EP.2 แฉ
เช้าวันใหม่
เช้านี้เด็กสาวตื่นอาบน้ำแต่งตัวไปมหาวิทยาลัยเหมือนทุกวัน โดยมีพ่อและแม่ของเธอแวะไปส่งก่อนที่ทั้งสองจะเลยไปทำงาน
“กินข้าวก่อนชา เดี๋ยวปวดท้อง” นิ่มน้อยผู้เป็นแม่บอกกับลูกสาวหลังจากที่เห็นลูกสาวเพียงคนเดียวของตัวเองเดินลงมาจากชั้นบนด้วยชุดนักศึกษากระโปรงสั่นพอดีเข่า
“พ่อไปไหน ไม่กินด้วยกันเหรอ” เธอเอ่ยถามเมื่อไม่เห็นผู้เป็นพ่ออยู่ในบ้าน
“พ่อให้อาหารเฮงๆอยู่หน้าบ้านนู้น” เฮงๆที่นิ่มน้อยพูดถึงคือหมาพันธุ์บางแก้วที่ณิชาเก็บมาจากข้างทาง ในตอนที่มันเกือบจะโดนรถชนเมื่อ4เดือนที่แล้ว
“เมื่อวานอาจารย์ให้ค่าขนมหนูมาหนึ่งพันด้วยนะแม่ ที่ไปช่วยงานมาเมื่อวาน” มือเล็กยื่นแบงก์สีเทาให้กับมารดา
“ชาเก็บไว้เถอะ เผื่อต้องใช้ยามฉุกเฉิน ไม่ต้องเอามาให้พ่อกับแม่แล้ว”
“เทอมนี้หนูเรียนอีกแค่เทอมเดียวก็จบปี4แล้ว ดีใจจัง”
“ตั้งใจเรียนนะลูกจะได้ทำตามความฝันได้”
“ไงผู้ประกาศข่าวน้อยของพ่อ คิดว่าจะตื่นสายซะอีก” เสียงของวินัยดังขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาในบ้าน โดยมีเฮงๆสัตว์เลี้ยงเดินตามเข้ามาด้วยหลังจากที่มันกินอาหารอิ่มแล้ว
“หนูไม่เคยตื่นสายสักหน่อยนะพ่อ ไงเฮงๆ แกกินข้าวเช้าก่อนฉันอีกนะ” หมาน้อยผู้ซื่อสัตย์เดินเข้าไปซุกที่เท้าของเด็กสาวก่อนจะยกสองขาหน้าเพื่อทักทายเจ้าของของมัน
“สวัสดีเจ้าหมาน้อย เมื่อวานฉันได้ค่าขนมมานิดหน่อย วันนี้จะซื้อขนมมาฝากแกนะ” เฮงๆหมาแสนรู้ตอบสนองด้วยการยกสองขาหน้าขึ้นอีกครั้งก่อนจะเข้าไปเลียขาและนั่งลงที่เดิม
“มากินข้าวกันได้แล้ว เดี๋ยวก็ไปทำงานสายกันพอดี” ผู้เป็นแม่ทักท้วงเมื่อเห็นลูกสาวเอาแต่แหย่เล่นกับสัตว์เลี้ยงคู่ใจ
เมื่อสามคนพ่อแม่ลูกทานอาหารเช้ากันเสร็จแล้ว วินัยจึงขับรถตรงไปส่งลูกสาวของตัวเองที่มหาวิทยาลัยทันที เพราะเป็นทางผ่านไปที่ทำงานของเขาและภรรยา
“สวัสดีค่ะพ่อ สวัสดีค่ะแม่ เย็นเจอกันที่บ้านนะคะ”
“ตั้งใจเรียนนะตัวแสบ” วินัยบอกลูกสาวของตน
“รับทราบค่ะท่านพ่อ บายค่ะ~” เด็กสาวโบกมือลาผู้เป็นบิดามารดาก่อนจะรีบเดินเข้าไปในรั้วมหาวิทยาลัย โดยไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกสายตาของใครบางคนจ้องมองอยู่
เมื่อร่างบางเข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัยเธอจึงตรงไปหาเพื่อนสนิททันที ก่อนจะพากันเตรียมตัวเข้าห้องประชุม เพราะวันนี้ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยจะเข้ามาอวยพรให้กับนักศึกษาปี4ที่กำลังจะเรียนจบในเทอมนี้
หอประชุม
“ชาเคยเห็นผู้บริหารมหาวิทยาลัยเราไหมชา”
“หึ ไม่เคย ข้าวเคยเหรอ”
“ไม่เคยเหมือนกัน เห็นรุ่นพี่ก่อนหน้านี้พูดกันว่าผู้บริหารที่นี่ยังอายุน้อยอยู่เลยนะ แถมหล่อด้วย~”
“จะหล่อสักแค่ไหนกัน”
“ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน”
“เอาล่ะครับนักศึกษาปี4ทุกท่าน วันนี้ผู้บริหารจะมาอวยพรให้กับพวกเธอที่จะเรียนจบกันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้นะ ตั้งใจฟัง” สิ้นสุดเสียงของอาจารย์ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำเดินก็เดินขึ้นมาบนเวทีทันที ความหล่อของเขาทำให้เหล่านักศึกษาหญิงทุกคนต่างหันซุบซิบกัน
“หล่อจริงด้วยชา!”
“เห็นแล้วน่า ก็หล่อจริงแหละ”
“หล่อเหมือนประธานคนที่เปิดงานเมื่อคืนนี้เลย!”
“สวัสดีครับนักศึกษาปี4 ผม ไดมอนด์ คีย์เบอร์ เป็นผู้บริหารของมหาวิทยาลัยแห่งนี้” เด็กสาวนั่งฟังผู้บริหารอย่างตั้งใจ ความมาดนิ่งของเขาทำให้เธอนึกถึงชายหนุ่มคนเมื่อคืนนี้ตามคำพูดของใบข้าว
Part มาร์คัส
คฤหาสน์มาร์คัส
มาเฟียหนุ่มผู้น่าเกรงขามกำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่ในห้องทำงาน โดยมีอีวานนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเพื่อรายงานการรับสินค้าเมื่อวานนี้ที่เขาเกือบจัดการไม่ได้
“สรุปให้กูฟัง” เสียงทุ้มบอกมือซ้ายคนสนิทก่อนจะดับบุหรี่ในมือลง
“ของเมื่อวานมาครบครับ แต่คนส่งจงใจขโมยของเราไว้ไปขายเอง”
“…”
“ผมเลยให้การ์ดฆ่าแล้วโยนทิ้งทะเล”
“เก็บงานให้เรียบร้อย ให้สมกับที่กูจ่ายเงินเดือนพวกมึง”
“ครับ”
คลืด! คลืด!
ในขณะเดียวกันโทรศัพท์ของมาเฟียหนุ่มที่วางอยู่บนโต๊ะก็ได้สั่นขึ้น สายตาคมคายตวัดมองสายเรียกเข้าก่อนจะเอื้อมมือไปกดรับสายและเปิดโฟน
“นายครับ”
“…”
“เด็กผู้หญิงคนเมื่อวาน เธอเป็นนักศึกษาเรียนอยู่มหาวิทยาลัยของคุณไดมอนด์ครับเรียนเกี่ยวกับข่าวสาร เมื่อวานน่าจะมาช่วยอาจารย์ทำข่าวงานเปิดตัวส่งสำนักงานข่าวครับ”
“ตามต่อไป” เสียงเรียบนิ่งเอ่ยสั่งลูกน้อง
“ครับนาย”
หากเด็กสาวไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำข่าวสาร มาเฟียหนุ่มก็ไม่คิดจะยุ่มย่ามกับชีวิตของเธอ ทว่าเธอมีส่วนในการทำงานส่งสำนักข่าว เรื่องที่เธอได้ยินเมื่อคืนนี้อาจเป็นภัยต่อเขาในอนาคต นั่นคือสาเหตุที่เจเซอร์ต้องคอยตามดูเด็กสาวนักศึกษาคนนั้นเอาไว้ไม่ให้คาดสายตา
“ถ้าเธอเป็นภัยกับเราล่ะครับ”
“เป็นมึง มึงจะทำยังไง”
“ก็คงจะปิดปากเธอครับ”
“นั่นคือคำตอบ ส่วนเรื่องยาที่มึงแยกไปขายเองรอบอบด้วยอย่าให้พลาด”
“ไม่พลาดแน่นอนครับ”
Part ณิชา
หลังจากที่เด็กสาวเรียนเสร็จแล้วเธอจึงนั่งรถกลับบ้านทันที ทว่าแวะห้างสรรพสินค้าก่อนจะเข้าบ้าน เพราะซอยบ้านของเธออยู่ถัดไปหนึ่งซอยจากห้าง
เมื่อเด็กสาวได้ของใช้ส่วนตัวของตัวเองครบแล้วเธอจึงเดินกลับบ้านแทนการนั่งรถ เพราะบ้านของเธอก็ไม่ได้อยู่ไกลจากห้างมากนัก
ในขณะที่ณิชากำลังเดินผ่านซอยเล็กๆก่อนถึงซอยบ้านของเธอ เธอก็ได้ยินเสียงของใครบางคนคุยกันพร้อมกับชายฉกรรจ์3คนที่ยืนอยู่กับนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกับเธอ เธอจึงหยุดเพื่อแอบฟัง
“ยาล็อกใหม่ มึงต้องเตือนคนใช้ก่อนขายเพราะมันแรงกว่าเดิม อาจจะสติหลุดได้”
“ได้ครับพี่ พวกวัยรุ่นนับผับแม่งโคตรชอบกันเลย เหมือนหลุดโลก”
“เออ อย่าให้เดือดร้อนมาถึงกูล่ะ!”
