บทที่ 3
พี่ณิน & น้องกวิน (1)
ฉันและเพื่อนสนิทมาที่โรงพยาบาลหลังจากขับตามรถมอเตอร์ไซค์ของคู่กรณี รอตรวจและทำแผลไม่นานเจ้าตัวก็เดินออกมาจากห้องด้วยสภาพที่มีผ้าพันแผลตามรอบแขน
ฉันรีบผุดตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้และตรงปรี่เข้าไปหาคู่กรณีสุดหล่อด้วยความเร็วแสง จากใบหน้าหล่อเหลาที่ยังคงความเรียบนิ่งก็ปรากฏชัดเป็นความบึ้งตึงได้เพียงเสี้ยววินาที จนทำเอาฉันถึงกับยิ้มเจื่อนพลางถอยหลังหลบไปสองก้าว
“เป็นยังไงบ้างคะ หมอว่าไงบ้าง” ฉันเอ่ยถามคนตรงหน้าด้วยท่าทางอยากรู้ สายตาก็กวาดมองตามบาดแผลและผ้าสีขาวที่ปิดทับอย่างนึกเป็นห่วง
ใจหนึ่งก็อดที่จะชื่นชมในความหล่อดูดีตรงสเปคไม่ได้ แต่ความรู้สึกหลัก ๆ ก็คือความเป็นห่วงและรู้สึกผิดมากกว่า เพราะฉันเป็นต้นเหตุที่ทำให้พ่อหนุ่มหล่อคนนี้ต้องเจ็บตัว
“ก็ไม่ได้เป็นไรมาก แค่ทำแผลเฉย ๆ” เสียงเข้มตอบปัดที่ดูออกตั้งแต่แรกว่าเขาคงรำคาญฉันเต็มทน
“ฉันขอโทษอีกครั้งนะคะ ไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ”
“ครับ งั้นกลับละนะ ถ้าอยากรับผิดชอบก็ฝากจ่ายค่ารักษาด้วยแล้วกัน” พูดจบ ร่างสูงก็เดินผ่านไปราวกับรอเวลานี้มาเต็มทน
“อ๊ะ…เดี๋ยวสิ คุณ…”
ขายาวก้าวฉับเดินออกไปนอกอาคารอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจเสียงเรียกรั้งของฉันเลยแม้แต่น้อย พอตั้งใจจะเดินตามไปก็ไม่เห็นกระทั่งเงา จนแล้วจนเล่าจึงได้ตัดสินใจกระแทกตัวนั่งลงบนเก้าอี้ดังเดิม ก่อนที่ลมหายใจจะพรั่งพรูยาวเหยียด ที่มันเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายที่กำลังถาโถมอยู่ในใจ
“เฮ้อ…คุณเนื้อคู่ไปซะแล้วอ่า ยังไม่ได้ถามชื่อเลย”
“ฉันว่าเขาไม่ใช่เนื้อคู่ของแกว่ะณิน น่าจะเป็นคู่กัดมหาประลัยมากกว่า!”
มือของเข็มตบเบา ๆ ลงมาที่ไหล่ข้างขวา มันเหมือนเป็นการปลอบโยนอยู่นัย ๆ หากแต่เสียงหัวเราะที่ได้ยินกลับทำให้ฉันมั่นใจว่ามันกำลังเยาะเย้ยฉันอยู่ต่างหาก!
“อย่าให้เจออีกครั้งนะ ฉันไม่ปล่อยให้หลุดมือแน่!”
ฉันบ่นพึมพำกับตัวเองเบา ๆ สายตาก็หรี่ลงเพื่อปรับโฟกัสไปยังทางเดินที่คุณเนื้อคู่เพิ่งเดินจากไป เพื่อเป็นการตั้งมั่นกับตัวเองว่าหากฉันได้เจอกับเขาคนนั้นอีกครั้งเมื่อไหร่…รับรองว่าสนุกแน่!
“ก่อนจะตามหาเนื้อคู่ไปจ่ายเงินก่อนนะคุณคนสวย เขาประกาศเรียกสิบรอบแล้วแม่คุณ!”
