“ส่วนแก มากับฉัน” เขากวักมือเรียกเธอที่กำลังหันมามองอย่างสงสัย
“ไปไหนครับ ผมมีงานต้องทำ คงไปไหนไม่ได้” ด้วยยังเคืองเรื่องเมื่อเช้าไม่หาย เรื่องอะไรจะยอมไปกับเขาง่ายๆ อีก
“ก็ไปเดินดูรอบๆ เรือนี่ไง เมื่อเช้าเรายังเดินกันไม่ถึงไหนเลย” อเล็กซิส
บอกหน้าตาเฉย ทำเป็นจำเรื่องเมื่อเช้าไม่ได้ ต่างกับแก้วมุกดาที่กำลังเม้มปากเพราะจำได้ขึ้นใจ
“คงไม่ได้หรอกครับ ผมไม่อยากให้ใครมองว่าแอบอู้งานอีก เป็นหัวหน้าก็ต้องทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูกน้อง จริงไหมครับ” เธอเอาคำพูดของเขามาประชดเขากลับไปบ้าง
“นี่อย่าบอกนะว่าแกยังงอนฉันเรื่องเมื่อเช้าอยู่” ‘ก็ใครจะไปลืมง่ายอย่างนายล่ะ’ เธอตอบกลับในใจทันที
“เปล่า ไม่ได้งอน ผมแค่ไม่อยากให้ใครมองไม่ดีก็เท่านั้น” เธอปฏิเสธหน้าบูดบึ้ง
“เปล่าอะไร ก็หน้าแกมันฟ้องว่ายังงอนฉันอยู่ เอาเป็นว่าฉันขอโทษก็แล้วกันที่อารมณ์เสียใส่แกเมื่อเช้านี้ แต่แกก็เห็นนี่หว่าว่าฉันถูกกวนตี..น เป็นใครก็ต้องหงุดหงิดเป็นธรรมดา” เขายอมขอโทษพร้อมกับหาข้อแก้ตัวให้ตัวเองไปด้วย
“ช่างเถอะครับ เรื่องมันผ่านไปแล้ว อีกอย่างที่คุณพูดมันก็เรื่องจริง เวลางาน ผมก็ต้องทำงาน”
“สรุปว่าแกยังไม่หายโกรธ ทำไมเป็นผู้ชายใจน้อยแบบนี้วะ” อเล็กซิสเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาอีกเมื่อไม่ได้ดั่งใจตัวเอง
“เปล่านะครับ ผมไม่ได้โกรธ ผมแค่อธิบายเหตุผลให้ฟังว่าเวลางานผมก็ควรจะทำงาน ไม่ใช่ออกไปเดินเตร่แบบนั้น” แก้วมุกดาพยายามบอกเหตุผล ด้วยหวังว่ามันจะทำให้อีกฝ่ายเข้าใจอะไรๆ ได้ง่ายขึ้น
“แต่ทั้งหมดมันเป็นเพราะฉัน ฉันเป็นคนชวนแก ถ้าแกผิดฉันก็ต้องผิดเหมือนกัน” อเล็กซิสยังรั้นไม่เลิก
“เฮ้อ! เอาเป็นว่าเราปล่อยผ่านเรื่องนั้นให้เป็นอดีต แล้วมาเริ่มต้นทำปัจจุบันให้ถูกต้องดีกว่านะครับ จะได้ไม่ต้องหาว่าใครผิดใครถูก เอาเป็นว่าต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง แล้วตอนนี้หน้าที่ของผมก็คือทำงาน ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ” เธอพูดชัดเจนขนาดนี้ ก็ได้แต่หวังว่าเขาจะเข้าใจ
“ก็ดี งั้นไปกันเถอะ” อเล็กซิสพูดพลางกึ่งลากกึ่งจูงให้เธอเดินตามเขาออกไปด้วย
“เดี๋ยวครับ คุณอเล็กซ์จะพาผมไปไหน” เธอพยายามรั้งแขนตัวเองเอาไว้ไม่ให้ถูกเขาลากจูงไปได้ง่ายๆ แต่ตัวเล็กบอบบางอย่างเธอ มีหรือจะสู้แรงชายตัวใหญ่โตอย่างเขาได้
“ถามได้ ก็ไปเดินดูรอบๆ เรือไง” ‘อ๊าย! นี่ตกลงที่ฉันพูดกับนายไปทั้งหมด นายไม่เข้าใจเลยใช่ไหมเนี่ย’ เธอแทบร้องไห้ เมื่อคนที่ทำท่าว่าจะเข้าใจสิ่งที่เธอพยายามสื่อ สุดท้ายกลับหน้ามึนไม่ยอมเข้าใจอะไรเลย และในที่สุดเธอก็แพ้เขาอีกจนได้
“อีวาน แกคิดเหมือนฉันรึเปล่าวะ” คล้อยหลังอเล็กซิสกับแก้วมุกดาไม่เท่าไหร่ ไซมอนก็หันมาปรึกษากับเพื่อนด้วยสีหน้าหนักใจ
“คิดอะไร” อีวานจึงถามกลับไป ด้วยตัวเองยังไม่ได้คิดอะไร เพราะมัวแต่ยุ่งอยู่กับเอกสารตรงหน้า
“ก็คิดว่าจริงๆ แล้วคุณอเล็กซ์น่ะ เขาเป็นพวกลักเพศไงล่ะ” ไซมอนบอกตามที่คิด หลังจากลอบสังเกตว่าอเล็กซิสมักจะเอาตัวเองเข้ามาวอแวกับแก้วมุกดาแทบจะตลอดเวลา ถ้ารู้ว่าแก้วมุกดาเป็นผู้หญิงมันก็คงไม่แปลกอะไร แต่นี่เธออยู่คราบของผู้ชาย ทำให้ไซมอนคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากจะคิดว่าอเล็กซิสเป็นพวกชอบกินถั่ว
“อืม” อีวานครางออกมาสั้นๆ
“แกก็คิดเหมือนฉันใช่ไหมวะ” ไซมอนยิ้มดีใจ ที่เพื่อนคิดเห็นตรงกัน
“เปล่า ฉันแค่กำลังคิดว่าถ้าคุณอเล็กซ์จับแกโยนลงไปในทะเล แกจะสามารถมีชีวิตได้สักกี่นาทีต่างหาก” พูดจบอีวานก็เดินออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉยดังเดิม ปล่อยให้อีกฝ่ายนั่งคิดทบทวนประโยคเมื่อครู่ตามลำพัง
“เฮ้ย!” เหมือนไซมอนจะเพิ่งคิดได้ แต่ครั้นจะโวยวายก็สายไป เมื่ออีวานเดินออกไปไกลแล้ว
“นี่ห้องฟิตเนส มีเครื่องออกกำลังกายให้เลือกเล่นตามใจชอบ มีเทรนเนอร์คอยดูแลด้วยนะ แต่อย่างแกคงไม่ต้อง เพราะแกมีเทรนเนอร์กิตติมศักดิ์อย่างฉันแล้ว ฉันจะเทรนแกให้นมแกแข็งปั๊กเลยคอยดู” อเล็กซิสคุยโว ในขณะที่แก้วมุกดากลับทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“ทำหน้าแบบนี้ คงซาบซึ้งที่ฉันดีกับแกมากสินะ” แก้วมุกดาได้แต่เงยหน้ามองเขาด้วยความทดท้อใจ ‘หน้าฉันแสดงออกชัดเจนขนาดนี้ ยังมีหน้าเข้าใจเป็นอื่นได้ ไอ้ปิศาจกามโรค’
“ผมว่าเราไปดูที่อื่นกันต่อเถอะ ยังมีอีกหลายที่ไม่ใช่เหรอครับ เสร็จแล้วผมจะได้รีบกลับไปทำงานสักที” เมื่อไม่สามารถพูดความในใจออกมาได้ แก้วมุกดาจึงเลือกที่จะหาหนทางให้ตัวเองหลุดพ้นจากเขาให้เร็วที่สุด
“ไปสิ ฉันจะพาแกไปดูสระว่ายน้ำที่สวยที่สุด ฮ่าๆๆ เพราะว่าฉันเป็นคนออกแบบมันเองกับมือ” ‘เฮอะ! หลงตัวเองอีกตามเคย’ แก้วมุกดาเบะปาก แต่ก็ยอมเดินตามเขาไปแต่โดยดี แล้วก็ต้องยอมรับว่ามันสวยอย่างที่เขาคุยเอาไว้จริงๆ
“ไง ถึงกับตะลึงเลย มันสวยอย่างที่ฉันบอกใช่ไหมล่ะ สนใจจะลงไปว่ายน้ำสักหน่อยไหม ที่นี่มีสระน้ำวนด้วยนะ แช่แล้วสบายอย่างกับอยู่ในอ่างจากุซซี่เลยนะ ไม่เชื่อก็ลองถามสาวๆ พวกนั้นดู” พูดยังไม่ทันขาดคำ สาวๆ พวกนั้นก็กรูกันเข้ามาอย่างกับเจอสินค้าลดล้างสต๊อก จนแก้วมุกดาตั้งตัวแทบไม่ทัน
