้นวางของ
“เปล่าครับ พวกผมเห็นเงียบไปเลยเข้ามาดู กลัวเจ้านายจะถูกคุณนางฟ้าฆาตกรรมเอาน่ะครับ”
“เห้ย! ไอ้บ้านางฟ้าไม่ได้โหดเหี้ยมปานนั้น เขาสิน่าจะโดนฉันฆาตกรรม แทงยับนอนสลบคาเตียง ป่านนี้ยังไม่ฟื้นเลย” วิคเตอร์คุยโอ่เสียงฟุ้งโดยไม่รู้ว่าด้านหลังของเขาฑิฆัมพรยืนหน้าตึง เธอได้ยินคำบอกกล่าวของวิคเตอร์เข้าพอดี ลมในหูลั่นวิ้ง! เลือดลมวิ่งปรู๊ดปร๊าด เธอกำมือแน่นมองหาอะไรก็ได้ที่มันสามารถปิดปากเปราะๆ ของวิคเตอร์ได้เหมือนปิดสวิตซ์
“โครม!”