บทที่ 5 แค่ยังไม่เบื่อ

1404 Words
‘อะไรกัน ทำไมต้องมองดุขนาดนั้นด้วย’ นัยน์ตาคมกริบยังจ้องเธออยู่ห่าง ๆ และดวงตาอย่างกับสัตว์ร้ายของเขา มันทำให้มาลีวัลย์อยากจะมุดโต๊ะหนีให้มันรู้แล้วรู้รอด เพราะมันทั้งคาดคั้นและกดดันทำเธอหายใจแทบไม่ทั่วท้อง “แล้วนี่ไม่เห็นคุยกันสักคำเลย” “เอ่อ...” “ตอนเด็กเห็นสนิทกันมากแท้ ๆ ถ้าจำไม่ผิดหนูมาร์ติดคนพี่มากกว่าพ่อแม่ตัวเองอีก” มาลีวัลย์ที่นึกย้อนตามคำพูดคุณป้าจันทร์เจ้าก็อยากจะตอบรับแต่ไม่ทันจะเอ่ยปาก เสียงของคนตรงข้ามก็ดังขึ้นมาก่อนและคำตอบนั่นมันทำให้เธอจำต้องกลืนคำที่ต้องการเอ่ยลงคอไปเสียอย่างนั้น “เรื่องตั้งนานแล้วใครจะไปจำได้ครับ” “ตาป่านี่จริง ๆ เลย” “ผมว่าเลิกพูดเรื่องพวกนี้เถอะ” “ก็ เฮ้อ ก็ได้ค่ะ” จันทร์เจ้าตั้งท่าจะเถียงสามี แต่เมื่อคิดว่าตั้งแต่นั่งมาก็มีแค่ตนที่เอาแต่พูดความต้องการของตัวเองอยู่คนเดียวจึงยอมลงให้อย่างว่าง่าย จากนั้นทั้งโต๊ะก็พากันพูดคุยเรื่องสารทุกข์สุกดิบตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันนาน จะเว้นก็แต่มาลีวัลย์ที่เมื่อได้ยินคำตอบของเจ้าป่าก็เอาแต่ตักอาหารใส่ปากเงียบ ๆ ก็จริงอย่างที่เขาว่า เรื่องในอดีตผ่านมาเป็นสิบปีแล้ว คนที่เอาแต่จำมันก็คงเป็นพวกจมปลักอยู่กับอดีต และคนนั้น ๆ ก็คือเธอ คือมาลีวัลย์คนนี้นี่แหละ... “ถ้าอย่างนั้นให้เจ้าป่าไปส่งน้องดีไหม” “เอ่อ ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณป้า เดี๋ยวมาร์กลับเองดีกว่า” เพราะมาลีวัลย์ตั้งใจว่าหลังจากรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้วจะกลับไปนอนที่คอนโดมิเนียมส่วนตัว แต่เพราะมีการแจ้งเตือนว่าทางไปที่พักเธอเกิดอุบัติเหตุทำให้รถติดหนัก มาลีวัลย์จึงไม่อยากให้พ่อแม่ต้องมาเสียเวลาไปด้วยจึงจะเรียกรถเพื่อกลับไปเอง และเมื่อจันทร์เจ้าได้ยินอย่างนั้นก็รีบเสนอตัวช่วยเหลืออย่างใจดี “คอนโดฯ หนูมาร์อยู่ทางเดียวกับพี่เขาเลยนี่ อีกอย่างนี่ก็ดึกแล้ว ให้พี่เขาไปส่งดีกว่าลูก” “แต่ว่า-” ทั้งที่นึกดีใจที่จะได้ใช้เวลาร่วมกับเจ้าป่ายกเว้นเรื่องบนเตียง แต่เมื่อเห็นใบหน้าเย็นชาของเขาก็ทำเธออึกอักไม่กล้าตกปากรับคำ “เอาตามนี้แหละลูก ไม่ต้องเกรงใจ ป่าก็ไปส่งน้องนะลูก” “ครับ” เจ้าป่าตกลงอย่างว่าง่ายทำมาลีวัลย์ลอบมองเสี้ยวหน้าอีกคนอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ สามวันก่อนเขาดูท่าทางไม่พอใจเธอมากจนมาลีวัลย์กลัวว่าการที่เจ้าป่าต้องไปส่งเธอจะทำให้เขารำคาญใจมากขึ้นไปอีก บรรยากาศในรถยนต์คันสวยเงียบงันมีเพียงเสียงหายใจของกันและกันให้ได้ยิน และบรรยากาศอย่างนี้มันช่างน่าอึดอัดเหลือเกิน “พี่ป่าเป็นไงบ้างคะ” น้ำเสียงร่าเริงถามขึ้นท่ามกลางความเงียบพลางส่งรอยยิ้มให้คนข้างกัน แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่ตอบมาลีวัลย์ก็พูดเรื่องตัวเองต่อ “ช่วงนี้มาร์งานเยอะมาก พี่ป่าก็คงงานเยอะเหมือนกันใช่ไหม” “อื้ม” เสียงทุ้มตอบรับสั้น ๆ ทำให้มาลีวัลย์ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เขาเหมือนตอบเพื่อตัดรำคาญเท่านั้นและก็ไม่ผิดจากที่มาลีวัลย์คิดนัก เพราะเสียงเจื้อยแจ้วนั่นมันทำให้เจ้าป่านึกรำคาญขึ้นมาจริง ๆ อีกทั้งเมื่อตอนทานอาหารกันเจ้าป่าก็นึกไม่ชอบใจที่มารดาเอาแต่จับคู่เขากับเธอ แล้วยังให้เขามาส่งเจ้าหล่อนถึงที่พักพร้อมย้ำนักย้ำหนาเรื่องความปลอดภัยจนเจ้าป่าชักหมั่นไส้ขึ้นมา ดวงตาคู่สวยลอบมองสีหน้าอีกคนแต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่มีท่าทีจะสนใจตนจึงเลือกที่จะเบือนหนีออกไปทางหน้าต่างแทน ไม่รู้ว่าเธอไปทำอะไรให้เจ้าป่าไม่ชอบใจขนาดนั้น ทั้งที่วันนี้เราเพิ่งจะได้คุยกันด้วยซ้ำ หรือเพราะเป็นเธอเลยสร้างความรำคาญใจให้เจ้าป่าทั้งที่ไม่ทันได้ทำอะไรงั้นเหรอ เมื่อก่อนเขาก็เอ็นดูเธอมากแท้ ๆ เมื่อรถติดไฟแดง สารถีหน้าหล่อก็หันกลับมามองคนที่เอาแต่เหม่อมองนอกหน้าต่าง ตาคมจับจ้องคนข้างตัวอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันกลับมาเหมือนเดิม เขาและเธอรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ทำไมเจ้าป่าจะจำไม่ได้ เขาเคยเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นเจ้าป่าย้ายโรงเรียน ทำให้เราค่อย ๆ ห่างเหินกันออกไป แม้เราจะได้เจอกันอีกครั้งตอนเรียนมหาวิทยาลัยแต่ก็ไม่ได้พูดคุยกันมากนักและเจ้าตัวก็ไม่ได้เข้าหาเขา จนกระทั่งเมื่อหลายปีก่อนที่ได้ไปเยี่ยมพยัคฆ์ เขากับเธอได้มีสัมพันธ์เกินเลยอย่างไม่ได้ตั้งใจ ครั้งนั้นเจ้าป่าคิดว่าเรื่องของเรามันคงจบเพียงเท่านั้น แต่เปล่าเลย...ในวันแต่งงานของอัศวิน มาลีวัลย์ก็เข้ามายั่วยวนเขาและเราสองคนก็ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันอีกครั้ง “ตื่นแล้วเหรอ” เฮือก ! “เอ่อ...