“แล้วใครห้ามล่ะคะ”
เธอลูบมือตามโครงหน้าคมสัน ดวงตาปรือหยาดเยิ้มเชิญชวนให้อีกฝ่ายคลั่งไคล้
“แยกขาสิพร”
เขาสั่งเสียงแหบห้าว หญิงสาวยอมแยกขาให้เขาแต่โดยดี ทรงศักดิ์ฉกริมฝีปากที่กลีบพฤกษาสาว ร่างแม่หม้ายสาวคนสวยสะดุ้งสุดตัวเพราะห่างหายจากรสเสน่หามาช้านาน
“อ๊ะ! คุณคะ อืม...”
พรพิมลครางเสียงระงมเมื่อลิ้นหนุ่มเข้ารุกเร้าตวัดเลียขึ้นลงผ่านรอยแยกกลีบดอกกระดังงาแสนสวยอวบอูม
เธอขยับพิงพนักหัวเตียงแยกเรียวขาอวบให้เขาเต็มกำลัง มือนิ่มลูบศีรษะของหนุ่มใหญ่ที่กำลังเพลิดเพลินกับการดูดกลืนเกสรสวาทอย่างหิวโหย
“ชอบไหมพร แบบนี้ ผมรู้ว่าคุณชอบ”
เขาตวัดลิ้นเร่าร้อน อุ้งมือใหญ่กอบกุมหนั่นสะโพกแน่น ขยำหนักๆ จนสาแก่ใจ
“อืม... อ๊าย คุณคะ”
พรพิมลสะบัดหน้าไปมากับรสชาติแปลกใหม่ของเพศรสที่ได้รับจากสามี
เขาร้อนแรงและดิบเถื่อนแต่ถึงอกถึงใจ ทรงศักดิ์กระแทกลิ้นระรัวกลืนกินน้ำหวานจากดอกกระดังงาแสนสวยจนหมดสิ้น ร่างอวบอัดของหม้ายสาวกระตุกร่างติดกันหลายครั้ง หวีดร้องด้วยความสุขกระสันซ่านในรสรักแปลกใหม่ที่ได้รับ
หนุ่มใหญ่ทอดสายตามมองร่างอวบที่ระทวยพิงพนักหัวเตียง กำลังมองเขาด้วยความเสน่หา
“กินผมบ้างสิ”
ทรงศักดิ์ดึงร่างภรรยาขึ้นทาบทับก่อนจะหันศีรษะไปยังกลางร่างของเธอ เธอรับรู้ด้วยประสบการณ์ มือนิ่มลูบไล้ความเป็นชายขึ้นลงเป็นจังหวะ ก่อนจะดูดอมไถลเข้าโพรงปากร้อนเนิบนาบด้วยความชำนิชำนาญ ริมฝีปากบีบรัดทุกการเคลื่อนไหวบนตัวตนร้อนรุ่มจนได้ยินเสียงอีกฝ่ายร้องด้วยความทรมาน
ทรงศักดิ์คำรามเบาๆ ชอบใจในการปรนนิบัติของภรรยา ชายหนุ่มกระแทกสะโพกสอบในโพรงปากอุ่นเร่าร้อน หญิงสาวรับได้ทุกท่วงท่าทุกลีลารัก
เผยอปากปลดปล่อยตัวตนของเขาออกมาเป็นอิสระ เมื่อโดนลิ้นหนาตวัดเลียกลีบกระดังงาสาวไม่หยุดหย่อน
หญิงสาวเสร็จสมอีกครั้งด้วยการหวีดร้องเสียงหวานระงม หนุ่มใหญ่ถอดถอนแก่นกายแข็งร้อนออกห่าง ขึ้นทาบทับร่างอวบอัดแล้วแยกเรียวขาออกจนกว้างพับไปจนถึงเต้าทรวงฝาแฝดที่อวบอัดใหญ่โตทั้งสอง แทรกตัวตนดังเหล็กกล้าเข้าหาไม่ออมมือ
พรพิมลสะดุ้งร้องเสียงหลงด้วยความเสียวซ่านจับใจ เธอรับเขาได้หมดสิ้น
ทรงศักดิ์ใบหน้าเหยเกในความอบอุ่นที่โอบอุ้ม ผ่อนลมหายใจร้อนๆ ออกมาจากปอดหนักหน่วง เมื่อการตอดรัดสัมผัสเป็นจังหวะเร่งให้เขากดสะโพกสอบเข้าหาล้ำลึก
“คุณยอดเยี่ยมมากพร”
เขากระแทกกายเข้าหาไม่ยั้งแรง ตามการเรียกร้องภายในที่บีบรัดเขาไม่หยุดหย่อน พรพิมลลูบมือไปตามสีข้างให้เขาผ่อนแรงบ้าง แต่นั่นยิ่งเป็นการเร้าอารมณ์ให้เขากระทั้นกายหนักขึ้น
เสียงเนื้อกายกระทบกันสนั่นห้องพร้อมจังหวะเข้าออกในโพรงกระดังงาแสนสวยที่รับศึกเน้นหนักล้ำลึกทุกลีลาควบขับของการเคลื่อนไหว
พรพิมลครางไม่เป็นส่ำ ยกสะโพกบดเบียดสนองตอบแรงรักที่ถาโถมใส่เร่าร้อน หนุ่มใหญ่เท้าแขนไปข้างตัวภรรยาเกี่ยวเอาเรียวขาทั้งสองโดยสอดเข้าใต้ข้อพับไปด้วย ทำให้สะโพกผายหนั่นแน่นแทบไม่ติดพื้นเตียง รับแรงกระแทกถาโถมจนสาแก่ใจยิ่ง
ทรงศักดิ์ก้มใบหน้าลงเกลือกลิ้งกับปทุมถันอวบใหญ่ทั้งสอง แก่นกายชายทำงานต่อเนื่อง สะโพกสอบขยับขึ้นลงไม่หยุดพัก เนื้อกายประสานเสียงกับริมฝีปากทั้งสองที่ครางรุนแรงขึ้นด้วยความหฤหรรษ์ เขาส่งเธอไปยังความสุขรุนแรงจนแตกพร่า
พรพิมลหวีดร้องเสียงดัง เตียงกว้างยังคงต้องรับแรงรักจากนายหัวหนุ่มใหญ่อีกหลายนาทีเพราะยังไม่สุขสมตามคนใต้ร่าง
ทรงศักดิ์กระซิบเสียงห้าวแหบ ก่อนที่ขาเพรียวของภรรยาคนสวยจะตวัดกอดรัดแนบเอวหนาของสามี ยกกายขึ้นรับแรงรุกหนักๆ อีกหลายครั้ง
เขาคำรามตามติดเสียงครางโหยของคนใต้ร่าง เหงื่อกาฬไหลซึมไปทั่วทั้งสองร่างที่กอดรัดแนบแน่น
ร่างสูงใหญ่พลิกกายลงจากร่างอวบอัดด้วยความเหนื่อย ลมหายใจหอบๆ ประสานกันอีกไม่กี่นาทีก่อนจะเข้าสู่ภาวะปกติ
พรพิมลลุกจากเตียงกว้างเข้าห้องน้ำทั้งยังเปลือยเปล่า ชายหนุ่มมองตามด้วยสายตาร้อนแรง
ก่อนที่หญิงสาวจะออกมาพร้อมผ้าขนหนูผืนน้อย เธอบรรจงเช็ดร่างกายสามีที่อุดมไปด้วยเหงื่อ ทำให้เขาสบายตัว แล้วจึงทำความสะอาดร่างกายของตัวเองบ้าง เพียงครู่ก็กลับมาที่เตียงกว้าง ทรงศักดิ์อ้าแขนรับร่างอวบอัดที่โถมกายทาบทับมาบนร่างเขาแนบแน่น
“นอนเถอะที่รัก คืนนี้ผมยังจะต่ออีกยกนะ”
เขากระซิบเสียงพร่า พรพิมลหอมแก้มสากเขาเบาๆ เป็นการตอบรับว่าเธอยินดีปรนนิบัติเขาทุกครั้งที่เขาต้องการ
หนุ่มใหญ่ยิ้มน้อยๆ กอดรัดคนในอ้อมแขนด้วยความหวงแหน และเปี่ยมสุขก่อนหลับไปด้วยกันในอีกไม่กี่นาทีเพราะความเหนื่อยจากกิจกรรมรักบนเตียง
หัสดินรู้สึกนอนไม่หลับจึงออกมาเดินรับลมนอกบ้าน ปีนี้เขาเพิ่งเรียนจบม. 6 หลังจากที่บิดาเสียชีวิต ก่อนจะย้ายตามมารดามาอยู่กับบิดาเลี้ยง นับว่าโชคดีที่เขาสามารถสอบเข้ามหาลัยในตัวจังหวัดของที่นี่
บิดาอยากให้เรียนเกษตรเหมือนๆ กับทรงศักดิ์ที่เอ็นดูเขาเหมือนลูกชายไม่ต่างกัน
พลอยชมพูรู้สึกนอนไม่หลับเช่นกัน จึงลงมาเดินเล่นรอบบ้าน อากาศเย็นสบายทำให้เธอผ่อนคลายเล็กน้อย แม้ในใจจะเศร้าหมองร้อนรนเพียงใด เด็กสาวระงับใจเอาไว้จนถึงที่สุด
เธอเห็นลูกติดของแม่เลี้ยงที่เดินอยู่อีกด้านของบ้าน แล้วเกิดความหมั่นไส้ขึ้นมา ดวงตาสวยใสสอดส่ายมองหาหินก้อนเล็กๆ ที่อยู่บริเวณนั้น นำมาถือเอาไว้มั่นแล้วปาใส่หัวของหัสดินแบบเม่นยำ
“โอ๊ย!”
เด็กหนุ่มร้องด้วยความเจ็บ หันมองรอบข้าง แต่ปรากฏว่าไม่เห็นใครอยู่บริเวณนั้น ใครกันแกล้งเขา
พลอยชมพูหัวเราะคิกคักสะใจ เห็นหัสดินมองไปทั่วบริเวณ ก่อนจะปาหินอีกก้อนใส่หัวชายหนุ่ม เมื่อมุมที่เธอยืนอยู่เขาไม่สามารถมองเห็นได้
“โอ๊ย!”
เขาร้องอีกรอบเมื่อรับรู้ว่ามีคนแกล้งเขาแน่นอน หัสดินจึงแสร้งวิ่งหนีไปอีกด้าน พลอยชมพูขมวดคิ้วยุ่งเมื่อเห็นเขาวิ่งหนี ก่อนเบะปากใส่ รู้สึกหมั่นไส้ไม่เลิก
“ไม่แน่จริงนี่นา”
เด็กสาวหัวเราะเมื่อคิดว่าหัสดินกลัวลนลานจนวิ่งหนีไป จึงออกมาจากที่หลบซ่อนตัว
“จับตัวได้แล้ว”
หัสดินรีบตะครุบบุคคลที่ทำร้ายเขาเอาไว้ จนล้มลงไปด้วยกันทั้งคู่ พลอยชมพูตาโตเมื่อโดนจับได้ คราแรกนึกว่าเขาหนีไปแล้วเสียอีก
“น้องบัวแกล้งพี่เหรอคะ รู้ไหมทำตัวแบบนี้ไม่น่ารักเลย”
หัสดินพูดจาไพเราะ แต่ยังตำหนิเธอในความผิดที่ก่อ แม้จะเอ็นดู แต่ผิดก็ต้องว่ากันไปตามผิด
พลอยชมพูรู้สึกแปลกๆ เธอไม่เคยได้ยินผู้ชายพูดจาคะขาแบบนี้มาก่อนเลย แม้แต่บิดาก็ตามที ผู้ชายอะไรพูดคะขาเหมือนผู้หญิง หรือเขาจะไม่แมนเต็มร้อย แล้วยังคำถามไร้แววโกรธเคืองนั้นอีก ทำให้เด็กสาวอ้าปากเหวอ
เธอเพิ่งจะสังเกตใบหน้าลูกติดของแม่เลี้ยงระยะกระชั้นชิดก็ครานี้เอง แสงไฟจากตัวบ้านทำให้เธอมองเห็นเขาชัดเจน เขาดูหล่อเหลา ผิวขาวจัดเพราะเป็นคนทางเหนือ ใบหน้าคมคาย คิ้วเข้มคมคายดกดำตรงหัวคิ้วเห็นชัดเจน จมูกเป็นสัน ใบหน้าเรียว คางผ่าตรงกลาง ริมฝีปากหยักลึกเหมือนคันศร แถมยังมีลักยิ้มเวลายิ้มอีกด้วย
“ปล่อย ใครเป็นน้องนาย”
พลอยชมพูผลักไสอย่างรังเกียจ วูบหนึ่งหัสดินรู้สึกเสียใจ ก่อนจะปรับใบหน้าให้เรียบเฉย เขาเจียมเนื้อเจียมตัวดีว่าเป็นผู้มาอาศัยเท่านั้น
... แต่เขาเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง บิดาเคยสอนเสมอว่าคนเรามีศักดิ์ศรีอย่าให้คนอื่นดูหมิ่นเหยียดหยาม เรามีมือมีเท้า มีความสามารถทำหลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่างได้เหมือนคนอื่นๆ หากเราตั้งใจและมุ่งมั่น