“ไปไหนมา พี่มายืนรอตั้งนานแน่ะ” เขาบอกยิ้ม ๆ
ภัทรวรินทร์อ้าปากค้างน้อย ๆ แล้วโต้เขากลับไปว่า “พราวมาก่อนพี่คีย์อีก แต่พราวไปเข้าห้องน้ำมาค่ะ”
พี่ชายฐิติชญายิ้มไม่พูดอะไรจากนั้น แล้วพยักหน้าชักชวนให้ไปที่โรงภาพยนตร์ด้วยกัน
ภาพยนตร์ที่ฐิรดลบอกว่าเธอต้องชอบ เป็นไปตามอย่างที่เขาบอกเอาไว้เลย เพราะเด็กสาวชอบมาก สนุกและลุ้นไปกับทุก ๆ ฉากจนลืมเขาไปเสียสนิท จนจบแล้วก็ยังคงตื่นตาตื่นใจไปกับภาพยนตร์ที่ได้ชม บอกกับเขาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“สนุกมากเลยค่ะพี่คีย์”
ฐิรดลมองเธอแล้วยิ้มบอก “พี่พูดไว้แล้วไงว่าเราจะต้องชอบ”
ยิ้มตอบเขา เอียงอายไม่กล้าสบสายตา อ้าปากจะขอแยกตัวไปซื้อของ ค่อยกลับเข้าบ้าน แต่แล้วชายรุ่นพี่ถามเธอขึ้นก่อน
“พราวจะกลับเลยไหม หรือจะไปไหนต่ออีก”
“พราวบอกน้าสมว่าจะไปซื้อของค่ะ”
“โกหกอย่างที่พี่บอกน่ะหรือ” ฐิรดลถามแหย่เธอด้วยรอยยิ้ม รู้สึกตลกแล้วก็ให้รู้สึกผิดในคราเดียวกัน ตอบรับหน้าแหยว่า
“ใช่ค่ะ” อ้อมแอ้มพูดต่ออีกคำว่า “พราวเลยตกกระไดพลอยโจนเป็นคนโกหกพกลมไปเลย”
“ดูพูดเข้า อย่างกับพี่เป็นคนไม่ดี ทำให้พราวต้องเสียคนอย่างนั้นแหละ” ฐิรดลพูดยิ้ม ๆ ตามองเธออย่างเอ็นดู “งั้นก็ไปซื้อของกันต่อเลย พี่จะขอรับผิดชอบพาพราวไปส่งที่ร้าน แล้วก็จะพากลับเข้าบ้านด้วยเลย พอใจไหมครับ”
“มะ ไม่เป็นไรค่ะพี่คีย์ พราวไปเองดีกว่า”
ใบหน้าของฐิรดลดูเปลี่ยนไปไม่น้อย น้ำเสียงก็คล้ายจะไม่พอใจอีกด้วย
“พราวนัดใครนอกจากพี่อีกหรือไง”
เสียงถามจับผิดแบบนั้นทำเอาเด็กสาวตกใจรีบร้องบอกเขาไปแบบไม่มีจริตจะก้านเลยว่า
“เปล่านะคะ ไม่ค่ะ ไม่ใช่ พราวไม่ได้นัดใครค่ะ”
เห็นท่าทีปฏิเสธร้อนรนอย่างคนไม่มีมารยา ฐิรดลก็ยิ้มด้วยความพึงพอใจ ไม่วายแกล้งพูดขู่ไปว่า “ถ้าพี่รู้ทีหลังว่าพราวแอบนอกใจพี่ ได้โดนดีแน่”
ฐิรดลทำเป็นพูดคาดโทษไปอย่างนั้นเอง แต่ก็ได้ผลเมื่อทำเอาเด็กสาวรุ่นน้องอายหน้าแดงหนักกว่าเดิม
“บอกไว้ก่อนเลยนะว่าเวลาพี่โกรธหรือเกลียดใครขึ้นมา พี่ฝังใจมากแล้วพี่ก็จะเอาคืนให้เจ็บ ๆ ให้สะใจไปเลยล่ะ ไม่เชื่อใช่ไหม” เขาถามย้ำเธอในตอนท้ายประโยคอีกด้วย ภัทรวรินทร์มองเขานิ่ง ๆ ก่อนจะย้อนถามเขากลับคืน
“พี่คีย์เป็นพวกโรคจิตหรือคะ”
“ใช่” เขาตอบรับเสียงดุ “เพราะฉะนั้นอย่าคิดนอกใจพี่เด็ดขาด”
ภัทรวรินทร์อ้าปากจะท้วงว่าเธอไปอยู่ในใจเขาตอนไหนกัน ยังไม่ได้เป็นอะไรกันเลย แค่โทรคุยกันทุกวัน มีอะไรก็เล่าให้ฟังทุกเรื่อง ออกไปไหนกับเขาก็แค่งานวัดครั้งนั้น แล้วก็มาดูภาพยนตร์ในวันนี้เท่านั้นเอง
แต่แล้วก็ไม่ใช่คนปากไว เด็กสาวออกจะเป็นคนปากหนักด้วยซ้ำ จึงถอนใจเบา ๆ ฐิรดลเห็นสีหน้าของเธอแล้วก็ถามออกมาอีกประโยค
“ทำหน้าแบบนั้นทำไม กลัวพี่หรือไง”
เสียงถามของเขาท่าทางคล้ายกับจะหาเรื่องนิด ๆ เลยถามเขากลับว่า “แบบไหนคะ”
“ก็พราวมองพี่เหมือนกับกำลังจะหาว่าพี่ขี้ตู่ว่าพราวเป็นแฟนยังงั้นแหละ”
“ก็จริงนี่นา” ภัทรวรินทร์พึมพำเบา ๆ ไม่กล้าพูดเสียงดังให้เขาได้ยิน แต่แล้วกลับแว่วเสียงของเขาดังขึ้นว่า
“พี่ชอบพราวนะ”
“คะ” เสียงหวานถามกลับแผ่วเบาอย่างคนไม่มั่นใจในตัวเอง
“พี่ชอบพราว”
ฐิรดลบอกย้ำกับเธอด้วยเสียงที่ดังขึ้นตรงนั้นเลย ตรงหน้าโรงภาพยนตร์ ภัทรวรินทร์ตกใจ เด็กสาวถอยหลังออกห่างจากเขาก้าวหนึ่งเพราะตั้งตัวไม่ทัน ไม่คิดว่าเขาจะพูดว่าชอบเธอ แล้วยังเอามาพูดในสถานที่แบบนี้อีกด้วย
แล้วตอนนั้นเองที่คนพากันกรูออกมาจากโรงภาพยนตร์อีกโรงที่เพิ่งฉายหนังจบไป เขาจับที่มือของเธอแล้วจูงพาเดินไปยังด้านหลัง
ขณะเดินผ่านร้านขายตุ๊กตา เด็กสาวมองตัวที่อยู่ล่างสุดของมุมกระจกก่อนจะแกะมือฐิรดลออก
“จะไปไหนอีก”
“ขอพราวดูอะไรหน่อยนะคะ” บอกเขาแล้วก็เดินเข้าไปวนดูของในนั้น ฐิรดลเดินตามหลังมาด้วย ก้มลงถามชิดแก้มนวลใสอย่างเอาใจว่า
“พราวอยากได้ตัวไหน”
ขยับออกห่างจากเขาก่อนยิ้มให้ “อยากได้ทุกตัวเลยค่ะ”
“เดี๋ยวพี่ซื้อให้”
ภัทรวรินทร์หัวเราะเก้อ ๆ รีบบอกเขาว่า “ไม่ต้องหรอกค่ะ พราวล้อเล่น แค่แวะมาดูแบบเฉย ๆ ไปกันดีกว่าค่ะ เดี๋ยวต้องไปซื้อของต่ออีก”
บอกเขาแล้วก็ได้รับการจับจูงมือจากฐิรดลอีกครั้ง เขาพาเดินอ้อมไปยังประตูทางด้านหลังแล้วก็พบว่ามีสายตาคู่หนึ่งมองตามด้วยความไม่พอใจจากชั้นบนลงมา
เอที่มานัดเพื่อนและเด็กสาวต่างโรงเรียนมาดูหนังวันนี้เดินออกมาจากมุมด้านหลัง พร้อมกับมองตามจนไฟท้ายรถของฐิรดลหายลับไปจานสายตาก็ค่อยเดินกลับไปสมทบกับเพื่อน ๆ ของเขาต่อ
“เราไปซื้อของกันดีกว่าจะได้รีบกลับ เดี๋ยวน้าของพราวจะรู้ซะก่อนว่าพราวโกหก”
“พี่คีย์บอกให้พราวพูดแบบนั้นนี่นา”
“พี่บอกก็จริงอยู่ แต่เราไม่ต้องเชื่อก็ได้นี่ เรานั่นแหละโกหก”
ฐิรดลต่อล้อต่อเถียงกลับแบบที่เธอไม่เคยพูดหยอกล้อกับใครที่ไหนแบบนี้มาก่อนเลยสักครั้ง มาถึงลานจอดรถหลังห้างสรรพสินค้าแล้ว เขาเปิดกระเป๋าเป้ออกล้วงเอาของในนั้นออกมายื่นส่งให้เธอ
ภัทรวรินทร์มองที่ของในมือเขาพบว่าเป็นหมวกนิรภัยสีสวยถูกใจเธอมาก ๆ ก็ยิ้ม รับเอามาถือมองด้วยหัวใจพองโตเมื่อเห็นสติ๊กเกอร์แปะอักษรตัว P
“ของพราว พี่ซื้อมาให้ไว้ให้พราว เวลาซ้อนท้ายพี่จะได้ปลอดภัยไงล่ะ”
ยิ้มแล้วสวมลงบนหัวโดยมีฐิรดลช่วยรัดสายตรงคางให้ พร้อมกับมองด้วยสายตาหวานซึ้งจนเธอต้องหลุบตาลงมองแค่ที่ปลายคางของเขาแทน แล้วก็ค่อยปีนขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายเขา ฐิรดลพารถกวาดโค้งออกจากลานสำหรับจอดรถประจำห้างสรรพสินค้าของจังหวัดตรงไปยังทิศทางเบื้องหน้าในทันที