ประโยคพูดคุยของชายฉกรรจ์ทำให้เด็กยาวต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมาแอบถ่ายคลิป และรัวรูปภาพเก็บไว้เพื่อจะเอาไปลงเพจ เพราะเพจไม่เปิดเผยตัวตนของเธอทำไว้เพื่อประจานคนทำผิดในทุกรูปแบบ
“ไอ้พวกคนนิสัยแย่! ฉันจะแฉพวกแกให้หมด!” เมื่อณิชาเก็บคลิปและรูปเรียบร้อยแล้วเธอจึงรีบเดินผ่านซอยนั้นไปทันทีก่อนจะเดินเข้าไปในซอยบ้านของตนเอง
Part มาร์คัส
21.30 น.
คลับ RT
คืนนี้มาเฟียหนุ่มมาที่คลับของเพื่อนสนิท เพื่อมานั่งดื่มหลังจากที่ไม่ได้มาหลายวันแล้ว คลับแห่งนี้คือคลับของอาเธอร์ เพื่อนสนิทของมาเฟียหนุ่ม
“ไอ้เจเซอร์เตรียมบ้านให้กูยังไอ้คัส” ฮันเตอร์ทวงถามถึงเรื่องบ้านที่เขาโทรขอมาร์คัสไว้เมื่อวาน
“เตรียมแล้ว”
“มึงจะใช้บ้านในโครงการมันไปทำไม” อาเธอร์เจ้าของคลับเพื่อนสนิทของคามัสเอ่ยถามขึ้น
“เก็บของ กูไม่อยากจ่ายเงินตำรวจเยอะขนาดนั้น ขาดทุนกูหมด”
“รวยไม่จริง” มาร์คัสสบประมาทเพื่อนของตนทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าฮันเตอร์ก็รวยไม่แพ้เขา เพียงแต่อยากกระแนะกระแหนก็เท่านั้น
“กูรวย แต่กูงก ยิ่งกับไอ้พวกตำรวจเวรพวกนั้นอย่าหวัง” ฮันเตอร์พูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่เรียบนิ่ง เพราะมันคือคาแรคเตอร์ของเขา
ในขณะเดียวกันมือซ้ายของมาร์คัสก็ได้เดินเข้ามาพร้อมกับเข้ามากระซิบกระซาบรายงายบางอย่างนายของตน
“มีคนแอบถ่ายคลิปตอนลูกน้องส่งของครับ”
“ใคร”
“ยังไม่แน่ใจครับ นี่คลิป” อีวานยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้กับมาร์คัสโดยมีสายตาของฮันเตอร์และอาเธอร์จ้องมองอยู่เงียบๆ
คลิปที่มาร์คัสกำลังดูอยู่คือคลิปที่ลูกน้องของอีวานกำลังคุยกับนักศึกษาเรื่องการขายยา ทว่าทุกคนถูกเบลอหน้าเอาไว้รวมไปถึงรูปภาพ และให้แคปชั่นยาวเหยียด
“ไปเอาตัวมันมา!” เสียงทุ้มเอ่ยสั่งลูกน้อยด้วยความหงุดหงิด ทำให้อีวานต้องรีบเดินออกไปด้วยความรวดเร็ว
“มีอะไร” ฮันเตอร์เอ่ยถามขึ้น
“ลูกน้องอีวานถูกถ่ายคลิปตอนส่งของ”
“เดือนที่แล้วลูกน้องกูก็โดน ใช่เพจนี้ไหม” ฮันเตอร์เปิดรูปเพจให้กับมาร์คัสดูซึ่งมีนรือเพจเดียวกัน
“อืม กูจัดการเอง”
“เสร็จแล้วส่งมาให้กู”
“…” อาเธอร์นั่งฟังเงียบๆไม่ออกความคิดเห็นใดเพราะเขาไม่ได้ประสบปัญหาอะไรหากเป็นเรื่องของส่วนรวมก็ว่าไปอย่าง