“กรี๊ด...! ดาลิงค์ ฮันนี่ เบบี๋ คุณหายไปไหนมาคะ รู้ไหมว่าพวกเราคิดถึง มามะมาให้ลงโทษซะดีๆ โทษฐานที่ปล่อยห้พวกเราเหงา” สาวๆ มากหน้าหลายตาที่แห่กันเข้ามาออดอ้อนคลอเคลียพยายามทำคะแนนให้หนุ่มเนื้อหอมอย่าง
อเล็กซิสสนใจตัวเองมากที่สุด จนในที่สุดคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเพลย์บอยตัวพ่อก็ลงไปลอยคออยู่ในสระว่ายน้ำที่ตัวเองเป็นคนออกแบบท่ามกลางสาวบิกินีสุดเซ็กส์ซี่กว่าสิบคน
“กรี๊ด...! ฮ่าๆๆ” เสียงร้องกรี๊ดๆ ของบรรดาสาวๆ บวกกับเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของเขา ทำเอาคนที่ถูกตัดออกจากวงโคจรอย่างแก้วมุกดาถึงกับหน้าเบ้ ไม่เข้าใจว่าตัวเองมายืนทำอะไรตรงนี้ กระทั่งหันไปเจอใครคนหนึ่งเข้าพอดี
“คุณเดนิส” เธอเผลอเรียกชื่ออีกฝ่ายซะเสียงดังด้วยความดีใจและลืมตัว
“เราเคยรู้จักกันเหรอ” เดนิสชะงักและหันมาถามด้วยนึกไม่ออกว่าเคยเจอเธอที่ไหน ทำให้แก้วมุกดานึกขึ้นมาได้ว่าตนเผลอลืมตัวอีกแล้ว จึงได้แต่ทำหน้าปูเลี่ยน พยายามหาทางออกให้ตัวเองโดยเร็วที่สุด
“เอ้อ! ก็เมื่อเช้าไงครับ เราเจอกันแล้วครั้งหนึ่ง ผมดราโก้จำได้ไหมครับ” เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้า เธอจึงยกขึ้นมาเป็นข้ออ้างพร้อมกับแนะนำตัวเองไปด้วยในคราวเดียวกัน เธอยื่นมือไปข้างหน้าหวังจะจับมือทักทายเขาตามทำเนียมสากล
“อ้อ! คู่ขาของไอ้อเล็กซ์สินะ ฉันจำได้แล้ว” มือที่ยื่นออกมาก่อนหน้าพลันร่วงลงไปแนบกับตัวทันทีที่ได้ยินประโยคนี้
“เอ่อ คุณคงเข้าใจอะไรผิดแล้วล่ะครับ ที่คุณเห็นผมกับคุณอเล็กซ์เราเอ่อสนิทกันเมื่อเช้านี้ ความจริงเราเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องเท่านั้น ไม่ใช่คู่เอ่อ...รักร่วมเพศกันอย่างที่คุณเข้าใจ คงเป็นเพราะความเป็นกันเองของคุณอเล็กซ์กระมังที่ทำให้คุณเข้าใจแบบนั้น ที่สำคัญผมเองก็ไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้นครับ” แก้วมุกดากระดากปากเหลือเกินกับการต้องปฏิเสธเขาไปแบบนั้น
“ลูกน้อง? อย่างนายเนี่ยนะที่อเล็กซ์มันจะจ้างมาเป็นบอดีการ์ด” เดนิสถามพลางมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ราวกับไม่อยากจะเชื่อว่ารูปร่างบอบบางแบบนี้จะมีความสามารถคุ้มครองชีวิตใครได้
“เปล่าครับ ผมไม่ใช่บอดีการ์ด ผมเป็นแค่ผู้จัดการคาสิโนที่ถูกส่งตัวมาจากเพื่อนของคุณอเล็กซ์ก็เท่านั้นครับ” เดนิสได้ยินแบบนั้นถึงกับยิ้มมุมปาก เปลี่ยนท่าทีไปจากเดิม จนเธอตั้งรับแทบไม่ทัน
“ยินดีที่ได้รู้จักดราโก” คราวนี้เป็นเดนิสที่ยื่นมือมาทักทาย ถึงแม้จะงงอยู่บ้างกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขา แต่เธอก็ยื่นมือไปด้วยความเต็มใจ