หลายวันผ่านไป
หลังเลิกเรียนคาบวิชาโหดหิน อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องทำก่อนจะแยกย้ายกับเพื่อนสนิท ก็คือการขับรถมาส่งเจ้าหล่อนหาแฟนหนุ่มที่ตึกคณะนิเทศ
วันนี้เข็มไม่ได้เอารถมา ฉันเลยอาสาที่จะมาส่งเข็มที่ตึกคณะนิเทศ เพราะแฟนของเข็มเรียนอยู่คณะนี้ แถมยังเป็นรุ่นน้องเรียนปีหนึ่งอีกต่างหาก
“ถึงแล้วค่าคุณนาย!” ทันทีที่ล้อรถจอดเทียบหน้าตึกสูงใหญ่ ฉันก็เอ่ยขึ้นพร้อมกับหันไปมองเพื่อนสนิทที่ตอนนี้กำลังหยิบแป้งตลับขึ้นมาตบทับบนใบหน้า ตามมาด้วยลิปสติกสีฉ่ำวาวปิดท้าย “แหม สวยแล้วค่าคุณนาย จะเติมอะไรเยอะแยะ”
“รู้แล้วว่าสวย แต่มันสวยได้อีกไงคะคุณณิน แล้วอีกอย่างมีแฟนเด็กก็ต้องหมั่นเช็กเบ้าหน้าป้ะ”
ฉันถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคำพูดนั้น อาจจะสงสัยกันว่าทำไมถึงใช้คำว่าแฟนเด็ก ความจริงแล้วฉันกับยัยเข็มน่ะอายุยี่สิบเอ็ดปีแล้ว เทียบเท่ากับการอยู่ชั้นปีที่สามนั่นแหละ แต่เนื่องด้วยทั้งฉันและเข็มเราสองคนต่างก็ซิ่วย้ายมาเรียนคณะบริหารพร้อมกัน เลยทำให้เรียนช้ากว่าเพื่อน ๆ อย่างที่ควร
ก็เลยกลายเป็นว่าฉันและยัยเข็มเป็นเจ๊ของชาวคณะชั้นปีสอง หรือที่ใครต่อใครต่างก็เรียกว่า ‘อีแม่’ นั่นแหละ
“ไปละ เบื่อแก ไปหาผู้ดีกว่า บาย!”
“ฝากถามเกมด้วยว่ามีเพื่อนหล่อ ๆ แนะนำไหม ช่วยโปรโมตทีว่าฉันโสดมาก!” ก่อนที่เข็มจะเดินลงจากรถ ฉันก็ไม่วายทิ้งท้ายขายตัวเองสักหน่อย แม้ว่าปากจะหัวเราะขันแต่ลึก ๆ แล้วก็แอบคิดจริงอยู่เหมือนกัน
“ให้มันจริง พอเขามาจีบก็ไม่สน! ฉันไปละ บาย”
ฉันพยักหน้าตอบรับก่อนที่เข็มจะเดินลงจากรถไป ทำให้ฉันรีบเคลื่อนตัวรถค่อย ๆ ขับออกไปตามหนทางอย่างเชื่องช้า เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้มีเหล่านักศึกษาที่เดินข้ามไปข้ามมาเป็นจำนวนมาก
ทว่าจังหวะที่ฉันกำลังจะขับเคลื่อนออกไปจนพ้นรัศมีของตึกคณะนิเทศ หางตาดันเหลือบไปเห็นรถมอเตอร์ไซค์ทรงสูงคุ้นตาคันหนึ่งที่จอดอยู่ข้างตึกสูงใหญ่
รอยขีดข่วนเล็ก ๆ รอบตัวรถสีดำเงาเป็นเครื่องย้ำเตือนทำให้ฉันรีบเหยียบเบรกและตัดสินใจหาที่จอด ไม่กล้าปักใจเชื่ออย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ว่ามันใช่รถคันนั้นที่กำลังนึกถึงอยู่หรือไม่ แต่อย่างน้อย ๆ ถ้าจอดรอเจ้าของกลับมาก็คงทำให้ได้คำตอบดีกว่าการคิดไปเองคนเดียว
ไม่รอช้าฉันรีบจอดรถใต้ต้นไม้ก่อนจะเดินลงไปรอที่ร้านน้ำปั่นใกล้ ๆ ขณะที่สายตาก็จับจ้องรอคอยเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์คันนั้นกลับมา ภายในใจก็ได้แต่หวังว่าขอให้คนคนนั้นเป็นคนที่ฉันกำลังนึกถึง
“ไปก่อนนะ ไว้เจอกัน บาย!”
“ขับรถดี ๆ นะโมนา อย่าซิ่งนักล่ะ”
“ค่า คุณกวิน รับทราบ!”
บทสนทนาของคนสองคนดังขึ้นกระทบโสตประสาท ทำให้ฉันหันไปมองตามสัญชาตญาณ กระทั่งพบว่าบุคคลที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้นคือคนที่ฉันคิดไว้จริง ๆ
คุณเนื้อคู่!
ฉันเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เสียงเข้มของคนที่คิดไว้เอ่ยบอกกับผู้หญิงคนนั้นจนเธอเดินจากไป และหลังจากนั้นคุณเนื้อคู่ก็เดินตรงมาทางฉัน ซึ่งเป็นจุดเดียวกันกับพื้นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ที่ฉันเพ่งเล็งไว้ตั้งแต่ต้น
ความคิดนับล้านตีพันกันจนยุ่ง ไม่รู้ว่าควรทำอะไรก่อนหรือหลัง แต่จังหวะการก้าวเดินอันรวดเร็วของเขาคนนั้นทำให้ฉันต้องรีบตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง เพื่อหวังให้เขาหยุดการกระทำและหันมาสนใจฉันที่กำลังยืนอยู่ตรงนี้
“คุณ! คุณเนื้อคู่อย่าเพิ่งไปค่ะ รอด้วย!”