ค่ะ คือว่าเรื่องเมื่อคืน...” มาลีวัลย์ตอบอ้อมแอ้มขณะที่ยังก้มหน้าก้มตาไม่กล้ามองอีกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า แต่เพราะเสียงอีกฝ่ายมันคุ้นหูจนมาลีวัลย์เกิดความสงสัยในใจ ดวงหน้าสวยจึงค่อย ๆ เงยขึ้นและก็พบกับคนที่เธอไม่คาดคิด “พี่ป่า !!” “ก็ฉันน่ะสิ คิดว่าใคร” “ปะ...เปล่า เอ่อ เรื่องเมื่อคืนเรา แบบว่า...” “เอากัน” “!!!” “เราเอากันไปเมื่อคืน โคตรมันเลย” “เอ่อ คือมาร์” ดวงหน้าสวยมองซ้ายขวาอย่างหวาดระแวงพลางถดเท้าถอยหนี ใบหน้าปริศนาที่เคยลางเลือนบัดนี้กลับชัดเจนราวกับมีคนมาปลุกให้คิดถึงมัน และคนนั้นก็คือเจ้าป่า “เมื่อคืนมาร์เมามาก จำอะไรไม่ได้เลย” “งั้นเหรอ” “ค่ะ ถ้ามาร์ทำอะไรให้พี่ป่าเสียหาย มาร์ขอโทษนะคะ หรือพี่อยากให้มาร์รับผิดชอบยังไง” “...” นัยน์ตาคมจ้องมองร่างเล็กไม่ละสายตาในขณะที่คิดเรื่องมากมายในหัว ท่าทางตกใจที่เห็นหน้าเขาเมื่อครู่ ทำให้เจ้าป่านึกลังเลว่าเรื่องเมื่อคืนอาจจะเกิดเพราะความมึนเมาจริง ๆ “รับผิดชอบงั้นเหรอ” “อะ...อื้อ” มาลีวัลย์เสนอตัวรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะสามารถทำอะไรให้เจ้าป่าได้เพราะเขามีพร้อมทุกอย่างแล้ว แต่ใครจะรู้ว่าการพูดของเธอจะส่งผลให้มาลีวัลย์ได้เข้ามาในความสัมพันธ์ที่เธอไม่คาดคิดมาก่อน “มานอนกับฉัน” “...” “เอาไง สนใจมาเป็นคู่นอนกันไหม” “ค่ะ คะ !?” “ทำไม ไม่ได้เหรอ” “เอ่อ...” “ไม่ใช่ว่าเธออยากนอนกับฉันอยู่แล้วหรือไง” “ไม่ใช่นะ” “หึ ถ้าไม่ได้อยากทำไมเมื่อวานถึงอ้าขาให้เอาขนาดนั้นล่ะ” “อึ้ก” มาลีวัลย์พูดไม่ออก เมื่อทุกอย่างที่เจ้าป่าพูดคือความจริงทั้งหมด ในคราแรกที่เธอรู้ว่าคนที่มีสัมพันธ์กันคือเจ้าป่า ในใจก็เต้นรัวก่อนที่มันจะถูกแทนที่ด้วยความกังวล มาลีวัลย์กลัวเจ้าป่าคิดว่าเธออ่อยเขาเพื่อทำเรื่องอย่างว่า แต่เมื่อได้ยินข้อเสนอที่คาดไม่ถึงก็ทำให้หัวใจเต้นโครมคราม และมากกว่าความกังวลเมื่อสักครู่คือความหวัง เธอหวังว่าการได้เข้ามาอยู่ใกล้ชิดเจ้าป่าจะทำให้เธอสามารถเอาชนะใจเขาได้ “เอาไง” “ค่ะ...มาร์ตกลง” เจ้าป่าปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบทรักที่ได้ทำกับเธอมันถึงใจจนเขาอยากทำมันอีก ไม่ใช่เพราะมีใจให้มาลีวัลย์ แต่เป็นเพราะร่างกายเรามันเข้ากันได้ดี มาลีวัลย์เปรียบเสมือนรสชาติใหม่ที่เขาเพิ่งได้ลิ้มลองและยังติดใจอยู่ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาเบื่อหน่าย เราก็แค่แยกย้ายกันเท่านั้นเอง...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD