บทที่ 8
ฝูหรงไม่คิดเลยว่าชีวิตการแต่งงานที่มีความสุขจากการแย่งของของคนอื่นมาจะจบลงในเวลาเพียงแค่สามเดือน
หลังจากจบงานฉลองรับตำแหน่งเจ้าเมืองของสามี หญิงสาวก็ทำทุกอย่างเหมือนปกติ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยังติดค้างอยู่ในใจของนาง และมันไม่อาจจะหายไปได้ง่าย ๆ นั่นก็คือเรื่องของพี่สาวต่างมารดาที่เข้ามาอาศัยอยู่ในจวนตระกูลรั่ว
แม้ว่าบิดาของสามีจะสั่งให้พี่สาวของนางไปพักเรือนรับรอง แต่ที่ทำเช่นนั้นก็อาจจะเป็นเพราะท่านพี่อิงอิงกับทสามีของนางยังไม่ได้เข้าห้องหอหรือพิธีมงคลกันก็เป็นได้ และหากเป็นอย่างที่หญิงสาวคิดจริง ๆ นางก็คือคนที่อยู่ผิดที่ผิดทางและควรหลบให้กับพี่สาวไม่ใช่ชุบมือเปิบรับสมอ้างเป็นฮูหยินท่านเจ้าเมืองอยู่อย่างนี้
“เรื่องท่านพี่ของข้า” ฝูหรงไม่สามารถเก็บความสงสัยเอาไว้ได้ เมื่อสามีกลับมาจากการส่งแขกที่มาร่วมแสดงความยินดี หญิงสาวก็เผลอเอ่ยถามสามีของตนออกไป แต่กลับได้รับเสียงถอนหายใจของสามีเป็นคำตอบกลับมา นั่นจึงทำให้ฝูหรงรีบก้มหน้าลงไม่กล้าเอ่ยถามอะไรอีก
รั่วหยางจิ้นเห็นอีกฝ่ายนิ่งไปก็พูดให้ชัด “ให้นางพักอยู่เรือนรับรองนั่นแหละ เจ้าเองก็ไม่ต้องทำอะไรมากไปกว่านี้ มันจะยุ่งยากเสียเปล่า ๆ “และเมื่อได้ยินคำของสามีที่ย้ำชัดไปในทางเดียวกันกับที่บิดาของอีกฝ่ายพูดแล้วฝูหรงก็คิดว่าจะไม่ยุ่งเรื่องนี้ แต่ต่อให้หญิงสาวอยากจะเข้าไปยุ่งก็คงไม่กล้าพูดหรือเอ่ยอะไรออกไปหรอก อย่างไรฝูหรงก็ไม่คิดว่านางมีสิทธิในจวนตระกูลรั่วขนาดนั้น
“เจ้าเพียงอยุ่เฉย ๆ ก็พอ ที่เหลือข้าจะเป็นคนจัดการเอง เมื่อวานข้าบอกกับเจ้าอย่างไร”
“ข้าเป็นภรรยาท่าน”
“เข้าใจก็ดีแล้ว ท่องเอาไว้ให้ขึ้นใจเล่า”
“เจ้าค่ะ” หญิงสาวตอบกลับไป แต่ถึงแม้จะตอบรับไปแล้วและฝูหรงพยายามที่จะไม่คิดอะไรให้วุ่นวาย แต่หญิงสาวก็ยังไม่สามารถนอนหลับลงได้ง่าย ๆ ถึงจะนอนอยู่ข้างกายของชายหนุ่มผู้เป็นสามีเหมือนทุกคืน แต่กลับไม่สามารถทิ้งความกังวลใจที่มีไปได้แม้แต่นิด
ยิ่งเมื่อเช้าอีกวันได้ตื่นมาคุยกับฝูอิงด้วยแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ฝูหรงจะไม่รู้สึกอะไรจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เจ้าคงตกใจและเหนื่อยที่ต้องดูแลเรื่องเหล่านี้แทนพี่สินะหรงหรง แต่ไม่ต้องห่วงนะทุกอย่างมันจะจบลงเร็ว ๆ นี้แล้ว ไม่นานท่านพ่อก็จะหายโกรธพี่ ถึงตอนนั้นพวกท่านก็จะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยอย่างที่มันควรจะเป็นอย่างที่ท่านแม่บอกเมื่อวานอย่างไรเล่า ที่จริงก็คงไม่ลำบากเท่าไรเพราะคนทั่ว ๆ ไปก็รับรู้อยู่แล้วว่าพี่เคยเป็นคู่หมายของพี่จิ้น ก็อาจจะคิดว่าแต่งเข้าทั้งพี่ทั้งน้องพี่ไม่คิดอะไรมากอยู่แล้วที่จะแบ่งสามีกับน้องสาวที่รักของพี่”
ฝูหรงไม่รู้จะตอบอะไรพี่สาวของตน นางทำได้เพียงแค่นยิ้มโง่ ๆ ส่งออกไปเพราะไม่รู้จะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรดี
ไม่ใช่ไม่รู้ว่าพอพี่สาวกลับมาแล้วตัวนางเองก็ถือว่าอยู่ไม่ถูกที่ถูกทาง แต่จะให้ทำเช่นไรได้ วันที่ทุกคนมีปัญหาก็เดินเข้ามาบอกให้นางช่วยจัดการทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง เป็นตัวแทนพี่สาวที่จากไป วันนี้พอพี่สาวกลับมากลับไม่มีใครพูดอะไรกับนางให้เข้าใจเลยสักนิด ว่าต้องทำเช่นไร มีแต่สามีของนางที่ให้นางย้ำกับตนเองว่านางคือภรรยาของเขา
“เป็นอะไรหรือเปล่าหรงหรงหน้าซีด ๆ นะ” ฝูอิงมองน้องสาวด้วยสายตาที่ดูอ่อนโยน ทั้ง ๆ ที่ในใจนางไม่ได้อยากทำเลยแม้แต่นิด แต่เพราะชั่วชีวิตหญิงสาวทำเช่นนี้จนชินไปเสียแล้วจึงทำได้อย่างแนบเนียน สายตาที่แสร้งทำมาตลอด
คำหวานที่เคลือบยาพิษมันดีกว่าคำร้าย ๆ ที่จริงแล้วน้องสาวอย่างฝูหรงคิดว่าตนเองมีพี่สาวที่ดีแตกต่างจากบุตรีจากอนุในสกุลอื่น ถึงขั้นเคยเอ่ยกับเหล่าสาวใช้เลยด้วยซ้ำว่าตนเองโชคดีที่มีพี่สาวอย่างฝูอิง โดยไม่ได้รู้เลยว่าหากตนเองอยู่ในตระกูลอื่นก็อาจจะอยู่ในฐานะที่ใกล้เคียงกับคนเป็นพี่ ไม่ต้องทำงานงก ๆ เยี่ยงสาวใช้เช่นนั้น
บุตรของผู้นำตระกูลก็คือบุตรของผู้นำตระกูล มารดาจะเป็นใครก็ไม่เกี่ยว ยิ่งเมื่อเป็นอนุที่ได้รับการยกย่อง หรือฮูหยินรองด้วยแล้วฐานะของบุตรหรือบุตรีที่เกิดมาก็ต่างกันเพียงนิดหน่อยเท่านั้นหากมองด้วยสายตาคนธรรมดาไม่ใช่พวกเชื่อพระวงศ์ เพราะไม่ต่างกันจึงมีกดหัวและทำร้ายร่างกายกันอยู่บ้างเป็นธรรมดา
แต่กลับฝูหรงทั้ง ๆ ที่มารดาของนางเป็นอนุที่เรียกได้ว่าถูกยกย่องขึ้นมาเป็นเมียอย่างชัดเจนถึงขั้นมาช่วยงานฮูหยินแต่ตัวของฝูหรงกลับมีฐานะเหมือนบุตรของสาวใช้อุ่นเตียงไร้ฐานะ นั่นเป็นเพราะหญิงสาวถูกคนในเรือนของฮูหยินใหญ่กดหัวเอาไว้
ไม่รู้ว่าจะโง่ไปถึงไหนกันงฝูอิงคิดอย่างเหนื่อยใจ เพราะนางเองก็เหนื่อยจะแสดงเต็มทีแล้ว ยิ่งมีเรื่องตำแหน่งฮูหยินของเจ้าเมืองมาเป็นตัวแปรด้วยแล้ว ก็คงถึงเวลาที่จะทำให้ฝูหรงรู้เสียทีว่าพี่สาวของนางอย่างข้านั้นเป็นคนเช่นไร และยอมได้แค่ไหนกับการที่ถูกแย่งของที่เป็นของนางไป
“หรือเจ้า น้องหญิง ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะรักหยางจิ้นจริง ๆ ข้าขอโทษที่ทิ้งให้เจ้าแต่งแทนข้า แต่ตอนนี้ข้ากลับมาแล้ว ข้าต้องการเขาคืน คืนเขาให้ข้าเถอะ” นางอ้อนวอนทั้งน้ำตาขอคนรักคืนจากน้องสาวต่างมารดา แสร้งทำเป็นเพิ่งรับรู้ว่าฝูหรง น้องสาวของตนหลงรักคู่หมายของนาง ทั้งที่ในความจริงแล้ว นางรู้ดีว่าฝูหรงนั้นแอบชอบรั่วหยางจิ้น นางจึงมักจะเอาไปเล่าให้น้องสาวฟังเสมอว่านางกับรั่วหยางจิ้นใจตรงกันและรอคอยวันแต่งงานที่กำลังจะใกล้เข้ามามากแค่ไหน
“ท่านพี่อิงอิง ข้ารู้ว่าพี่กับเขารักกันมาก่อน แต่ข้าตอนนี้คือภรรยาของเขา ท่านกลายเป็นเพียงพี่สาวของภรรยาของรั่วหยางจิ้น หากท่านอยากได้เขาคืนก็ไปบอกเขาเองเถิดมิใช่มาบอกข้า”
“แต่ตำแหน่งภรรยารั่วหยางจิ้นนั่นเป็นของข้า ข้ากลับมาแล้วเจ้าที่เป็นเพียงตัวแทนข้าควรถอยดีกว่าให้หยางจิ้นเอ่ยปาก”
ฝูหรงใบหน้าถอดสี หากสามีนางเอ่ยคำนั้นออกมาจริง นางจะรับได้อย่างที่ลั่นวาจากับพี่สาวงั้นหรือ
“หน้าเจ้าซีด ๆ น่ะ หากเจ้าไม่สบายพี่ช่วยดูแลเรื่องในเรือนให้ก็ได้นะ”
ฝูหรงส่ายหน้า “ท่านพี่พักที่เรือนรับรองให้สบายเถอะเจ้าคะ เดินไปทั่วทั้ง ๆ ที่ท่านพ่อไม่อนุญาตท่านคงไม่ใคร่จะพอใจนัก” นางเอ่ยเตือนพี่สาวด้วยความหวังดี