“แต่ฉันเกรงใจพี่เขานี่ เงินไม่ใช่น้อยๆ เลยนะหยี ที่สำคัญฉันก็ไม่กล้าพูดด้วย มันกระดากยังไงก็ไม่รู้ที่จะต้องบากหน้าไปขอเงินเขาแบบนั้น เอาจริงๆ เขากับฉันเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน” แก้วมุกดาบอกเสียงอ่อย
“เป็นสิ เป็นน้องสาวไง” สุดที่รักเถียงทันควัน
“แค่น้องบุญธรรม มันไม่คุ้มสักนิดที่เขาจะต้องมาเสียเงินมากมายแบบนั้นให้เรา อีกอย่างเขาจะคิดว่าฉันเป็นคนยังไง ไม่เห็นฉันเป็นพวกเห็นแก่เงินไปเลยรึไง” แก้วมุกดาอดคิดมากไม่ได้
“งั้นแกก็เลือกเอาแล้วกัน ระหว่างศักดิ์ศรีที่แกภูมิใจนักหนากับอนาคตเด็กๆ ทุกคนที่นี่ อย่างไหนที่สำคัญและมีค่ากับแกมากที่กว่ากัน คิดให้ดีๆ นะแก้ว เวลามันก็เหมือนสายน้ำนั่นแหละ เมื่อมันผ่านไปแล้ว มันก็ย้อนกลับมาไม่ได้อีก อนาคตของน้องๆ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแกแล้วนะ” สุดที่รักเองก็รู้ดีว่าเพื่อนรู้สึกยังไง แต่ก็ยังพยายามคะยั้นคะยอด้วยผูกพันกับทุกคนที่นี่ด้วยเหมือนกัน
“แต่” แก้วมุกดาทำสีหน้าลำบากใจ
“ไม่ต้องต่งต้องแต่แล้ว ตอนนี้แกต้องลืมเรื่องทุกอย่าง สนใจแค่เรื่องทุกคนที่นี่ก็พอ แล้วมาช่วยกันคิดหาคำพูดดีๆ ที่ไม่น่าเกลียดจนเกินไป เดี๋ยวฉันจะช่วยพูดด้วยอีกคน โอเคไหม” สุดที่รักรีบเสนอตัวด้วยอยากให้เพื่อนยอมตกลง
“อืม! โอเคก็ได้ แต่มันจะดีเหรอตอนนี้พี่ไอด้าเขาท้องอยู่นะ” เกือบจะดีอยู่แล้วเชียว ถ้าแม่คุณไม่ลังเลขึ้นมาอีก
“โอเคแล้ว แกจะมีแต่อีกทำไมเนี่ย ไม่รู้แหละยังไงแกก็ต้องโทรหาพี่ไอด้า เรื่องอื่นเอาไว้ค่อยว่ากันอีกที เอ้านี่เอาไป” สุดที่รักรีบยัดมือถือใส่มือเพื่อน ในขณะที่แก้วมุกดาก็รับโทรศัพท์มือถือมากุมเอาไว้ด้วยสีหน้าลำบากใจ กระทั่งในที่สุดก็ตัดสินใจโทรท่ามกลางความลุ้นระทึกของสุดที่รัก แต่เรื่องมันก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อคนที่รับโทรศัพท์กลับไม่ใช่พี่สาวบุญธรรมอย่างไอรดา แต่เป็นจิโอวาโน่สามีของเธอ แต่กระนั้นแล้วในเมื่อเธอตัดสินใจเด็ดขาดเรื่องที่จะขอความช่วยเหลือ เธอก็จะถอยอีกไม่ได้ แก้วมุกดาตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้จิโอวาโน่ฟัง ด้วยเหตุผลที่ฝ่ายนั้นอ้างมาว่ามีอะไรให้ปรึกษาเขาได้เลย เพราะไม่อยากให้ภรรยาที่กำลังท้องอยู่ตอนนี้ต้องคิดมากเรื่องอะไรทั้งสิ้น
“อืม! เท่าที่ฟังมา เงินมันก็ไม่ใช่น้อยๆ เหมือนกันนะ แต่ถ้าจะให้พี่นิ่งดูดายโดยไม่ช่วยเราเลยพี่ก็ทำไม่ได้เหมือนกัน อืม เราคิดว่าพี่ควรจะทำยังไงดีล่ะแก้วตา” จิโอวาโน่ย้อนถามกลับมา
“เอ่อ! คือ เอ่อ แก้วก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ” แก้วมุกดาอึกอัก ด้วยไม่รู้จะตอบว่าอะไร
“แก้ว นี่แกจะบ้ารึไง ตอบไปแบบนั้นได้ยังไง เดี๋ยวเขาก็ไม่ช่วยหรอก” สุดที่รักที่ยืนฟังอยู่ข้างๆ รีบกระซิบบอกเพื่อนเสียงเขียว จนแก้วมุกดาต้องรีบเปลี่ยนคำตอบในที่สุด
“เอ่อ แล้วแต่พี่เจฟจะกรุณาค่ะ โอ๊ย!” พูดยังไม่ทันขาดคำเธอก็ร้องเสียงหลง เพราะคำตอบที่ไม่ถูกใจทำให้สุดที่รักหยิกหมับเข้าให้ ทำให้เธอต้องรีบเปลี่ยนคำตอบ
“เอ่อ คือแก้วไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้วจริงๆ ค่ะ คิดว่าสงสารเด็กๆ ที่กำลังจะไร้ที่อยู่นะคะพี่เจฟ ช่วยพวกเขาสักครั้ง พี่เจฟจะให้แก้วทำอะไรแก้วยอมทุกอย่าง แก้วรู้ว่าเงินมากมายขนาดนั้นให้แก้วหาทั้งชาติก็คงหามาใช้พี่ไม่หมด แต่แก้วจะพยายามค่ะ”
“จริงอย่างที่เราว่า เงินตั้งมากมายขนาดนั้นเธอคงหามาคืนพี่ไม่ได้ แล้วพี่ก็เป็นนักธุรกิจ” จิโอวาโน่พูดตามประสานักธุรกิจที่ต้องคำนึงเรื่องผลประโยชน์และความคุ้มค่าเป็นที่ตั้ง
“เอ่อ” แก้วมุกดาถึงกับพูดไม่ออก
“งั้นเอางี้สิ เธอก็มาทำงานกับพี่ พี่จะได้ไม่ต้องรู้สึกว่าพี่จ่ายเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ หวังว่าเธอคงเข้าใจหลักการคิดแบบนักธุรกิจอย่างพี่นะ ถ้าเงินที่พี่จ่ายไปแลกกับการได้พนักงานอย่างเธอมาทำงานด้วย มันก็ค่อยคุ้มค่ากับการลงทุนของพี่หน่อย ทีนี้ก็อยู่ที่ว่าเธอจะยอมร่วมงานกับพี่รึเปล่า” จิโอวาโน่ยื่นข้อเสนอที่แก้วมุกดาดูยังไงเขาก็ยังเสียเปรียบอยู่ดี
“เรื่องงานไม่ใช่ปัญหาหรอกค่ะ แก้วเต็มใจที่จะทำงานให้พี่อยู่แล้ว แต่ที่แก้วไม่เข้าใจคือ ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ไม่ได้เก่งกาจอะไรอย่างแก้วจะไปช่วยงานอะไรพี่ได้ บอกตามตรงว่าแก้วยังไม่เห็นความคุ้มค่ากับเงินที่พี่ต้องเสียเลยสักนิด” แก้วมุกดาอดที่จะถามไม่ได้ ถึงแม้ว่าเรื่องนี้เธอจะเป็นฝ่ายได้ประโยชน์แบบกำไรเห็นๆ ก็ตามเถอะ
“หรือเธอมีข้อเสนอที่ดีกว่านี้ล่ะ” จิโอวาโน่ย้อนถามอีกครั้ง
“เอ่อ” และก็เป็นอีกครั้งที่แก้วมุกดาจนคำตอบ
“เอาเป็นว่าที่พี่ทำแบบนี้พี่คิดดีแล้ว พี่ก็แค่ไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองลงทุนเสียเปล่า โดยไม่ได้อะไรกลับมาก็แค่นั้นแหละ” ได้ยินแบบนี้ สุดที่รักที่ทนฟังเงียบๆ มาตลอดถึงกับทนไม่ได้อีกต่อไป
“แล้วงานที่พี่ว่า มันเป็นงานอะไรคะ เสี่ยงอันตรายรึเปล่า” สุดที่รักอดที่จะเป็นห่วงเพื่อนรักตัวเองไม่ได้ ก็อีกฝ่ายเป็นมาเฟีย งานที่เกี่ยวกับมาเฟียก็คงไม่พ้นงานอันตรายนั่นแหละ
“อ้อ! หยีเองเหรอ” จิโอวาโน่แสร้งถาม ทั้งที่รู้มาตั้งแต่แรกว่าอีกฝ่ายคงจะแอบฟังอยู่ข้างๆ
“เรื่องอันตรายพวกเธอไม่ต้องห่วงหรอก(เพราะมันอันตรายแน่) แก้วตาจะมีคนคอยคุ้มกันตลอดระยะเวลาที่ทำงานอยู่กับพี่ อย่าลืมสิ ถ้าแก้วตาเป็นอะไรไป ไอด้าก็เอาเรื่องพี่ถึงตายด้วยเหมือนกัน” มันก็จริงอย่างที่เขาว่า แต่เรื่องที่เธอไม่เข้าใจคือ เขาจะเสียเงินจ้างคนมาคุ้มครองเธอเพิ่มอีกทำไมเนี่ย หนี้ที่มีอยู่เธอก็ใช้ไม่หมดแล้ว
