ตอนที่ 4

1146 Words
"พัทธุ์เดี๋ยวนี้คุณเปลี่ยนแนว หันมาคั่วเด็กปีหนึ่งแล้วเหรอคะ" มือเรียวของเธอคล้องรอบคอธนพัทธุ์ไว้พลางส่งสายตาเชิญชวนเขาเต็มที่อย่างที่เคยทำ ธนพัทธุ์พยายามแกะแขนเธอออกจากคอของเขา แต่เจ้าของแขนก็รัดแน่นและก็พยายามยื่นปากมาเพื่อประกบริมฝีปากของชายหนุ่ม ริสาหลับตาลงช้าๆพยายามรั้งคอเขาเข้ามาจูบ สมผัสที่ได้รับกับเป็นความแข็งไม่อ่อนนุ่มเหมือนริมฝีปากคน ริสาลืมตาโพลงขึ้นมาขึ้นมาก็เห็นมือของเด็กปีหนึ่งที่มากับธนพัทธุ์ที่ยื่นมาปิดปากเขาไว้แน่น ‘ยายเด็กบ้า’ เท่ากับว่าสิ่งที่ริสาประทับจูบลงไปเมื่อสักครู่นั้นก็คือหลังมือของลักศิกานั่นเอง... “เธอทำบ้าอะไร!” เสียงของริสาที่ตะคอกอย่างใส่อารมณ์กับลักศิกา “ทำอะไรคะ” ลักศิกายิ้มหวานก่อนจะกระชากธนพัทธุ์ออกจากอ้อมแขนยายริสา...ยายปลาหมึก “ขอโทษนะคะที่ขัดจังหวะลุงรีบไปกันเถอะค่ะ ลักไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว” ลักศิกากอดแขนเขาแน่นพร้อมทั้งดึงเขาออกจากตรงนั้น “อีเด็กบ้า!” ริสาบ่นอย่างเสียอารมณ์ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะเข้าถึงตัวรองประธานนิสิตนะแล้วโอกาสก็กำลังเป็นใจขนาดนี้ ธนพัทธุ์​ได้แต่หัวเราะกับการกระทำของลักศิกา หลานรหัสของเขาแสบใช่เล่น งานนี้คงสนุกล่ะ “ลักไหนบอกว่าพี่ไม่ใช่สเปกไง แล้วเมื่อกี้นี้คือหึงรึเปล่านะ” ชายหนุ่มทำตาแพรวพราว อมยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ "เปล๊า! ใครจะไปหึง​แค่ไม่อยากเห็นภาพอุจาดตา​ หัดอายผีสางเทวดาบ้างนะคะลุง” ลักศิกาพูดด้วยท่าทีทำเป็นไม่แยแสก่อนจะหันไปเอ่ยทักทายรุ่นพี่อีกสองคนที่นั่งรออยู่แล้ว "พี่เต็งหนึ่ง​ พี่นาย​ ทำไมช้าจัง​คะ ลักรอตั้งนาน" "โทษที พอดีหาที่จอดรถอยู่” เต็งหนึ่งพูดขึ้น​ส่วนชญาดานั่งหน้าแดงอยู่ข้างๆ​ ‘อะไรเนี่ย​สองคนนี้ต้องมีอะไรในก่อไผ่แน่ๆ’ ลักศิกาได้แต่คิดในใจแต่ไม่กล้าพูดออกไปเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวถ้าเจ้าตัวไม่พูดเราไม่ควรเข้าไปยุ่ง "ลัก​ดื่มได้ไหม" ชญาดาเอ่ยถามน้องรหัสในขณะที่กำลังจะสั่งเครื่องดื่มมาให้น้องรหัส "ได้ค่ะ" อีกแค่​สองเดือนฉันก็จะอายุครบยี่สิบแล้ว ​ทำไมจะดื่มไม่ได้​ "อายุเท่าไหร่กันถึงคิดจะดื่มเหล้า" ธนพัทธุ์​พูดด้วยน้ำเสียงประชด " อีกไม่กี่เดือนก็​ยี่สิบแล้วดื่มได้ ชิ!" ลักศิกาพูดพร้อมค้อนเขาไปทีหนึ่ง​ โต๊ะของพวกเขาเป็นโชฟาสองตัวคู่กัน​ หนึ่งตัวนั่งได้​สองคน​ ชญาดา​นั่งข้างเต็งหนึ่ง​ ทำให้ลักศิกต้องมานั่งข้างลุงพัทธุ์​ ตอนนี้เธอไม่ค่อยรู้สึกอึดอัดกับเขาเหมือนตอนเจอกันแรกๆแล้ว เพราะหลังจากพูดคุยกันมากขึ้นถึงได้รู้ว่าธนพัทธุ์ ก็ไม่ใช่คนดุหรือหยิ่งอย่างที่เธอมองเขาแต่แรก หลังจากดื่มไปสักยี่สิบนาที ลักศิกดก็รู้สึกเมานิดๆ คนเมาหันไปมองผู้ชายที่นั่งข้างเธอ ทำไมลุงพัทธุ์ของเธอหล่อจัง ปกติตอนกลางวันว่าเขาหล่อแล้วนะ​ ตอนกลางคืน​ยิ่งหล่อมาก​ ยิ่งใกล้ยิ่งหล่อ​ กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆแบบของผู้ชายบนตัวเขายิ่งทำให้เขาดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลมากขึ้นไปอีก ‘ลักตื่นๆ​แกเมาเปล่าเนี่ย​ จะไปหลงเขาได้ไง จำที่ยายหนูนาเล่าให้ฟังไม่ได้เหรอ​ว่าพี่พัทธุ์​เนี่ยติดอันดับผู้ชายเย็นชาถึงสามปีซ้อน ไม่แคร์​ ไม่มีแฟน​ มีสาวๆมาบอกรักเยอะมาก​มาย แต่เจ้าตัวก็เล่นปฏิเสธสาวๆทุกคน ​จนสาวๆต้อง​ร้องไห้กลับไปกันหมด เขาไม่เคยคบใครเลย อีกทั้งเขายังเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงมาก ๆ ถึงจะเรียนเก่งแต่ก็ไม่เคยติวให้ใคร​ ไม่สุงสิงกับใครเลย’ "มองขนาดนี้ คิดอยากจะทำเหมือนน้องริสาเหรอ" ธนพัทธุ์กระซิบข้างหูลักศิกา ทำให้สติของเธอกลับมาอีกครั้ง "บ้า ​ใครเขาจะคิดแบบนั้นกับคนแก่อย่างลุงล่ะ" "ให้มันจริงเถอะ​... แล้วอย่ามา..จุด..จุด..ล่ะ.." "หลงตัวเอง" "อย่า​ดื่มเยอะขี้เกียจแบกกลับ" ธนพัทธุ์​ก้มลงมากระซิบ​อีกครั้งในตอนนี้เองที่เธอเพิ่งสังเกตว่าเขาดื่มแค่เพียงน้ำเปล่าเท่านั้น "ลุงไม่ดื่มเหรอ" "ไม่อะ ต้องขับรถไปส่งเธออีก" "ฮึก... อึก" จู่ๆ เธอก็สะอึกขึ้นมาเฉยเลย คนสะอึกอัดคิดไม่ได้ว่าใครมานินทาเธอเวลานี้นะ "ลุงจะไปส่งฉันเหรอ​" "ใช่สิ ถ้าฉันไม่ไปส่งแล้วใครจะไปส่งเธอ พี่เต็งหนึ่ง​กับยายนายคงนั่งอยู่อีกนาน​ หวานกันเสียขนาดนั้น" เขาพูดพลางเบ้ปากไปทางเต็งหนึ่งกับชญาดา ลักศิกาก็เห็นด้วยตามนั้นเพราะตอนนี้มือเต็งหนึ่งโอบเอวบางของชญาดาไว้ พูดคุยกันกะหนุงกะหนิง​ จนลักศิกาและธนพัทธุ์กลายเป็นธาตุเป็นอากาศ​ที่ไม่มีตัวตนไปแล้ว "เมาแล้วมั้งเนี่ย" จู่ๆธนพัทธุ์ก็ใช้สองมือประคองข้างแก้มของเธอบีบแก้มทั้งสองข้างให้ปากเธอจู๋ออกมา แก้มทั้งสองข้างของลักศิการ้อนขึ้นมาทันที สายตาของเขาที่จ้องมองมากับสายตาเธอประสานกันอยู่นาน ความร้อนข้างแก้มของเธอ อดคิดไม่ได้ว่าตอนนี้แก้มทั้งสองข้างคงแดง ดีที่ไฟในผับช่วยอำพรางเอาไว้ได้บ้างไม่อย่างนั้นเขาคงรู้ว่าเธออายแค่ไหน "อึก...อึก.." ลักศิกายังสะอึกไม่หยุด ‘ไอ้ลุงบ้าทำไมน่ารักอย่างนี้ อย่าเอาหน้ามาใกล้แบบนี้สิ หัวใจมันเต้นแรงนะ’ ได้แต่บทในใจกับการกระทำที่ทำให้ใจเต้นแรงของเขา "อือ...ปล่อย... เล่นอะไรเนี่ย" เธอโวยวายก่อนจะพยายามผลักมือเขาออก "แค่จับแก้ม ..ทำเป็นโวยวาย" ธนพัทธุ์บ่นพร้อมกับปล่อยมือออกอย่างเสียดาย รู้สึกว่าแก้มของเธอนุ่มมาก "จะกลับแล้วนี่ก็สี่ทุ่มกว่าแล้ว กว่าจะถึงหอก็ห้าทุ่มพอดีค่ะ" ลักศิกาหันไปบอกกับธนพัทธุ์ "พี่หนึ่ง พี่นาย ลักกลับก่อนนะคะไว้เจอนัดเจอกันใหม่ค่ะ " เธอกล่าวลารุ่นทั้งสอง ทว่าในจังหวะที่ลุกขึ้นนั้นทำเอาเธอเซจนเกือบล้มด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ดีที่ธนพัทธุ์คว้าเอวเธอไว้ได้ทัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD