“พูดยาวๆ กับเขาก็เป็นเนอะ” แก้วมุกดาแอบหันไปกระซิบกับไซมอนสองคน ซึ่งรายนั้นก็หัวเราะชอบใจใหญ่
“ไปกันเถอะ” อีวานหันมาบอกทั้งสองคนให้เดินตามไปด้วยกัน โดยไม่ลืมที่จะให้คนที่ถูกอุปโลกน์ให้เป็นหัวหน้า เป็นฝ่ายเดินนำตามวิถีแห่งผู้นำที่ดี
“เอ้า! อีวานมากันแล้วเหรอ มาเร็วกว่าที่คิดนะ ว่าแต่ไหนล่ะคนที่คุณเจฟส่งมา ฉันจะได้แจกแจงรายละเอียดต่างๆ ให้ฟัง” ชาเกร์ที่รับหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยบนเรือลำนี้ เดินเข้ามาทักทั้งสามคนที่เพิ่งเดินเข้ามา ทำเอาคนที่เป็นหัวหน้ากลุ่มถึงกับยืนตะลึง รู้สึกเหมือนมีอะไรมาฟาดบนหัวอย่างจัง ด้วยคนที่เข้ามาทักเธอนั้นเขาคือชาเกร์คนสนิทของอเล็กซิส ผู้ชายที่เป็นศัตรูตลอดกาลของเธอ
‘เฮ้ย! อย่าบอกนะว่าเรือนี่เป็นเรือของไอ้ป๋าหื่นนั่น ไม่หรอกมั้ง เราคงไม่ซวยขนาดนั้นหรอกมั้ง โอ๊ย! ขออย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย สาธุ!’ เธอภาวนาในใจ ก่อนจะหันไปถามคนข้างๆ ให้แน่ใจ
“ไซมอน เจ้าของเรือลำนี้ชื่ออะไร”
“นั่นไงครับ เจ้าของเรือเดินมาโน่นแล้วครับ” เธอหันไปมองตามที่ไซมอนบอก แล้วก็ต้องชะงักเรียกว่าชาไปทั้งตัวเลยถึงจะถูก เมื่อคนคนนั้นดันเป็นคนเดียวกับคนที่เธอกลัว ใช่! เขาคืออเล็กซิสผู้ชายที่หื่นแล้วก็ยียวนกวนประสาทคนนั้นไม่ผิดแน่ ที่สำคัญเขาอยู่ตรงหน้าเธอแล้วด้วย
“เอ่อ หัวหน้าครับๆๆ” ไซมอนต้องเรียกอยู่หลายครั้งกว่าที่แก้วมุกดาจะรู้ตัว “นี่คุณอเล็กซิส เจ้าของเรือที่หัวหน้าถามถึงครับ” แก้วมุกดายังคงชะงักค้างตาเลื่อนลอย
“สวัสดีครับคุณอเล็กซ์ นี่ครับของที่นายฝากมาให้” อีวานบอกพร้อมกับยื่นของบางอย่างให้อเล็กซิสไป
“แล้วไหนล่ะคนที่เจ้านายพวกแกส่งมา” หลังจากที่เปิดของในกล่องที่อีวานยื่นมาให้ อเล็กซิสถึงกับยิ้มก่อนจะหันไปถามคนส่งสารอย่างอารมณ์ดี
“นี่คือคุณดราโก คนที่นายส่งมาครับ” อีวานซึ่งเป็นคนที่อเล็กซิสและชาเกร์รู้จักคุ้นเคยดีเป็นคนออกหน้าแนะนำอีกตามเคย
“ฮะ! นี่เหรอหัวหน้ากาสิโนคนใหม่ จะไหวเหรอวะ” ชาเกร์มองสำรวจหัวหน้าคนใหม่แล้วก็อดถามไม่ได้
“การจะตัดสินอะไรใคร ไม่ควรดูแค่รูปลักษณ์ภายนอก เพราะถึงผมจะไม่สูงล่ำกำยำอย่างพวกคุณ แต่ผมก็คงมีดีอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นคุณจิโอวาโน่คงไม่ส่งผมมา” คำพูดดูแคลนของชาเกร์ทำคนที่อึ้งหายอึ้ง พลันหันมาตอบโต้ด้วยความโมโห
“สวัสดีครับ ผมดราโก ยินดีที่ได้ร่วมงานกันครับ” แก้วมุกดาพยายามไม่ต่อความยาวสาวความยืด ทั้งที่ในใจอยากจะเปิดศึกเสียเต็มประดา
“อืม! ฉันเชื่อว่ะว่าแกไม่ใช่เด็กเส้น เพราะคนอย่างไอ้เจฟมันไม่ชอบเล่นเส้น แต่...มันชอบใช้เงินฟาดหัว แล้วแกล่ะชอบอะไร เส้นหรือว่าเงิน” อเล็กซิสยังคงยิ้มยียวนตามนิสัยของตัวเอง แต่ก็ทำเอาคนฟังถึงกับสะอึกไปเหมือนกัน
“ไม่มีใครไม่ชอบเงินหรอกครับ เพราะที่เราทำงานกันทุกวันนี้ก็เพื่อเงิน หรือแม้แต่คุณเองที่ทำธุรกิจแบบนี้ก็เพื่อ...เงินไม่ใช่เหรอครับ” หลังจากตั้งสติได้เธอก็ตอกกลับไป และด้วยความกล้าบ้าบิ่นกล้ายอกย้อนเจ้านายแบบนั้น ทำให้ทั้งอีวานและไซมอนต่างมองหน้ากันเลิกลั่ก ด้วยกลัวว่าจะโดนไล่ออกตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มงาน แต่มันกลับตรงกันข้ามกับที่สองคนนี้คิดโดยสิ้นเชิง
“ฮ่าๆๆ มันต้องอย่างนี้สิวะ สมแล้วที่ไอ้เจฟเลือกแก ตรงดีว่ะ ฉันชอบ” อเล็กซิสเข้าไปตบบ่าบอบบางของแก้วมุกดาหนักๆ สองสามที ตามมาด้วยการกอดคอ ทำเอาทุกคนถึงกับอึ้ง โดยเฉพาะคนที่ถูกกอดอย่างเธอกำลังอยากจะร้องไห้เต็มกลืน ‘นับจากวินาทีนี้ไป ชีวิตฉันคงไม่เหมือนเดิมอีกแล้วสินะ ฮือ! นี่มันหายนะชัดๆ’
“เอ้อ! ครับ งั้นผมขอตัวเอาของไปเก็บก่อนนะครับ จะได้ถือโอกาสไปดูให้รอบๆ ด้วยเลย” แก้วมุกดาพยายามหาทางปลีกตัวออกมา แต่มันก็ไม่ง่ายเลย
“เฮ้ย! จะรีบไปไหนล่ะ อยู่คุยกันกอนสิวะ นานๆ จะเจอคนคุยถูกคอแบบนี้สักที ดีไม่ดีถ้าคุยกันถูกคอมากๆ ฉันอาจจะเลื่อนตำแหน่งให้แกมาเป็นคู่ขา เอ๊ย! คูหูฉันแทนก็ได้นะเว้ย” ‘หืม! ไอ้หื่น เจอกันวันวันแรกก็ลามกเลย’ แก้วมุกดาถึงกับเม้มปากอยากจะเจริญพรอีกฝ่ายไปงามๆ แต่กลับทำได้เพียงตอบออกไปอย่างนอบน้อม
“มันจะเป็นการไม่สมควรเปล่าๆ ครับ(เพราะฉันรังเกียจย่ะ) แต่ยังไงผมก็ต้องขอบคุณคุณอเล็กซ์มากนะครับที่เมตตาผม”
“เฮ้ย! อย่าคิดมากสิวะ ฉันไม่ใช่คนถือตัวสักหน่อย ไม่เคยแบ่งชนชั้นวรรณะเลยสักที”
‘แต่ฉันถือโว้ย โดยเฉพาะกับผู้ชายอย่างนาย’ แก้วมุกดาต่อให้ในใจ
“อืม! จะว่าไปแกก็หน้าตาไม่เลวนี่ ว่าแต่ทำไมต้องไว้หนวดด้วยวะ ดูแล้วมันขัดลูกตายังไงก็ไม่รู้ นี่ถ้าได้จับแกโกนหนวดโกนเคราแล้วก็ตัดผมซะใหม่ เฮ้ย! นี่มัน” แก้วมุกดาสะดุ้งหน้าเสีย
“เอ่อ! คือ” เธออึกอักพยายามหาเหตุผล แต่ยังไม่ทันจะได้พูดต่อ เขาก็แทรกขึ้นมา
“นี่มันหน้ากะเทยชัดๆ หน้าหวานๆ แบบนี้เป็นนางโชว์ได้สบายๆ เลยนี่หว่า สนไหมวะ” อเล็กซิสยื่นข้อเสนอทันทีในขณะที่เธอยังตกใจอย่างต่อเนื่อง
“ฮะ! ว่าไงนะ” ไม่ใช่แค่แก้วมุกดาแต่ยังมีอีวานกับไซมอนด้วยที่ตกใจไม่แพ้กัน แล้วยังอุทานออกมาพร้อมๆ กัน ด้วยตอนแรกคิดว่าจะถูกจับได้ แต่ทำไปทำมากลับเป็นคนละเรื่องเดียวกันซะอย่างนั้น
“หุ่นแบบนี้หน้าแบบนี้ ถ้าลองเอาไอ้หนวดรุงรังนั่นออก ฉันว่าหน้าแกต้องหวานมากแน่ๆ จับแต่งโน่นนิดเสริมนี่หน่อยแล้วไปเต่นจ้ำบ๊ะ รับรองแขกติดตรึม งานสบาย เงินก็ดี เผลอๆ ได้มากกว่าที่ไอ้เจฟมันจ้างแกอีกนะเว้ย ว่าไงสนไหมวะ ฉันสนับสนุนเต็มที่ ใครมีปัญหาฉันเคลียร์ให้” แก้วมุกดาได้ฟังถึงกับกัดฟันกรอด อยากจะประทับรอยมือลงบนหน้าหล่อๆ นั่นสักทีสองที ‘ปัญหาน่ะมีแน่ แต่เป็นฉันกับนายนี่แหละ ไอ้คนจิตอกุศล ฮึ่ย!’
“ไซมอน ถ้าฉันชกปากหมอนี่สักทีสองที นายว่ามันจะเป็นยังไง” แก้วมุกดาหันไปกระซิบถามไซมอนที่ยืนอยู่ข้างๆ
“เอ่อ! น่าจะมีอยู่สองกรณีครับ หัวหน้าเจ็บมือ กับคุณอเล็กซ์เจ็บปาก” คำตอบที่ไม่ช่วยอะไรของไซมอนพาให้แก้วมุกดาต้องหันไปมองตาขวาง
“เฮ้ย! ว่าไงวะ สนใจรึเปล่า ถ้าสนเดี๋ยวฉันจะคุยกับเจ้านายแกเอง ส่วนหน้าที่ของแก ฉันจะหาคนมาทำแทนให้” อเล็กซิสคาดคั้นเอาคำตอบด้วยสีหน้าไม่พอใจ ที่อีกฝ่ายปล่อยให้เขาต้องรอนาน
“ขอโทษครับ แต่ผมคงไม่เหมาะกับงานแบบนั้น ถ้ายังไงผมขอตัวก่อนนะครับ” แก้วมุกดากัดฟันบอก เพื่อให้ตัวเองออกไปจากตรงนี้โดยเร็วที่สุด ก่อนที่จะทนไม่ไหวชกหน้าเขาไปจริงๆ แต่เขาก็ยังรั้นตื๊อเธอไม่เลิก
“เฮ้ย! อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจสิวะ ลองเก็บเอาไปคิดก่อน ส่วนเรื่องค่าตอบแทนถ้ามันยังไม่พอ ฉันเพิ่มให้แกเป็นสองเท่าที่ไอ้เจฟมันให้แกเลยเอ้า” อเล็กซิสทำตัวเป็นพ่อบุญทุ่มเอาเรื่องผลประโยชน์เข้าสู้
“เชิญคุณอเล็กซ์ไปหาที่อื่นเถอะ ผมไม่ถนัด ขอตัวนะครับ ช่วยหลีกทางให้ผมด้วย” แก้วมุกดาบอกอย่างพยายามข่มอารมณ์อย่างยิ่งยวด
“เดี๋ยว” แต่เขาก็มิได้นำพา กลับยังรั้งเธอเอาไว้ ทำให้ขีดความอดทนของเธอหมดลงในที่สุด แต่ยังไม่ทันที่จะได้อาละวาดอย่างที่ใจคิด ก็ถูกเขาแทรกขึ้นมาอีก
“ฉันว่าฉันคุ้นหน้าแกยังไงก็ไม่รู้ว่ะ เหมือนเราเคยเจอกันที่ไหนสักที่ แต่คิดไม่ออกว่ามันที่ไหน แกว่าเราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนรึเปล่าวะ” เท่านั้นแหละ คนที่ตั้งใจจะอาละวาดให้ถึงที่สุดถึงกับชะงักหน้าซีดเผือด
“เอ่อ! ไม่เคยครับ เราไม่เคยเจอกัน ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวนะครับ” แก้วมุกดาหลีกเลี่ยงด้วยการตัดบท
“แต่ฉันว่าฉันต้องเคยเจอแกที่ไหนสักที่แน่ๆ แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก” อเล็กซิสทำท่าเหมือนคนกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก ส่งผลให้คนมีชนักติดหลังอย่างแก้วมุกดาและผู้ช่วยทั้งสองต่างพากันเหงื่อตกไปตามๆ กัน
“หัวหน้าครับ นายส่งข้อความมา บอกให้หัวหน้าติดต่อกลับไปด่วนครับ” โชคดีที่คนหัวไวอย่างไซมอนคิดหาทางออกได้ทันเวลา พอให้แก้วมุกดาได้หายใจทั่วท้องขึ้นมาบ้าง หลังจากที่ตกอยู่ในภาวะกดดันนานสองนาน
“’งั้นผมขอตัวไปโทรหานายก่อนนะครับ ให้รอนานเดี๋ยวนายจะอารมณ์เสีย” แก้วมุกดาไม่รอคำตอบ ค้อมศีรษะได้ก็รีบเผ่นทันที ไม่วายหันมาส่งซิกให้ผู้ช่วยทั้งสองเดินตามออกไปด้วย
“โอย! นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว เกือบแย่เหมือนกันนะเนี่ย เพราะตะหื่นนั่นคนเดียวแท้ๆ เลย ขอบใจมากนะไซมอน” ทันทีที่หลบฉากออกมาได้ แก้วมุกดาก็บ่นอุบ แต่ก็ไม่ลืมหันไปขอบคุณคนหัวใสอย่างไซมอนด้วย
“ไม่เป็นไรครับหัวหน้า ถือว่าช่วยๆ กัน” ไซมอนยักไหล่บอกด้วยอิริยาบถสบายๆ ต่างกับอีวานที่ยังคงอ่านสีหน้าไม่ออกอีกตามเคย