“เอ่อ! มันจะไม่เป็นการสิ้นเปลืองจนเกินไปหรือคะพี่เจฟ คือความจริงแก้วว่าแก้วสามารถดูแลตัวเองได้สบายมากเลยค่ะ อีกอย่างผู้หญิงธรรมดาๆ อย่างแก้วคงไม่มีใครอยากทำอะไรหรอกมั้ง” แก้วมุกดาบอกอย่างไม่แน่ใจนัก “เรื่องสิ้นเปลืองไหม พวกเธอไม่ต้องเอาไปคิดให้เปลืองสมองหรอก เอาเป็นว่าเรื่องทั้งหมดพี่คิดดีแล้ว ปล่อยให้พี่เป็นคนจัดการเองดีกว่า เธอแค่ทำงานตามที่พี่บอกก็พอ” จิโอวาโน่ตัดบทตัดปัญหา
“ค่ะ” ในขณะที่แก้วมุกดาก็ทำได้เพียงตอบรับอย่างจนใจ ถึงแม้จะสงสัยในหลายๆ อย่าง แต่ก็ไม่กล้าถาม ด้วยกลัวอีกฝ่ายจะเปลี่ยนใจไม่ยอมช่วย
“แก้ว แกว่ามันมีอะไรแปลกๆ รึเปล่า” หลังจากที่คุยเรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับงานที่แก้วมุกดาจะต้องไปทำเสร็จเรียบร้อย สุดที่รักที่ฟังอยู่ด้วยอดถามด้วยความสงสัยไม่ได้
“หืม เรื่องอะไรล่ะ” แก้วมุกดาเงยหน้าขึ้นถาม ในขณะที่กำลังเก็บของเพื่อเตรียมตัวเดินทาง
“ก็เรื่องงานที่พี่เจฟจะให้ไปทำไง แกไม่สงสัยบ้างรึไงว่ามันมีอะไรทะแม่งๆ
อยู่นะ” สุดที่รักอดเคลือบแคลงระแวงสงสัยกับงานที่เพื่อนจะต้องไปทำไม่ได้
“ทำไมต้องปลอมตัวเป็นผู้ชาย แล้วทำไมต้องเป็นแก คนอื่นตั้งเยอะตั้งแยะที่น่าจะเหมาะกว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ แบบแก ฉันว่ามันต้องมีอะไรมากกว่าที่เรารู้ ไม่อย่างนั้นพี่เขาคงไม่ให้แกไปทำอะไรที่เสี่ยงๆ แบบนั้นหรอกจริงไหม อย่าบอกนะว่าแกไม่สงสัยอะไรเลยน่ะ” ถึงแม้จิโอวาโน่จะให้เหตุผลว่ามันเป็นงานที่ไม่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิง จึงให้แก้วมุกดาปลอมตัว แต่มันก็ไม่มากพอที่จะทำให้สุดที่รักหายสงสัยได้
“สงสัยสิ แต่จะทำไงได้ล่ะ ฉันอยู่ในฐานะที่จะซักถามได้ซะเมื่อไหร่ อย่าลืมสิว่าเรื่องที่ฉันขอให้เขาช่วย มันเป็นเงินที่มากกว่าค่าจ้างของฉันทั้งชาติซะอีก อีกอย่างฉันว่าเขาคงไม่คิดร้ายกับฉันหรอกมั้ง” แก้วมุกดาบอกเสียงเบาในตอนท้าย
“มันก็ใช่ แต่ทำไมมันต้องเร็วขนาดนั้นด้วยล่ะ อย่างกับกลัวแกจะเปลี่ยนใจอย่างนั้นแหละ” คนขี้สงสัยยังซักไม่เลิก
“เอาน่า เอาเป็นว่าเขาไม่คิดร้ายกับฉันก็น่าจะพอแล้วน่า เลิกสงสัยได้แล้ว อย่าลืมสิว่าแกเป็นตัวตั้งตัวตีเรื่องนี้ตั้งแต่แรกนะ จะให้เลิกตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว เอาเป็นว่าแกมาช่วยฉันเก็บของดีกว่า เสร็จแล้วจะได้ไปลาคุณแม่เมษา” ถึงแม้ตัวเองจะสงสัยไม่น้อยไปกว่าเพื่อน แต่แก้วมุกดาก็เลือกที่จะปล่อยผ่าน ด้วยไม่อยากให้เพื่อนต้องไม่สบายใจไปมากกว่านี้
“เออๆๆ ว่าแต่แกจะบอกเรื่องนี้กับแม่เมษาว่ายังไงล่ะ ไหนจะเรื่องที่แกจะต้องไปทำงานไกลๆ แบบนั้นอีก” เรื่องนี้ทำให้แก้วมุกดาทำหน้าหนักใจไม่น้อย