EP 25

1211 Words
เลยถูกเด็กปากกล้าเหน็บกลับเข้าให้ “พ่อว่าก็ดีนะจะได้รู้ทุกอย่าง แต่ไม่ต้องถึงขนาดไปนั่งทำหรอกแค่ไปดูให้รู้ว่าอะไรเป็นยังไงก็พอ มาเน้นหนักที่งานบริหารจะดีกว่า อิสระคงดีใจที่จะมีคนมาแบ่งเบางานไปบ้าง” “ยังไงก็ได้ค่ะคุณพ่อ หนูดาวทำได้ค่ะ” “งั้นผมก็จะให้อิสระเป็นคนสอนงานก็แล้วกันนะ เอาแค่งานของไร่กับรีสอร์ตพอ ไม่ต้องมายุ่งงานในฟาร์มผม แค่นี้คุณพอใจหรือยัง” แสงตะวันหมั่นไส้เมียในนามไม่น้อยที่ทำหน้ากระตือรือล้นยังกับจะได้ทองเท่าหัว “แล้วถ้าหนูดาวอยากจะเรียนรู้งานในฟาร์มของสามีบ้างล่ะคะคุณพ่อ ใครจะเป็นคนสอนให้เอ่ย” เหมือนดาวไม่สนใจจะหันไปหาเขา แต่ส่งสายตาเว้าวอนไปหาพ่อเขาแทน “เอาเป็นว่าเรียนรู้งานในไร่กับรีสอร์ตก่อน ค่อยมาว่ากันทีหลังนะ แต่ตอนนี้พ่อว่ากินก่อนดีกว่า อาหารมาแล้ว” “ค่ะคุณพ่อ” “อ้อ! ว่าแต่แม่เรากับทุกคนล่ะกินที่ไหน” อาทิตย์เพิ่งคิดขึ้นได้ “ที่บ้านคุณพ่อค่ะ กินเสร็จหนูดาวก็ว่าจะไปหาค่ะ แม่จะกลับตอนเที่ยงๆ ค่ะ” “อ้าว! แล้วหนูดาวไม่เหงาแย่เหรอ ไม่มีเพื่อนคุย” “ไม่เหงาหรอกค่ะ เพื่อนๆ หนูดาวยังอยู่ค่ะ” “เพื่อนหรือแฟนกันแน่” แสงตะวันทนไม่ได้เลยรีบเหน็บเข้าให้ “ถ้าคุณจะเข้าใจอย่างนั้นก็ไม่มีปัญหาค่ะ เอาเป็นว่าเรารู้ๆ กันพอ ดีมั้ยคะ!” ใบหน้าสวยใสเลยส่งยิ้มท้าทายเขาเป็นการตอบแทน    ตอนที่ 4   “อะไรนะยะยัยหนูดาว นี่หล่อนไปบอกว่าฉันเป็นแฟนหล่อนอย่างนั้นเหรอ มีหวังผัวหล่อนได้เอาปืนมายิงกระบาลฉันแน่ๆ เลย” อนุทัยโวยวายทันทีเมื่อรู้มาจากปากเพื่อนในเรื่องต้องแสดงเป็นแฟนหนุ่มให้แนบเนียน “ผัวเผอที่ไหนกัน นั่นมันศัตรูฉันต่างหากล่ะยะหล่อน ไม่รู้ล่ะ! หล่อนต้องช่วยเป็นแฟนให้ฉันจนกว่าฉันจะหย่าขาดจากนายนั่น หรือไม่ก็จนกว่าฉันจะหาหลักฐานเรื่องพ่อกับพี่หนูเดือนมัดตัวนายนั่นได้ก่อน” “แต่ฉันกลัวคุณตะวันจะมาบีบคอตายก่อนหล่อนจะทันได้ทำงานเสร็จนี่ยะ ดูตัวกับมือแกก่อนสิ ใหญ่ยักษุ์ซะขนาดนั้น” อนุทัยทำสีหน้าสยองเวลาคิดถึงใบหน้าบูดบึ้งของอีกคน “หล่อจะตายไป หล่อนจะกลัวทำไมล่ะยะ เป็นฉันหน่อยไม่ได้ แม่จะจับจูบให้อยู่หมัดเลยล่ะ” นรรยาทำท่าเคลิ้มฝันถึงสามีในนามของเพื่อน เพราะหลงใหลในใบหน้าอันหล่อเหลากับหุ่นสูงใหญ่มาตั้งแต่แรกเห็นก็ว่าได้ “นี่ยัยนาย่า! นั่นน่ะผัวเพื่อนหล่อนนะยะ” “เอ๊า! ไม่ได้ยินที่ยัยหนูดาวบอกเหรอว่าไม่ใช่ผัวแต่เป็นศัตรูต่างหาก ว่าแต่หล่อนจะจัดการยังไงกับศัตรูของหล่อนล่ะยะ พวกฉันจะได้คอยช่วย แต่บอกไว้ก่อนนะว่า อยู่ได้นานสุดแค่สองเดือน หรือแบบหยวนๆ ให้ก็สามเดือนเท่านั้น” “ใช่! ฉันก็เหมือนกัน ไมเคิ้ลจะมาด้วย ฉันต้องพาเที่ยวนะยะ” อนุทัยพูดถึงแฟนหนุ่มแล้วตาหวานเยิ้มขึ้นมา “หล่อนจะรีบไปไหนยะ ฐานะอย่างหล่อนนอนกินทั้งชาติยังอยู่ได้สบายๆ เลยนี่” “อ้าว! ใครอยากจะอยู่ดูหน้าหล่อๆ ของผัวหล่อนกันล่ะยะ เห็นทีไรกำเดาจะไหลออกมาให้ได้ คนอะไรหล่อเป็นบ้า นี่ขนาดสามสิบหกแล้วนะยังหล่อขนาดนี้ ถ้าตอนหนุ่มๆ ไม่รู้จะขนาดไหน ทำไมหล่อนไม่แต่งกับเขาจริงๆ แล้วมีอะไรกับเขาจริงๆ เผื่อพวกฉันไปเลยล่ะยะ” “บ้า! ยัยนาย่านี่พูดอะไรไม่รู้จักคิด พอได้แล้ว รีบไปส่งแม่กันเร็วเข้า แล้วจะได้รีบมาเก็บของพวกหล่อนไปบ้านโน้น ฉันอุตส่าห์หน้าด้านขอคุณลุงต่อหน้านายตะวันแสนดุนั่นเลยนะ นึกว่าจะไม่อนุญาตซะแล้ว” “โอเคๆ สั่งจริงยัยหนูดาว” “ส่งแม่แล้วพวกหล่อนก็นอนอยู่ห้องก่อนนะ ฉันจะไปหาคุณอิสระที่ออฟฟิศหน่อย จะได้ถามเรื่องงานด้วย” สองสาวแท้หนึ่งหนุ่มเทียมต่างวิ่งออกจากห้องลงมาตามบันไดอย่างเร่งรีบ ทำเอาผู้ใหญ่ทั้งสามต่างมองมาเป็นตาเดียวกัน กับเสียงฝีเท้าตึงตังๆ บนบ้าน “หนูดาว! ทำไมวิ่งเหมือนเด็กๆ อยู่ได้ล่ะลูก โตแล้วนะ แต่งงานแต่งการแล้วต้องทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่สิคนงานจะได้เกรงขาม” ผู้แม่ส่งสายตาเขียวปัดไปหา ทำเอาสองเพื่อนหน้าสลดไปตามๆ กัน “โธ่แม่ก็! หนูดาวแค่แต่งหลอกๆ นี่คะ ไม่ได้แต่งจริงจังสักหน่อย ทำไมต้องมาเอ็ดด้วย” แต่ลูกสาวกลับส่งเสียงอ้อนแล้วเข้าไปกอดแม่เป็นการอุทรธ์ “จะแต่งจริงแต่งหลอก แต่หนูดาวก็อยู่ในตำแหน่งเมียคุณตะวัน และจะอยู่ในตำแหน่งใหญ่ในไร่ ถ้าขืนวิ่งเล่นเป็นเด็กอย่างนี้ใครจะเกรงกลัวล่ะ รัตน์ต้องคอยกำราบหลานไว้บ้างนะ อย่าตามใจมากเดี๋ยวจะเหลิง” สองมือกอดลูกสาว ส่วนสายตาก็มองไปยังน้องสามีที่เสมือนญาติคนเดียว “ไม่ต้องห่วงหรอกน่าเดือน รีบๆ ไปดีกว่ามั้ย กว่าจะถึงคงค่ำพอดี รถจะติดนะ” โสรัตน์ไม่ได้เอานิยายกับคำนี้เท่าไหร่นัก เพราะรู้ดีว่าถึงเวลาหลานจะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้เองโดยไม่ต้องสอนให้เมื่อย “นั่นสิเดือน รีบไปดีกว่า หนูดีมาลาพี่ๆ แล้วขึ้นรถลูก” นพพรรีบสมทบแล้วยัดกระเป๋าเดินทางไปไว้กระโปรงหลังรถ ทั้งให้สามแม่ลูกกอดอำลากันได้ตามสบาย “ไว้ปิดเทอมค่อยมาเที่ยวหาพี่นะจ๊ะหนูดี อยู่บ้านก็ฝากดูแลแม่กับลุงนพด้วยนะ อย่ามัวแต่เล่นล่ะ” เหมือนดาวกอดน้องต่างพ่อที่รักและผูกพันกันไม่แพ้พ่อแม่เดียว เพราะตัวเองอยากมีน้องนานมากแล้ว ดุจเดือนเข้าไปกอดลูกสาวอีกครั้งพร้อมส่งสีหน้าเป็นห่วงอย่างที่สุด “ดูแลตัวเองดีๆ นะลูก ถ้าจะสืบอะไรก็ให้ระวังตัวให้มากๆ หรือถ้ามันลำบากนักก็ปล่อยไปก็ได้นะลูก ไหนๆ พ่อกับพี่เราก็ไปสบายแล้ว แม่ไม่อยากให้หนูดาวมีอันตรายไปอีกคน แม่คงทนไม่ได้ มีอะไรรีบโทรหาแม่กับลุงนพด่วนเลยนะ” “ค่ะแม่” แม้ไม่คิดจะทำตามคำสั่งสอน แต่เหมือนดาวก็เลือกรับคำสั้นๆ เพื่อให้แม่สบายใจ แล้วยืนโบกมือลาแม่กับน้องด้วยรู้สึกความใจหายไม่น้อย เพราะเพิ่งจะได้อยู่ด้วยกันไม่กี่วันหลังเรียนจบ ก็ต้องมาห่างกันอีกแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD